รีวิวทัวร์เที่ยวจีน 5 วัน 3 คืน เที่ยวสถานที่ Unseen หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่

เพื่อน ๆ คนไหนกำลังอยากไปเที่ยวจีน และดื่มด่ำกับธรรมชาติสวย ๆ ของประเทศจีน พร้อมเที่ยวหมู่บ้านโบราณสัมผัสวัฒนธรรมจีนกันแบบจุใจ ทั้งจุดชมวิวปัง  ๆ ธรรมชาติที่รายล้อม ที่รอเราไปเยือน บอกเลยว่าเตรียมเมมกล้องไปให้พร้อม เพราะเที่ยวปีนี้มีรูปลงยันปีหน้า ! 

สิ่งที่ควรรู้ควรเตรียมก่อนไปประเทศจีน

1. เราเดินทางไปกับทัวร์การขอ VISA ทางทัวร์จะทำให้หมดเลย    

2. อย่าลืมเช็คอายุ Passport ต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน 

3. ผู้ที่เข้าประเทศจีนต้องลงทะเบียน China Healthy Decare ก่อนไป  และเมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วจะได้ QR code มา และอย่าลืมเซฟเป็นไฟล์รูปเก็บเอาไว้ในมือถือ เพราะเมื่อเจอเจ้าหน้าที่ ตม. และตอนกำลังออกจากประเทศจีนต้อง Scan

4. การใช้จ่ายภายในประเทศจีน แนะนำให้ทำ Alipay สะดวกมาก ๆ แล้วผูกกับบัตร Travel Card เมื่อจะใช้จ่ายก็ยื่นให้ทางร้านสแกนได้เลย หรือใช้บัตร Travel Card อย่าง youtrip ก็ได้เหมือนกัน

5. สกุลในประเทศจีนเรียกเป็นหยวน ซึ่ง 1 หยวน ประมาณ 5.14 บาท แนะนำให้แลกเงินจากที่ไทยก่อนเดินทาง หรือแลกที่สนามบินก็ได้ 

6. Application ที่ควรมีคือ  WeChat คุยได้ทั้งไทย และอังกฤษเลย 

7. เวลาที่จีนห่างจากไทยประมาณ 1 ชั่วโมง

8. ซิมเน็ต เราสามารถใช้ซิมเดินทางต่างประเทศตามเครือข่ายต่าง ๆ ได้เลย อย่าง SIM2Fly ของ  AIS นั้นเอง

วันแรกของการเดินทางไปประเทศจีนครั้งนี้ เราเดินทางไปกับสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบินที่ CA176 เดินทางเวลา 03.20 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงนิด ๆ  และถึงสนามบินหังโจว เวลา 8 โมงเช้า

เมื่อเดินทางถึงหังโจว ก็เตรียมเดินทางไปยังเมือง “อู้หยวน” ตั้งอยู่ที่มณฑลเจียงซี ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมง เมืองอู้หยวนเรียกได้ว่าเป็นเมืองชนบทที่สวยที่สุดในประเทศจีน และยังมีหมู่บ้านโบราณกว่า 50 หมู่บ้าน ซึ่งจะได้ฟิลเมืองแบบสโลว์ไลฟ์ เพราะภายในเมืองอู้หยวนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ล้อมไปด้วยหุบเขา และสายน้ำ แถมสมัยก่อนมีข้อจำกัดการเดินทาง เลยทำให้หมู่บ้านแห่งยังคงถึงความสวยงามของธรรมชาติ และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ให้เราได้เข้าไปสัมผัสกัน

ช่วงบ่ายเราก็เดินทางไปที่ “หมู่บ้านสุ่ยม่อซ่างเหอ” ที่อยู่ในเมืองอู้หยวน มณฑลเจียงซี โดยไฮไลท์เด่น ๆ ของที่นี่เลยก็คือ เป็นหมู่บ้านที่จะตกแต่งให้สไตล์เดียวกันหมด ก็คือสไตล์ฮุยโจว ซึ่งเป็นตัวบ้านสีขาว หลังคาสีดำที่ดูมีความชิค ๆ บอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก 

ช่วงหัวค่ำ เราจะพาทุกคนไปทานอาหารที่ภัตตาคาร และเดินชมแสงสียามค่ำคืนกันที่ “อู้นวี่โจว” พร้อมกับล่องเรือชมแลนด์มาร์ค แห่งใหม่ที่มีการแสดงแสงสีไฟสุด อลังการ ถือเป็นแหล่งเช็คอินใหมที่ตื่นตาตื่นใจแบบสุด ๆ 

พร้อมโชว์แสง สี แสงแบบจัดเต็ม

แล้วในส่วนของที่พักในคืนแรกของนั้นก็คือ Wunuzhou Home Garden Hotel โรงแรมระดับ 4 ดาว ที่ตั้งอยู่ที่อู้นวี่โจว

เติมพลังหลังกันตั้งแต่เช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม พร้อมเตรียมเดินทางสู่ “หมู่บ้านโบราณหวงหลิ่ง” ใช้เวลาเดินทางจากโรงแรมประมาณ 2 ชั่วโมง และพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปขึ้นกระเช้าไปยังหมู่บ้านหวงหลิ่ง ที่นับว่าเป็นอีกหมู่บ้านที่สวยที่สุดในเมืองอู้หยวนเลย แถมหมู่บ้านนี้ยังมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานถึง 580 ปี จากที่เป็นเมืองโบราณที่เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นเมืองร้าง และกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวแวะมาแบบไม่ขาดสายเลย

และภายในหมู่บ้านยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ และพวกคาเฟ่ให้เราได้ไปนั่งดื่มน้ำ ถ่ายรูปเล่นได้แบบชิล ๆ 

พร้อมกับพาทุกคนไปเดินชมวิวเมืองที่ สะพานกระจก ที่เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของหมู่บ้านที่ต้องไปลอง

ช่วงเที่ยงเราจะไปทานอาหารกันที่ภัตตาคาร พร้อมกับเมนูเด็ดอย่าง เมนูเต้าหู้หวงหลิ่ง 

แล้วไปช้อปปิ้งกันที่ “ห้างสรรพสินค้า Wuyue” ที่เป็นที่มีทั้งของฝากท้องถิ่น และช้อปกันได้แบบเต็มที่ 

และช่วงหัวค่ำเราไปจะพาเพื่อน ๆ ไปทาน เป็ดย่างซ่างเหรา เมนูเด็ดที่ภัตตาคาร พร้อมเข้าพักที่ Maison New Century Hotel Shangrao โรงแรมเทียบเท่า 5 ดาวเลย

ตื่นเช้าเติมพลังงานทานข้าวกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแบบบุฟเฟ่ต์

และออกเดินทางไปยังเมือง “เมืองอี้หยาง” เป็นเมืองที่พระนอนอี้หยางที่ปัจจุบันเป็นพระพุทธรูปยาวที่สุดในโลก ซึ่งมีความยาวถึง 416 เมตรจุดสูงสุด คือ 68 เมตร โดยพระนอนองค์นี้มีชื่อว่า “อี้หยางโว่โหว” นั้นเอง

แล้วไปทานอาหารเที่ยงที่ภัตตาคาร เมื่อทานอิ่ม เติมพลังงานกันเรียบร้อยแล้วเราก็ไปต่อกันที่ “หุบเขาเทวดาวั้งซียนกู่” ที่เราสามารถชมบรรยากาศได้ทั้งกลางวัน และกลางคืนเลยนะ เรียกได้ว่าสวยทุกบรรยากาศเลย ซึ่งหุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เต้มไปด้วยขนบธรรมเนียม และประเพณีต่าง ๆ ผสมผสานกันไว้ให้เราได้ไปสัมผัส และเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของหุบเขา ภูเขา น้ำตก และป่าไม้ ที่รายล้อมหมู่บ้านแห่งนี้ไว้อยู่ 

บรรยากาศตอนการคืน เปิดไฟให้ชมเมืองแบบสวย ๆ 

เที่ยวชมความสวยงามเสร็จแล้วเราก็ไปเติมท้องกันที่ร้านอาหารบนหุบเขาเทวดา

พร้อมกลับไปพักผ่อนกันโรงแรมพร้อมตะลุยเที่ยววันสุดท้ายกัน !

มาถึงกับวันสุดท้าย เราจะไปเที่ยวกันที่ “ภูเขาหลิงซาน” หรือเรียกเขาว่า “ภูเขาหวงซานน้อย” ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองซ่างเหรา โดยวิธีการเดินทางไปยังภูเขาหลิงซาน คือการนั่งกระเช้าขึ้นไปนั้นเอง โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที 

พร้อมจุดชมวิวทางธรรมชาติหลายแห่ง ที่มียอดเขาที่ซ้อนทับเรียงรายกันอยู่อย่างสวยงาม บวกกับไฮไลท์ที่ต้องไม่พลาดเลยคือ “กระจกแห่งท้องฟ้า” ที่ใครเป็นสายถ่ายรูปต้องเลิฟเลย เพราะรูปที่ได้จะเป็นเหมือนเรานั่งอยู่บนท้องฟ้า เพราะพื้นที่เป็นกระจกใสสะท้อนกับตัวท้องฟ้านั้นเอง

ตกบ่ายเมื่อเราทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็กลับไปที่เมืองหังโจว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ไปทานข้าวที่ภัตตาคาร พร้อมเตรียมตัวเดินทางกลับไทย โดยสายการบิน AIR CHINA เที่ยวบิน CA715 ในเวลา 22.50 น. พร้อมกลับบ้านแบบฟูลฟิล

เที่ยวจีน 5 วัน  3 คืน เที่ยวจีนสัมผัสธรรมชาติกันแบบจุใจที่หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่ เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวแบบจัดเต็ม เพื่อน ๆ คนไหนที่เป็นสายธรรมชาติ พร้อมเดินไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่จีนต้องไม่พลาดเลย

โทรสอบถามทัวร์เพิ่มเติมได้ที่ :
064 975 0666 : K. ตูน
064 975 0777 : K. กี้
064 975 0888 : K. เจี๊ยบ
064 975 0999 : K. มุก
LINE ID : @Chillpainai >> https://chill.travel/LineChillpainai

Tags: จีน เที่ยวจีน จองทัวร์ ที่เที่ยวจีน หุบเขาเทวดา

เขียนโดย

GIG Chillpainai

แชร์บทความนี้