calendar_month 21 เม.ย. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 59,970 / รีวิวที่เที่ยว
อีกครั้งที่ชิลไปไหนได้ร่วมเดินทางไปกับกิจกรรม FAM Trip ที่จัดโดยกรมการท่องเที่ยวร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนาโฮมสเตย์ไทยเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางการท่องเที่ยว ครั้งนี้เราออกเดินทางไปยังภาคใต้ของไทย นั่นก็คือ ‘เมืองพระยารัษฎา ชาวประชาใจกว้าง หมูย่างรสเลิศ ถิ่นกำเนิดยางพารา เด่นสง่าดอกศรีตรัง ปะการังใต้ทะเล เสน่ห์หาดทรายงาม น้ำตกสวยตระการตา’ จังหวัดตรัง นั่นเองค่ะ ทริป 3 วัน 2คืน ที่จังหวัดตรังจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยจ้า
นอนฟาร์มสเตย์ ดูพระอาทิตย์ตก
ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองถึงท่าอากาศยานตรัง ในยามเช้า ท้องฟ้าสดใส
ทานมื้อเช้าแบบชาวตรังในตัวเมืองตรัง ชื่อร้านพงษ์โอชา สาขา1 ตั้งอยู่ที่ซอยห้วยยอด3 มีอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดมากมายไม่ว่าจะเป็นติ่มซำที่หลากหลาย หรือจะเป็นหมูย่างรสเลิศ
ที่เที่ยวแรกที่เรามาถึงคือ ถ้ำเขาช้างหาย ตั้งอยู่ใน ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง ด้านในมีหินงอก หินย้อย รูปแบบต่างๆ จำนวนมากขอบอกว่าสวยงามจริงๆ และที่นี่ยังคงความเป็นถ้ำที่มีลักษณะเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์ด้วยนะ
สถานที่ต่อมาเราได้เข้าเยี่ยมชม กลุ่มทอผ้านาหมื่นศรี ที่เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มชาวบ้านตำบลนาหมื่นศรี ซึ่งแต่เดิมนั้นมีการทอผ้าใช้กันเองภายในครัวเรือน และต่อมามีการทอผ้าส่งออกไปจำหน่ายในหมู่บ้านใกล้เคียง จนกลายเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งมีลวดลายเฉพาะมากกว่า 32 ลาย นักท่องเที่ยวสามารถชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอ ชมการสาธิตของช่างทอ และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากผ้าทอได้อีกด้วย
มาถึงแล้วจ้าไฮไลท์ของเรา บ่อหินฟาร์มสเตย์ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อหิน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เมื่อมาถึงคุณจะพบกับเรือนไม้เรียงรายที่ยื่นออกไปในน้ำ เรือนไม้หันหน้าไปทางคลองสิเกา และป่าชายเลน พ้นชานเรือนออกไปคุณจะพบกับกระชังปลานับสิบที่เป็นวิถีชีวิตเลี้ยงปากท้องของชาวบ้านบ่อหิน อันเป็นที่มาของ บ่อหินฟาร์มสเตย์
มาถึงแล้วเราได้รับการต้อนรับอย่างดีสุดๆจาก คุณบรรจง นฤพร ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน มีขนมจอกที่เพิ่งทอดร้อนๆกับน้ำกระเจี๊ยบหวานเย็นชื่นใจมาเลี้ยงต้อนรับด้วยนะ
เก็บของเข้าที่พักพวกเราก็เตรียมล่องเรือศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ขอบอกว่าบ่อหินฟาร์มสเตย์นี้ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เน้นการเรียนรู้ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมชายฝั่งทะเลของจังหวัดตรัง และการเรียนรู้วิถีชีวิตของการประมงชายฝั่ง
