รีวิวทัวร์ญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน ชิราคาวาโกะ ทาคายาม่า สกีรีสอร์ท เริ่มต้น 31,999 บาท

อยากไปเที่ยวต่างประเทศนึกที่ไหนไม่ออกบอกญี่ปุ่นไทย ประเทศท่องเที่ยวยอดฮิตที่จะไปมากี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ กับทริปนี้ที่เราจะพาทุกคนไปสัมผัสหิมะพร้อมเช็คอินที่ชิราคาวาโกะแลนด์มาร์คสุดฮิตที่ต้องไม่พลาด ทริปนี้เราจะไปเที่ยวกันแบบจัดเต็ม 5 วัน 3 คืน เที่ยวญี่ปุ่นกันอย่างชิล ๆ 

DAY 1

วันแรกของการเดินทางเราจะมาเจอกันที่สนามบินดอนเมืองตอนเวลา 21.30 น. อาคารผู้โดยสารขาออก อาคาร 1 ชั้น 3 ประตู 1 เพื่อนัดรวมตัวและรับเอกสารใบตม.ต่าง ๆ กับติดแท็กกระเป๋าของทัวร์ให้เรียบร้อย พอถึงเวลาก็ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์กันค่ะ ทริปนี้เราจะบินไปกับสายการบิน AirAsia X บินตอนเวลา 00.45 น. ซึ่งถ้าบินไปในช่วงเวลานี้ก็จะไปถึงตอนเช้าเที่ยวได้ทั้งวันเลยค่ะ

ตัวที่นั่งบรเครื่องบินจะเป็นแบบ 2 - 4 - 2 ที่นั่ง นั่งยืดขาได้อย่างสบาย ๆ เลยค่ะ

DAY 2

เราบินมาถึงสนามบินนาโกย่าตอนเวลา 8 โมงเช้า เตรียมเสื้อผ้ากันหนาวให้พร้อมแล้วออกเดินทางกันค่า ส่วนรถในการเดินทางของเราในทริปนี้จะเป็นรถทัวร์นั่นเองค่า

พร้อมกับไกด์นำเที่ยว ที่จะคอยดูแลเราตลอดทั้งทริปนี้เลยค่ะ ระหว่างที่เรากำลังเดินทางไปยังสถานที่แรกไกด์ก็จะคอยอธิบายแนะนำสถานที่ให้เราฟังไปด้วยเรื่อย ๆ ค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เรามาปักหมุดเลยก็คือ ศาลเจ้าอสึตะจิงกู เป็นศาลเจ้าลัทธิชินโตที่ผู้คนในความเคารพบูชามากที่สุด อันดับสองรองจากจากศาลเจ้าใหญ่อิเสะ และมีอายุถึง 1,900 ปี เมื่อเราเข้ามาถึงภายในตัววัดก็จะมีที่สำหรับล้างมือ ซึ่งจะเริ่มล้างจากมือซ้าย ไปมือขวา และล้างรอบ ๆ ปาก จากนั้นเทน้ำทิ้งเป็นอันเสร็จค่ะ

ข้างกันก็จะเจอกับถังสาเกที่เป็นถังที่คนมาบริจาคให้กับศาลเจ้านั้นเองค่ะ ครงนี้ก็เป็นมุมถ่ายรูปสวย ๆ ได้อีกด้วยนะคะ และข้างกันยังมีต้นการบูรยักษ์ศักดิ์สิทธิ์ต้นนี้มีอายุมากกว่า 1,000 ปีอีกด้วยนะคะ 

แถมภายในศาลเจ้ายังเต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้สีเขียวอากาศในช่วงที่เราไปช่วงต้นเดือนมีนาคมอยู่ที่ประมาณ 15 องศา ไม่หนาวมากกำลังเย็นสบายเลยค่ะ

แล้วภายในศาลเจ้าแห่งนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของดาบคุซานางิ หนึ่งในเครื่องราชกุธภัณฑ์สามชิ้นของญี่ปุ่นอีกด้วยนะคะ แต่ยังไม่เคยมีการนำดาบออกแสดงให้เห็น นอกจากนี้ทางศาลเจ้ายังมีชุดสะสมดาบซามู ที่นำมาจัดแสดงในหอคลังสมบัติ พร้อมกับวัตถุโบราณกว่า 6,000 รายการ เรียกได้ว่าเป้นศาลเจ้าเก่าแก่ที่ต้องไม่พลาดที่จะแวะมาเช็คอินไหว้สักการะเลยค่า

และก่อนที่เราจะไปสถานที่ที่สองก็บังเอิญไปเจอกับดอกไม้ที่กำลังบานภายในวัดอีกด้วยนะคะ เราถามพี่ไกด์มาเป็นตัวต้นสีชมพูจะเป็นดอกบ่วงย ส่วนต้นสีขาวเป็นซากุระนั้นเองค่ะ เรียกได้ว่าโชคดีมาก ๆ ที่ได้ไปเจอ

