อลังการแห่งสายน้ำ... ทีลอซู อุ้มผาง จ.ตาก

 Photo & Story: This road is mine

น้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย
น้ำตกที่เรียกได้ว่าใหญ่และสูงที่สุดของไทย
น้ำตกที่ได้รับการกล่าวขานว่าสวยงามที่สุด
และยังเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำแม่กลอง
วันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับ "น้ำตกทีลอซู" 
อลังการแห่งสายน้ำแห่ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก

การมาเที่ยวน้ำตกทีลอซูนั้น ส่วนใหญ่นิยมมาเป็นโปรแกรม 3 วัน 2 คืน อธิบายสั้นๆ คือ วันแรกล่องเรือยางจากอุ้มผางมาตามแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นจากเรือที่บ้านท่าทราย จากนั้นนั่งรถหรือเดินเท้าต่อเพื่อไปนอนเต็นท์ที่เขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผางทีลอซู และเช้ารุ่งขึ้น เดินเข้าไปชมน้ำตกทีลอซู แล้วเดินทางกลับรีสอร์ท ในคืนที่ 2 นอนรีสอร์ทสบายๆ เช้ามืดวันถัดไปขับรถไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเเละทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด เป็นอันจบโปรแกรม...

ซึ่งโปรแกรมนี้ ถ้าใครใช้บริการของบริษัททัวร์ท้องถิ่น ก็จะได้ทริปประมาณนี้แหละค่ะ และส่วนใหญ่ก็จะเริ่มโปรแกรมกันที่ อ.อุ้มผาง หรือบางทัวร์ก็จะมารับลูกทัวร์ที่ อ.แม่สอด ซึงก็จะสะดวกสบายขึ้นหน่อยถ้าคุณเดินทางมาโดยรถ บขส. จากกรุงเทพฯ หรือเมืองอื่นๆ

แม่สอด สู่..อุ้มผาง

แม่สอดอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 490 กม. หรือประมาณ 6+ชั่วโมง และจากแม่สอดสู่อุ้มผางอีกประมาณ 165 กม. หรือประมาณ 3+ชั่วโมง ต้องใช้เวลาขับรถแม่สอดสู่อุ้มผางนานกว่าเส้นทางปกติ ก็เพราะนี่คือเส้นทาง"ดอยกะเหรี่ยงลอยฟ้า 1,216 โค้ง" เรียกได้ว่าเส้นทางนี้เป็นน้องๆ โค้งแถวแม่ฮ่องสอนเลยล่ะค่ะ ใครเมารถก็เตรียมหาถุงพลาสติกไว้เลยนะคะ 

อ้อ!.. ขอแนะนำ(อย่างจริงจัง)ว่าเราควรไปถึงอุ้มผางก่อนเที่ยงนะคะ 

หมู่บ้านกะเหรี่ยงบนถนนสู่อุ้มผาง

เมื่อมาถึงอุ้มผาง เราก็จะมาเช็คอินเข้าที่พักกันก่อน เเวะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่รีสอร์ทเเป๊ปนึง จากนั้นก็เตรียมตัวไปลงเรือยาง ล่องไปตามแม่น้ำแควใหญ่ (บางแผนที่ระบุว่าเป็นแม่น้ำแม่กลอง อย่างไรก็ตาม แม่น้ำนี้ไหลไปกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม นั่นเองค่ะ ^^) เวลามาตรฐานที่จะต้องลงเรือยางก็ประมาณบ่ายโมงนิดๆ กำลังดี ไม่ช้าจนเกินไป

ล่องเรือยางจากอุ้มผาง สู่...ทีลอซู

ล่องเรือยางไหลไปตามกระแสน้ำของเเม่น้ำแควใหญ่ ตลอดสายน้ำเราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น "น้ำตกทีลอจ่อ" ที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงลงสู่ลำน้ำ ถัดจากนั้นมาไม่ไกลก็จะผ่าน "น้ำตกสายรุ้ง" หากเดินทางไปในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็จะเห็นรุ้งกินน้ำที่เกิดจากแสงแดดที่กระทบกับละอองน้ำของสายน้ำตก

 

  



น้ำตกสายรุ้ง

 

ถัดมาก็จะมี "บ่อน้ำร้อน" ซึ่งเป็นธารน้ำร้อนเล็กๆ ที่ผุดขึ้นมาริมลำน้ำ เรืองยางจะแวะพักให้เราได้ลงไปแช่เท้าพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังผ่านหน้าผาที่มีความแปลกตา ชื่อว่า "ผาผึ้ง" เป็นหน้าผาที่มีฝูงผึ้งมาทำรังเป็นจำนวนมาก และ "ผาเลือด" หน้าผาสูงมีสีแดงคล้ายสีเลือด
 

