calendar_month 22 พ.ค. 2014 / stylus Admin Chillpainai / visibility 17,551 / เที่ยวต่างประเทศ
เยือนเพตรา มหานครสีกุหลาบ...เมืองมรดกโลก
สัมผัสทิวทัศน์อันงดงามของเมืองเครัค...แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน
ย้อนรอยภาพยนตร์ Lawrence of Arabia ณ ทะเลทรายวาดิรัม
แล่นเรือท้องกระจกในทะเลแดง...สถานที่ซึ่งโมเสสเคยแสดงอภินิหารแหวกทะเล
พิสูจน์ Dead Sea ทะเลที่เค็มที่สุดในโลก
ทั้งหมดนี้คือสถานที่น่าเที่ยวของประเทศจอร์แดนที่ใครๆก็พลาดไม่ได้
ล่าสุดทางบริษัท True เขาก็เลยจัดทริปชิลๆ ให้ไปเยือน จอร์แดน เป็นเวลา 7 วัน 5 คืน
ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้าง
วันแรก
21.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ หน้าเคาน์เตอร์สายการบิน โรยัล จอร์แดนเนียล ชั้น 4 แถว Q พร้อมเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ของบริษัทฯ
วันที่สอง
อัมมาน – มาดาบา – เมาท์เนโบ – เครัค – อควาบา
00.30น. เหินฟ้าสู่กรุงอัมมานประเทศจอร์แดนโดยสายการบินแห่งชาติโรยัลจอร์แดนเนี่ยล เที่ยวบินที่ RJ 181ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8.30 ชั่วโมง
05.15 น. เดินทางถึงสนามบินนานาชาติ QUEEN ALIA ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง) นำท่านเดินทางไปยังโรงแรม เพื่อรับประทานอาหารเช้า
เดินทางสู่ "เมืองมาดาบา" หรือเมืองแห่งโมเสก ชม "โบสถ์กรีก-ออโธดอกซ์แห่งเซนต์จอร์จ" ซึ่งสร้างในราวปี ค.ศ. 600 ยุคของไบแซนไทน์ ชมภาพแผนที่ดินแดนศักดิสิทธิ์แห่งเยรูซาเลม ตกแต่งโดยโมเสกสีต่างๆ ประมาณ 2.3 ล้านชิ้น แสดงถึงพื้นที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในแถบรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน, เยรูซาเลม, แม่น้าจอร์แดน,ทะเลเดดซี, เขาไซนาย, อียิปต์ ฯลฯ
จากนั้นชม "เมาท์เนโบ" ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งเชื่อกันว่าน่าจะเป็นบริเวณที่เสียชีวิตและฝังศพของโมเสส ผู้นำชาวยิว ผู้เดินทางจากอิยิปต์มายังเยรูซาเลม ชมพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ภายในเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่ขุดพบภายในบริเวณนี้ พร้อมทั้งมีภาพถ่ายต่าง ๆ ภาพถ่ายที่สาคัญคือภาพที่ โป๊บ จอห์น ปอลที่ 2 เสด็จมาแสวงบุญที่นี่และได้ประกาศให้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ในปี ค.ศ. 2000ชมอนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน โดยอุทิศเป็นสัญลักษณ์ของโมเสส และพระเยซู บริเวณนี้สามารถถ่ายรูปและชมวิว ณ จุดชมวิว โดยในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองเห็น แม่น้าจอร์แดน, ทะเลเดดซี, เมืองเจอริโก และประเทศอิสราเอล ได้จากจุดนี้อย่างชัดเจน
“อนุสรณ์ไม้เท้าศักดิ์สิทธ์แห่งโมเสส ออกแบบเป็นลักษณะเป็นไม้เท้าในรูปแบบไม้กางเขน"
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
บ่าย ออกเดินทางต่อไปยัง "เมืองเครัค" ซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบสูงขนาดใหญ่ ท่านจะได้เพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามข้างทางระหว่างทางขึ้นสู่เขา โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกเรียกขานกันว่าเป็น "แกรนด์แคนยอนแห่งจอร์แดน" ชมปราสาทเครัคแห่งครูเสด (KERAK) ซึ่งสร้างในปี ค.ศ. 1142 โดยผู้ปกครอง PAYEN LE BOUTIELLER ในอดีตเป็นเมืองศูนย์กลางขนาดใหญ่ของนักรบครูเสด และสร้างเพื่อควบคุมเส้นทางทั้งทางเหนือและใต้ และใช้ในการต่อสู้ในสงครามครูเสดกับกองทัพมุสลิม จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1187 ได้ถูกเข้าทำลายโดยนักรบมุสลิมภายใต้การนำทัพของ ซาลาดิน (SALADIN)
จากนั้นเดินทางสู่ "เมืองอควาบา" เมืองท่าและเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่สาคัญของประเทศจอร์แดนเป็นเมืองแห่งเดียวของประเทศจอร์แดนที่ถูกประกาศให้เป็นเมืองปลอดภาษี มีประชากรอาศัยราว 70,000 คน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารท้องถิ่น เข้าพักโรงแรม ระดับ 4 ดาว ในเมืองอควาบา
วันที่สาม
เมืองอควาบา – ทะเลทรายวาดิรัม
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นเดินทางไปยัง "ทะเลแดง" ซึ่งจะต้องลงเรือท้องกระจก (GLASS BOAT) แล่นในทะเลแดง ท่านจะได้ชมความใสของน้ำทะเล, ปะการัง , ปลาทะเล หลากชนิด, เม่นทะเล, แมงกะพรุน ฯลฯ
ทะเลแดงเป็นทะเลที่มีน่านนำ้ครอบคลุมถึง 4 ประเทศ คือ ประเทศจอร์แดน, อิสราเอล, อิยิปต์และ ซาอุดิอาระเบีย เป็นทะเลแห่งประวัติศาสตร์ ที่ได้มีการกล่าวขานใน พระคัมภีร์ของศาสนาคริสต์ว่าทะเลแห่งนี้เป็นสถานที่โมเสสได้ทาอัศจรรย์โดยการชูไม้เท้าแหวกทะเลแดง เป็นทางเดินพาชาวอิสราเอลหนีให้รอดพ้นจากการตามล่าของทหารอิยิปต์เพื่อจับไปเป็นทาสของอียิปต์ และจุดมุ่งหมายเพื่อเดินทางไปสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงมอบให้กับชาวอิสราเอล นั่นคือ ก็คือกรุงเยรูซาเลมในปัจจุบัน
เที่ยง บริการอาหารแบบบาร์บีคิว บุฟเฟต์บนเรือ พร้อมชมทัศนียภาพ และบรรยากาศของทะเลแดง
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ "ทะเลทรายวาดิรัม (WADI RUM)” ทะเลทรายแห่งนี้ในอดีตเป็นเส้นทางคาราวานจากประเทศซาอุฯ เดินทางไปยังประเทศซีเรียและปาเสลไตน์(เคยเป็นที่อยู่อาศัยของชาวนาบาเทียนก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานไปสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญที่เมืองเพตร้า) ในศึกสงครามอาหรับรีโวลท์ระหว่างปีค.ศ. 1916–1918 ทะเลทรายแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นฐานบัญชาการในการรบของนายทหารชาวอังกฤษทีอีลอว์เรนซ์ และเจ้าชายไฟซาลผู้นำแห่งชาวอาหรับร่วมรบกันขับไล่พวกออตโตมันที่เข้ามารุกรานเพื่อครอบครองดินแดน และต่อมายังได้ถูกใช้เป็นสถานที่จริงในการถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวูดอันยิ่งใหญ่ในอดีตเรื่อง “LAWRENCE OF ARABIA” (และในปี ค.ศ.1963 สามารถกวาดรางวัลออสการ์ได้ถึง 7 รางวัล และ รางวัลจากสถาบันอื่นๆ มากกว่า 30 รางวัล นาแสดงโดย Peter O'Toole, Omar Sharif ฯลฯ)
นำท่านนั่งรถกระบะเปิดหลังคารับบรรยากาศท่องทะเลทรายที่ถูกกล่าวขานว่าสวยงามที่สุดของโลกแห่งหนี่ง ด้วยเม็ดทรายละเอียดสีส้มอมแดงอันเงียบสงบที่กว้างใหญ่ไพศาล (สีของเม็ดทราบนั้นปรับเปลี่ยนไปตามแสง ของดวงอาทิตย์) ชม "น้ำพุแห่งลอว์เรนซ์" สถานที่ในอดีตนายทหาร ทีอี ลอว์เรนซ์ ทหารชาวอังกฤษใช้เป็น สถานที่พักและคิดแผนการสู้รบกันพวกออตโตมัน
จากนั้นท่องทะเลทรายต่อไปยัง "ภูเขาคาซารี" ชมภาพเขียนแกะสลักก่อนประวัติศาสตร์ที่เป็นภาพ แกะสลักของชาวนาบาเทียนที่แสดงถึงเรื่องราวในชีวิตประจำวันต่างๆ และรูปภาพต่าง ๆ อีกทั้งชมเต็นท์ชาวเบดูอินที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย (เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการให้ทิปท่านละ 1 USD แก่คนขับรถ)
ค่ำ ทานอาหารมื้อค่ารอบกองไฟกลางทะเลทรายในแคมป์ของชาวเบดูอิน นำท่านเข้าพักโรงแรม ระดับ 4 ดาว ในเมืองเพตรา
วันที่สี่
นครเพตร้า – กรุงอัมมาน
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / หลังอาหารเช้า ช่วงเวลาที่ทุกท่านรอคอยก็มาถึง ออกเดินทางสู่ "เมืองเพตร้า" เมืองที่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกปี ค.ศ. 1985 และ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของแห่งโลกใหม่ จากการตัดสินโดยการโหวตจากบุคคลนับล้านทั่วโลกในวันมหัศจรรย์ 07/ 07/07
"เมืองเพตร้า" มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งโมเสส (WADI MUSA) มีประวัติศาสตร์อันยาวนานหลายพันปี และเคยเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยทั้งชาวอีโดไมท์ จวบจนกระทั่งถึงยุค รุ่งเรืองเฟื่องฟูในการเข้ามาครอบครองดินแดนของชาวอาหรับเผ่าเร่ร่อนนาบาเทียน ในช่วงระหว่าง 100 ปี ก่อนคริสตกาล ถึง ปี ค.ศ 100 และได้เข้ามาสร้างอาณาจักร, บ้านเมือง ฯลฯ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 106 นครแห่งนี้ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักรโรมันที่นาโดย กษัตริย์ทราจัน และได้ ผนึกเมืองแห่งนี้ให้เป็นหนึ่งในอาณาจักรโรมันแห่งแหลมอาระเบียตะวันออก
“เมืองเพตร้า มหานครสีดอกกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา"
นำท่านขี่ม้า (รวมอยู่ในค่าบริการแล้ว และเป็นธรรมเนียมที่ต้องมีค่าทิปให้แก่เคนจูงม้าท่านละ 3 USD ต่อท่าน ต่อเที่ยว แต่ไม่รวมค่าขี่ลา, ขี่อูฐ, รถม้าลาก ฯลฯ สนในกรุณาติดต่อที่หัวหน้าทัวร์) ประมาณ 800 เมตร บนถนนทรายเพื่อตรงเข้าสู่หน้าเมือง พร้อมชมทัศนียภาพรอบข้างที่เป็นภูเขาทั้งสองฝั่งที่มีรูปร่างหน้าตาต่างกันออกไป
จากนั้นเดินเท้าเข้าสู่ถนนเข้าเมือง SIQ เส้นทางมหัศจรรย์กว่า 1.5 กิโลเมตร ที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลกและการซัดเซาะของน้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เดินชมความสวยงามของผาหินสีชมพูสูงชันทั้ง 2 ข้างคล้ายกับแคนยอนน้อย ๆ และสิ่งก่อสร้าง รูปปั้นแกะสลักต่างๆ
"มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เอล-คาซเนท์ (EL-KHAZNEH / TREASURY)” สันนิษฐานว่าจะสร้างในราวศตวรรษที่ 1-2 โดยผู้ปกครองเมืองในเวลานั้น เป็นวิหารที่แกะสลักโดยเจาะเข้าไปในภูเขาสีชมพูทั้งลูก มีความสูง 40 เมตร และมีความกว้าง 28 เมตร วิหารแห่งนี้ได้ถูกออกแบบโดยได้รับอิทธิพลศิลปะของหลายชาติเข้าด้วยกัน เช่น อิยิปต์, กรีก, นาบาเทียน ฯลฯ ภายในประกอบด้วย 3 ห้อง คือ ห้องโถงใหญ่ตรงกลาง และห้องเล็กทางด้านซ้ายและขวา เดิมเชื่อว่าเป็นที่เก็บขุมทรัพย์สมบัติของฟาโรห์อิยิปต์
จากนั้นเข้าชม "โรงละครโรมัน (ROMANTHEATRE)" ที่แกะสลักจากภูเขาโดยมีแนวราบที่นั่งเท่ากันและมีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง สันนษิฐานเดิมทีสร้างโดยชาวนาบาเทียนต่อมาในสมัยที่โรมันเข้ามาปกครองได้ต่อเติมและสร้างเพิ่มเติม มีที่นั่ง 32 แถว จุผู้ชมได้ประมาณ 3,000 คน จากนั้นปล่อยท่านอิสระในการเดินชมและถ่ายรูปภายในเมืองเพตร้า
"โรงละครโรมัน (ROMANTHEATRE) ที่แกะสลักจากภูเขา มีความสมดุลได้อย่างน่าทึ่ง"
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่ กรุงอัมมาน /ระหว่างแวะซื้อสินค้าพื้นเมืองที่ระลึกต่างๆ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีนท้องถิ่น นาท่านเข้าพักโรงแรมระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า ในกรุงอัมมาน
วันที่ห้า
ป้อมปราการอัจลุน – เมืองกรีก - โรมันเจอราช – ทะเลเดดซี
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นมุ่งหน้าไปยัง "เมืองอัจลุน" อยู่ทางด้านเหนือของเมืองเจอราชไปเล็กน้อย เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าต้นสน และต้นมะกอก ชมปราสาทแห่งเมืองอัจลุน ถูกสร้างโดยพวกนักรบมุสลิม ในปี ค.ศ. 1184-1185 ใช้เป็นป้อมทหารในการต่อสู้รบกับพวกนักรบครูเสด และในปี ค.ศ. 1260 ถูกเข้าทำลายโดยกองทัพมองโกลส์
จากนั้นเดินทางขึ้นสู่ทางเหนือของประเทศจอร์แดน เพื่อชม "นครเจอราช (JERASH)” หรือ "เมืองพันเสา" เป็นอดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน สันนิษฐานว่าเมืองนี้น่าจะถูกสร้างในราว 200 – 100 ปีก่อนคริสตกาล เดิมทีในอดีตเมืองแห่งนี้ได้ถูกแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทำลาย และถูกฝังกลบโดยทราย หลังจากนั้นก็ได้สูญหายไปเป็นนับพันปี
"นครเจอราช (JERASH)” หรือ อดีต 1 ใน 10 หัวเมืองเอกตะวันออกอันยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมัน
"ซุ้มประตูกษัตรย์เฮเดรียน" และ "สนามแข่งม้าฮิปโปโดรม" เดินเข้าประตูทางทิศใต้ ชม "โอวัลพลาซ่า" สถานที่ชุมนุมพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง, วิหารเทพซีอุส, โรงละครทางทิศใต้ (สร้างในราวปี ค.ศ. 90-92 จุผู้ชมได้ถึง 3,000 คน มีจุดเสียง สะท้อนตรงกลางโรงละคร เชิญทดสอบกับความอัศจรรย์เพียงพูดเบาๆ ก็จะมีเสียงสะท้อนก้องเข้ามาในหูของเรา
"วิหารเทพีอาร์เทมิส" เป็นเทพีประจำเมืองเจอราช สร้างในราวปี ค.ศ. 150 สร้างขึ้นพื่อใช้เป็นสถานที่สาหรับทำพิธีบวงสรวง และบูชายัญต่อเทพีองค์นี้ แบ่งเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นนอก ชั้นกลาง ชั้นใน จากนั้นเดินเข้าสู่ "ถนนคาร์โด" หรือ "ถนนโคลอนเนด" ถนนสายหลักที่ใช้เข้า-ออกเมือง บนถนนนั้นยังมีริ้วรอยทางของล้อรถม้า,ฝาท่อระบายน้า, ซุ้มโคมไฟ, บ่อนำ้ดื่มของม้า
"น้ำพุใจกลางเมือง (NYMPHAEUM)” สร้างในราวปี ค.ศ. 191 เพื่ออุทิศแด่เทพธิดาแห่งขุนเขา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเมืองแห่งนี้ มีที่พ่นน้ำเป็นรูปหัวสิงโตทั้งเจ็ด และตกแต่งด้วยเทพต่างๆ ประจำซุ้มด้านบนของน้ำพุ ฯลฯ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร JERASH REST HOUSE ภายในเมืองเจอราช
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ "ทะเลเดดซี" ทะเลที่ถูกบันทึกลงในหนังสือกินเนสส์ว่าเป็นจุดที่ต่าทีสุดในโลกมีความต่ากว่าระดับน้ำทะเลถึง 400 เมตร และ มีความเค็มที่สุดในโลกมากกว่า 20 เปอร์เซนต์ของน้ำทะเลทั่วไป ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเลยอาศัยอยู่ได้ในท้องทะเลแห่งนี้ เชิญท่านอิสระในการลงเล่นนำ้ทะเล และพิสูจน์ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่ (การลงเล่นน้าในทะเลนั้นมีวิธีขั้นตอนการลงเล่น และข้อ ควรระวังต่างๆ ควรฟังคาแนะนาจากมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์) จากนั้นเดินทางกลับสู่กรุงอัมมาน
"พิสูจน์ความจริงว่าท่านลอยตัวได้จริงหรือไม่ ที่ทะเลเดดซี"
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น นาท่านเข้าพักโรงแรมระดับ 4 ดาวหรือเทียบเท่า ในกรุงอัมมาน (ที่เดิม)
วันที่หก
ป้อมปราการกรุงอัมมาน – กลุ่มปราสาทในทะเลทราย
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม จากนั้นพาท่านชมรอบเมืองหลวงกรุงอัมมานเมืองหลวงที่ตั้งอยู่บนภูเขา7ลูกและมีประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 6,000 ปี ผ่านชมย่านเมืองเก่า,เมืองใหม่,ย่านธุรกิจ,ตลาดใจกลางเมือง,ย่านคนรวย ฯลฯ
ขึ้นชม "ป้อมปราการแห่งกรุงอัมมาน (CITDAEL)” ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นจุดสังเกตเหตุบ้าน การเมืองต่าง ๆ รอบเมือง เชิญอิสระถ่ายรูปตรงจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองแห่งนี้ โดยมีฉากหลังเป็นโรงละครโรมันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจอร์แดน จุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน และตึกรามบ้านช่องที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูงอันแปลกตายิ่งนัก ที่สันนิษฐานว่าน่าจะถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 161–180 ในสมัยโรมัน
ชม "พระราชวังเก่าอุมเมยาด" สร้างขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 720 โดยผู้นำชาวมุสลิม ของราชวงศ์ ในสมัยมุสลิมได้เข้ามา ปกครองประเทศจอร์แดนซึ่งภายในประกอบห้องทางาน,ห้องรับแขกฯลฯผ่านชมพระราชวังของพระมหากษัตริย์อับดุลลาห์ที่สอง (RAGHADAN PALACE), ที่ตั้งอยู่บนภูเขามีทำเลที่สวยงามมากที่สุด ในกรุงอัมมาน และมีทหารคอยเฝ้าดูแลตรวจตราอย่างเข้มงวด
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางไปทางทิศตะวันออกของกรุงอัมมาน มุ่งหน้าไปทางชายแดนประเทศอิรักและ ซาอุดิอาระเบียเพื่อชม "โรงอาบน้ำอัมรา" อัครสถานบันเทิงสำหรับกองคาราวานที่จะเดินทางจาก ซาอุดิอาระเบีย ไปยัง ดามัสกัส หรือ อียิปต์ และแวะพักค้างคืนในบริเวณนี้ พร้อมชม "ภาพวาดศิลปะแบบ เฟรสโก (FRESCO)” 1 ใน 3 มรดกโลกของประเทศจอร์แดนทางศิลปะ ที่หาดูได้ยากมากในปัจจุบัน เป็นภาพที่เขียนวาดเรื่องราวเกี่ยวกับขั้นตอนการสร้างสถานที่แห่งนี้, การล่าสัตว์, นางรำ ฯลฯ ภายในประกอบไปด้วย ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องอาบน้ำอุ่น, ห้องอบไอน้้ำ และ ห้องนอนพักผ่อน
"ภาพวาดศิลปะแบบ เฟรสโก (FRESCO)” 1 ใน 3 มรดกโลกของประเทศจอร์แดนทางศิลปะ"
จากนั้นเดินทางกันต่อเพื่อไปชม "ป้อมอาซรัก" สร้างขึ้นโดยหินภูเขาไฟสีดำทั้งหมดในสมัยโรมัน ป้อมแห่งนี้ได้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป คือ เป็นศูนย์บัญชาการกองทัพของชาวอาหรับในสมัยนั้น นำโดยนายทหารชาวอังกฤษ ทีอี ลอเรนท์ หรือ ที่ ชาวโลกรู้จักกันในนามของ ลอเรนท์ ออฟ อาระเบียในการทา ศึกสงครามโลกอาหรับ (THE ARAB REVOLT ในระหว่างปี ค.ศ. 1916–1918) เป็นการต่อสู้ของชาวอาหรับที่ต่อต้านการเข้ามารุกราน แผ่นดินของชาวออตโตมัน
"ปราสาทคารานา" สร้างขี้นเพื่อใช้เป็นที่พักของกองคาราวานที่หยุด พักระหว่างการเดินทางภายในประกอบด้วยห้องพักจานวน 61 ห้อง แบ่งเป็น 2 ชั้น และยังมีคอกที่อยู่อาศัย ของม้า และอูฐได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่กรุงอัมมาน
ค่ำ บริการอาหาร ณ ภัตตาคารท้องถิ่น / เดินทางกลับสู่สนามบิน
วันที่เจ็ด
01.00 น. ออกเดินทางกลับสู่ ประเทศไทย ด้วยสายการบิน โรยัลจอร์แดนเนี่ยล เที่ยวบินที่ RJ180 14.25 น. เดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยความสวัสดิภาพ และความประทับใจมิรู้ลืมเลือน
ชมรายละเอียดทริปและจองได้ที่ >> http://trueyou.co.th/privilege/3089968/
เที่ยวต่างประเทศ | 21 พ.ย. 2024 | 38 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 266 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 883 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,192 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 917 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 1,754 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 2,668 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 5,362 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 2,640 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 1,011 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 3,793 อ่าน