กิจกรรมแรกก็คือปลูกป่าชายเลนจ้า
ปลูกป่าชายเลนเสร็จแล้วคุณบรรจง พาพวกเราไปดู บ่อน้ำเค็มร้อนที่อยู่ในบริเวณลำคลองป่าชายเลน ที่มี่อุณหภูมิน้ำร้อนประมาณ 45 องศา เป็นบ่อร้อนเค็มแห่งเดียวในจังหวัดตรัง ช่วงที่น้ำทะเลลงต่ำสุด จะสามารถมองเห็นน้ำร้อนพุ่งออกจากบ่อ ซึ่งบริเวณนี้ยังจะพบปูก้ามดาบมากมายอีกด้วย
จุดหมายต่อไปเราคือ อ่าวบุญคง นั่งเรือออกจากบริเวณป่าชายเลนมุ่งสู่ทะเล ยังไม่ถึงอ่าวบุญคงเราก็พบกับความงามของท้องทะเลตรัง ทั้งสองข้างทาง น้ำที่ใส ลมเย็นๆ ขอบอกว่าบรรยากาศดีสุดๆ
อ่าวบุญคง เป็นที่อาศัยของพะยูนฝูงใหญ่ ชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงได้ตั้ง “ธนาคารต้นกล้าหญ้าทะเล” เพื่ออนุรักษ์หญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูนและมีการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ บริเวณที่เราล่องเรืออยู่นี้คุณบรรจงเล่าว่า ในช่วงที่น้ำลด จะสามารถเดินบนพื้นทรายได้ด้วยนะ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบเมื่อมาที่อ่าวบุญคงก็คือการ ปลูกหญ้าทะเล พายเรือคายัคเลียบเพิงผาหิน
และตอนนี้เราก็อยู่ในบริเวณอ่าวบุญคงเรียบร้อยแล้วจ้า
ชมความงามของอ่าวบุญคงเสร็จ เราจะไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่ หาดเก็บตะวัน ก่อนมาตรังมีแต่คนพูดถึงบรรยากาศสุดโรแมนติกของ หาดเก็บตะวัน ไว้ซะเราอยากมาเห็นด้วยตาตัวเองเลยจริงๆ
ล่องเรือไปได้ไม่นานท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม โรแมนติกสุดๆเลยล่ะ
ถึงแล้วจ้า หาดเก็บตะวัน ทันดูพระอาทิตย์ตกพอดี โรแมนติกสุดๆ แบบที่ใครๆบอกจริงๆด้วย บรรยากาศสุดชิล กับลมทะเลที่พัดสบายๆ ทำให้การดูพระอาทิตย์ตกที่หาดเก็บตะวันเป็นสิ่งที่ทำให้เราตกหลุมรักตรังแบบสุดๆ และอยากให้ทุกคนได้มาดูด้วยตาตัวเองจริงๆ สวยแบบที่มองด้วยตาเปล่าเท่านั้นถึงจะฟิน ลองมาสัมผัสบรยากาศแบบนี้ดูนะคะ
กลับที่พักเตรียมทานอาหารค่ำกันจ้า
ภาพจาก https://www.facebook.com/Pookpick
ทานอาการเสร็จ ที่นี่มีการแสดงพื้นบ้านให้ชมกันด้วยนะคะ นั่นก็คือ ลิเกป่า เคยได้ยินกันหรือเปล่า? เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงมี รำมะนา โหม่ง ปี่ ฉิ่ง กรับ เครื่องแต่งกายคล้ายกับชาวมาลายู การแสดงใช้ภาษาถิ่นพร้อมสอดแทรกมุกตลก ทำให้เรียกเสียงหัวเราะได้มากมายทีเดียว
สำหรับคืนนี้ลาไปนอนก่อน เพราะพรุ่งนี้เรามีนัดดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าบ้านแต่เช้ามืดค่ะ
อยู่กลางทะเลตรัง กับน้ำใสๆ ปะการังสวยๆ
ว้าวๆ พระอาทิตย์วันใหม่ใกล้มาแล้วค่ะ สวัสดีตอนเช้าจ้า
มีคนอยากทราบราคาที่พักของ บ่อหินฟาร์มสเตย์ ใช่ไหมล่ะ ตามนี้เลยจ้า
ห้องพักคืนละ 120 บาท ต่อคน (อันนี้เรานอนห้องพัดลมนะ)
ค่าอาหารเย็น 250 บาท ต่อคน (อาหารทะเลแบบจัดเต็ม)
นั่งเรือชมเกาะ 150 บาท ต่อคน
