0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

สวนผึ้ง วันเดียวก็เที่ยวได้

calendar_month 10 พ.ย. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 514,460 / ทริปตัวอย่าง

 

คนที่ยังไม่เคยไปสวนผึ้งมักจะถามผมว่า สวนผึ้ง..ไกลไหม? ผมก็มักจะตอบเขาว่า ถ้าคุณโฟกัสไปที่จุดหมายปลายทางแล้วมองว่าระหว่างทางคือการเปลืองเวลาก็ถือว่าสวนผึ้งไกลครับ!

 แต่ถ้าคุณมองว่า
การได้ขับรถไปบนถนน ในวันที่จุดหมายไม่ใช่ออฟฟิศก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนแล้ว ถ้าคิดแบบนี้... แป๊บเดียว ก็ถึงสวนผึ้งครับ

 

 มันใกล้พอที่ผมกล้ายืนยันว่า ถ้าคุณเป็นคนกรุงเทพฯ ว่างวันเดียว ก็เที่ยวสวนผึ้งได้ครับ สวนผึ้งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 160 กิโลเมตร ขับรถไม่เกิน 3 ชั่วโมง เดินทางออกจากกรุงเทพฯได้ 3 เส้นทางคือ
 1. ถ. เพชรเกษม ผ่าน จ. นครปฐม, อ.โพธาราม(ราชบุรี) เข้าสู่เมืองราชบุรี
 2. ถ. บรมราชชนนี (ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) จะไปบรรจบกับเส้นทางแรกที่ อ. นครชัยศรี (จ.นครปฐม)
 3. ถ. พระราม 2 (ธนบุรี-ปากท่อ) ไปบรรจบกับ ถ. เพชรเกษมที่แยกวังมะนาว เลี้ยวขวาเข้าตัวเมืองราชบุรี แต่เส้นทางที่ผมจะพาไปวันนี้ เป็นเส้นทางที่ 2 ครับ
 
 ก่อนอื่น เรามาปักหมุดกันก่อน แผนมีอยู่ว่า....
บึ่งไปให้ไกลสุดก่อน แล้วค่อยเที่ยวย้อนกลับลงมา
1. ทานมื้อเที่ยงที่ Cucina (La Toscana Resort)
 2. เที่ยว The Scenery Vintage Farm
 3. ช้อปปิ้งของฝากที่ บ้านหอมเทียน
 4. ทานมื้อเย็นที่ร้าน มุมโปรด
 5. แวะดื่มกาแฟและถ่ายรูปที่ Moai Coffee

 
 


9:00 น. ออกเดินทาง

ก่อนเดินทางจัดมื้อเช้ากันตามอัธยาศัย แล้วเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไม่เกิน 9 โมงเช้า หรือถ้าใครอยากขับรถไปหามื้อเช้าเอาดาบหน้า ก็เผื่อเวลาเดินทางกันอีกหน่อยครับ เอาเป็นว่า 11 โมงควรถึงตัวเมืองราชบุรีละกันครับ
 
TIP ถ้ามาจากนครปฐม ก่อนเข้าตัวเมืองราชบุรี จะมีป้ายงงๆ อยู่ คืองี้ครับ...
 ตอนแรกป้ายจะบอกว่า เบี่ยงซ้ายไปเพชรบุรี ตรงไปเข้าเมืองราชบุรี ป้ายนี้ให้เราตรงเหมือนจะเข้าเมืองราชบุรีก่อนนะครับ เพราะถ้าออกซ้ายป้ายนี้ มันจะเป็นทางเลี่ยงเมืองครับ ไม่ผ่านทางเข้าสวนผึ้ง
 แต่ขับมาอีกนิดเดียว เจอป้ายถัดมา คราวนี้..เบี่ยงซ้ายจะเข้าเมืองราชบุรี ตรงไปเพชรบุรี (ซะงั้น!) อย่าเพิ่งงงครับ ป้ายนี้เราต้องตรงไปทางเพชรบุรีนะครับ เพราะมันคือทางไปเพชรบุรีสายเก่า ถ.เพชรเกษม นั่นเอง แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเป็นการเข้าตัวตลาดเมืองราชบุรี 
ดูแผนที่ประกอบครับ


 


 

 

 
11:00 น. ถึงราชบุรี
 
ผมเลือกที่จะเติมแก๊ส-เติมน้ำมันให้เพียงพอตั้งแต่ตอนอยู่ในเมืองครับ ลองคำนวณเอาว่าระยะทางที่เราจะขับรถเที่ยวในสวนผึ้งจนกว่าจะได้กลับออกมาสู่ถนนเพชรเกษมอีกครั้ง ก็ราวๆ 170 กิโลเมตร ไม่ใช่ว่าในสวนผึ้งไม่มีปั๊มนะครับ แต่เพื่อความอุ่นใจ และไม่เสียเวลาไปแวะเติมที่สวนผึ้ง ซึ่งอาจจะขับเลยไป-เลยมา เพราะเราไม่คุ้นเส้นทาง พอเติมน้ำมันและทำธุระเสร็จสรรพ...เราก็มุ่งหน้าสู่ Cucina กันเลย! ทางเข้าสวนผึ้งมี 3 ทางนะครับ คือ
 1 เข้าทางแยกเขางู หรือแยก Nissan (เส้น 3087)
 2 เข้าทางแยกเจดีย์หัก ไปทางอ.จอมบึง  (เส้น 3291) ซึ่งก็จะไปบรรจบกับเส้น 3087
 3 เข้าทางแยกห้วยไผ่ มีโอ่งมังกรใบใหญ่อยู่ตรงหัวมุมถนน มีป้ายบอกทางไปสวนผึ้งชัดเจน (เส้น 3208)
 ทุกเส้นทางจะไปบรรจบกันตางบ้านชัฏป่าหวาย





ก่อนถึง Cucina เราต้องผ่านอะไรบ้าง 
 นี่คือจุดสังเกตใหญ่ๆ เพื่อให้คุณเดินทางอย่างอุ่นใจยิ่งขึ้น เรียงตามการพบเห็นขาเข้าไปนะครับ ; 

ตลาดชัฏป่าหวาย / รพ.สวนผึ้ง(ซ้ายมือ) / โมอาย คอฟฟี่(ขวามือ) / สภ.อ.สวนผึ้ง(ขวามือ) / เบลลิสซิโม รีสอร์ท(ซ้ายมือ) / สามแยกภูผาผึ้งรีสอร์ท (มีทางแยกไปทางซ้าย แต่เราขับตรง โค้งขวาเล็กน้อย) / ไฮซีน รีสอร์ท(ซ้ายมือ) / สวนผึ้งรีสอร์ท(ฟลินส์สโตน ขวามือ) / บ้านอ้อมกอดขุนเขา(ขวามือ) / ธีรมาคอจเทจ(ซ้ายมือ) / สามแยกทุ่งเจดีย์ (มีทางแยกไปทางขวา แต่เราขับตรง) / แล่นฉิว (รสบัสเก่า ซ้ายมือ) / โรงเรียนสินแร่สยาม(ซ้ายมือ) / สามแยกตัว Y เราเบี่ยงออกขวา ขับไปอีก 100 เมตร Cucina จะอยู่ขวามือ 

 
TIP ใครเข้าทางแยกห้วยไผ่ ใช้เส้นทาง 3208 และต้องการแวะ 7-Eleven แรกที่ชัฏป่าหวาย ลองดูเส้นประสีแดงในแผนที่ข้างล่างนะครับ เพราะวงเวียนตรงชัฏป่าหวายค่อนข้างทำให้สับสนทีเดียว ใครไปครั้งแรก ผมรับรองว่า งงแน่

คลิกดูภาพจริงของวงเวียน




12:00 น. คูซิน่า (Cucina)
 
 ร้านอาหารที่จะทำให้เรารู้สึกคุ้มค่ากับการเดินทางมาหลายชั่วโมง ถามว่าระหว่างทางที่ผ่านมามีร้านอาหารอื่นน่าสนใจมั้ย มีครับ แต่ที่ผมเลือกที่นี่ เพราะมันรู้สึกถึงคำว่า มาถึงสวนผึ้งแล้ว...ว้าววว!! คูซีน่าเป็นร้านอาหารที่อยู่ด้านหน้าของลาทอสคาน่า รีสอร์ท ตกแต่งสไตล์ชนบทอิตาลี น่าถ่ายรูปเป็นที่สุด และนอกจากจะมีอาหารอิตาเลียนแล้ว ยังมีเมนูอาหารไทยรสจัดจ้านด้วย แนะนำให้โทร.จองโต๊ะระเบียงชั้น 2 ชิลที่สุดแล้ว โทร. 08-4456-2008, 08-1753-7500

