นวดตัวนวดหน้า ปลูกป่าชายเลน ตกเย็นนอนเล่นทะเลปราณฯ

หลังจากได้สนทนาเรื่องจะไปเที่ยวทะเล พร้อมกับหากิจกรรมทำที่แตกต่างไปจากทั่วๆไป กับน้องที่ทำงานอยู่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็ได้คำตอบที่ว่า ลองไปทะเลปราณดิพี่

แว๊บแรกที่ได้ยิน คำถามที่ผ่านเข้ามาในหัวคือ ทะเลปราณเนี่ยนะ มีะไรฟะ !!

แต่ยังไม่ทันจะตอบตัวเอง เหมือนกับน้องมันรู้ทันรีบตอบกลับมาทันทีว่า เดี๋ยวหนูจัด Route ให้รับรองไม่เหมือนใครแน่นอน อิอิ

ฉะนั้น แอนด์ ฉะนี้ ทริปนี้ก็เลยอุบัติขึ้นทันที โดยใช้เวลาแค่ 2 วันกับอีก 1 คืน

แต่ในหัวก็ยังติดใจเสียง อิอิ ที่ได้ยินจริงๆ มันให้เราไปทรมานป่าวหว่า !!

เช้าวันเสาร์หลังมารวมพลกันได้ครบก็เตรียมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ปราณกันเลยยย

โดยเส้นทางที่ใช้ก็คือไปทางพระราม 2 สายธนบุรี-ปากท่อ เลยอัมพวามาสักพัก ให้สังเกต ก.ม.72 ไว้นะครับ

หรือให้สังเกตป้าย อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิริธร เพราะเราจะขับเลียบริมทะเลจากตรงนี้จนไปถึงหัวหินกัน

แหม..แค่ทางเข้าก็เริ่มตื่นเต้นและ เพราะบอกตามตรงทางนี้ผมไม่เคยขับเข้ามาก่อนเลย ไปหัวหินทีไรไปเส้นหลักทู๊กกกที

ระหว่างทางนั้นก็จะเห็นนาเกลือทั้ง 2 ข้างทาง กระซิบนิดนึงว่าถ้าวิญญาณช่างภาพเข้าสิงละก็

ลงไปแล้วไปขอพวกพี่ๆ น้าๆถ่ายรูปได้นะครับ แต่ผมไม่รับรองนะว่าจะได้ อิอิ

อ่ะ..ล้อเล่น คนไทยใจดีอยู่แล้ว เดินเข้าไปพร้อมรอยยิ้มมีเหรอที่จะปฎิเสธ จิงมะ

แนะอีกเรื่องก็คือการขับรถ ก็ระวังกันหน่อยนะครับเพราะเป็นทางแบบขับสวนกัน โค้งก็เยอะซะด้วย

หรือถ้าเพื่อนๆหิวกันละก็ ข้างทางก็มีปูนิ่มขายพอให้รองท้องกันได้นะ

ขับไปกินลมชมวิวข้างทางไป แป๊บเดียวก็ถึงที่หมายจุดแรกของ Trip นี้

"นวดสปา" เสียงที่แสดงถึงความพร้อมเพรียงของหมู่คณะขับขานออกมาพร้อมกัน

"เออ นวดสปา" พวกคุณๆฟังกันไม่ผิดหรอกครับ "นวดสปา"

แต่ที่นี่เค้านวดไม่เหมือนที่อื่นนะเออ เพราะเค้าเป็นสปาเกลือ ที่รับรองว่าแท้และแน่นอน ชื่อของที่นี่ก็คือ "กังหันทอง สปาเกลือ"

ลองไปดูกันดีกว่า ว่าที่นี่จะแหล่มจริงอย่างที่แนะนำมาหรือเปล่า ไหนๆก็หลวมตัวมาตาม Route ที่จัดไว้แล้ว
 

ผ่านไป 1 ชั่วโมง หลังจากนวดเสร็จ (ซึ่งผมเลือกการนวดหน้า) ผมเดินออกมาพร้อมกับตะโกนไปทางนาเกลืออันสุดลูกหูลูกตาว่า

นางฟ้าา นางฟ้าาา ของสายชลอยู่ไหนนนน !!!!!

ไม่ทันได้อินกับบทนานนัก ก็มีเสียงของนางฟ้ากระซิบตอบกลับมาว่า เมิงงงงอย่าเยอะไปนัก พร้อมเสียงหักนิ้ว !!!