ผาผึ้ง
 

ระยะเวลาล่องแพยางประมาณ 3-4 ชั่วโมง แล้วแต่ความแรงของกระแสน้ำ เรือทุกลำจะส่งลูกทัวร์ที่ "บ้านท่าทราย" การเดินทางต่อจากจุดนี้ เป็นไปใน 2 ลักษณะคือ เดินเท้าหรือนั่งรถต่อไปยังจุดกางเต็นท์พักแรมที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งสภาพทางช่วงนี้เป็นถนนลูกรังอัดแน่น มีเนินขึ้นลงเป็นบางช่วง
 

ถ้าคุณมาในช่วงฤดูฝน ทางถนนจะปิด (จะเปิดให้เข้าอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน) นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปยังเขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผางทีลอซู ช่วงแรกจะเป็นเส้นทางเดินป่า 1 กม.แรก จากนั้นเดินตามทางถนนระยะทาง 9 กม. 
และขากลับหลังจากที่ชมน้ำตกทีลอซูแล้ว จะต้องเดินย้อนกลับเส้นทางเดิม เพื่อมาลงเรือยางที่บ้านท่าทรายเช่นเดิม ล่องเรือต่อไปอีกหน่อย จนถึงทางรถก็จะมีรถของทัวร์มารับกลับรีสอร์ท

ถ้าคุณมาในช่วงฤดูหนาว หลังจากเดือนพฤศจิกายนไปแล้ว ทางถนนก็จะเปิด สามารถนั่งรถเข้าไปได้ (ใครนั่งกระบะหลังเปิดท้าย อย่าลืมพกผ้าปิดจมูกไปด้วย เพราะทางมีฝุ่นเยอะมาก) และในขากลับก็นั่งรถออกมาเช่นกัน ไม่ต้องนั่งเรือต่อแล้ว เพราะรถจะพาคุณไปยังรีสอร์ทเลย ระหว่างทางก็จะพาไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงคือ ถ้ำตะโค๊ะบิ และสวนส้มสายน้ำผึ้ง

นอนเต็นท์ค้างแรม 1 คืน
ก่อนเดินเท้าเข้าสู่น้ำตกทีลอซู

ลานกางเต็นท์ที่เขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผางทีลอซู

 

เดินเท้า...เข้าไปชมทีลอซู

หลังจากแค้มป์ปิ้งนอนเต็นท์หลับสบายกันที่เขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผางทีลอซู เช้าวันที่ 2 เราก็จะเดินเท้าระยะทาง 1.5 กม. ไปชมความอลังการแห่งสายน้ำที่น้ำตกทีลอซู ทางเดินไม่ลำบากเพราะเป็นพื้นปูนเรียบร้อยดี
 

และเเล้วเราก็ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ.....

สายน้ำที่สูงชะลูดสีขาว เป็นละอองปุยทัดเทียมยอดต้นยางไกลลิบๆ นั่นคือระดับความสูงของน้ำตกทีลอซู... ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าคุณมาฝนช่วงหน้าฝนนะ จะพบว่าน้ำตกจะเยอะเต็มหน้าผา ตระการตาน่าประทับใจมากๆ

คำว่า "ทีลอซู" เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่า "น้ำตกดำ" มีลักษณะเป็นน้ำตกบนภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ที่ไหลตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์
 

ทางเขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผางทีลอซู ได้จัดทำพื้นที่นั่งชมและถ่ายภาพไว้สำหรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าใครอยากสัมผัสน้ำตกทีลอซูให้ใกล้กว่านี้ ก็สามารถเดินเท้าลุยเข้าไปในตัวน้ำตกได้อีกหน่อย แต่ถ้ามาหน้าฝนน้ำเยอะมาก ต้องระวัง เพราะกระแสน้ำแรงมากๆ ลมก็แรง และพื้นเป็นดินก็ลื่นๆ ด้วยค่ะ

ตอนที่ฉันเดินทางไปเที่ยวนั้น พี่ๆนักท่องเที่ยวบางคนก็เดินต่อ เดินข้ามสายน้ำ ปีนหน้าผา เพื่อจะไปถึง ยอดดอยเล็กๆ ที่อยู่ในน้ำตก ซึ่งจะมองวิวของน้ำตกได้จากมุมสูง ฉันก็ตั้งใจว่าจะขึ้นไปด้วย เเต่ตรงจุดนั้นดินเเฉะไปด้วยละอองน้ำจนเป็นโคลน ลื่นเท้ามากๆ ลมเเรงมาก เเถมรอบกายไม่มีอะไรให้ยึดเกาะเลย นอกจากคนข้างๆ T,.T
 

ยืนอยู่ตรงนั้นไม่กี่นาที กล้องที่สะพายมาด้วยก็เริ่มชุ่มน้ำ ถ้าไม่มีกล้องมาด้วยก็คงจะคล่องตัวกว่านี้ ปีนตามเค้าไปแล้ว เเต่ระดับเราแล้วนะ.....รักกล้องมากกว่าเลยตัดสินใจไม่ไปต่อ 555+ เดินกลับลงมาชมความยิ่งใหญ่ของน้ำตกที่มุมมหาชนตามเดิม ใครอยากถ่ายภาพได้สวยอลังการ งานนี้ต้องมีเลนส์วายด์มาด้วยแล้วล่ะ
 

กลับมาที่เต็นท์ เก็บข้าวของ ปั้มตราอุทยาน ซื้อโปสการ์ด ...เเล้วก็ได้เวลา อำลา...มหานที ทีลอซู

นั่งรถโขยกเขยกลงมาตามทางเดิม มาถึงท่าทรายที่เรามาขึ้นฝั่งเมื่อวานนี้ เเล้วก็นั่งรถต่อไปอีกถึงเส้นทางหลวง ถ้าตามโปรเเกรมทัวร์ทั่วไป พอออกจากน้ำตกก็จะมาเเวะพักที่สวนส้มสายน้ำผึ้ง ให้พอได้กินน้ำส้มคั้นเย็นชื่นใจ เเละวัดหนองหลวง ที่อุโบสถหลังงามทำด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ก่อนเดินทางกลับรีสอร์ท
 

อุโบสถไม้สักทอง ที่วัดหนองหลวง

 

ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยหัวหมด

วันสุดท้ายของทริปทีลอซู เช้าตรู่ของวัน เรามาจบทริปกันที่ "ดอยหัวหมด" อ.อุ้มผาง ภูเขาหัวโล้นๆ ที่ให้เราขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ทะเลหมอกที่มองเห็นไกลๆ และอากาศเย็นๆ ฉ่ำชื่นหัวใจ
 

ทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด

กลับจากดอยหัวหมด เราก็กลับรีสอร์ท เก็บกระเป๋าและอำลาอุ้มผาง ถ้าคุณพอมีเวลา ระหว่างทางก็ลองแวะน้ำตกพาเจริญ อ.พบพระ ให้ได้พอชื่นใจสักครู่ ก่อนจะเดินทางกลับ อ.แม่สอด และถ้ามีเวลาอีกหน่อย ก็แวะเที่ยว ตลาดริมเมย ชายแดนไทย-พม่า ให้ได้ของฝากก่อนเดินทางกลับบ้านจ้า

น้ำตกพาเจริญ อ.พบพระ

สามล้อเครื่องที่ตลาดริมเมย

แผนที่ทีลอซู

จุดสีน้ำเงินใหญ่นั่นคือตัวอำเภออุ้มผางค่ะ จากนั้นเราก็นั่งแพยางล่องแม่น้ำไปตามเส้นประสีส้ม ผ่านน้ำตกน้ำตกทีลอจ่อ, บ่อน้ำร้อน, แก่งตะโค๊ะบิ๊, ผาผึ้ง, ผาเลือด ไปจนถึงท่าทรายจุดสีน้ำตาล และเข้าสู่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ป่าอุ้มผางทีลอซูจุดสีน้ำเงินเล็ก จากนั้นเดินเท้าไปชมน้ำตกทีลอซูจุดสีส้มใหญ่

ขอบคุณภาพจาก tourdoi.com

สรุปอีกทีเที่ยวทีลอซูช่วงไหนดี

ไปช่วงต้นฝน มิ.ย. - ก.ค.

เส้นทางล่องเรือยางสวยมาก ต้นไม้เพิ่งออกใบใหม่สีเขียวสด ป่าสวย น้ำตกพองาม

ไปช่วงกลางฝน ส.ค. - ต.ค.

น้ำเยอะดี น้ำตกเต็มหน้าผา แต่ต้องเดินเข้าไป(ท่าทราย-เขตรักษาพันธุ์ป่า) คนก็ไม่ค่อยมี เพราะไม่อยากเดิน

ไปช่วงหมดฝน 
พ.ย. - ธ.ค.
สบายๆ ไม่ต้องเดิน(ท่าทราย-เขตรักษาพันธุ์ป่า) นั่งรถถึงจุดพักแรม คนเยอะ แต่น้ำเริ่มลดลง

ไปช่วงหนาว-หน้าร้อน ม.ค. - เม.ย.
น้ำใสดี คนก็น้อย แต่น้ำก็น้อย
 

ปล. สกู๊ปนี้เป็นเพียงตัวอย่างทริปเท่านั้นนะคะ ใครสนใจอยากไปพิสูจน์ความงามของทีลอซู ลองเสิรชหาข้อมูลบริษัททัวร์ที่จัดไปทีลอซูดูค่ะ มีเยอะแยะมากมาย

ชวนเพื่อนๆ ของคุณไปสัมผัสทีลอซูสักครั้งในชีวิต 
Share สกู๊ปนี้ หรือ mention ในคอมเมนต์ถึงเค้าสิคะ

Tags: ทีลอซู อุ้มผาง ตาก แม่สอด บุญล่ำทัวร์

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้