calendar_month 10 พ.ย. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 532,623 / ทริปตัวอย่าง
Story: ปู่บอกให้ออกเดิน
Photo: เต่าตาหวาน
เคยไหมที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการทำงาน แล้วอยากจะว๊าปตัวเองไปอยู่นอกเมืองเงียบๆ ใช้ชีวิตสงบๆ แบบไม่ต้องยุ่งยาก ให้มีอะไรมารบกวนจิตใจ? วันนี้เนวิเกเตอร์สาวจึงได้หยิบ คีรีวง 2 วัน 1 คืน หมู่บ้านสโลว์ไลฟ์กลางขุนเขาในดินแดนคนพูดเร็ว มาฝากเพื่อนๆค่ะ...
สำหรับหมู่บ้านคีรีวงนั้นเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขา ตั้งอยู่ที่ ต. กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช เป็นชุมชนเก่าแก่ที่ตั้งรกรากอยู่ที่เชิงเขาหลวง และยังคงวิถีชีวิตที่เงียบสงบ แวดล้อมไปด้วยธรรมชาตที่อุดมสมบูรณ์ มีภูเขาล้อมรอบ มีลำธารธรรมชาติขนาดใหญ่ไหลผ่านกลางหมู่บ้าน จนทำให้หมู่บ้านนี้ได้ชื่อว่า เป็นหมู่บ้านที่อากาศดีที่สุดในประเทศไทย...
วันแรก
เราออกเดินทางกันแต่เช้า จากสนามบินดอน ถึงสนามบินนครศรีธรรมราชใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อย เราก็มองหารถสำหรับเข้าตัวเมืองกันค่ะ โดยทางด้านฝั่งประตูทางออกจะมีบริการเคาร์เตอร์รถแท็กซี่ ราคาค่ารถเข้าเมืองต่อคันจะอยู่ที่ 300 บาท เราได้ให้พี่แท็กซี่ แนะนำและพาเราไปหาอาหารเช้าทาน โดยร้านที่พี่แท็กซี่แนะนำคือร้าน ร้านกาแฟโกปี๊ ร้านกาแฟชื่อดังที่มีประวัติเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ 1942 จากหนุ่มชาวจีนที่ยึดอาชีพกุลีท่าเรือ ได้ผันตัวเองไปเป็นกุ๊กทำอาหารและเบเกอรี่ให้ฝรั่งตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนกระทั่งกลายมาเป็นเจ้าของร้านกาแฟโกปี๊ ที่ปัจจุบันร้านนี้ได้ตกทอดมาถึงรุ่นทายาทรุ่นที่ 3 แล้ว นี่จึงเป็นอีกหนึ่งร้านดังเมืองคอนที่เนวิเกเตอร์อยากชวนเพื่อนๆ มาปักหมุดเช็คอินกันค่ะ...
ร้านโกปี๊ ข้างศาลากลางจังหวัด
ร้านโกปี๊
หลังจากรับประทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ให้พี่แท็กซี่ขับรถไปส่งเราที่บริเวณท่ารถสองแถว นครศรี-คีรีวง ซึ่งบริเวณนี้จะมีรถสองแถวไปยังที่ต่างๆ ของเมืองนครศรีธรรมราชทั้งเส้นทางในเมืองและนอกเมือง หากเพื่อนๆ มาขึ้นรถที่นี่ให้สังเกตุกันให้ดีๆ หรือสอบถามคนละแวกนั้นก็ได้ค่ะ สำหรับราคาค่ารถสองแถวเข้าหมู่บ้านคีรีวงจะอยู่ที่ 25 บาทต่อคน หากมากันกลุ่มก็สามารถเหมาเป็นคันได้ในราคา 200 -300 บาทค่ะ หลังจากจ่ายค่ารถเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ...
จากท่ารถในเมืองจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที เนื่องจากรถสองแถวจะจอดรับผู้โดยสารระหว่างทาง การเดินครั้งนี้คุณจะได้เพื่อนใหม่ที่แลกเปลี่ยนเรื่องราวดีๆ กันตลอดเส้นทางเลยทีเดียว รถได้ขับไปเรื่อยๆ พาเราชมทัศนียภาพบรรยากาศในเมือง ผ่านบ้านเรือน ชุมชน จนพ้นตัวเมืองเข้าสู่ชานเมืองที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ห่างไกลกัน กระทั่งรถได้เลี้ยวเข้าซอยตรง กม. 9 ชาวบ้านเรียกจุดนี้ว่า "ศาลาสังกะสี"
กม.9 ศาลาสังกะสี
กม.9 ศาลาสังกะสี ทางเข้าคีรีวง
ถนนเส้นนี้จะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เข้าไปหมู่บ้านคีรีวง ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะถนนหนทางสะดวกสบาย
ทางเข้าคีรีวง
ทางเข้าคีรีวง
รถได้ไต่ระดับขึ้นเขาเรื่อยๆ และลงเขาเรื่อยๆ จนพาเรามาถึงหมู่บ้านคีรีวง ซึ่งรถสองแถวจะมาหยุดที่ปลายทางคือบริเวณเชิงสะพานบ้านคีรีวง หากคุณจองที่พักไว้ล่วงหน้าทางที่พักส่วนใหญ่ซึ่งเป็นโฮมสเตย์จะมีรถมารับคุณที่จุดนี้
สะพานบ้านคีรีวง
ท่ารถสองแถว เชิงสะพานบ้านคีรีวง
และในครั้งนี้เราได้ติดต่อจองห้องพักกับคุณวัติ ซึ่งเป็นคนดูแลเพจ หมู่บ้านคีรีวงและดูแลเรื่องที่พักโฮมสเตย์ในหมู่บ้านคีรีวง เมื่อเรามาถึงบริเวณที่จอดรถสองแถวคุณวัติได้พาเราเดินทางต่อด้วยรถมอไซต์ไปยังที่พักของเราในคืนนี้
จากท่ารถสองแถวในหมู่บ้านเราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงที่พักแล้วค่ะ สำหรับที่พักของเราในคืนนี้เป็นโฮมสเตย์ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นไปน้ำตกไม้ปัก ราคาที่พักจะอยู่ที่คืนละ 250 บาทต่อคน มีอาหารพื้นบ้านให้บริการมื้อละ 120 บาทต่อคนค่ะ สำหรับที่พักที่นี่จะเป็นบ้านไทยประยุกต์ ที่เน้นให้ความสะดวกสะสบายแก่ผู้มาเยือน และที่สำคัญเจ้าของบ้านที่นี่ก็ใจดี และให้ความเป็นกันเองสุดๆ
บ้านพี่กาญน์ ชาวบ้านคีรีวง
หลังจากเก็บสัมภาระเสร็จ คุณวัติแนะนำให้เราไปหาเช่าจักรยาน เพื่อจะได้เดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกยิ่งขึึ้น สำหรับร้านจักรยานที่นี่จะมีร้านบ้านนายทั่ง ให้บริการจักรยานในราคาเป็นกันเอง และมีจักรยานหลากหลายแบบให้เลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคน ซึ่งราคาจักรยานจะอยู่ที่คันละ 50 บาทต่อวัน
เช่าจักรยาน บ้านนายทั่ง
หลังจากเลือกจักรยานได้กันได้แล้ว พวกเราปั่นจักรยานชมวิวกันเรื่อยๆ เหนื่อยก็ที่ไหนพัก เห็นมุมไหนสวยก็จอดถ่ายภาพ จนกระทั่งปั่นไปสุดทางที่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า หาดท่าหา ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำกัน เนื่องจากมีลักษณะหาดหินไล่ระดับลาดลงไปในน้ำ ทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารชิลๆ ริมน้ำให้ได้นั่งรับประทานอาหารพร้อมชมวิวเพลินๆ
ปั่นจักรยานเที่ยวคีรีวง
ปั่นจักรยานเที่ยวคีรีวง
และที่เป็นไฮไลท์ของบริเวณนี้คือ สะพานแขวนที่ทอดข้ามไปยังอีกฝั่งให้เราได้โพสท่าถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกอีกด้วยค่ะ
ตกเย็นเราก็ปั่นจักรยานไปรอชมพระอาทิตย์ตกที่บริเวณสะพานบ้านคีรีวง สำหรับจุดนี้ถือว่าเป็นจุดยอดนิยมของเหล่าช่างภาพและนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ หากใครมาถึงหมู่บ้านคีรีวงแล้วไม่มีรูปที่มุมนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะเออ
สะพานบ้านคีรีวง
หลังจากพระอาทิตย์ตกที่ปลายภูเขา เราก็ปั่นจักรยานเล่นเรียบลำธารกันไปเรื่อยๆ ก่อนจะเข้าที่พัก อาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปทานอาหาร ซึ่งวันนี้เราจะขอฝากท้องกับอาหารพื้นบ้านฝีมือพี่กาญกันค่ะ อาหารปักษ์ใต้แท้ๆ ที่มีรสชาติจัดจ้านสุดๆ พูดเลยค่ะว่ามื้อนี้อร่อยมากๆ โดนใจคนชอบทานรสจัดอย่างพวกเราสุดๆค่ะ
วันที่สอง
วันนี้เราตื่นกันแต่เช้า แล้วปั่นจักรยานไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่บริเวณสะพานคีรีวง ชมบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวบ้านในยามเช้าและหากาแฟ อาหารเช้ารับประทานกันแถวตลาด ซึ่งตลาดที่นี่เป็นตลาดเล็กๆ ชาวบ้านออกมาตั้งร้านค้าจำหน่ายทั้งอาหารและขนมหลากหลายชนิด
หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ปั่นจักรยานเลียบลำธารไปกันเรื่อยๆ ไปตามเส้นทางขึ้นน้ำตกสอยดาว ซึ่งระหว่างทางจะเห็นชาวบ้านเดินถือขันน้ำ นุ่งผ้าเดินมาอาบน้ำกันที่ลำธารหลายคนทีเดียว เรียกได้ว่าที่ยังคงวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ที่หาดูยากเข้าไปทุกทีในสังคมไทย
และแล้วก็ถึงเวลาที่พวกเราต้องอำลาหมู่บ้านคีรีวง ขากลับเราได้เหมารถสองแถวให้ส่งที่สนามบิน การเดินทางจากหมู่บ้านคีรีวงไปยังสนามบินจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 - 60 นาที ระหว่างการเดินทางเราก็จะได้ชมวิวสวยกันตลอดทางเช่นเดิม
สำหรับทริปคีรีวง 2 วัน 1 คืน หมู่บ้านสโลว์ไลฟ์กลางขุนเขาในดินแดนคนพูดเร็ว นับเป็นอีกหนึ่งเส้นทางแห่งความทรงจำที่ดีของ"ปู่บอกให้ออกเดิน"เลย เพราะนอกจากจะได้สัมผัสวิถีชีวิตที่โลว์ไลฟ์แบบแท้จริงแล้ว ที่นี่ยังเป็นเมืองที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มีภูเขาสูง และลำธารธรรมชาติให้ลงเล่นน้ำ ที่ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาพักผ่อนสั้นๆ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้ชาร์ตแบตให้ร่างกายได้แบบเต็มเปี่ยม พร้อมที่จะกลับมาลุยงานในเมืองกรุงฯ แล้วค่ะ
ค่ารถจากสถนามบิน เข้าตัวเมือง 300 บาท
ค่าอาหาร 350 บาท
ค่ารถสองแถวนครศรี - คีรีวง 25/คน บาท
ค่าที่พัก 250/คน บาท
ค่าอาหารเย็น 120/มื้อ/คน บาท
ค่าอาหารเช้า 150 บาท
ค่าอาหารกลางวัน 300 บาท
ค่ารถสองแถวคีรีวง - สนามบิน 400 บาท
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับทริปนี้อยู่ที่ 1,145 บาท/คน (ยังไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน)
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 107 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 299 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 399 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 529 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 735 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,048 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 483 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 912 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,244 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,405 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,766 อ่าน