สุดท้ายสายชลก็ทิ้งร่างของผมไป เพื่อไปตามหานางฟ้าที่อื่น เพราะอยู่ที่นี่คงน่วมแน่นอน

ถ้าใครอยากรู้ว่ากว่าจะได้ออกมาเป็น เกลือสปา เนี่ยมีวิธีการอย่างไรที่นี่ก็มีสาธิตให้ชมกันด้วยนะ

- ผลิตภัณฑ์สปาเกลือมีให้เลือกเพียบ -

เอาล่ะอย่ารอช้าดีกว่า เพราะเดี๋ยวนางฟ้าจะกระซิบข้างหูอีก รีบบึ่งกันไปหาอาหารกินกันดีกว่า

เรื่องร้านอาหารนี่ก็ขอบอกว่าตามสะดวกเลยนะครับ รสชาติถูกปากของแต่ละท่านอาจไม่เหมือนกัน

แต่ผมฝากท้องไว้กับร้านชมวิว ที่ชะอำ เพราะติดใจส้มตำปูม้ามั่กๆ คิดแล้วแซ่บหลายยย

ฟาดฟันกับเพื่อนร่วมทริปเพื่ออาหารบนโต๊ะกันเสร็จ ก็เตรียมตัวไปต่อกันดีกว่า

หยิบโพยออกมาดู อั๊ยย่ะ !! นี่เราจะไปช่วยโลกกันหรือนี่

แล้วกิจกรรมที่ถูกวางมาให้เราดูเป็นคนดี ศรีสังคม ก็คือ กิจกรรมปลูกป่าที่ "อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิริธร"

หลายคนคงจะงงว่าอยู่ที่ไหน ตอบตามตรง ผมมาหัวหินหลายครั้งก็ยังไม่เคยเห็นเลยนะที่นี่อ่ะ

แต่ลายแทงที่น้องเค้าให้มา มันอยู่ในค่ายพระราม 6 ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับ "พระราชวังมฤคทายวัน"

ตกใจเล็กน้อยขณะขับเข้าไปในค่าย พร้อมกับเปิดกระจกถามพี่ทหารว่า อุทยานนี้ไปทางไหน แล้วก็ได้รับคำตอบ

ว่าให้ขับไปเรื่อยแล้วก็จะเห็นป้ายนะครับ ทางเข้าเล็กๆหน่อย แล้วก็เจอจริงๆ

ต้องบอกก่อนนะครับว่าการจะมาปลูกป่าชายเลนที่นี่ไม่ใช่นึกอยากแล้วก็จะมาได้ ต้องติดต่อทางเจ้าหน้าที่มาก่อนนะครับ

ว่าอยากจะมาทำกิจกรรมรักษ์โลกครั้งนี้ ยิ่งมาเป็นครอบครับหรือหมู่คณะนี่ รับรองสนุกสนานกันไป

ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมก็ลองคลิกเข้าไปดูเลยครับ www.sirindhornpark.or.th

หลังจากทำตัวเป็นคนรักษ์โลกแล้วก็เตรียมตัวเข้าที่พัก เพราะคืนนี้เราจะไปนอนตากลมเย็นๆที่ทะเลปราณฯ

ยัง... ยังไม่หมด สำหรับทริปนี้...

เพราะหลังจากนอนหลับกันเต็มอิ่ม ตื่นมาทำนู่น นี่ นั่น กันแบบชิล ชิล แล้วก็เตรียมตัวไปรักษ์โลกกันต่อ

และก็เป็นอีกครั้งที่ไม่รู้เลยว่าทะเลปราณก็มีศูนย์เรียนรู้ป่าชายเลน แล้วที่ที่เราจะไปทำตัวเป็นคนดีอีกครั้งก็คือที่

"ศูนย์ศึกษาเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนสิรินาถราชินี"

- ศูนย์ศึกษาระบบนิเวศทำดีมากๆ -

เส้นทางไปก็ไม่ยากเพราะอยู่แถวๆปากน้ำปราณฯจากนั้นก็ลองสังเกตป้ายดูนะครับ เพราะจะมีบอกเป็นระยะ

ศูนย์แห่งนี้ใหญ่กว่าที่แรกเยอะครับ แน่นอนว่ากิจกรรมก็ต้องเยอะกว่าด้วยไม่ว่าจะเป็นการดูนกป่าชายเลน ,การโยนลูก EM ball หรือจะล่องเรือสองคลองเชื่อมสองป่าพร้อมเรียนรู้วิถีชีวิตของคนปากน้ำปราณฯที่อยู่กับป่าชายเลน แต่ที่เป็นไฮไลต์ของที่นี่...

ก็คือ ต้นโกงกางประวัติศาสตร์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระเทพฯ ทรงปลูกที่นี่

- ต้นโกงกางใหญ่ๆนี่แหละ -

- กิจกรรมโยน EM ball -

 

ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นคนดีขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวกับทริปนี้ นี่ถ้าไม่ได้น้องสุดสวยจัดทริปให้ละก็

ทริปท่องเที่ยวของเราก็คงจะไม่มีสีสัน แล้วก็แปลกตาอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ท้ายสุดต้องขอขอบคุณ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยภูมิภาคภาคกลาง

และการท่องเที่ยว จังหวัดเพชรบุรี ด้วยครับที่สนับสนุนข้อมูลดีๆ สำหรับทริปนี้

เรื่องโดย : onaree

 

Tags: ปราณบุรี

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้