คลิกดูแผนที่


 











 




13:30 น. เดอะ ซีนเนอรี วินเทจ ฟาร์ม
(The Scenery Vintage Farm)

 
หลังจากอิ่มแล้วไปเที่ยวกันบ้าง เช็คบิลแล้วออกเดินทางไปที่ The Scenery Vintage Farm จากคูซิน่าขับรถย้อนกลับมา(ฝั่งขากลับกรุงเทพฯ)ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะเจอสามแยกภูผาผึ้ง รีสอร์ท เลี้ยวขวาเข้าไปตามถนน (อย่าเผลอเลี้ยวเข้าภูผาผึ้ง รีสอร์ทล่ะ) เข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะผ่าน Swiss Valley Hip Resort ทางขวามือ เลยไปนิดเดียวก็ถึง The Scenery Vintage Farm อยู่ทางซ้ายมือ ค่าตั๋วเข้าชมผู้ใหญ่ 40 บาท เด็กสูงไม่เกิน 120 ซม. 20 บาท ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ! แต่ที่เป็นไฮไลท์คงหนีไม่พ้นการให้อาหารแกะ แต่ใครที่ไม่ได้ซื้อหญ้าให้แกะ ก็สามารถเข้าไปเดินเล่นกับแกะในฟาร์มได้นะ นอกจากนี้ก็จะมีโซนให้ช้อปๆ ชิมๆ อยู่หลายจุด

คลิกดูแผนที่ 
  











 

 
TIP แกะ ที่ The Scenery Vintage Farm จะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวมาก แต่ผมไม่ขอใช้คำว่า “เชื่อง” นะครับ ยิ่งเวลาซื้อหญ้าให้น้องแกะ เราต้องรีบชูกำหญ้าให้สูงๆ ไว้เหนือหัว น้องแกะเค้าจะรู้ว่าเค้าต้องรอเราอนุญาต แต่ถ้าเราถือหญ้าต่ำๆ เค้าก็จะพยายามเข้ามาตะเกียกตะกาย อย่างที่เห็นในรูปครับ


15:00 น. บ้านหอมเทียน
 
ขับรถย้อนกลับไปทางสามแยกภูผาผึ้ง เลี้ยวขวา(เหมือนกลับกรุงเทพฯ)ขับมาแค่กิโลกว่าๆ ก็จะเจอบ้านหอมเทียนอยู่ซ้ายมือ จอดรถริมถนนครับ แล้วเดินเข้าไปข้างในกัน บ้านหอมเทียนมีค่าเข้านะครับ คนละ 30 บาท แต่ตั๋วที่ได้สามารถนำไปแลกเทียนแก้วเป๊กได้ (เหมือนบังคับซื้อแหละครับ แต่ก็ดีกว่าเสียค่าตั๋วเปล่าๆ ใช่ไหมล่ะ) บ้านหอมเทียนมีลักษณะเหมือนชุมชนเล็กๆ เป็นจุดขายของที่ระลึกที่น่าแวะที่สุดแห่งหนึ่งของสวนผึ้งโด่งดังมาจากการทำเทียนหอมๆ หลากสีสัน และจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับเทียนเก๋ๆ แม้ว่าตอนนี้จะมีของขายหลากหลายประเภทมากขึ้น แต่บางอย่างมันก็ตัดสินใจซื้อยากอยู่สักหน่อย เพราะอาจจะคุ้นตาว่าเคยเห็นแถวจตุจักร

คลิกดูแผนที่ 



  









  


TIP บ้านหอมเทียนมีลักษณะเป็นเนินเขา ดังนั้น..ขาเดินขึ้น แนะนำให้กวาดสายตาดูสินค้าไปก่อน อย่าเพิ่งซื้อเพราะไม่งั้นคุณจะต้องเดินหิ้วของหนักๆ ขึ้นเนิน และเมื่อขึ้นไปจนสุดแล้ว น่าจะได้ลองนั่งพักชมวิวที่ร้านกาแฟชิลๆ ด้านบนให้หายเหนื่อยกันก่อน แล้วพอขาเดินลง ค่อยแวะซื้อของครับ