จากนั้นเราจะพาทุกคนไปกันที่ ปราสาทนาโกย่า อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดฮิต ซึ่งตรงนี้จะมีในส่วนของค่าเข้าที่ไม่ได้รวมกับทางทัวร์อยู่ที่ 500 เยน สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจเข้าไปชมภายในปราสาทนะคะ สามารถจ่ายเป็นเงินสด บัตรทราเวลการ์ด และสแกนจ่ายด้วยทรูมันนี่ก็ได้เหมือนกันค่ะ

เมื่อเข้ามาแล้วเราก็จะเจอกับตัวปราสาทที่ใช้เวลาเดินจากทางเข้าไม่ไกลเท่าไรนะคะ เดินได้ชิล ๆ เลย 

ถ่ายรูปกับตัวปราสาทไปเรียบร้อยแล้วก็จะเข้าไปชมภายในพระราชวังฮอมมารู (Hommaru Palace) ที่เป็นอาคารที่สร้างจากไม้สนหอมฮิโนกิ  ซึ่งภายในพระราชแห่งเคยถูกโจมตีทางอากาศไปในช่วงปี 1945 และจากนั้นได้มีการบูรณะใหม่ให้เหมือนของเดิมมากที่สุดในช่วงปี 2018 พร้อมจัดแสดงภาพวาด ที่เป็นสัตว์มงคลตามความเชื่อของคนญี่ปุ่น ถือได้ว่าภายในมีความสวยงามมากกก และที่เพื่อน ๆ เห็นที่เป็นสีทองซะส่วนใหญ่ ก็จะเป็นทองคำที่เป็นส่วนประกอบในการสร้างนั่นเองค่ะ

เติมพลังงานลงท้องไปอย่างจัดเต็มแล้วเราจะพาเพื่อน ๆ ไปช้อปปิ้ง ที่ ย่านซาคาเอะ กันค่า บอกเลยว่าสายช้อปต้องเลิฟ เพราะเดินช้อปปิ้งทั้งย่านเดินได้เพลิน ๆ อย่างในบริเวณนี้ก็จะมีห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง พร้อมร้านอาหาร และแบนด์ดังอย่างพวกลักชัวร์รี่แบรนด์ Nike, adidas, UGG, Hoka, GU, UNIQLO, ดองกี้ และอื่น ๆ อีกเยอะมากกก  

และที่เป้นไฮไลท์ของย่านนี้เลยก็คือ Nagoya TV Tower เป็นแลนด์มาร์คอันเก่าแก่ของเมืองนาโกย่า เพราะเป็นหอส่วสัญญาณโทรทัศน์แห่งแรกในญี่ปุ่น สูง 180 เมตร และยังมีจุดชมวิวด้านบนที่สามารถเห็นวิวเมืองได้อย่างสวย ๆ เลยค่ะ

แถมที่นี่ยังใกล้กับสถานนี่รถไฟฟ้า Nagoya  สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ

DAY 2

เริ่มต้นวันที่สองกับการเดินทางไป หมู่บ้านมรดกโลกชิราคาวาโกะ ที่ตั้งอบู่บนภูเขาในจังหวัดกิฟุและโทยาม่า เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ต้องไม่พลาดเลยค่ะ ซึ่งภายในหมู่บ้านจะเต็มไปด้วยบ้านเรือนเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 200 - 300 ปี ตามที่ราบแคบ ๆ ขนานไปกับแม่น้ำโชกาวะ  เมื่อเราเดินทางมาถึงก็จะเจอหิมะสีขาวเป็นอะไรที่ฟูลฟิลมากกสำหรับเรา

ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปภายในหมู่บ้านก็เดินข้ามสะพานเข้าไปก็จะผ่านวิวแม่น้ำสวย ๆ ให้เราได้ชมวิวถ่ายรูปได้อย่างสวย ๆ เลย

ในวันที่เราไปอากาศจะหนาวมากอยู่ที่ประมาณ 1 องศา แต่ความรู้สึกเหมือน - 4 พร้อมกับหิมะปนฝนค่ะ เพื่อน ๆ ที่ไปในช่วงเวลาเดียวกันเราอย่างต้นเดือนมีนาคมก็อย่าลืมพกร่มติดไปด้วยนะคะ บรรยากาศภายในหมู่ก็เรียกได้ว่าสวยมาก ๆ เลยล่ะค่ะ

เดินเล่นเพลิน ๆ ก็จะเจอกับมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากก ซึ่งตัวบ้านของที่นี่เป็นแบบกัสโชสึคุริ ที่เป็นบ้านชาวนาโบราณอายุมากกว่า 250 ปี บ้านแบบกัสโชสึคุริ มีลักษณะพิเศษ คือเป็นบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งคำว่ากัสโซ แปลว่าพนมมือ ตามรูปทรงของหลังคาที่มีความชันถึง 60 องศา ลักษณะคล้ายกัยสองมือพนมเข้าหากัน ซึ่งหลังคาลักษณะนี้สร้างเพื่อนป้องกันและรองรับหิมะทับถมในช่วงฤดูหนาวนั่นเองค่า

และอีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่เลยก็คือ บ้านสามหลังชิราคาวาโกะ ( Shirakawago three houses) ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ ที่เป็นบ้านทรงกัสโชสึคุริเรียงต่อกันสามหลังอย่างน่ารัก ๆ บอกเลยว่ามุมนี้ต้องจัดเลยน้า

จากนั้นเราจะเดินทางสู่เมืองทาคายาม่า มาที่ สะพานนาคะบาชิ เป็นสีแดงที่มีจุดเด่นด้วยการทาสีแดงทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจน และยังเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอีกด้วยค่ะ 

เมื่อเรามาท่องเที่ยวเดินชมอาคารบ้านเรือน และร้านค้า ก็จะพบกับนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติ และคนญี่ปุ่นเองใส่ชุดยูคาตะมาเดินเล่น หรือนั่งรถลากชมเมืองที่เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวน่ารัก ๆ นั่นเองค่า

ตรงสะพานคือวิวดีมากกเหมาะแก่การมาถ่ายรูปเช็คอินแบบสุด ๆ และถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิสองข้างทางของด้วยสะพานจะเต็มไปด้วยดอกไม้สวย ๆ เลยค่า

และที่อยู่ในบริเวณเดียวกันอย่าง ถนนเมืองเก่าซันมาจิ เสน่ห์เมืองเก่ายาวนานถึง 300 ปี เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงอาคารบ้านเรือนแบบดั้งเดิมไว้ให้เราได้มาเดินชมความคลาสสิก ที่ผสมผสามกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว

สองข้างทางของถนนคนเดินก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกให้เราไ้ดแวะนั่งทานอาหาร หรือซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับไปอีกด้วยนะคะ

อย่างร้านนี้จะอยู่ใกล้กับสะพานนาคะบาชิ เป็นร้านขายเนื้อเสียบไม้และไอศกรีม บอกได้เลยค่ะว่าตัวเนื้อคือฉ่ำมากกก อร่อยมาก ๆ ตามป้ายที่ทางร้านเขาติดไว้เลยค่ะ

และขากลับไปขึ้นรถเราก็เจอกับร้านที่เป็นอารมณ์เหมือนกิฟช้อป มีพวกพวงกุญแจการ์ตูนน่ารัก ๆ อย่างเปโกะ ตุ๊กตาม่อนชิชิ และสารพัดของกุ๊กกิ๊กเยอะมาก ๆ เลยค่า

 ปิดท้ายของวันด้วยการไปช้อปปิ้งที่ อิออน มอลล์ ที่เป็นห้างสรรพค้าชั้นนำของญี่ปุ่นท ที่มีสินค้า ร้านอาหารให้เราได้เดินเล่นชิล หรือซื้อของกินกลับไปทานที่โรงแรมได้อย่างชิล ๆ เลยค่ะ ตัวห้างจะมีเพียงความสูงแค่สองชั้น แต่ตัวอาคารจะมีความกว้างมากกก

อย่างตรงนี้จะเป็นในส่วนของทางเข้าค่ะ เมื่อเราเดินเข้าไปก็จะเจอกับตุ๊กตาแมวกวักขนาดใหญ่ ที่เป็นจุดถ่ายรูปสวย ๆ อีกด้วยค่ะ ซึ่งทางห้างเข้าจะแระดับตกแต่งตามเทศกาลต่าง ๆ ในช่วงนั้น ๆ ของญี่ปุ่นอีกด้วยนะคะ

และตรงนี้ยังเป็นในส่วนของโซนร้านอาหารที่สามารถนั่งทาน หรือสั่งกลับไปที่โรงแรมได้เลยค่ะ บอกเลยว่ามีร้านอาหารเยอะมากกกก

สำหรับใครที่เป็นสายช้อปทางห้างเขาก็มีให้ครบเลยค่ะ ไม่ว่าจะ GU, Uniqlo, ZARA ที่อยู่ติดกันทั้งสามร้านเดินถึงกันง่ายมาก ๆ แล้วเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบเข้าร้านทุกอย่าง 20 บาทแล้วล่ะก็ ที่ชั้นก็มีร้าน Daiso ที่ขายของสารพัดอย่างให้เราได้เดินเลือกซื้อได้อย่างเพลิน ๆ เลยค่า

