0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ที่กินอยุธยา : สุดฟินทริปกินเที่ยวอยุธยา และชมวิวแหลมพรหมเทพกับ Huawei Honor 6 plus

calendar_month 26 มิ.ย. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 20,229 / รีวิวที่เที่ยว

เริ่มต้นกันที่ทริปไหว้พระ 5 วัด จังหวัดอยุธยาค่ะ เมื่อก่อนเวลาออกไปเที่ยวเรามักจะแบกกล้อง DSLR ไปด้วย เพราะเราอยากได้ภาพสวยๆกลับมา แต่พอต้องแบกกล้องหนักๆไปเที่ยวบ่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าไม่สะดวก เพราะเราเองก็มีบางโมเมนต์ที่อยากจะแต่งตัวสวยๆ ไปนั่งชมบรรยากาศ ชิลๆกับเขาบ้าง ไม่อยากจะต้องแบกกล้องตัวใหญ่ๆที่ไม่เข้ากับบุคลิกการแต่งตัวในวันนั้นไปด้วยตลอด เราก็เลยมองหากล้องดีมีคุณภาพ พกไปไหนมาไหนได้สะดวก เพราะเราเองก็ต้องการความคล่องตัวสูง

พอดีไปได้ Huawei Honor 6 Plus มา เห็นว่าคุณภาพกล้องของมือถือตัวนี้ไม่ธรรมดา ในโฆษณาบอกว่าเป็นมือถือที่มีระบบกล้องดีเยี่ยม กล้องหลัง 2 เลนส์ ถ่ายได้ 8 MP จึงทำให้สามารถปรับค่าความชัดลึก-ชัดตื้นได้มาก ปรับรูรับแสงได้ ตั้งแต่ F16 ถึง F 0.95 กันเลยทีเดียว สามารถถ่ายภาพได้คมชัด  ปรับจุดโฟกัสก็ง่าย คุณสมบัติคับจอขนาดนี้ เดี๋ยววันนี้เรามาลองพิสูจน์คุณภาพของกล้องมือถือกันเลยดีกว่าค่ะ

มาอยุธยาทุกครั้งต้องประเดิมที่ร้านนี้ก่อนเลย ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกหน้าวัดใหญ่ชัยมงคล ร้านนี้อยู่ตรงที่จอดรถหน้าวัดเลยค่ะ หาง่ายและเมนูโปรดที่สั่งประจำก็คือเส้นเล็กต้มยำค่ะ รสชาติเยี่ยมสุดๆ

 
และอีกเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาดคือขนมจีนชุดใหญ่ค่ะ ทางร้านให้เยอะมาก โดยเฉพาะจานผักสดนี่เรียกว่าจัดให้ไม่อั้น ชุดละ 60 บาทเท่านั้นเองค่ะ เรียกว่าอิ่มท้องไปจนถึงขั้นจุกได้เลย
 
 
มาถึงแล้วค่ะ วัดแรกของเรา วัดใหญ่ชัยมงคล ถือว่าเป็นวัดที่นักท่องเที่ยวนิยมมามากที่สุดวัดหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา รวมถึงมีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น อย่างยอดเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาค่ะ รอบๆวัดมีบรรยากาศร่มรื่น ถ้าหิวก็สามารถหาของกินอร่อยๆได้แถวนั้นด้วยนะ เพราะมีร้านอร่อยอยู่หลายร้านเลย มาเที่ยวอยุธยาทั้งทีก็อย่าลืมแวะมาเที่ยววัดนี้กันนะคะ
 
