calendar_month 13 ส.ค. 2013 / stylus Admin Chillpainai / visibility 30,398 / รีวิวที่เที่ยว
ความเดิมตอนที่แล้ว ตอนที่ 1 พิชิตลานสน ภูสอยดาว กดเข้ามาอ่านที่นี่เลย
และเเล้วก็มาถึงช่วงวันที่สองที่เราอยู่บนภูสอยดาว...
ตื่นเช้ามา ราวๆหกโมง สิ่งเเรกที่ทำคือหยิบกล้องคู่ใจไปส่องนกส่องไม้
สายหมอกท่วมท้นมากๆ เดินไปตรงริมรั้วที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตก
เห็นสายหมอกสีขาวซัดหน้าผา พัดเอาความชื้นเเละลมหนาวขึ้นมา
บรรยากาศแบบเนี้ย... โรเเมนติกมั่กๆ
ดอกหงอนนาคเจ้ายังหลับไหลอยู่
มื้อเช้าของเต๊นท์ข้างๆ
มื้อเช้าของเรา
เดินไปท่ามกลางลานสน ดอกหงอนนาคเจ้ายังหลับไหลอยู่ในกลีบ
รอเวลาบานเมื่อยามสาย ระหว่างนี้เราก็จัดการมื้อเช้าไปพลางๆ
เเล้วเตรียมตัวหาที่เดินเที่ยวบนภูวันนี้ ราวๆสิบโมงกว่า เราเดินไปบริเวณทุ่งดอกไม้
เจ้าดอกไม้สีม่วงต่างพากันเเย้มกลีบบานอวดโฉมกันเเล้ว
นี่เรานอนกันท่ามกลางทุ่งดอกหงอนนาคเลยนะเนี่ย
ดอกหงอนนาค นางเอกเเห่งภูสอยดาว
ดอกเอนอ้า และ ดอกกุงหรือหญ้าขนไก่
ดอกหงอนนาคสีขาว ค่อนข้างหายาก และดอกวนารมย์
แลนด์มาร์คยอดฮิตของที่นี่ คือ หลักกิโลเมตรที่สามสิบห้า
พรมเเดนประเทศไทยลาว ช้ามฝากไปก็ลาววววเเล้ววว...
ว่ากันว่าที่ตรงนี้เป็นที่เดียวบนภูที่มีสัญญาณมือถือ
ข้ามลาวไปยลโฉมเเละถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้
โชคดีมากที่ฝนไม่ตกเลย เเต่มันก็ขาดบรรยากาศของภูสอยดาวที่เเท้จริงไป
........ทีนี้ก็จะมาสาธิต วิธีการถ่ายรูปกะดอกหงอนนาคนะ...........
ทุ่งดอกหงอนนาคสุดลูกหูลูกตา
มันควรมีสาวสวยๆไปยืนตรงต้นไม้นั่นนะ
นี่นางเเบบมาเเว้ววว อย่าลืมใส่เสื้อสีสันสวยๆนะ
ใครมีแขนก็ชูกานปายยย มีดอกไม้สีม่วงๆเป็นโฟร์กราวด์ก็ดีนะ
หรือจะถ่ายหมู่แบบนี้ก็ได้ หมู่แบบมุมใครมุมมัน 555
เดินลัดเลาะริมเขาไปตามทางเดินเรื่อยๆ ผ่านจุดชมวิวต่างๆ
เเละเราก็พักต้มมาม่ากินกันข้างทาง บ่ายเเก่ๆ เดินต่อไปยังน้ำตกสายทิพย์
ทางลงลำบากเเละลื่น(เเต่รองเท้าดีจริง ไม่ลื่นเลยวุ้ย)
เห็นในรูปที่ดูกันก่อนมา นึกว่าน้ำตกใหญ่ ความจริงก็เล็กพอดู
ที่อุตสาห์เเบกขาตั้งกล้องขึ้นมานั้น ทำเอาผิดหวังเล็กน้อย ฮ่าๆ
แต่ไหนๆก็มาเเล้ว ก็จำต้องเเช๊ะ.. แช๊ะ.. เก็บภาพความทรงจำไว้
ก่อนจะตะกายขึ้นมาเเละเดินกลับลานกางเต๊นท์
ท้องฟ้าใจดีกับเรามากเลย
ฝนตกตอนเย็น หลังจากที่พวกเรากลับมาจากเดินเที่ยวกันแล้ว
และโชคดีที่ฉันอาบน้ำ (ด้วยน้ำอันน้อยนิด) เเละอยู่ที่เต๊นท์เรียบร้อย
เนื่องจากเป็นคืนสุดท้าย มื้อค่ำมื้อนี้เลยทุบหม้อข้าว ทำกันหน้าเต๊นท์เลย
แถมด้วยมีเมนูพิเศษเเปลกๆ เช่นว่า ผัดสาหร่าย (เป็นเม็ดเล็กสีเขียว เรียกกันว่าไข่น้ำ)
ไม่เคยกิน รสชาติเเปลกดี เเละไข่ตุ๋นใส่ทุกอย่างเเม้กระทั่งเม็ดพริก
ยกเครดิตพ่อครัวคนเก่งคร้าบบบ
ไข่น้ำ หรือ ผัดสาหร่าย
คืนนี้ฝนตกยาวเลย ตลอดทั้งคืน ฉันก็หลับใกล้ตายเพราะเริ่มเมื่อยขา
ตอนกลางคืนราวๆตีสี่เกิดวิกฤตการณ์ฟลายชีทล่ม เพราะหนักน้ำฝนที่ตกลงมา
ทำเอาวุ่นวายกันใหญ่ สุดท้ายฝนก็หยุดตกตอนใกล้ฟ้าสาง....
ไม่อยากจะคิดเล้ยยย ว่าทางลงภูพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร....
อย่างที่บอกไปเเล้ว เมื่อคืนฝนตกหนักต่อเนื่องเเละยาวนาน
เช้ามา จึงมีหมอกฟุ้งๆ กระจายไปทั่วลานสน มากกว่าเมื่อวานเสียอีก
เอามาโครมาใส่ เเละกระหน่ำถ่ายบรรยากาศน้ำค้างจิ๋วๆไป
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียดายที่ได้เเบกลูกตัวนี้ขึ้นมาด้วย
บรรยากาศเย็นๆ ชุ่มชื้นๆ ในป่าหลังฝนตก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เเล้วทำให้รู้สึกดีจริงๆนะ
ภาพนี้ชื่อว่า "แตะนิดต้องน้อยราวมณีร่วงพรูพลัดพรายลงดิน"
หงอนนาคชัดๆ อีกสักที แทนคำอำลา
รีบดำเนินการกินข้าว ล้างจานเเละเก็บของ
เพราะอยากจะเดินดูทุ่งดอกไม้อีกสักรอบก่อนที่จะเดินกลับลงภู
ถ่ายรูปกันอย่างไวทิ้งท้าย เเถมเจ้าสายฝนยังตกลงมาอีกตอนเดินกลับ
ทำเอาหมอกเยอะมาก บรรยากาศสวยมาก เนี่ยเเหละ ภูสอยดาว มันต้องเป็นเเบบนี้....
เราถือว่าคุ้ม มีทั้งฝน มีทั้งเเดดออก
ก้าวลงภูเมื่อตอนเที่ยงครึ่งโดยประมาณ เรารั้งท้ายมาก กลุ่มอื่นๆเค้าลงกันเเล้ว
เเต่ไม่เป็นไรค่อยๆลงไป เเต่ชั้นก็อยู่กลุ่มท้ายเเถวอยู่ดี
ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปด้วย เพราะความชันของทาง... ทางเละตามคาด
จะมีลายช่วงที่ลื่นเหมือนโคลน ได้รองเท้าช็อคดิปไปตามๆกัน
ช่วงลงเนินมรณะ มีหมอกลอยมาปิด ครึ้มสวยมาก
เนินส่งญาติ มีลื่นล่ะงานนี้ ^^!
ถึงน้ำตกภูสอยดาวข้างล่าง ตอนราวๆสามโมงครึ่ง สิริรวมเวลาขาลงไปราวๆ 3 ชม.
พอถึงน้ำตก รีบไปหาชุดมาเปลี่ยนลงเล่นน้ำกันเลย เพราะร้อนเเละเหนื่อยมาตลอดทาง
แนะนำค่ะ ให้มาเล่นน้ำที่นี่ก่อนกลับ จัดการอาบน้ำสระผม เสร็จสรรพ...ให้สบายตัว ลั๊ลลา...
ทีเเรก คิดว่าถ้ามีเวลาจะไปเล่นที่น้ำตกชาติตระการเเทน
เเต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป เลยเล่นน้ำตกที่นี่เเทน กว่าจะถ่ายรูป กว่าจะกินข้าว
เขียนโปสการ์ดกัน ก็นานอยู่ ได้ฤกษ์ออกมาจากอุทยานก็ห้าโมงกว่าเเล้ว
เรียกได้ว่า เราเป็นกลุ่มสุดท้ายจริงๆ ที่เดินทางออกจากที่นี่ในวันนี้ ....
ช่วงเวลาที่เเสนสนุก มีความสุข เเละสดชื่นก็จบลง
เเต่จะเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้ในใจตลอดไป...
หลายคน เคยพูดกับฉันว่า มันเหนื่อยมากเเละลำบากมากนะ กว่าจะไปถึง
เเต่ฉันว่ามันคุ้มมาก มันสวยจริงๆนะ สวยจนลืมเหนื่อย....
ฉันก็คิดถึงคำพูดพวกนี้มาตลอดทางที่ขึ้นมา
เเละพยายามพิสูจน์คำพูดพวกนั้น กับสิ่งที่ได้พบเจอมาตลอดสามวันสองคืน....
เเม้ว่า ภูสอยดาวสมัยนี้ จะไม่ลำบากเท่าหลายปีก่อน
เเต่มันก็สวยงาม เเละคุ้มยิ่งกว่า เมื่อได้มาพบเจอด้วยตัวเองจริงๆ...
เเล้วเจอกันอีกนะ...ภูสอยดาว...
เรื่องและภาพโดย : This road is mine
Tags: อุตรดิตถ์
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 03 ก.ค. 2024 | 1,968 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 28 เม.ย. 2024 | 2,748 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 08 มี.ค. 2024 | 2,769 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 06 ก.พ. 2024 | 3,727 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 29 ม.ค. 2024 | 4,539 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว | 24 ม.ค. 2024 | 3,471 อ่าน
รีวิวที่เที่ยว ที่เที่ยว | 22 ม.ค. 2024 | 6,359 อ่าน