ถ้าใครอยากไปพักสอบถามที่เบอร์นี้เลยจ้า 081 892 7440 คุณบรรจง นฤพรเมธี
เก็บของออกจากโฮมสเตย์เพื่อเดินทางสู่ท่าเรือปากเมงกันค่า บายบายนะ บ่อหินฟาร์มสเตย์ แล้วพบกันใหม่ ^^
ภาพจาก https://www.facebook.com/Danai Pasurapanya
ก่อน ถึงท่าเรือเราแวะที่นี่เลยจ้า ปลาเค็มก้างมุ้ง ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปของชาวบ้านบ่อหิน
จุดหมายต่อไปของเราก็คือที่นี่เลย ท่าเรือปาเมง เตรียมลงเรือกันดีกว่าจ้า ขอบอกว่าวันนี้ทั้งวันเราจะอยู่กลางทะเล ลั้ลลาสุดๆ
ยังไม่ทันได้ลงเรื่อ บรรยากาศรอบๆท่าเรือก็สวยว้าว แล้วจ้า
อยู่บนเรือแล้วจ้า พี่ไกด์กำลังอธิบายว่าวันนี้เราจะเดินทางไปที่ไหนบ้าง
กิจกรรมดำน้ำดูปะการัง (One day trip)
ที่แรกที่เราจะไปดำน้ำดูปะการังก็คือ เกาะมุก
เพื่อนๆน่าจะเคยได้ยินชื่อเกาะมุกมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ? เพราะเกาะมุกเป็นจุดหนึ่งที่น่าสนใจของแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ในจังหวัดตรัง ลักษณะของเกาะ ส่วนใหญ่เป็น โขดผาสูงตระหง่าน หันหน้าออกสู่ทะเลใหญ่ทางด้านทิศตะวันตก หน้าผาโขดหินสูงของเกาะเป็นที่อาศัยของนกนางแอ่น
ที่ที่เราลงดำน้ำนั้นมีนักท่องเที่ยวมากมายกำลังเพลิดเพลินกับโลกใต้ทะเล ด้านล่างสวยจริงๆค่ะ มีทั้งปะการังสวยๆ และปลาสีสันสวยงาม
นั่งเรือมาถึงอีกด้านของเกาะมุกเราก็เจอกับสถานที่สุดว้าวนั่นก็คือ ถ้ำมรกต ที่มีความงดงามตระการตา ที่นี่จะเข้าออก ได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้นนะคะ โดยปากถ้ำเป็นโพรงเล็กๆ สูงพ้นระดับน้ำพอเรือเล็กลอดได้ พ้นปากถ้ำเข้าไปเป็นเส้นทางคดโค้งที่ค่อนข้างมืดมีระยะทางประมาณ 80 เมตร เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผา สูงชัน ขอบอกว่าข้างในสวยสุดๆไปเลยจ้า
ลืมบอกอีกอย่าง...เราไม่ได้จับเชือกเข้าไปข้างในถ้ำมรกตนะคะ แต่เราจะจับชูชีพของคนข้างหน้าต่อกันเป็นแถวยาวจ้า
บายๆ ถ้ำมรกต เราล่องเรือกันต่อไปที่ เกาะกระดานจ้า
เกาะกระดาน ชายหาดสีขาวสะอาดตาคู่กับน้ำทะเสใสๆ จนทำให้คุณหลงรักเกาะกระดานแน่ๆเรารับรอง ไกด์บอกเราด้วยว่าถ้าใครโชคดีจะได้เจอปลาดาวตัวใหญ่ที่อยู่ในบริเวณน้ำไม่ลึกมากอีกด้วยนะ
ชมความงามของเกาะกระดานเสร็จเราก็นั่งเรือเพื่อจะไปดำน้ำที่สุดท้าย ระหว่างทางเราผ่านเกาะแหวน ด้วยจ้า ไกด์เล่าว่าที่นี่กำลังจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำลึก (Scuba Diving) แห่งใหม่ของตรัง คนรักการดำน้ำจะต้องร้องว้าวแน่นอน เพราะการดำน้ำตรงบริเวณนี้น้ำค่อนข้างจะใสพอที่จะทำการดำลงไปแวกว่ายกับฝูงปลาใต้ทะเลได้แบบฟินๆ
ถึงจุดหมายสุดท้ายแล้วจ้านั่นก็คือ เกาะเชือก น้ำใสสุดๆ ไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ เกาะเชือกได้ชื่อว่าเป็นเกาะแห่งความสมบูรณ์ของการดำน้ำตื้น ซี่งเป็นเกาะไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของทะเลตรัง ที่นักท่องเที่ยวจะได้ดำน้ำดูปะการังบริเวณรอบเกาะ ซึ่งมีปะการังสีฟ้า ปะการังพุ่ม ปะการังเขากวางขนาดใหญ่ ปะการังอ่อน หลากสี ทั้งสีส้ม ขาว เหลือง ม่วง แดง รวมไปถึงปะการังดองไม้ กัลปังหา และแส้ทะเล ตลอดจนปลาสวยงามมากมายหลากหลายชนิดที่แหวกว่ายเข้ามา ล้อเล่นกับนักท่องเที่ยว และที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้เจอกับปลา การ์ตูน ปลาโนรี ด้วยนะ
กิจกรรมดำน้ำ ล่องเรือกลางทะเลอันดามัน วันนี้จบลงแล้วจ้า ลาไปด้วยภาพสุดชิลภาพนี้เลยจ้า แล้วพรุ่งนี้มาเที่ยวตรังกันต่อนะ
รู้จักตรังมากขึ้นกับการเที่ยวชมสถานที่สำคัญ
ที่แรกที่เราจะไปวันนี้คือ ถ้ำเลเขากอบ ตั้งอยู่ที่ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นชื่อที่ชาวบ้านในบริเวณตำบลเขากอบ เรียกกันตามภาษาพื้นบ้าน
การจะเข้าชมด้านในถ้ำต้องจะนั่งเรือเข้าไปค่ะ จะมีจุดจอดเรือให้เดินชม และที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ก็คือการนั่งเรือผจญภัยลอดท้องมังกร เป็นช่วงแห่งความหวาดเสียวที่จะจดจำไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ เพราะเราต้องนอนบนเรือเพื่อล่องชมความงามของถ้ำ ขอบอกว่าจมูกเราห่างจากเพดานถ้ำประมาณคืบเดียวเท่านั้น
การที่ชาวบ้านเรียกกันว่า ถ้ำเล หรือ ถ้ำทะเล นั้น เพราะบริเวณที่ตั้งของตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด อยู่ห่างจากทะเลกว่า 40 กิโลเมตร
ถ้ำเลเป็นถ้ำใหญ่ที่มีน้ำไหลผ่านตลอดถ้ำ ถ้ำเลประกอบด้วย ถ้ำต่าง ๆ หลายถ้ำ อยู่ภายใต้ภูเขากอบ เช่น ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำรากไทร ถ้ำท้องพระโรง เป็นต้น
ออกจากถ้ำเลเขากอบ เราไปต่อกันที่ วังเทพทาโร ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้รากไม้เทพทาโรซึ่งเป็นรากไม้หอมเก่าแก่ของไทยและเป็นไม้มงคลเก่าแก่ของภาคใต้ ทางภาคใต้จะเรียกว่า “ไม้จวงหอม” ปัจจุบันต้นเทพทาโรถูกโค่นทิ้งเป็นจำนวนมากเพื่อขยายพื้นที่ไปปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน ฯ
คุณครู จรูญ แก้วละเอียด จึงได้ริเริ่มที่จะอนุรักษ์ไม้เทพทาโรเหล่านี้ไว้ โดยทำการรวมรวมรากไม้เทพทาโรจากที่ต่างๆแล้วค่อยๆนำมาประดิษฐ์เป็นผลิตภัณฑ์ในรูปร่างของมังกรที่เป็นสัตว์มงคล แรกเริ่มประดิษฐ์เป็นรูปมังกรจำนวน 84 ตัว เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา ปัจจุบันมีการขยายมีจำนวนมากขึ้น และมีการตั้งเป็นวังเทพทาโรเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับบุคคลที่สนใจ รวมถึงการอนุรักษ์ปลูกสวนไม้เทพทาโรเพื่อมาทดแทนต้นไม้เทพทาโรที่เสียไปอีกด้วย
คุณครู จรูญ เล่นเพลงปักษ์ใต้บ้านเรา แต่เป็นแบบเนื้อร้องภาษาอังกฤษให้ฟังค่ะ เพราะมากๆ
อันนี้ลูกที่ตกจากต้นจวงหอมค่ะ
ช่างกำลังทำผลิตภัณฑ์จากไม้จวงหอมค่ะ แม้นำมาทำเป็นสิ่งของกลิ่นของจวงหอมก็ยังอยู่ นะคะ ใครเคยได้กลิ่นบ้าง? หอมสุดๆ
เดินทางไปที่ต่อไปกันดีกว่า ที่ที่จะพลาดไม่ได้เลย ที่นี่ก็คือ สถานีรถไฟกันตัง เป็นสถานีรถไฟสุดทางของทางรถไฟสายใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน
ตัวสถานีรถไฟกันตัง เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล
ร้านกาแฟเก๋ๆ ตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟกันตัง
นั่งรถมาอีกไม่ไกลก็ถึงที่หมายต่อไปของเรา พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ที่นี่เป็นบ้านพระยารัษฎาฯ เป็นหลักฐานสำคัญของการตั้งเมืองกันตัง และพระยารัษฎาฯ เป็นคนส่งเสริมการปลูกยางพารา จนกลายมาเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคใต้อีกด้วย
ไปชมด้านในพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) ที่นี่เป็นบ้านพระยารัษฎาฯกันเลยค่า
มาชมด้านนอกบ้านกันบ้างค่ะ
เลยมาไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) คุณจะพบกับ ยางพาราต้นแรกของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นสวนยางรารารุ่นแรก ทุกคนจึงถือว่าต้นนี้เป็นยางพาราต้นแรกนั่นเอง
ที่สุดท้ายก่อนกลับกรุงทพฯ สำหรับคนที่รักป่า รักต้นไม้ ชอบชมความงามของดอกไม้ ให้มาที่นี่เลยจ้า สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ ลักษณะป่าจะเป็นป่าดิบชื้น ป่าพรุ และทุ่งหญ้า
เดินไปเรื่อยคุณจะพบกับ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่พลาดไม่ได้ นั่นก็คือ เส้นทางสะพานศึกษาเรือนยอดไม้ (Canopy Walk Way) ลักษณะเป็นหอคอยไต่ระดับมีสะพานแขวนเชื่อมต่อกัน สามารถมองเห็นป่าไม้ในระยะใกล้ชิดในอีกมุมมองหนึ่ง และได้สัมผัสกับธรรมชาติของสังคมพืชเรือนยอดไม้ของต้นไม้สูงๆ ได้อย่างชัดเจนในระดับสายตาไม่ว่าจะเป็นใบ ดอก และผล อีกทั้งจะได้พบเห็นสัตว์ป่าจำพวกนก กระรอก กระแต ลิง ค่าง โดยไม่ต้องแหงนหน้าขึ้นฟ้า เพียงใช้กล้องส่อง ถ้ามองลงมาด้านล่างจะเห็นรอยต่อระหว่างป่าดิบชื้นกับป่าพรุได้ชัดเจนอีกด้วย
เดินได้ไม่นาน เราก็ต้องรีบกลับไปขึ้นเครื่องที่ท่าอากาศยานตรังแล้ว
จบทริปด้วยรูปนี้แล้วกัน บายๆนะจังหวัดตรัง แล้วพบกันใหม่นะ
ครบครันจริงๆ สำหรับการมาเยือนจังหวัดตรังในครั้งนี้ สำหรับคนที่อยากมาเที่ยวก็สามารถเที่ยวตามในแบบทริปที่เรานำมาฝากได้เลยนะ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนจ้า
เรียบเรียงโดย ทีมงานชิลไปไหน
Tags: ตรัง จังหวัดตรัง เที่ยวตรัง ฟาร์มสเตย์ บ่อหินฟาร์มสเตย์ ที่เที่ยวตรัง หาดเก็บตะวัน ท่าเรือปากเมง ถ้ำมรกต ดำน้ำ ดูปะการัง ทริป 3 วัน 2 คืน อยู่กับธรรมชาติ นอนฟาร์มสเตย์ ดูปะการัง แล้วคุณจะรักตรัง เกาะกระดาน ล่องเรือ ทะเลอันดามัน เกาะมุก สถานีรถไฟกันตัง
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 1,968 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,746 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,768 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 3,723 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,536 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,471 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 6,355 อ่าน