 


16:00 น. มุมโปรด
 
 หิวแล้วซิ มื้อเที่ยงเราทานแบบอิตาเลียนมาแล้ว มื้อเย็นเราเปลี่ยนสไตล์มาทานอาหารแบบไทยๆ ที่ใส่ใบมะกรูด มะนาว กะเพรา โหระพา กันบ้าง ไปร้านมุมโปรดกันดีกว่า ขับรถมาประมาณ 2.6 กิโลเมตร(ฝั่งขากลับกรุงเทพฯ) ร้านจะอยู่ฝั่งขวา ต้องข้ามฝั่งไปจอดหน้าร้าน มื้อนี้เราไม่เน้นบรรยากาศ แต่ขอเน้นรสชาติแบบสวนผึ้งๆ ซึ่งรสชาติจะออกหวานนำ เมนูขึ้นชื่อของที่นี่คือ หมูทอดน้ำปลา 
เห็ดหอมสดผัดกุ้ง ฉู่ฉี่กุ้งสด และต้มยำปลากดคัง ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร โทร.ไปจองโต๊ะหรือสั่งอาหารกันก่อนได้ที่ 032-395150 และ 084-164-0781
คลิกดูแผนที่ 
 







 
TIP สาวอารมณ์ศิลปินเจ้าของร้านมุมโปรด คือลูกสาวของคุณแม่เจ้าของร้านครัวตะนาวศรี ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของสวนผึ้ง เรื่องรสชาติจึงไม่ต้องห่วง รับรองว่าเด็ดไม่แพ้แม่




17:30 น. โมอาย คอฟฟี่ (Moai Coffee)
 
ปิดท้ายทริปนี้กันด้วยร้านกาแฟสุดเก๋ที่ออกแบบร้านเป็นหินแกะสลักรูปโมอาย อยู่ห่างจากมุมโปรดประมาณ 4 กิโลเมตร ออกจากร้านมุมโปรดต้องข้ามมาฝั่งขากลับกรุงเทพฯ ขับไปประมาณ 2 กิโลเมตรจะข้ามสะพานแม่น้ำภาชี ขับต่อไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นร้านโมอายอยู่ทางซ้ายมือ แวะดื่มกาแฟให้สดชื่นก่อนขับรถเดินทางกลับ และถ่ายรูปกันอีกสักชุด ร่ำลือกันว่าที่โมอายจะโรแมนติกตอนเย็นช่วงแสงแดดยังไม่หมดแต่ร้านเริ่มเปิดไฟ อ่อ ร้านนี้ค่อนข้างปิดไวนะครับ บอกไว้ให้ทำใจเผื่อ ถ้ามาถึงร้านช้าไป ร้านอาจจะปิดแล้ว... ก็เป็นได้...

คลิกดูแผนที่    
  




TIP โมอาย(Moai) คือหินแกะสลักรูปศีรษะมนษย์ขนาดใหญ่ประมาณ 3.5 เมตร ถูกพบมากกว่า 600 ตัว กระจายอยู่ทั่วเกาะอีสเตอร์ อุทยานแห่งชาติลาปานุย ประเทศชิลี สันนิษฐานว่าน่าจะถูกแกะสลักโดยพวกโพลิเนเชียน (Polynesian) ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะนี้เมื่อกว่า 1,000 ปีมาแล้ว 
 
 
นี่ก็คือ 1 Day Trip สวนผึ้ง ราชบุรี ซึ่งผมว่าไม่ไกลเกินไปสำหรับคนกรุงเทพฯ
 ถ้าไปเที่ยวกัน 2 คน ขับรถไปเอง ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณคนละ 1000 กว่าบาท
 แต่ถ้าไปกันมากกว่านี้ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนก็จะถูกลงไปอีก ลองไปเที่ยวกันดูนะครับ
 แต่ถ้าใครอยากไปค้างสักคืน
คลิกดูที่พักสวนผึ้งน่ารักๆ กันได้ครับ  





 

จองที่พักแบบ Online ได้ทันที
agoda_but.jpg

 



 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai