calendar_month 21 ก.พ. 2024 / stylus Admin Chillpainai / visibility 6,403 / เที่ยวต่างประเทศ
โตเกียว-โทโฮคุ 6 วัน 5 คืน
เที่ยวคุ้ม 3 จังหวัด ด้วย JR East Pass
เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
เที่ยวภูมิภาค Tohoku ครั้งนี้ เราจะเดินทางโดยใช้ JR East pass (Tohoku Area) ที่สามารถใช้ในภูมิภาค Tohoku ใน 6 จังหวัด คือ Aomori , Akita , Iwate , Miyagi , Yamagata และ Fukushima เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน ครอบคลุม รถไฟ Shinkansen รถไฟในเครือ JR แบบไม่จำกัดไว้ในพาสเดียว เรียกได้ว่าคุ้มในคุ้ม ใครที่ซื้อพาสมาจากไทย ก็เอา Voucher มาแลกพาสจริงที่ JR East service ที่มี counter ที่สนามบินและตามสถานี JR ใหญ่ๆ หรือจะมาซื้อที่นี่ก็ได้ ราคา 30,000 เยน โดยพาสจริงจะเป็นบัตรเล็กๆ เราเรียกกันง่ายๆ ว่าบัตร 5 days บัตรลูกรักสำคัญสุดในทริป ขอเตือนไว้เลยว่า ห้ามหาย!!! ไม่งั้นซื้อใหม่อย่างเดียวจ้าา
(source : www.jreast.co.jp)
มาเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ เราไม่ได้แลกเงินเยนจากไทยมาเลย เพราะอยากมาลองกดเงินสดที่ญี่ปุ่น เห็นว่าใช้บัตร Youtrip กดเงินที่ญี่ปุ่นได้แบบฟรีค่าธรรมเนียมถึง 31 มีนาคม 2024 นี้ แล้วเรทในบัตร Youtrip ก็ดีเว่อ แค่แลกเงินเยนใส่บัตรไว้ มองหาตู้สีแดงที่มีสัญลักษณ์ 7-11 (ส่วนใหญ่ตู้จะอยู่ใน 7-11) ตอนกดที่ตู้มีภาษาไทยให้เลือกด้วยนะ สะดวกสุด แค่นี้เราก็ได้เงินเยนมากินช็อปในญี่ปุ่นโดยไม่ต้องแลกจากไทยให้วุ่นวาย นอกจากนี้ บัตร Youtrip ยังสามารถใช้แตะจ่ายที่ร้านค้า มินิมาร์ท ร้านอาหารต่างๆ ในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นบัตรที่สะดวกคุ้มค่ามาก ควรมีเอาไว้ก่อนเดินทาง
อินเตอร์เน็ต รอบนี้เราใช้บริการ E-Sim ของ Airralo ใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ 10 GB ใน 30 วัน ราคาแค่ 6 $ ตอนแรกก็กังวล เพราะไม่เคยใช้มาก่อน แต่ขั้นตอนการลงทะเบียนซิมก็ไม่ยุ่งยาก อินเตอร์เน็ตถือว่าค่อนข้างดีเลยไม่ต้องถอดเปลี่ยนซิมให้วุ่นวาย ซิมจะนับวันเริ่มใช้งานจากการจับสัญญาณที่ญี่ปุ่นดังนั้นซื้อล่วงหน้าไว้ได้เลย (เพื่อนๆคนไหนสนใจสามารถใช้โค้ด BANK7198 เพื่อรับส่วนลด 3 US)
วันที่ 1 เราเดินทางมาลงที่สนามบิน Narita และเลือกพักที่ Tokyo 1 คืน เพื่อช็อปปิ้งชุดตะลุยหิมะใส่ในทริปนี้กันก่อนเลย
หลังจากช็อปปิ้งจนท้อ เราก็มากิน Ochazuke ข้าวหน้าปลาดิบราดน้ำชาร้อนหรือน้ำซุปแบบญี่ปุ่น โดยวิธีกินให้กินข้าวในชามปกติก่อนครึ่งหนึ่ง ที่เหลือให้ตักข้าวใส่ในถ้วยเล็กที่ให้มา แล้วราดน้ำซุปลงไป เติมสาหร่ายและปลาโอแห้งโปะด้านบน จะได้รสชาติการกินอีกมิติหนึ่ง น้ำซุปกลิ่นหอมคล่องคอ ข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่ม ปลาดิบสดหวาน อร่อยมาก ร้านนี้ชื่อร้านเป็นภาษาญี่ปุ่น เดี๋ยวปักโลเคชั่นไว้ให้ ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 7 ตึก Lumine Est ย่าน Shinjuku https://maps.app.goo.gl/ZzYa6ZCqBkruM9Xj7?g_st=ic
วันที่ 2 เราเริ่มต้นทริปกันที่ Tokyo Station หลังจากเมื่อวานได้ช็อปปิ้งชุดตะลุยหิมะฉ่ำโบ๊ะ วันนี้เราออกเดินทางกันแต่เช้าเพื่อไปจุดหมายแรกที่หมู่บ้าน Ouchijuku ในจังหวัด Fukushima หมู่บ้านเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ ภายในหมู่บ้านจะมีร้านค้าต่างๆ ในรูปแบบบ้านโบราณมุงหลังคาด้วยหญ้าคา ขายของพื้นเมือง ของที่ระลึก ไฮไลท์ของที่นี่คือต้องเดินไปยังท้ายหมู่บ้านจะมีบันไดให้เดินขึ้นเขาไปเพื่อมองหมู่บ้านในมุมสูง ในฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุม เห็นวิวขาวโพลนไปทั่วทั้งหมู่บ้านสวยอย่าบอกใคร
วันที่เราเดินทางมา คือวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2024 ซึ่งภายในหมู่บ้านมีการจัดงานเทศกาล มีกิจกรรมตลอดทั้งวัน ทั้งการแข่งกินโซบะ กิจกรรมการละเล่นต่างๆ การขายของพื้นเมือง ให้เราได้ชื่นชมตลอดสองข้างทาง
อีกสิ่งที่ห้ามพลาดในการมาที่หมู่บ้านนี้คือการกินเนงิโซบะ หรือ โซบะต้นหอม ที่จะเสิร์ฟโซบะมาพร้อมกับต้นหอมยักษ์ให้เราใช้แทนตะเกียบคีบเส้นขึ้นมาแล้วกัดต้นหอมไปพร้อมกัน เวลากินจะได้กลิ่นหอมของต้นหอมควบคู่ไปกับการกินโซบะร้อนๆ ท่ามกลางอากาศหนาวมีหิมะโปรยปราย ช่วยอบอุ่นร่างกายให้สดชื่นได้เป็นอย่างดี
>การเดินทาง จาก Tokyo station นั่ง Shinkansen ไปลงสถานี Koriyama และต่อ JR Ban-Etsusai line ไปยังสถานี Aizu-Wakamatsu ให้ซื้อตั๋วที่สถานีนี้ก่อน จะได้เป็นตั๋วรถไฟส่วนที่ JR East pass ใช้ไม่ได้ กับรถบัสไปกลับหมู่บ้าน ในราคา 2,200 เยน และต่อรถไฟ Aizu line จากสถานี Aizu-wakamatsu ไปสถานี Yunokami onsen เดินออกจากสถานี จะเจอรถบัสไปยังหมู่บ้าน มีรถเป็นรอบๆ หากไม่อยากรอสามารถเรียกแท็กซี่ได้ ราคาประมาณ 2000-3000 เยน
ค่ำคืนนี้ เราจะนอนกันที่เมือง Aizu-Wakamatsu แวะเติมพลังมื้อเย็นกันที่ร้าน Katsuichi ทงคัตสึที่ขอจัดให้เป็น The best ร้านทงคัตสึที่เคยกินมา เป็นร้านอาหารเล็กๆ ที่มีคุณลุงและคุณป้าทำกันเอง 2 คน เมนูอาหารที่นี่จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่น แนะนำให้ใช้ Google translate ส่องเอา เราสั่งมาเป็นชุดทงคัตสึหมู กับชุดทงคัตสึกุ้งและเนื้อทอด จะบอกว่าทอดมาดีมาก กรอบอร่อย ไม่อมน้ำมัน ที่โต๊ะจะมีซอสให้ตักราดได้เอง ตัวซอสหอมหวานยิ่งราดซอสยิ่งอร่อย กินคู่กับผักดอง ตัดเลี่ยนได้ดี กินหมดไม่สนแคลอรี่กันเลยทีเดียว
วันที่ 3 วันนี้เราจะออกเดินทางไปชมรถไฟสายโรแมนติก Tadami line ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางที่สวยและโรแมนติกที่สุดในญี่ปุ่น เป็นจุดที่เราเห็นรูปใน IG ใครซักคนแล้วอยากจะมาให้ได้ หากใครจะไปโดยรถไฟแบบเราต้องวางแผนให้ดีๆ เพราะรถไฟสายนี้มีแค่ 4 รอบต่อวันเท่านั้น ทำให้ต้องออกแต่เช้าเพื่อไปรอชมรถไฟวิ่งผ่านในรอบบ่าย ส่วนใหญ่คนเที่ยวรูทนี้จะขับรถเที่ยวเพราะวางแผนเวลาได้ง่าย ส่วนเรามันสายประหยัด ซื้อพาสมาแล้วมันก็ต้องใช้ให้คุ้ม แต่ต้องสู้ชีวิตหน่อยๆ แค่นั้นเอง
เราเริ่มออกเดินทางแต่เช้า นั่งรถไฟรอบ 07.40 น. จากสถานี Aizu-Wakamatsu สาย Tadami line ไปยังสถานี Aizu-Miyashita และเดินไปยัง No.1 Tadami River Bridge Viewpoint เห็นบางที่บอกว่าถ้ามารอบเช้าสุด จะมีรถบัสให้บริการด้วยนะ ซึ่งรอบเช้าสุดคือ 06.08 น. ตื่นไม่ไหวจ้ะ แต่เดินที่ญี่ปุ่นอากาศดี ถนนก็ดี วิวสองข้างทางก็สวย เดินไปเรื่อยๆ แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว โดยตรงนี้จริงๆแล้วเป็นจุดพักรถ มีร้านอาหาร ห้องน้ำ ร้านขายของไว้บริการ เรามานั่งกินข้าวเพื่อรอเวลาชมรถไฟ อาหารที่นี่สั่งผ่านตู้ แต่ก็มีรูปให้เดาๆ เอาได้ กดสั่งแล้วจะได้คูปองเอาไปยื่นให้พนักงาน รสชาติถือว่าโอเคเลย ราคาไม่แพงมาก
หลังตึกร้านอาหารจะมีทางให้เดินขึ้นไปชมวิว 4 จุด A B C D ขึ้นอยู่กับความพยายามในการเดินขึ้นเขาของแต่ละคน สำหรับเราเราว่าจุด C สวยที่สุด เพราะเดินขึ้นต่อไปไม่ไหวแล้ว 5555 เรามาอยู่เพื่อรอชมรถไฟวิ่งผ่านช่วง 13.01-13.05 น. อยู่รอ 2 ชม. เพื่อถ่ายรถไฟแค่ 1 นาทีไม่เกินจริง ตรงจุดนี้มองลงไปจะเห็นรถไฟวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำ ท่ามกลางภูเขาและทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นจุดที่ใช้คำว่าสวยได้เปลืองมาก แม้ว่าตอนที่มาหิมะจะไม่เยอะเหมือนที่คิดไว้ แต่ก็ถือว่าสวยไปอีกแบบ จนอยากมาเห็นด้วยตาในทุกฤดูเลย
หลังจากดูน้องรถไฟวิ่งผ่าน เราก็เดินกลับมายังสถานี Aizu-Miyashita เพื่อรอขึ้นรถไฟรอบ 14.30 น. เพื่อเดินทางต่อไปยังสถานี Aizu-Kawaguchi เอาจริงแค่นั่งมองวิวระหว่างทางบนรถไฟสายนี้ก็คุ้มแล้วที่มา บรรยากาศที่สถานีนี้สวยเหมือนอยู่ในเทพนิยาย แต่ที่สถานีนี้เราจะมีเวลาแค่ 30 นาที ในการเดินทางไปยัง Oshi village และถ่ายรูปวิวรอบๆ สถานี เพราะต้องนั่งรถไฟกลับรอบ 15.35 น. ตรงนี้ต้องคอยทำเวลาดีๆ ถ้าพลาดรอบนี้ รอบต่อไปจะดึกเกินทำให้เราไปต่ออีกเมืองไม่ทัน
หลังจากถ่ายรูปชมวิวจนฉ่ำปอด เราก็นั่งรถไฟกลับมายังสถานี Aizu-Wakamatsu เพื่อเดินทางไปนอนที่จังหวัด Yamagata นั่งรถไฟ JR Ban’etsusai line ไปยังสถานี Koriyama และนั่ง Shinkansen ต่อไปยังสถานี Yamagata เช็คอินโรงแรม พักผ่อนเตรียมพร้อมเที่ยวต่อวันพรุ่งนี้
วันที่ 4 เช้านี้เราจะเดินทางไปขึ้น Roapway เพื่อไปดู Snow Monster กันที่ Zao onsen
> การเดินทาง นั่งรถบัสจากป้ายรถบัสหมายเลข 1 ลงสถานีสุดท้าย และเดินต่อไปอีก 400 เมตรเพื่อขึ้น Roapway
รถบัสจะมีทุกชม. เราเลือกออกเดินทางรอบแรกสุด เพื่อหนีคน แนะนำให้ซื้อตั๋วรวมรถบัสไปกลับและ Roapway ที่บริเวณป้ายรถบัสหมายเลข 1 ในราคา 5000 เยน ซึ่งจะคุ้มกว่าซื้อแยก แต่เนื่องจากเมื่อวานเรามาถึง Yamagata ดึกแล้ว และวันนี้ออกเดินทางแต่เช้า จุดขายตั๋วยังไม่เปิดให้บริการ เลยจ่ายแยก เป็นค่ารถบัสเที่ยวละ 1000 เยน และค่า Roapway ไปกลับ 3800 เยน
Roapway จะแบ่งเป็น 2 ชั้น ระหว่างทางขึ้น จะได้เห็นวิวทิวทัศน์มุมสูงและมีน้อง Snow Monster ออกมาต้อนรับตลอดทาง เป็นภาพที่ดูสวยแปลกตา ด้านบนลมค่อนข้างแรง และหนาวมาก ต้องเตรียมชุดมาให้พร้อม เสื้อกันลม รองเท้าเดินบนหิมะไม่งั้นจากนักท่องเที่ยว จะกลายเป็นผู้ประสบภัยเอาได้
ลงมาถึงด้านล่าง ตกใจกับสภาพคิว เหมือนจะมีทัวร์มาลงด้วยคนเลยเยอะ รู้สึกดีที่มาแต่เช้า
เราเดินทางกลับมาถึงเมือง Yamagata ในช่วงเที่ยง เพื่อจะเดินทางต่อไปยัง Ginzan Onsen หมู่บ้าน onsen โบราณ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา ใจกลางหมู่บ้านมีแม่น้ำพาดผ่าน เป็นความคลาสสิคที่สวยงามอย่างลงตัว เสียดายที่ตอนเรามาหิมะไม่ตก เลยอดถือร่มใสเดินถ่ายรูปท่ามกลางหิมะโปรยปราย วันนี้คนค่อนข้างเยอะ ต้องหามุมถ่ายรูปหลบคนเอา คิดว่าถ้าอยากได้รูปแบบไม่ติดคนคงต้องมานอนค้างที่นี่และรอถ่ายในตอนเช้าเอา
>การเดินทาง จาก Yamagata นั่งรถไฟมาลงสถานี Oishida และต่อรถบัสไปยัง Ginsan Onsen ราคา 1000 เยน หากในรอบนั้นรถบัสเต็ม จะมีรถตู้ให้บริการในราคาคนละ 1400 เยน
วันที่ 5 เราออกเดินทางจาก Yamagata แต่เช้า นั่งรถไฟสาย JR Senzan line ไปยังสถานี Sendai เพื่อไปล่องเรือที่ Geibikei Gorge
>การเดินทาง จากสถานี Sendai นั่งรถไฟ Shinkansen ไปลงสถานี Ichinoseki และต่อ JR Ofunato line ไปยังสถานี Geibikei เดินตามป้ายบอกทางอีก 400 เมตรจะเจอจุดล่องเรือ ค่าล่องเรือคนละ 1800 เยน มีรอบทุกชม. ใช้เวลา 90 นาที
Gebikei Gorge อยู่ในจังหวัด Iwate เป็นหุบเขาตามธรรมชาติที่สวยงาม มีแม่น้ำ Satetsu ไหลผ่านให้เราได้ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง ระหว่างทางคนขับเรือก็จะบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น เห็นคนญี่ปุ่นขำขันเฮฮา น่าจะตลก ส่วนเรานั้นฟังไม่รู้เรื่อง ก็นั่งชื่นชมธรรมชาติมองน้องเป็ดว่ายน้ำข้างลำเรือ เราสามารถให้อาหารน้องได้นะ มีขายบนเรือถุงละ 50 เยน พอล่องเรือมาจนถึงจุดหนึ่ง เราต้องลงจากเรือและเดินเข้าไปจนถึงจุดด้านในสุดของหุบเขา โดยจะมีช่องหินอธิษฐานบริเวณหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร เชื่อกันว่าถ้าขว้างหินผ่านเข้าไปในช่องได้ คำอธิษฐานของเราจะเป็นจริง ซึ่งจะมีหินเสี่ยงทาย 10 ชนิด คือ โชค สายสัมพันธ์ ความปรารถนา ความรัก ความใคร่ ลาภ ลิขิต อายุยืนยาว ทรัพย์สมบัติ และรายได้ ในราคา 3 ก้อน 100 เยน จะบอกว่าปาเข้าก้อนสุดท้าย ดีใจสุด งวดนี้ต้องมาแล้ว ถ้าใครปาเข้าก็จะได้รับการ์ดเป็นหลักฐานด้วยนะ
ขากลับ คนขับเรือจะขับกล่อมเพลงพื้นบ้านโบราณของญี่ปุ่นให้เราฟัง เสียงกังวาลไพเราะ นั่งเพลินๆ แป๊บๆ ก็ต้องขึ้นจากเรือเดินทางกลับแล้ว
เราเดินทางกลับมาที่เมือง Sendai เย็นนี้จะไปลิ้มลอง Gyutan ลิ้นวัวชื่อดังของที่นี่ ที่ร้าน Gyutanyaki บอกเลยว่าถ้าใครมาต้องลอง ลิ้นวัวนุ่มเคี้ยวกรุบ ย่างมากำลังพอดี กินกับผักดองวาซาบิ โปะบนข้าวสวยร้อนๆ ซดซุปเนื้อที่ตุ๋นมาแบบละลายในปากตาม อร่อยยจัดดด
Sendai เป็นเมืองหลวงของจังหวัด Miyagi ถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาค Tohoku มีร้านอาหาร แหล่งช็อปปิ้งมากมาย ค่ำคืนนี้เราเลยขอเดินช็อปปิ้งกันที่ Clis Road ให้จุใจ ละลายทรัพย์ก่อนเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้
วันที่ 6 วันสุดท้ายที่เราจะอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว ไม่อยากกลับเลยยยย เราออกเดินทางสายๆ หลังจากเมื่อวานช็อปปิ้งยันร้านปิด เลยขอพักผ่อนยาวๆ ก่อนออกเดินทาง นั่ง Shinkansen จากเมือง Sendai กลับมายังสถานี Tokyo และต่อ Narita Express เพื่อไปยังสนามบิน โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มเพราะค่าตั๋วรวมอยู่ใน JR East pass เรียบร้อยแล้ว เรียกได้ว่าคุ้มจนหยดสุดท้าย
ขอจบทริป Tokyo-Tohoku 6 วัน 4 เมืองไว้เท่านี้ ขอกลับไปทำงานที่เรารักก่อน หาเงินเที่ยวทริปต่อไป หวังว่าเพื่อนๆ จะชอบการเดินทางของเราในทริปนี้ เจอกันใหม่ทริปหน้า บ๊ายบายยย
สรุปค่าใช้จ่ายในทริปนี้
ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ 12,000 บาท
ค่าที่พัก 5 คืนคนละ 5,400 บาท
ค่า JR East pass 6,400 บาท (จองจากไทยได้โปรส่วนลด)
ค่าเดินทางอื่นๆ ประมาณ 3,200 บาท
ค่ากิน ประมาณ 5,000 บาท
รวม 32,000 บาท
Tags: ญี่ปุ่น tokyo tohoku Fukushima Yamagata Sendai โตเกียว ฟุกุชิมะ ยามากาตะ เซนได
เที่ยวต่างประเทศ | 21 พ.ย. 2024 | 2,119 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 944 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 26 ต.ค. 2024 | 1,079 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,396 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,576 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 1,802 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 2,548 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 3,488 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 6,775 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 4,368 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 1,154 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 4,376 อ่าน