DAY 3

มาต่อกันที่เช้าวันที่สามกับการไปทำกิจกรรมที่ ทาคาสึสกีรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ทาคาสึของเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา และด้วยความที่นี่มีขนาดใหญ่มาก ๆ มีพื้นที่ให้เล่นสกีเยอะหลายเส้นทางให้เล่นได้อย่างสนุก ๆ เลยค่ะ ที่นี่เลยเป็นที่นิยมสำหรับคนที่ชอบเล่นสกีมาก ๆ 

แล้วสำหรับนักท่องเที่ยวเมืองร้อนอย่างเราสกิลเล่นสกีเป็นศูนย์ แต่ไม่ต้องห่วงเลยค่ะว่าจะน่าเบื่อหรือเปล่า เพราะทางสกีรีสอร์ทเขามีกิจกรรมอย่าง กระดานเลื่อนหิมะ นั่งกระเช้าชมวิว และอื่น ๆ แต่สำหรับค่าใช้จ่ายในกิจกรรมต่าง ๆ จะไม่รวมกับค่าทัวร์นะคะ ต้องจ่ายแยกหน้างานตามกิจกรรมที่เราสนใจทำ

อย่างอันนี้เป็นกระดานเลื่อนหิมะเล่นได้ทุกช่วงวัยได้อย่างสนุก ๆ เลยค่ะ แถมวิวด้านหลังที่เป็นภูเขาก็สวยมาก ๆ  ราคาก็จะอยู่ที่ 1,500 เยน ถ้าเรานำตั๋วไปคืนก็จะได้เงินคืนมา 500 เยนค่ะ  สามารถจ่ายได้ทั้งเงินสด และทราเวลการ์ดเลยค่ะ 

และถ้าเพื่อน ๆ คนที่อยากขึ้นไปชมวิวก็สามารถซื้อตั๋วเป็นนั่งกระเช้าชมวิวสวย ๆ ได้เลยค่ะ ราคาก็จะอยู่ที่ 2,500 เยน นำตั๋วไปคืนก็จะได้เงินคืนกลับมา 500 เยนนั้นเองค่ะ

เล่นกิจกรรมชมวิวอย่างชิล ๆ แล้ว เราก็จะไปช้อปปิ้งกันต่อที่ มิตซุย เอ้าท์เล็ต ที่เป็นเอ้าท์เล็ตขนาดใหญ่ ที่มีร้านค้ากว่า 100 ร้าน อย่างคูปองอันนี้จะต้องมากับทัวร์เท่านั้นค่ะถึงจะได้คูปองส่วนลดมา ซึ่งไกด์ก็จะเป็นจัดการและนำคูปองมาแจกจ่ายลูกทัวร์ ส่วนร้านค้าต่าง ๆ ที่ใช้คูปองได้ก็จะถูกระบุอยู่ในนั้นเลยค่ะ

ภายในเอ้าท์เล็ตแต่ละร้านก็จะเป็นลักชัวร์รี่แบรนด์ และแบรนด์ต่าง ๆ ทั้งต่างประเทศ และแบรนด์ของญี่ปุ่นนั้นเองค่ะ อย่าง COACH, NIKE, ONITSUKATIGER, FURLA, LONGCHAMP , PAUL SMITH , PUMA , VANS, DIESEL, CALVIN KLEIN , TOMMY HILFIGER, ZARA , GAP และอื่น ๆ อีกเยอะมาก ๆ 

DAY 4 

เดินทางกลับไทยแบบฟิน ๆ ไฟล์ทบินของเราเป็นตอนเวลา 10.30 น. ก็จะเดินทางถึงไทยต้องประมาณ 14.35 น. เมีเวลากลับไปนอนพักผ่อนได้อย่างชิล ๆ เลย  ถือได้ว่าเป็นทริปเที่ยวญี่ปุ่นที่ฟูลฟิลมาก เจอหิมะชมวิวสวย ๆ ปักหมุดแลนด์มาร์คไฮไลต์ที่ยังไม่เคยไปท่ามกลางอากาศเย็นที่ญี่ปุ่น เป็นอะไรที่ฟินแบบสุด ๆ ไปเลยค่า

สนใจจองทัวร์ญี่ปุ่น ทักไลน์แอดได้เลยจ้า
Line @ : https://chill.travel/LineChillpainai

หรือโทรสอบถามได้ที่

• 064 975 0666 : K. ตูน
• 064 975 0777 : K. กี้
• 064 975 0888 : K. เจี๊ยบ
• 064 975 0999 : K. มุก

Tags: ญี่ปุ่น นาโกย่า ทัวร์ญี่ปุ่น ชิราคาวาโกะ ทาคายาม่า

เขียนโดย

GIG Chillpainai

แชร์บทความนี้