เขื่อนเชี่ยวหลาน สถานที่ที่ฮอตฮิตติดอันดับต้นๆ ในอุทยานแห่งชาติ เขาสก

เขื่อนเชี่ยวหลาน

            วันหยุดสั้นๆที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ เก็บกระเป๋า ออกไปหาที่เล่นน้ำชิลๆกันดีกว่า เงื่อนไขมีอยู่ว่า ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ทะเล....แว็บแรก ไม่ไปทะเล ก็น้ำตกสิ แต่พอมานั่งคิดน้ำตกก็ไปบ่อยและ คิด คิด คิด.....อ๋อ นึกออกแล้ว!!!!

            “เขื่อนรัชชประภา” หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน ที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ฮอตฮิตติดอันดับต้นๆ ในอุทยานแห่งชาติ เขาสก จ.สุราษฎร์ธานี เลยก็ว่าได้

             เราออกเดินทางกันคืนวันศุกร์ ประมาณสองทุ่มกว่าๆ ไปถึงสันเขื่อนก็เช้าพอดี ถ้าโชคดีก็จะได้เจอหมอก เราใช้เวลาสักพัก ทำภาระกิจส่วนตัวล้างหน้าแปลงฟัน (มีห้องน้ำสะอาดบริการ) เดินถ่ายรูปเล่นชิลๆ กับวิวสวยๆ บริเวณสันเขื่อน

             จากนั่นก็เดินทางไปบริเวณท่าเรือหลังเขื่อนเพื่อติดต่อเรือ ทานอาหารเช้า และเดินทางต่อ...ก่อนลงเรือต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานคนละ 40 บาท ส่วนค่าเรือ ก็คิดเหมารำ 1200-1500 ไปกลับต่อรำ ขึ้นอยู่กับขนาดเรือ ได้บัตรเข้าอุทยาน ได้เรือแล้ว ก็ออกเดินทางกันเลย

บรรยากาศท่าเรือ

             บอกลาสัญญาณโทรศัพท์และเตรียมตัวดื่มด่ำกับธรรมชาติที่สวยงามได้เลยค่ะ เรามุ่งหน้าสู่ที่พัก โดยระหว่าทางเราจะมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ สวยงาม น้ำใสๆ สลับกับผาหินกลางน้ำสลับซับซ้อน คนเรือพาเราล่องเรือผ่านจุดสวยๆ ของเขื่อน

             และจุดที่พลาดไม่ได้ก็คือบริเวณ เขาสามเกลอ เขาหินปูนสามแท่งที่แช่น้ำ อยู่กลางเขื่อน ที่ถือว่าเป็นพระเอกของที่นี่เลยก็ว่าได้นักท่องเที่ยวที่มาจะต้องแวะมาเก็บภาพที่ระลึกไว้เป็นหลักฐานว่าครั้งหนึ่งได้มาเยือนที่นี่ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือที่ทุกคนขนานามว่ากุ้ยหลินเมืองไทย

เขาสามเกลอ

เขาสามเกลอ

             ได้ภาพประทับใจกันเรียบร้อยได้เวลาเข้าที่พักกันสักที เราเลือกพักกันที่ แพนางไพร ที่เลือกที่นี่เพราะ แพนี้มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในเขื่อนก็ว่าได้ วิวด้านหน้าเป็นเขาสามเกลอ มีบริเวณให้เล่นน้ำกว้าง มีเรือคายักให้พายเล่น ที่เด่นๆเล่นเป็นบริเวณที่มีปลาแดงอาศัยอยู่มาก ชาวบ้านจึงเรียกบริเวณนี้ว่า วังปลาค่ะ

             บริเวณเขื่อนยังมีสถานที่ให้เที่ยวอีกมากมาย เข้าห้องพักเก็บสัมภาระ ทานมื้อกลางวันเสร็จเรียบร้อย ก็ไปเที่ยวกันต่อเลย สถานที่ที่เราจะไป คือ ถ้ำปะการัง เนื่องจากไปง่าย ใช้เวลาเดินทางจากที่พักประมาณครึ่งชั่วโมง และเดินเท้าต่ออีก กิโลกว่าๆ และนั่งแพที่ชาวบ้านมีบริการต่อไปยังถ้ำชมความงามด้านในกัน

ภาพการเดินทาง

             ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยมากมายรูปร่างคล้ายปะการัง ภายในถ้ำบริเวณไม่กว้างมากอากาศถ่ายเทดี พวกเราก็เพลิดเพลินถ่ายรูปกันอยู่พักใหญ่ จากนั้นก็ออกจากถ้ำและเดินทางกลับที่พัก

              ได้เวลาเล่นน้ำแล้ว!!! หลังจากเที่ยวเสร็จ อากาศร้อนๆ เราก็ไม่รีรอที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน บางคนก็พายเรือเล่น บางคนก็หามุมสงบๆ นั่งอ่านหนังสือ ชิลสุดๆ

             หลังจากเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน อาบน้ำกันเรียบร้อย โปรแกรมยังไม่หมดแค่นี้ พี่คนขับเรือพาไปชมพระอาทิตย์ตกที่กลางเขื่อนอีก ครั้งแรกในชีวิตที่ได้ชมพระอาทิตย์ตกกลางน้ำนี่แหละ สวยงามมาก

             ปิดท้ายด้วยอาหารมื้อเย็นสุดอร่อย กับเมนูปักใต้ที่ทางแพเตรียมไว้ให้จ้า อร่อย เผ็ดร้อน แซ่บเว่อร์ กินกันได้แบบไม่อั้น

             อิ่มท้องสนุกสนานกันมาทั้งวันได้เวลาพักผ่อน กลางคืนที่นี่จะมีไฟแค่สี่ทุ่ม ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม แต่ไม่ร้อน อากาศเย็นสบาย พวกเรานั่งคุยเล่นกันสักพักแล้วแยกย้ายกันไปพักผ่อน

             สวัสดียามเช้าวันอาทิตย์ นั่งจิบกาแฟชมสายหมอกและแสงอาทิตย์ยามเช้าหน้าที่พัก ชิลสุดๆ ตามด้วยข้าวต้มร้อนๆ ยามเช้าเสร็จ ยังพอมีเวลา บางคนก็เล่นน้ำอีกรอบ บางคนก็ไปพายเรือถ่ายรูปเล่น ใช้เวลาให้คุ้มค่าก่อนเดินทางกลับ

ได้เวลาบอกลาแพนางไพร ถ่ายรูปสวยๆ กับแพชิลๆ ก่อนกลับกันสักหน่อย

             ได้เวลากลับบ้าน ระหว่างทางเราก็แวะซื้อของฝากและไหว้พระที่พระธาตุไชยา พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุราษฯ และเดินทางกลับกรุงเทพ

การเดินทาง

โดยรถส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ไปจนถึงจังหวัดชุมพรจากนั้นตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 41 จนถึง อ.พุนพิน ตรงสี่แยก ที่สามารถเข้าจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ไม่ต้องเข้าตัวจังหวัด ให้ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงแยก ท่าโรงช้าง ให้เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 401 จากนั้นประมาณ 40 กม. ก่อนจะถึง ตัว อ.บ้านตาขุนจะมีป้ายใหญ่ ของเขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ทางขวามือ

โดยรถทัวร์

ขาไป จากสถานีขนส่งสายใต้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้ขึ้นรถทัวร์ที่ไปยัง ภูเก็ต หรือ พังงาแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าลง ปากทางเข้า เขื่อนรัชชะประภา (เขื่อนเชี่ยวหลาน) ตรง อ.บ้านตาขุน ใช้เดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง ส่วนมากใช้บริการของ ภูเก็ตเซ็นทรัล หรือ ภูเก็ตท่องเที่ยว VIP24 ที่นั่ง ราคาประมาณ 1000 บาทหรือ แบบ 32 ที่นั่งราคาประมาณ 7xx บาท บอกพนักงานบนรถว่าขอลง อ.บ้านตาขุน (ปากทางเข้าเขื่อนเขี่ยวหลาน) เที่ยวรถมีรอบประมาณช่วง 19.00-20.00น. ขึ้นได้หมด รถน่าจะมาถึง อ.บ้านตาขุน ประมาณ 6.00 น. แวะไปกินโจ๊กก่อนเข้าไปในตัวเขื่อน จากนั้นใช้บริการจักรยานยนต์รับจ้างเข้าสู่ที่ทำการอุทยานฯ

ขากลับ ขึ้นรถที่อ.บ้านตาขุน โดยซื้อตั๋วกลับได้ที่จุดขึ้นรถของบริษัทรถทัวร์ที่ให้บริการอยู่ในบริเวณนั้นซึ่งจะมี บริษัทภูเก็ตเซ็นทรัลทัวร์ ลิกไนต์ทัวร์ โดยมารอขึ้นรถที่บ้านตาขุน รถจะมาถึงประมาณทุ่มกว่าๆ

ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ แต่อย่างไงก็แล้วแต่เราก็ยังสร้างมันได้ในวันหยุดครั้งต่อๆ ไป เพราะชีวิตคือการเดินทาง...

ภาพและเขียน ปรางสามยอด

Tags: เขื่อนเชี่ยวหลาน เขื่อนรัชชประภา อุทยานแห่งชาติ เขาสก สุราษฎร์ธานี

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้