0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เที่ยวภูทอก จ.บึงกาฬ อีสานบ้านเฮา

calendar_month 15 ส.ค. 2012 / stylus Admin Chillpainai / visibility 52,924 / รีวิวที่เที่ยว

"บึงกาฬ" จังหวัดน้องใหม่ ถิ่นอีสานริมโขงตอนเหนือ ที่แยกตัวออกมาจากจังหวัดหนองคาย ถ้าพูดถึงจังหวัดบึงกาฬแล้ว เพื่อนๆหลายคนอาจจะนึกไม่ค่อยออกว่าจังหวัดนี้มีอะไรน่าท่องเที่ยวบ้าง

 

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดบึงกาฬมีอยู่มาก เช่น สะดือแม่น้ำโขง ที่วัดอาฮงศิลาวาส, แก่งอาฮง, วัดสว่างอารมณ์, ตลาดนัดไทย-ลาว, บึงโขงหลง, เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว, น้ำตกเจ็ดสี แต่วันนี้จะพาไปรู้จักกับสุดยอดไฮไลท์พลาดไม่ได้ ถ้าท่านมาเยือนเมืองใหม่บึงกาฬแห่งนี้

 

“ภูทอก" หรือ "วัดเจติยาคีรีวิหาร" เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยมี "พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ" เป็นผู้ก่อตั้ง คำว่าภูทอก แปลว่าภูเขาที่โดดเดี่ยว 

 

 

ภูทอกตั้งอยู่ในอำเภอศรีวิไล จ.บึงกาฬ การเดินทางไปยังวัดภูทอก ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 222 ไปทางอำเภอศรีวิไล มีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 50 กิโลเมตร ระหว่างทางที่ท่านขับรถมา จะเห็นความร่มรื่นของไร่ต้นยางที่ชาวบ้านปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดนี้เต็มถนนสองข้างทาง ดูแล้วเขียวชอุ่มสดชื่นดีจริงๆ ลดความรู้สึกร้อนไปได้มากเลยล่ะ

 

สิ่งที่ท่านจะได้พบหากเข้ามาในตัวบริเวณวัดแล้วนั้น นั่นคือภูเขาลูกโดดเดี่ยวสมชื่อที่ตั้งอยู่ในบริเวณวัด และมีทางเดินเป็นบันไดไม้วนเวียนไปรอบๆ ภูทอกจนถึงด้านบนสุดของภูเขา เรียกได้ว่า ดูวิวได้รอบภูทอก 360 องศาเลยทีเดียว

 

  

 

วัดภูทอกแห่งนี้ใช้เวลาการสร้างยาวนาน 5 ปีเต็ม ด้วยแรงงานคนสร้างล้วนๆ ในหนทางที่ก้าวขึ้นภูทอกนั้น สามารถแบ่งเป็นชั้นได้ 7 ชั้น

 

ทางเดินสะพานไม้เวียนรอบเขาจากชั้นล่างจนถึงชั้น 7 นั้น บางช่วงก็จะมีทางลัดเลาะคดเคี้ยวไปตามโขดหิน บางช่วงก็จะเป็นบันไดไม้สูงชันขึ้นไปยังชั้นด้านบน ซึ่งเมื่อมองวิวจากชั้นบนลงมายังพื้นด้านล่างก็ทำเอาหวิวๆ เหมือนกัน

 

   

 

บางช่วงก็จะยังมีความสมบูรณ์ของป่าดิบที่ขึ้นบนภูทอกนี้ และในระหว่างทางที่เดินจะมีที่พักของแม่ชีและกุฏิพระสงฆ์ที่ปลูกสร้างไปกับโขดหิน นอกจากนี้ยังมีป้ายข้อคิดที่เขียนไว้กับหน้าผา ฝากเป็นข้อเตือนใจในทุกย่างก้าวเดิน

 

  

 

ในชั้นที่ 5 หรือชั้นกลาง เป็นชั้นที่สำคัญที่สุด เนื่องจากมีศาลาขนาดใหญ่เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูป และเป็นที่เก็บสังขารของพระอาจารย์จวนด้วย พื้นที่ในศาลาสงบร่มรื่นกว้างใหญ่ เหมาะเเก่การนั่งปฏิบัติธรรม ถ้าเดินมาทางด้านเหนือจะเห็นสะพานหินธรรมชาติทอดสู่พุทธวิหาร อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ มีลักษณะแปลกและน่าอัศจรรย์ที่สุด คล้าย ๆ กับพระธาตุอินทร์แขวนที่พม่า คือ เป็นหินแยกตัวออกมาจากหินก้อนใหญ่แต่ไม่ตกลงมา

 

 

ชั้นที่ 6 ถือว่าสูงเเละเป็นจุดชมวิวที่สวยมาก จะมีบางช่วงที่ทางเดินอยู่ใต้โขดหินหน้าผาที่ยื่นออกมา ทำให้ต้องเดินเอียงตัวออกมานิดๆ ให้หวาดเสียวหน่อยๆ ในชั้นนี้จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระพุทธรูป และว่ากันว่าเป็นปากทางเข้าเมืองพญานาค ซึ่งอยู่หลังพระปางนาคปรก มีจุดให้สังเกตคือ มีรอยสีขาวขูดติดกับหินปูน ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นรอยถลอกที่เกิดจาก ท้องพญานาคสัมผัสกับหิน และมีบ่อน้ำเล็ก ๆ มีน้ำขังอยู่เกือบตลอดปี

 

 

ส่วนในชั้นบนสุดชั้นที่ 7 นั้น จะเป็นบันได เดินไปสู่ทางในป่ามีต้นไม้ขึ้นสูง ค่อนข้างทึบเเละต้องระวังทางเดินที่เป็นรากไม้และงู ซึ่งเป็นสัตว์ที่มีอยู่มากบนภูแห่งนี้

 


 

จะว่าไปแล้วทางเดินแต่ละขั้น จากชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 7 นั้น ก็จะต้องใช้ความพยายามและมุ่งมั่นในการที่จะขึ้นไป ก็เปรียบเหมือนหนทางสู่การบรรลุธรรม ให้คนก้าวพ้นจากโลกแห่งโลกียะสู่โลกแห่งโลกุตระหรือโลกแห่งการหลุดพ้นด้วยความเพียรพยายามและความมุ่งมั่น

 

 

ลองหาเวลาไปท่องเที่ยวดูค่ะ ภูทอก จ.บึงกาฬ ... วัดที่สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธา... บวกกับธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ


เรื่องและภาพโดย : This road is mine



เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai