0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เที่ยวรัสเซีย ชมสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียนออร์โธดอกซ์

calendar_month 07 พ.ค. 2014 / stylus Admin Chillpainai / visibility 16,265 / เที่ยวต่างประเทศ

 

รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากเดินทางไปเยือนสักครั้ง

ด้วยความสัมพันธ์ของไทยและรัสเซียที่ดีต่อกันมาอย่างยาวนาน

ทำให้ปัจจุบันคนไทยไม่ต้องใช้วีซ่าในการท่องเที่ยวรัสเซียโดยสามารถอยู่ได้เป็นเวลา 30 วัน

วันนี้เราจะพาคุณเดินทางไปชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบรัสเซียนออร์โธดอกซ์

ในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กและเมืองมอสโคว

ตามมากันเลยจ้า

karok_eat

 

เมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก

ประตูเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก

 

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กนั้นสร้างโดยพระเจ้าซาร์ปีเตอร์มหาราช เมื่อ พ.ศ. 2246

โดยตัวเมืองเริ่มสร้างด้วยการถมทรายและหินเป็นจำนวนมาก

เพราะว่าพื้นที่เดิมของเมืองนั้นเป็นดินเลนของทะเล

พระองค์ทรงเลือกที่จะสร้างเมืองที่บริเวณนี้

เพราะว่าตัวเมืองมีทางออกทะเลบอลติกและสามารถติดต่อไปทางยุโรปและประเทศอื่นๆได้ง่าย

เพื่อการปฏิรูปรัสเซียให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรปได้โดยง่าย

ต่อมาเมืองเซนต์ปีเตอร์เบิร์กจึงได้รับสมญานามว่าหน้าต่างแห่งยุโรป

และได้เป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิรัสเซียเป็นเวลา 206 ปี (หลังจากนั้นได้ย้ายเมืองหลวงไปที่มอสโค เมื่อ พ.ศ. 2461)

ชื่อเดิมของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กคือ เปโตรกราด (Petrograd, Петрогра́д, ใช้ในช่วง พ.ศ. 2457-2467)

และ เลนินกราด (Leningrad, Ленингра́д, ใช้ในช่วง พ.ศ. 2467-2534)

อนุสาวรีย์พระเจ้าปีเตอร์มหาราช

 

พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครมาเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กก็ต้องมาเยี่ยมชม

พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ (Peterhof) หรือ เปโตรควาเรสต์ 

สร้างในปี ค.ศ.1705 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราชซึ่งพระองค์ใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับล่าสัตว์ในฤดูร้อน

โดยมีพระราชประสงค์จะให้พระราชวังนี้งดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส

เพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย

โดยที่นี่ได้รวมรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่างๆมากมาย

เพื่อสร้างสิ่งก่อสร้างและสถาปัตยกรรมแบบบาร็อคและนีโอคลาสสิคที่ใช้ประดับประดาห้องหับต่างๆ 

เช่น ห้องบอลรูม ห้องท้องพระโรงที่สวยงามและอลังการ

ศิลปะที่สวยงามภายใน พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ

 

พระราชวังฤดูหนาว (Hermitage)

พระราชวังฤดูหนาว (Hermitage) อาคาร 3 ชั้นขนาดใหญ่ ที่สวยงามอลังการ

ในอดีตที่นี่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระนางอลิซาเบธแต่พระนางสิ้นพระชนม์ก่อนที่จะได้ประทับ

จึงกลายมาเป็นที่ประทับของพระนางแคเธอรีนที่ 2 มหาราชินี

ปัจจุบันที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของสะสมและสมบัติล้ำค่าของพระนางแคเธอรีนที่ 2 มหาราชินี

อาทิ ภาพวาดของลีโอนาโด ดาวินชี

และความสำคัญของที่นี่ต่อประเทศไทยนั้น

ยังเป็นที่รับรองการเสด็จเยือนรัสเซียของรัชกาลที่ 5 

ในการเจริญสัมพันธไมตรีไทย/รัสเซีย

พร้อมทั้งทรงร่วมฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซียอีกด้วย

 

เมืองมอสโคว

จากเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก คุณสามารถนั่งรถไฟนอนเพื่อเดินทางมายังเมืองมอสโคว

ที่นี่มีสถาปัตยกรรมมากมายให้คุณได้ชมไม่มีเบื่อเลยล่ะค่ะ ตามมาชมกันเลยดีกว่า

จัตุรัสแดง 

จัตุรัสแดง เริ่มจากจัตุรัสแดง ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญตั้งอยู่ใจกลางเมืองมอสโคว

เป็นจัตตุรัสที่สวยงามที่สุดในโลกและยังเป็นสถานที่เก็บศพเลนิน

ที่นี่สร้างด้วยหินแกรนิตและหินอ่อนนับล้านชิ้นตอกลงบนพื้นจนกลายเป็นลานหินโมเสก

ทางด้านหน้าของจัตุรัสแดงนั้นเป็นที่ตั้งของกิโลเมตรที่ศูนย์ของรัสเซีย

สังเกตุได้จากที่พื้นถนนจะมีสัญลักษณ์เป็นวงกลม

และภายในวงกลมนี้เองก้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปยืนกลางวงกลมนั้น

และโยนเหรียญข้ามไหล่ตัวเองไปด้านหลังเพื่ออธิษฐานให้ได้กลับมามอสโควอีกครั้ง

มหาวิหารเซนต์บาซิล (St. Basil's Cathedral) 

หนึ่งสถาปัตยกรรมที่กลายเป็นสัยลักษณ์ของกรุงมอสโคว

ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเป็นโดมรูปหัวหอม สีสันสดใส ตั้งตระหง่านสง่างามขนาบข้างด้วยกำแพงเครมลิน

สร้างขึ้นโดยพระเจ้าอีวานที่ 4 เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานในการรบชนะเหนือกองทัพของเมืองมองโกลที่เมืองคาซานในปี พ.ศ.2095

หลังจากถูกปกครองกดขี่มานานหลายร้อยปี

ออกแบบโดยสถาปนิกปอสนิกยาคอฟเลฟ

และด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมจึงทำให้มีเรื่องเล่าสืบต่อกันว่า

พระเจ้าอีวานที่ 4 ทรงพอพระทัยในความงดงามของมหาวิหารแห่งนี้มาก

จึงมีคำสั่งให้ปูนบำเหน็จแก่สถาปนิกด้วยการควักดวงตาทั้งสอง

เพื่อไม่ให้สถาปนิกผู้นั้นสร้างสิ่งที่สวยงามกว่านี้ได้

การกระทำครั้งนั้นจึงเป็นสมญานามของพระเจ้าอีวานที่ 4 ว่า อีวานมหาโหด

 please

วิหารเซ็นต์ เดอซาร์เวียร์

 

วิหารเซ็นต์ เดอซาร์เวียร์ (THE CATHEDRAL OF CHRIST OUR SAVIOUR)

สร้างขึ้นเมื่อ ปี ค.ศ. 1839 ในสมัยพระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 1

เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะและแสดงกตัญญุตาแด่พระเป็นเจ้า

ที่ทรงช่วยปกป้องรัสเซียให้รอดพ้นจากสงครามนโปเลียน

โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 45 ปี

แต่ต่อมา ในปี ค.ศ.1990 สตาลินผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในขณะนั้นได้สั่งให้ทุบโบสถ์ทิ้ง

เพื่อดัดแปลงเป็นสระว่ายน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จนเมื่อปี ค.ศ. 1994 ประธานาธิบดีบอริส เยลซิน ได้อนุมัติให้มีการก่อสร้างวิหารขึ้นมาใหม่

ด้วยเงินบริจาคของคนทั้งประเทศ ซึ่งจำลองของเดิมได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

วิหารนี้จึงกลับมายืนหยัดที่เดิมอีกครั้ง

โดยสร้างเสร็จสมบูรณ์และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2000

ปัจจุบันวิหารนี้ใช้ในการประกอบ พิธีกรรมสำคัญระดับชาติของรัสเซีย 

 

 โบสถ์อัสสัมชัญภายในพระราชวังเครมลิน

ระฆังยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายในพระราชวังเครมลิน

 

ของฝากจากรัสเซียที่ใครมาก็จะต้องซื้อกลับไป

 

การมาเยือนรัสเซียทำให้คุณได้รู้จักประเทศมหาอำนาจนี้เพิ่มมากขึ้น

ศิลปะวัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมต่างๆ ทำให้เราได้รู้สึกทึ่งถึงฝีมือช่างในสมัยก่อน

และนอกจากนั้นการมาเยือนรัสเซีย

ทำให้คุณได้เรียนรู้ถึงประวัติศาตร์ของไทยที่มีสัมพันธไมตรีต่อรัสเวียมาอย่างยาวนา

ลองเดินทางมาดูสักครั้งแล้วคุณจะหลงรักประเทศนี้

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-688-6588

 

เรื่องโดย ค็อปเตอร์ไม้ไผ่

 

 

 

 

 



เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai