เที่ยวสมุยแบบ ‘ฮิกๆ’ ตอนที่ 2 นอนทอดหุ่ยริมชายหาด

calendar_month 23 ก.พ. 2012 / stylus Admin Chillpainai / visibility 22,465 / รีวิวที่เที่ยว

ตีห้ากว่าๆ…

และแล้วเรือนอนอันเป็นทั้งพาหนะและโรงแรมลอยน้ำก็พาฉันมาจอดเทียบท่าเรือดอนสัก เกาะสมุยโดยสวัสดิภาพ เย้..ในที่สุดก็ถึงสมุยสักที ฉันรีบคว้าเป้เตรียมตัวต่อแถวนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ลงจากเรือ ความง่วงเหงาหาวนอนเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นที่จะได้มาเยือนถิ่นเกิดของ ‘คุณฉุย’ แบบใกล้ชิด

เที่ยวสมุยแบบ ‘ฮิกๆ’ ตอนที่ 2 นอนทอดหุ่ยริมชายหาด

สำหรับใครที่เกิดหลังช่วงประมาณ พ.ศ.2525-2529 อาจจะไม่คุ้นว่าตาคุณฉุยนี่เป็นใครกันนะ? อธิบายสั้นๆ ว่า คุณฉุยเป็นตัวละครที่น่ารักน่าหยิก ประมาณบุญชูนั่นแหละ แต่เปลี่ยนจากหนุ่มสุพรรณพูดเหน่อ มาเป็นหนุ่มแว่นจากเกาะสมุยเข้าไปอยู่ในกรุงฯ แทนเท่านั้น

ความใสซื่อ มองโลกในแง่ดีของคุณฉุยนี่แหละ ที่ทำให้ฉันจดจำและประทับใจชื่อของเกาะสมุยได้ขึ้นใจมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กที่ดูละครหลังข่าวช่อง 7 เมื่อสิบกว่าปีก่อน จนตอนนี้ได้มาตามรอยคุณฉุยจริงๆ แล้ว > <

โบกรถสองแถวที่มีให้เช่าอยู่มากมายตามท่าเรือ ต่อรองราคาเสร็จสรรพก็เขยิบขึ้นไปนั่งเอี้ยมเฟี้ยมร่วมกับผู้โดยสารคนอื่นๆ หรือใครชอบเดินทางแบบส่วนตัวก็มีรถเช่า ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ไปจนถึงแท็กซี่ แต่บอกไว้ก่อนว่าแท็กซี่ที่สมุยเค้าไม่เปิดมิเตอร์นะฮ้าฟฟ..ผู้โดยสารโปรดทราบ ต้องเหมาตามระยะทางเท่านั้น ส่วนอิชั้นไม่อยากถูกฟันหัวแบะตั้งแต่เหยียบเกาะสมุยวันแรก เลยยอมแบกเป้ขึ้นสองแถวดีกว่า

พอผู้โดยสารเต็มพี่โชเฟอร์ก็ออกรถ ระหว่างทางก็แวะส่งผู้โดยสารไปเรื่อยๆ นักท่องเที่ยวบางคนเห็นแบกเป้แต่งตัวโทรมๆ ยังงี้ก็เถอะ แต่ขอโทษ…พักรีสอร์ทหรู 4 ดาวเชียวนะ! มีบ้างบางคนที่ประหยัดพักแค่เกสต์เฮาส์เล็กๆ ราคาถูก ส่วนตัวฉันอย่างที่บอกคราวที่แล้วว่าได้อานิสงค์ห้องพักราคาโปรโมชั่นมาหนึ่งคืน ไม่งั้นคงไม่มีวาสนามานอนชิลติดริมชายหาดบนเกาะสมุยแบบนี้หรอก อิอิ

รถวิ่งอ้อมจากหน้าทอนขึ้นไปทางเหนือของเกาะ ผ่านหาดบางปอวิ่งเลียบไปจนถึงแถวหาดแม่น้ำ คนขับก็เลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ เป็นถนนทางลูกรังตัดผ่านสวนมะพร้าวจากถนนใหญ่ ฉันใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ ลุ้นว่าที่พักคืนนี้จะหน้าตาเป็นยังไง ถึงจะเคยเห็นรูปในเว็บของรีสอร์ทมาก่อนแล้ว แต่ก็กลัวจะเจอพลานุภาพของมุมกล้องและโฟโต้ช็อปที่สามารถแปลงโฉมโรงแรมธรรมดาๆ ให้หน้าตาประดุจบูติกโฮเต็ลห้าดาวอย่างที่นักเดินทางหลายคนเจอมาก่อนหน้านี้

แต่พอรถจอดหน้ารีสอร์ทเท่านั้นแหละ..แหม อยากจะกรี๊ดด้วยความตื่นเต้นดีใจ โอ้ว..ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะโชคดีได้มานอนรีสอร์ทบรรยากาศดีขนาดนี้ในราคาแค่หลักพันต้นๆ! ขนกระเป๋าลงจากรถแบบงงๆ ว่าใช่ที่นี่แน่เหรอ พี่โชเฟอร์พามาส่งผิดรีสอร์ทหรือเปล่าเนี่ย จนเฮียคนขับแกชักจะรำคาญ บอก ‘น่องซ้าว..ค่ารถ พี่จะรีบไป๊’ (กรุณาใส่สำเนียงใต้แบบทองแดงเวลาอ่านไปด้วย) นั่นแหละ..ฉันค่อยได้สติ จ่ายตังค์ค่าโดยสารไปแบบใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว

เข้าไปดูรีวิวห้องพักได้ที่นี่นะจ๊ะ.. คลิ๊กเลย..