 
เดินมาเจอพระนอนองค์ยักษ์ สบโอกาสได้ลองถ่ายภาพแบบพาโนรามาแล้วล่ะค่ะ ภาพที่ได้ก็ออกมาเป็นอีกมุมมองนึง โดยปรกติแล้วตัวเองจะไม่ค่อยได้ถ่ายภาพแนวนี้สักเท่าไหร่ค่ะ เพราะถ้าถ่ายจากกล้องใหญ่แล้วต้องเอาภาพมาตัดต่อในคอมพิวเตอร์อีกที ต้องใช้ Photoshop ก็จะเสียเวลาเหมือนกัน แต่นี่แค่ปรับโหมดพาโนรามาก็ช่วยให้ได้ภาพในมุมกว้าง โดยไม่ต้องเสียเวลาตัดต่อภาพค่ะ กล้องมือถือตัวนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย
 
 
 
 
ลองถ่ายภาพมุมสูงของเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาจากระยะใกล้และไกลดู ใครชอบปีนป่ายก็สามารถปีนขึ้นไปชมวิวจากด้านบนเจดีย์ได้ค่ะ
 
 

ภาพเจดีย์สะท้อนในน้ำ เป็นภาพอีกมุมที่บางทีเราอาจจะมองข้ามมุมสวยๆแบบนี้ไป

ลองเล่นกับโหมดปรับรูรับแสง (F) กันบ้างดีกว่าค่ะ เราอยากจะถ่ายให้ดอกไม้เด่นและฉากหลังเบลอ  เลยปรับรูรับแสงให้กว้างที่สุด สำหรับ Honor 6 plus สามารถปรับได้กว้างสุดถึง F0.95 เลยค่ะ ปรับให้หน้าชัดหลังเบลอ ฉากหลังละลายไปเลยค่ะ 

รูปที่เราถ่ายมาแล้วเกิดเปลี่ยนใจอยากจะปรับชัดลึกชัดตื้นใหม่ อย่างเช่นให้ดอกไม้ดอกหลังชัดแล้วดอกหน้าเบลอ ก็แค่เปิดรูปในแกลอรี่แล้วเลื่อนจุดโฟกัส ปรับ F manual ได้ตามใจชอบ

หรือจะปรับค่า F ให้เลขมากๆ ก็จะทำให้ได้ภาพคมชัดลึกทั่วทั้งภาพแบบนี้ค่ะ ง่ายมากเลยใช่ไหมล่ะคะ ตรงนี้ลองเอาไปปรับใช้กับการถ่ายรูปแนวอื่นได้นะ เช่น การถ่ายรูปวิว ปรับรูรับแสงให้แคบ เลขเยอะๆจะทำให้ได้ภาพคมชัดทั้งภาพ  อย่างน้อยแนะนำให้ปรับอยู่ที่ประมาณ F5.6 ค่ะ

  

มาลองถ่ายกล้องหน้ากันบ้างดีกว่าค่ะ กล้องหน้าก็ความละเอียด 8 MP เหมือนกันค่ะ ถ่ายออกมาสวยเชียว หน้าใสจุงเบย อิอิ 

คราวก่อนๆมาอยุธยาเราไม่เคยค้างคืนเลยค่ะ ไปกลับตลอด แต่คราวนี้ลองมาค้างคืนดูที่แคนทารี่ อยุธยาค่ะ พอมีที่พักแล้วก็สบายตรงที่ไม่ต้องรีบเที่ยวรีบกลับค่ะ อยากเดินเล่นชิลๆนั่งทานขนม ทานกุ้งแม่น้ำ เดินชมวัด ชมอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาก็ทำได้เลยเต็มที่ อ้อ แคนทารี่เค้ามี CaFe Kantary ซึ่งมีเมนูขนมมากมายให้ได้เลือก ราคาไม่แพง แถมรสชาติอร่อยอีกด้วยเดินเที่ยวจนเมื่อยแล้วก็มาพักทานขนมกันบ้างดีกว่านะคะ

    

เราลองใช้ Honor 6 plus ถ่ายรูปขนมดู เราชอบที่หลังจากถ่ายรูปมาแล้วยังสามารถเลือกภาพถ่ายในแกลอรี่เอามาปรับเปลี่ยนตามที่เราต้องการได้อีก อยากจะให้จุดไหนชัดก็เลือกบริเวณนั้น แล้วปรับได้ตามใจชอบเลย ดูสิคะ ถ่ายออกมาได้สีสวยมากเลย สีตรงกับที่ตาเห็นไม่มีผิดเพี้ยนค่ะ เรื่องความคมชัดก็ดีมาก ชอบที่ถ่ายอาหารออกมาได้น่าทานมากจริงๆ แล้วขนมที่นี่ก็อร่อยมากค่ะ ราคาก็ไม่แพงด้วยนะ

   

มาต่อกันที่ห้องพักค่ะ ห้องพักมีสไตล์ สวยเรียบสะอาดตาถ่ายได้ภาพสวยขนาดนี้ ต่อไปคงจะมีคนรีวิวโรงแรมที่พักกันด้วยกล้องมือถือมากขึ้นแน่นอนเลย อิอิ

 

ทริปนี้ขึ้นชื่อว่าทริปกินเที่ยวแล้ว ต้องมาจัดเรื่องกินกันต่อค่ะที่Kantary Kameo โรงแรมที่อยู่ไม่ไกลกัน แวะไปหม่ำหน่อยสั่งก๋วยเตี๋ยวหลอดกับก๋วยเตี๋ยวผัดมาให้ได้ลิ้มลองกันค่ะ

 

มาไหว้พระกันต่อที่วัดไชยวัฒนารามค่ะ วัดตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาทางฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง วัดไชยวัฒนารามก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นๆในอยุธยา จุดเด่นอยู่ที่พระปรางค์ค่ะ วัดนี้อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร คอยบูรณะให้คงสภาพใกล้เคียงกับสภาพเดิม ตัววัดมีความเก่าแก่มากเช่นกัน เพราะสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททอง และมีศิลปะของเขมรผสมอยู่ด้วยค่ะ ใครมาอยุธยาก็อย่าลืมแวะมาเยี่ยมชมกันนะคะ
 
 
 
วัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาไฮไลต์อยู่ที่เป็นวัดต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม  หรือวัดพระแก้วในกรุงเทพมหานครของเรานี่เองค่ะ
 
   
 
ใช้กล้องหน้าเซลฟี่เสียหน่อย ภาพสวยใช้ได้ไหมคะ เราปรับความเนียนของภาพได้ตามต้องการด้วย ส่วนตัวเราชอบปรับให้ดูนวลๆ นุ่มๆค่ะ ภพที่ได้ก็ออกมาไม่ผิดหวังค่ะ
 
 
วัดที่ 4 แล้วค่ะ กับวัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นพระอามรามหลวงชั้นโท แบบมหานิกาย มีพระพุทธรูปชื่อดังในวัดคือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือหลวงพ่อซำปอกง เป็นพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอยุธยาด้วยค่ะ สูง 19 เมตร และหน้าตักกว้างประมาณ 20 เมตรเศษ
 
    
 
 เดินเที่ยวมาหลายวัดแล้ว พักทานอาหารกลางวันกันดีกว่าค่ะ แน่นอนว่าจานเด็ดที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือนอยุธยาคือ กุ้งแม่น้ำเผานั่นเอง ที่นี่มีร้านอร่อยหลายร้าน แต่ส่วนตัวที่อร่อยและชอบมากเห็นจะเป็นร้านเรือนไทยกุ้งเผา ภายในวัดเชิงเลน ใกล้ๆกับศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ร้านนี้กุ้งสด ตัวโต เผาแล้วอร่อยกำลังดี เนื้อแน่น หวาน ทานแล้วฟินมาก แต่วันนี้ทานแค่ 2 ตัว เพราะงบมีจำกัด อิอิ เท่านี้ก็หมดไปแปดร้อยกว่าแล้วแหะ ไม่เป็นไรค่ะ นานๆทานทีอ่าเนอะ
 
  
 
