เที่ยวฮิโรชิม่า เมืองที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปญี่ปุ่น

ฮานะจำได้ว่าเคยดูรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นรายการหนึ่ง

ที่พาไปชมตึก Atomic Bomb Dome และพิพิธสันติภาพที่เมืองฮิโรชิม่า

ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงความโหดร้ายของสงครามและอาวุธที่ชื่อว่าระเบิดนิวเคลียร์

จากนั้นกล้องของรายการแพนไปหยุดที่จักรยานเก่าๆ คันหนึ่ง

ซึ่งพิธีกรเล่าว่าเป็นจักรยานที่เด็กชายวัย 3 ขวบได้ขี่เล่นบริเวณใกล้บ้านของเขา

แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ระเบิดปรมณูที่เมืองฮิโรชิม่าวันที่...

ร่างของหนูน้อยถูกความร้อนของนิวเคลียร์เผาไหม้เหลือเพียงจักรยานกับหมวกเท่านั้น

หลังจากนั้นฮานะได้ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่าวันหนึ่งจะต้องเดินทางไปเมืองฮิโรชิม่าให้ได้

และวันนี้ความฝันก็กลายเป็นจริงแล้วค่ะ

เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาฮานะมีโอกาสเดินทางไปเมืองฮิโรชิม่า ซึ่งสถานที่แรกที่ฮานะต้องไปคือ Atomic Bomb Dome  หรือ อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิม่า ตั้งอยู่ภายในสวนสันติภาพฮิโรชิม่า ตึกนี้เดิมเป็นศูนย์การประชุมพาณิชยกรรมแห่งฮิโระชิมะ แต่ต่อมากลายเป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าของเมืองฮิโรชิม่า

ในวันที่  6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 เวลา 8 นาฬิกา 15 นาที ระหว่างที่พนักงาน 30 คนเพิ่งมาทำงานกันในตอนเช้า ระเบิดปรมนูลูกแรกก็ทำให้อาคาร 3 ชั้นพังทลายเกือบหมด เหลือเพียงโดมตรงกลางซึ่งได้รับความเสียหายน้อยที่สุด

พนักงาน 30 คน เสียชีวิตทันที...

เมื่อเวลาผ่านมาที่นี่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2539

ที่นี่จึงเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ความโหดร้ายของสงคราม ที่บอกเราว่ามันโหดร้ายเพียงใด...

จากตึก Atomic Bomb Dome เราเดินข้ามสะพานมาพบกับอนุสาวรีย์ของเด็กหญิงซาดาโกะ แม้เธอจะเป็นผู้ที่รอดชีวิตจากสงคราม แต่หลังจากนั้น 9 ปี จากเด็กหญิงที่แข็งแรงและเป็นนักกีฬาก็ได้ล้มป่วยลง แพทย์    วินัจฉัยว่าเธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เนื่องจากผลของระเบิดนิวเคลียร์

ซาดาโกะเชื่อว่าถ้าเธอพับนกกะเรียนครบหนึ่งพันตัวแล้วอธิษฐานเธอจะหายป่วย แต่เธอกลับไม่หาย ซาดาโกะจึงพับอีกสองพันตัว แต่ยังไม่ทันครบเธอก็เสียชีวิตลง เรื่องราวของเธอทำให้คนทั้งโลกสะเทือนใจ และนี่จึงเป็นที่มาของอนุสาวรีย์ที่สอนให้เราไม่หมดหวัง ให้เราเข้าใจความหมายของการมีชีวิตอยู่

จากนั้นราเดินไปยังพิพิธภัณฑ์สันติภาพ "Peace Memorial Museum" ภายในจัดแสดงเรื่องราวของสงครามและผลกระทบของสงคราม ที่ใครได้ชมก็ต้องเศร้าและสะเทือนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น 

ระหว่างกำลังเดินชมเรื่องราวอยู่นั้นฮานะก็มาหยุดที่จักรยานคันนี้
จักรยานที่นำพาฮานะมาสู่เมืองแห่งนี้
จักรยานของ  Shinichi Tetsuya เด็กชายวัย 3 ขวบ ที่เช้าวั้นนั้นเขากำลังขี่มันเล่นอยู่บริเวณบ้าน
แรงระเบิดและความร้อนได้เผาไหม้หนูน้อยเหลือเพียงจักรยานและหมวก

ครอบครัวของเขาได้ตัดสินใจฝังจักรยานลงไปในหลุมศพลูกชายเพื่อไม่ให้เขาเหงา...

สิ่งที่ระเปิดปรมณูทิ้งไว้ไม่ใช่เพียงร่างอันไร้วิญญาณของคนหรือสิ่งก่อสร้างที่ถูกทำลาย แต่มันนำพาลมหายใจของคนที่มีชีวิตอยู่ให้แตกสลายไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูก สามี ภรรยา ทีต่างเสียคนรักไปในสงคราม รวมถึงอีกหลายชีวิตที่ต้องเผชิญกับโรคร้ายจากผลของระเบิดนิวเคลียร์ ไม่ต่างกับการตายทั้งเป็น...

พิพิธภัฑ์สันติภาพ
เวลาเปิด 8.30 - 18:00 น.
ปิดบริการวันที่ 29 ธันวาคม-1 มกราคม
ค่าเข้า 50 เยน

จากสวนสินติภาพฮิโรชิม่า เปลี่ยนโหมดมาชมความสวยงามของปราสาทฮิโรชิม่ากันบ้างค่ะ ปราสาทแห่งนี้สร้างในปี 1589 หลายคนอาจจะสงสัยว่าเมืองฮิโรชิม่าโดนบอมป์ทั้งเมืองขนาดนี้ ทำไมปราสาทนี้ยังอยู่ได้ จริงๆ แล้วปราสาทฮิโรชิม่าก็ไม่ต่างจากสิ่งก่อสร้างอื่นค่ะ ก็โดนทำลายไปเช่นเดียวกัน แต่หลังจากนั้นมีการสร้างขึ้นมาใหม่ ภายในปราสาทจัดแสดงเรื่องราวของประวัติของปราสาทแห่งนี้และด้านบนยังสามารถชมวิวของเมืองฮิโรชิม่าได้อีกด้วย

ปราสาทฮิโรชิม่า
เวลาเปิด 9.00-18.00 น.
ปิดบริการวันที่ 29-31 ธันวาคม
ค่าเข้า 370 เยน

จากเมืองฮิโรชิม่า เราสามารถเดินทางไปเที่ยวเมืองใกล้ๆ อีกด้วย ที่เป็นไฮไลท์ที่จะต้องมาให้ได้นั้นก็คือเกาะมิยาจิม่า ซึ่งเป็นนที่ตั้งของเสาโทริสีแดงกลางน้ำ 

โดยการเดินทางไปเกาะนี้จะต้องนั่งเรือเฟอร์รี่ไป โดยใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ช่วงที่ฮานะไปนั้นเป็นช่วงวันหยุดปีใหม่พอดี เลยเจอกับคลื่นมหาชนทั้งคนญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมาย รวมถึงน้องกวางค่ะ ที่เดินไปเดินมาอยู่ทั่วทั้งเกาะ เปรียบเหมือนกับการเจอลิงทีเขาวังเลยล่ะค่ะ

และกวางพวกนี้ก็จะคอยมารออาหารจากนักท่องเที่ยว ใครมาที่นี่ก็มาทักทายน้องกวางกันได้เลย

จากท่าเรือเดินมาไม่นานเราก็พบแล้วค่ะ เสาโทริสีแดง ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลเลยล่ะค่ะ

เสาโทรินี้เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือเมื่อเวลาน้ำขึ้นจะทำให้เหมือนว่าศาลเจ้าแห่งนี้ลอยอยู่กลางน้ำ ตอนที่ฮานะไปเป็นช่วงเย็นน้ำลงไปแล้ว เลยสามารถเดินบนสันทรายด้านล่างได้

ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ 
เวลาเปิด 6.30-18.00 น.
ค่าเข้า 300 เยน (ถ้าค่าเข้าชม Treasure Hallด้วยเสียค่าเข้า 500 เยน)

ภาพจาก http://www.izumooyashiro.or.jp/

จากเมืองฮิโรชิม่ายังมีสถานที่มากมายที่ฮานะแนะนำว่าไม่ควรพลาดไปชมเช่น  ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะ (Izumo Taisha) อยู่ทางตะวันตกของเมืองมัตสึเอะ เป็นศาลเจ้าโบราณที่สุดของญี่ปุ่น ไม่มีการบันทึกอย่างแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่ถือว่าเป็นศาลเจ้าที่มีอยู่ในช่วงต้น 700 ปีก่อนคริสต์ศักราช เชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของเทพเจ้าแห่งความสุขและการสมรส และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมแห่งชาติ ในหมู่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปสักการะเพื่อขอเนื้อคู่ นักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมจึงนิยมขอพร โดยการปรบมือ 4 ครั้ง แทนการปรบมือธรรมดา2 ครั้ง ความหมายคือ 2 ครั้งสำหรับตนเอง และอีก 2 ครั้งสาหรับคนรักของตนหรือคนที่ตนกาลังแอบรัก

และอีกเมืองที่ไม่ควรพลาดคือเมืองทามัตสึคูริ (Tamatsukuri) แหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดชิมาเนะ(Shimane) ซึ่งมีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคนารา (ราวปี 720-794) ว่ากันว่าถ้าได้มาแช่น้ำที่น้าพุร้อนของที่นี่จะทาให้ผิวพรรณสวยงามขึ้นอีกด้วย

เป็นอย่างไรคะกับการเดินทางในครั้งนี้

ใครที่สนใจอยากเดินทางไปเที่ยวทริปฮิโรชิม่าแบบนี้

ก็สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่เลยค่ะ>>www.jtbthailand.com

Tags: เที่ยวญี่ปุ่น ฮิโรชิม่า ฮิโรชิมะ hiroshima ทัวร์ญี่ปุ่น

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้