เช็คอินเสร็จเรียบร้อย ได้เวลาตระเวนเที่ยวรอบเกาะกันแล้น!! เดินออกไปโบกสองแถวไปหาที่เช่ารถดีกว่า ด้วยประสบการณ์การเป็นสก๊อยซ้อนท้ายพี่วินบ่อย ฉันเลยเลือกมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะ ค่าเช่าก็ไม่แพงมากด้วย ตกวันละ 200-300 บาทเท่านั้น จุดหมายแรกแน่นอน..ต้องหาของอร่อยเติมใส่กระเพาะกันก่อน ประเดิมที่บางปอซีฟู้ด ร้านอาหารพื้นบ้านชื่อดังประจำเกาะ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ครัวตาโข’

ใครที่อยากลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสชาติแบบสมุยแท้ๆ มาที่นี่ไม่ผิดหวังแน่ เพราะมีเมนูอร่อยหากินได้ยากให้เลือกเพียบ ทั้งยำไข่เม่นรสเด็ด, ผัดเผ็ดเห็ดหลุบ ที่เอาดอกไม้ทะเลมาผัดเผ็ดเคี้ยวกรุบๆ ทานกับข้าวมันที่ใช้ข้าวไร่ปลูกบนเขานำมาหุงกับกะทิแทนน้ำบนเตาอั้งโล่

ที่พลาดไม่ได้เด็ดขาดคือ ‘วายคั่ว’ ที่นำปลาหมึกสายตากแห้งไปคั่วกับน้ำกะทิใส่ตะไคร้กับต้นหอม รสชาติกลมกล่อมต้องลอง คอนเฟิร์ม!

จัดหนักกันไปแล้ว ไปเดินเล่นย่อยอาหารแอบดูฝรั่งหนุ่มสาวนอนอาบแดดที่หาดเฉวงกันดีกว่า ระหว่างทางแวะซื้อกาแฟเย็นชื่นใจดับร้อนที่ Bakubung สักแก้ว แหม..บรรยากาศชิลซะจนแทบเปลี่ยนใจแอบงีบหลับสักแป๊บที่นี่

หักห้ามใจไม่ให้ขี้เกียจ มาเที่ยวสมุยทั้งทีจะมามัวนอนอืดอยู่ไม่ได้ ควบมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปกันต่อเล้ย..

และแล้วก็มาถึงหาดเฉวง..บรรยากาศคึกคักครื้นเครงจนนึกว่าอยู่พัทยา หันไปทางไหนก็เห็นแต่ฝรั่งผมทองเต็มไปหมด หาดเฉวงนับว่าเป็นชายหาดที่โด่งดังที่สุดของเกาะสมุย ว่ากันว่าหาดทรายที่นี่สวยที่สุด เหมาะแก่การเล่นน้ำ ถนนเส้นหน้าหาดเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและผับมากมาย แถมไฮไลท์ด้วยสีสันยามค่ำคืน ส่วนหาดเฉวงน้อยที่อยู่ติดกันใกล้ๆ จะเงียบสงบกว่า แถมราคาที่พักก็มีให้เลือกตั้งแต่เกสต์เฮาส์ถูกๆ ไปจนถึงรีสอร์ทห้าดาวเลยทีเดียว

โอ้เอ้อีกสักพัก หลังจากเมาบิกินนี่กับซิกแพ็คอยู่พักใหญ่ ฉันก็ขี่รถมุ่งหน้าไปหาอะไรล้างตาที่หาดละไม แหม…นี่ถ้าได้เพลงพี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง เปิดคลอไประหว่างขี่มอเตอร์ไซค์คงเข้ากับบรรยากาศน่าดู

ที่หาดละไม นอกจากจะคึกคักเป็นอันดับสองรองจากหาดเฉวง ยังเด่นดังขึ้นชื่อด้วยความสวยของโค้งอ่าว ที่มีทิวมะพร้าวปลูกอยู่เป็นแนว นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมาพักในย่านนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว แถมยังมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างหินตาหินยายที่เราจะมาดูให้เห็นกับตาวันนี้อีกด้วย

จอดรถแล้ว เดินเข้าไปอีกนิดก็จะเป็นผู้พิชิตหินตาหินยาย (ไม่ใช่! นั่นมันภูกระดึง) อ้าว..เหรอ อิอิ ^^ ระหว่างทางไปหินตาหินยายนี่เรียกได้ว่าเป็นถนนปราบเซียนสำหรับฉันทีเดียว ไม่ใช่เพราะมีโค้งหักศอก ถนนหนทางเป็นหลุมเป็นบ่อ หรือน้องหมาดุ แต่เป็นเพราะร้านขายของข้างทางต่างหากเล่า แหม..มันช่างเย้ายวนใจให้แวะเถลไถลซะจริงเชียว โดยเฉพาะใครที่เป็นโรคแพ้ของฟรีด้วยล่ะก็ กว่าจะหลุดออกมาได้แทบแย่ เพราะบรรดาพ่อค้าแม่ค้ากาละแมร์นับสิบเจ้าจะส่งเสียงร้องเรียกเชิญชวนให้แวะชิม (ฟรี) แบบไม่ซื้อไม่หาไม่ว่าอะไร คนงก เอ๊ย..ขี้สงสารอย่างฉัน เลยแวะหยุดชิมไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าเหล่านั้นเสียน้ำใจแทบทุกร้าน

นี่ถ้าหินตาหินยายพูดได้ คงจะนึกบ่นอยู่ในใจว่าตกลงมันจะมาดูอะไรกันแน่ฟระ?!

ในที่สุด ก็หลุดดงกาละแมร์ออกมาจนได้ แต่เอ๊ะ..ไหนล่ะหินตาหินยาย? มองเห็นแต่แผ่นหินใหญ่ที่ยื่นออกไปในทะเล ฉันเหลียวซ้ายแลขวามองหาแลนมาร์กเกาะสมุย ซึ่งมีโขดหินตั้งเยอะแยะ

“แล้วจะรู้ได้ไงว่าก้อนไหนหินตา ก้อนไหนหินยายว้า?”

ช่างบังเอิญที่คุณลุงที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงบ่นพึมพำของฉันเข้าพอดี เลยช่วยชี้ทางสว่างให้

“นั่นไงหนูหินตา” คุณลุงชี้บอกพร้อมทำหน้าขำๆ “ส่วนหินยายอยู่ตรงโน้น…”

ฉันเหลียวตามแล้วอายแทบแทรกแผ่นดินหนี ก็แหม…หินตาแท่งเบ้อเร่อตั้งโดดเด่นออกขนาดนั้น มีแต่คนสายตาสั้น (แถมยังเอ๋อ) อย่างฉันเท่านั้นล่ะมั้งที่ดูไม่ออก รีบบอกขอบคุณคุณลุงเบาๆ แล้วเดินหนีจากมาด้วยความอับอาย พร้อมนึกในใจว่าคราวหน้าคราวหลังจะทำการบ้านมาดีๆ จะได้ไม่ต้องขายหน้าแบบนี้อีก หุๆ > <

หลังจากถ่ายรูปคู่หินตาหินยายแบบตั้งใจว่าจะไม่ให้ผิดฝาผิดตัวอีกแล้ว ก็รีบไปหาของกินอร่อยๆ ล้างอายต่อทันที มื้อนี้ฉันเลือกร้านเสบียงเล ร้านอาหารซีฟู้ดบรรยากาศดีที่อยู่ไม่ไกลจากหินตาหินยาย ร้านนี้ใช้วัตถุดิบเป็นอาหารทะเลสดมาจากเรือชาวประมงทุกวัน

หิวจัดเลยสั่งปูม้านึ่งตัวใหญ่มาซะเกือบกิโล กับแกงส้มปลากระบอกยอดมะพร้าว ตามด้วยข้าวอีกเกือบสองจาน อิ่มจนพุงกางแล้วเรียกเช็คบิล ราคาไม่แพงอย่างที่คิด ถ้ามีงบหน่อยร้านนี้อร่อยไม่ควรพลาด

เผลอแป๊บเดียวใกล้จะหมดวันแล้ว ยังเที่ยวไม่ทั่วเกาะเลย ไหนจะวัด, น้ำตก ฯลฯ สงสัยต้องจัดทริปมาซ่อมอีกวันหลัง ส่วนเย็นนี้ฉันมีนัดกันกับถนนคนเดินบ่อผุดตอนค่ำ ไปเดินเล่นช็อปปิ้งริมถนนในย่านชาวประมงเก่าของเกาะสมุย หาของกินข้างทางง่ายๆ แบบสีสันไนท์ไลฟ์แบบไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์

อ้อ ถึงทริปนี้ฉันจะไม่ได้เจอกับคุณฉุย แต่ก็คุ้ม..เพราะสนุกจริงอะไรจริง นี่ถ้าไม่ได้โปรโมชั่นห้องพักราคาพิเศษแบบนี้ ฉันคงไม่มีโอกาสมาเที่ยวสมุยกับเค้าแน่ๆ

ตอนหน้าจะพาไปเที่ยว เปรี้ยว ช็อป แถมพักผ่อนในรีสอร์ทสุดชิลใกล้ๆ กรุงเทพฯ อย่าพลาดสกู๊ปเด็ดกันน้าชาวชิลไปหนายยย..

เรื่องโดย; สเลเต

จองที่พักแบบ Online ได้ทันที