ยังไม่หมดเท่านี้ ต่อด้วยเมนูเด็ดอีกจาน ปลาเค้าผัดฉู่ฉี่ รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ทานคู่กันอร่อยมาก เป็นอีกเมนูประจำที่สั่งบ่อยเลย
 
 

เนื้อกุ้งในก้ามของมันกลายมาเป็นอาหารจานนี้ค่ะ เราชอบทานผัดสายบัวอยู่แล้วด้วย ยิ่งหาทานไม่ได้บ่อยๆ แล้วร้านนี้ก็ทำได้อร่อยมากเลย ชอบมากค่ะ

 
มาต่อกันที่วัดสุดท้ายค่ะ วัดพระราม ตั้งอยู่ริมถนนพระศรีสรรเพชญ์ ตรงข้ามวิหารพระมงคลบพิตร ด้านข้างของวัดพระรามมีบึงใหญ่ เรียกว่า บึงพระราม (หนองโสน บึงชีขัน) เกิดขึ้นเพราะบริเวณดังกล่าวโดนขุดดินไปถมที่เพื่อสร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์ พระราชวังหลวง  วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ และตัววัดพระรามเอง จึงกลายเป็นบึงอย่างที่เห็นในปัจจุบัน วัดพระรามนั้น คาดว่าถูกสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร ช่วง พ.ศ.1912 ที่เลือกบริเวณดังกล่าวเพราะเป็นบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทองผู้เป็นพระราชบิดานั่นเอง เที่ยววัดกันจนอิ่มบุญแล้ว เราไปต่อกันที่วิวสวยๆจากแหลมพรหมเทพกันค่ะ
 
    
 

มาแชะภาพสวยๆด้วย Huawei Honor 6 plus กันต่อที่แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ตจ้า มาทะเลต้องไม่พลาดชมพระอาทิตย์ตก และถ้าเป็นที่ภูเก็ตแล้วล่ะก็ แหล่งชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดก็คงหนีไม่พ้น แหลมพรหมเทพค่ะ ใครพลาดนี่ถือว่ามาไม่ถึงเลยนะคะ เป็นไงคะกับภาพบรรยากาศท้องฟ้ายามเย็น เมฆเรียงตัวกันสวยมากๆ เอา Huawei Honor 6 plus ไปถ่ายพาโนรามาและลองเก็บภาพตอนแสงน้อยดู ให้สีสดชัดดีทีเดียวเลย 

   

        ภาพนี้จากจุดชมวิวกังหันลมใกล้ๆแหลมพรหมเทพค่ะจริงๆจุดนี้สวยกว่าแหลมพรหมเทพอีกนะ คนก็น้อยกว่าด้วย อาจจะมาที่นี่หลังจากไปแหลมพรหมเทพแล้วก็ได้เพราะอยู่ใกล้ๆกันเลย

        เป็นไงคะกับภาพจากกล้องมือถือ Honor 6 Plus ได้ภาพทริปสวยๆทั้งนั้นเลยใช่ไหมล่ะคะ เป็นภาพที่กล้องหลายตัวก็ทำได้ แต่ตัวนี้ถ่ายก่อนแล้วมาปรับตอนหลังได้ด้วย เริ่ดมากจริงๆ

        สำหรับใครที่สนใจ อยากได้ Honor 6 Plus ไปครอบครอง ตอนนี้เค้าก็มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกในเว็บ http://goo.gl/GjdiCG ตอบคำถามดีๆก็รับHonor 6 Plus ไปใช้ฟรีๆเลยค่ะ รีวิวนี้ชมกันสนุกไหมคะ ได้อิ่มบุญกับการไหว้พระ 5 วัด แถมยังได้ชมวิวสวยๆจากแหลมพรหมเทพกันอีกรอดูนะคะว่าคราวหน้าจะเอาที่เที่ยวเด็ดๆที่ไหนมาให้ชมกันอีก แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้าค่ะ บ๊ายบาย...

 
 
 
 
 
   
 
 
 
 
 
เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai