ทริป 3 วัน 2 คืนเที่ยวอุบลราชธานี ตะลุยกินร้านอร่อย ไหว้พระขอพรวัดดัง

สายมู สายบุญมารวมตัวกันทางนี้ค่าาา เพราะวันนี้เราจะพาไปตะลุยอุบลราชธานี จังหวัดพี่ใหญ่ในภาคอีสานที่มีครับทั้งที่เที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม ความเชื่อ และเรายังพบว่าเป็นจังหวัดที่อาหารอร่อย มีร้านคาเฟ่น่ารัก กาแฟดี ที่พักเริ่ดๆ อยู่มากมาย พร้อมแล้วก็ไปตะลอนออนซอนกันเลยยยย

การเดินทางครั้งนี้เรานั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปยังอุบลราชธานี จากนั้นเมื่อถึงสนามบินอุบลราชธานีกันเล้วก็เลือกใช้บริการเช่ารถเพื่อใช้เดินทางในทริปนี้ค่ะ โดยบริษัทเช่ารถในอุบลราชธานีมีหลายเจ้า สามารถติดต่อรับรถที่สนามบินกันได้เลย ซึ่งสนามบินกับตัวเมืองอุบลราชธานีนั้นใกล้กันมากๆ ค่ะ ใครที่เช่ารถขับก็สะดวกสบาย

โดยจุดแรกที่เรามาถึงปักหมุดร้านอาหารเพื่อเติมพลังในยามเช้ากันก่อนเลย ร้านแรกที่มาทานก็คือร้านอินโดจีน ร้านอาหารเวียดนามชื่อดังในเมืองอุบลราชธานีที่อยู่คู่เมืองอุบลมากว่า 50 ปีตัวร้านบรรยากาศเรโทรได้ใจมากๆ โดยจะเป็นห้องแถวบานประตูเฟี้ยม ส่วนถัดไปอีกคูหาจะเป็นโซนของร้านที่ตกแต่งสไตล์ไทยมีความไพรเวต นอกจากนี้ยังมีโซนห้องแอร์ด้านในให้บริการด้วย 

อร่อยแค่ไหนการันตีได้จากสัญลักษณ์มิชลินบิบกูร์มองต์ปี 2023 ซึ่งเมนูที่เราสั่งมาในวันนี้ อาทิ แหนมเนืองซึ่งทางร้านใช้หมูล้วนพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน ก๊วยจั๊บญวณ เฝอหมูยอ ขนมถ้วยญวณ ขนมครกญวน ขนมเบื้องญวณใครมาเที่ยวเมืองอุบลก็มาทานกันได้เลย

ที่ตั้ง : 168 ถ.สรรพสิทธิประสงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เปิดบริการ : ทุกวัน 09.00 - 21.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 045 245 584
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/91WY84gUApFAtg9h8

อิ่มท้องแล้วแต่ยังง่วงอยู่เลยขอไปจัดกาแฟเด็ดๆ ในเมืองอุบลฯ กันต่อที่ร้าน LAVA JAVA Coffee Roasters คาเฟ่บรรยากาศสุดเท่ที่ตั้งอยู่บนถนนพิชิตรังสรรค์ ในตัวเมืองอุบลราชธานี ตัวร้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์สุดเก๋ ได้ฟีลโมเดิร์นมินิมอลมีมุมเท่ๆ อย่างต้นตีนตุ๊กแกที่เลื้อยอยู่บนตัวอาคารด้านนอกร้านให้ถ่ายรูปกันด้วย

 ส่วนเมนูกาแฟของที่นี่บอกเลยว่าดีจัดเพราะทางร้านใช้กาแฟเฮาส์เบลนด์ที่ทางร้านเบลนด์เองมีให้เลือกทั้ง Brazil Blend, Columbia Blend และ Dark Blend สามารถเลือกทานได้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่จะมีตัว House Blend ที่เป็นเมล็ด Ethiopia - Brazil - Columbia - Thailand ที่ต้องเสียเพิ่ม 25 บาท นอกจากนี้ยังมีเมล็ด Single Origin อาทิ Ethiopia, Coata Rica และ Columbia ให้เลือกทานเพิ่มเงินเพียง 35 บาทเท่านั้นเรียกว่าราคาดีงามมากๆ นอกจากนี้ยังมีขนมและอาหารที่อร่อยไม้แพ้กันให้เลือกทานกันด้วยนะ

ที่ตั้ง : 122 ถนนพิชิตรังสรรค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 
เปิดบริการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 7.00 - 17.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ 8.00 - 17.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 094-256-8998
เฟ้สบุ้ค : https://www.facebook.com/profile.php?id=100083037742242
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/NeQU6KR3ku6BEQKK6

จากนั้นเดินทางไปไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยที่วัดพระธาตุหนองบัวหนึ่งในวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดอุบล ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2498 และในปี 2500 ได้มีการสร้างพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ หรือ พระธาตุหนองบัว ขึ้นมาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนา  โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ประเทศอินเดีย 

ภายในพระธาตุประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุอยู่ในสถูปลงรักปิดทอง สลักเรื่องราวพระพุทธเจ้า 500 ชาติ


ด้านนอกมีรูปปั้น พญานาค 2 องค์ขนาดใหญ่คือ ท่านปู่กริชกรกต และท่านย่ามณีเกตุให้เหล่าสายมูได้สักการะบูชากันอีกด้วย ใครที่ไปอุบลราชธานี ก็ห้ามพลาดเดินทางไปสักการะกันได้เลย

ที่ตั้ง : ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/5sMptrv5pQmwD1Ck9

จากนั้นเดินทางเข้าที่พักซึ่งคืนนี้เราพักที่ De Lit (โรงแรม เดอ ลีท) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดพระธาตุหนองบัวค่ะ จากวัดเดินทางไปยังที่พักประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ตัวที่พักตกแต่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนใช้โทนสีฟ้าขาว มีให้บริการทั้งหมด 3 ชั้นทุกชั้นเข้าถึงด้วยบันได ห้องพักมีให้เลือก 3 รูปแบบ อาทิ Standard King room, Deluxe King room และ Deluxe pool access 

ซึ่งครั้งนี้เราเลือกห้องพักแบบดีลักซ์ค่ะ ราคา 1,650 บาท/คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 คน ห้องกว้างตกแต่งน่ารักน่านอนมากๆ ค่า ภายให้องมีตู้เย็น เครื่องทำน้ำร้อน พร้อมกาแฟ น้ำเปล่า ทีวี และไดร์เป่าผมให้บริการ ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบชาวเวอร์แยกส่วนเปียกและแห้ง มีสบู่ แชมพูให้บริการพร้อมกันเลยค่ะ 

บริเวณด้านล่างของที่พักมีให้บริการร้านอาหารและคาเฟ่ที่ชื่อ Ealit ตกแต่งสไตล์สไตล์นูเบียน เสิร์ฟอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ที่ทางร้านทำเอง ให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่ม โดยในช่วงตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจะเสิร์ฟอาหารอิตาเลี่ยน พาสต้า พร้อมกับบาร์ค็อกเทลให้นั่งจิบเครื่องดื่มทานอาหารชิลๆ ในยามค่ำคืน ร้านเปิดให้บริการทั้งลูกค้าที่เข้าพักและลูกค้าภายนอกสามารถมาสั่งอาหารทานได้ค่ะ 

บรรยากาศยามค่ำคืนก็สวยงามประทับใจมากๆ ค่า เย็นนี้หลังจากที่เราเช็คอินเก็บกระเป๋าเข้าห้องแล้วก็ขับรถออกไปทานอาหารข้างนอก มาจังหวัดพี่ใหญ่ภาคอีสานทั้งทีเลยหาร้านลาบแซ่บๆ ทานกัน โดยที่พักแนะนำว่ามีร้านลาบอร่อยใกล้ๆ ชื่อว่าร้านลาบเป็ดคนลือเราเลยขับรถไปทานกันเลย

ซึ่งจากที่พักขับรถไปประมาณ 12 นาทีเท่านั้นเป็นสาขาโนนหงษ์ทอง ตั้งอยู่ติดกับถนนเลี่ยงเมืองอุบลราชธานีค่ะ มีที่จอดรถด้านหน้าเยอะค่อนข้างเยอะ ตัวร้านเป็นแบบเปิดโล่งมีดนตรีสดให้ฟังด้วยนะ 

 เมนูแนะนำก็ต้องนี่เลยลาบเป็ดรสชาติจัดจ้าน นอกจากนั้นยังมีเมนูส้มตำ แหนมซี่โครงหมู ยำ ต้มยำ เมนูปลา ให้ได้เลือกทานในราคาเริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น

ที่ตั้ง : ตำบลไร่น้อย อำเภอเมือง จ.อุบลราชธานี
เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00-23.00 น.
เบอร์ติดต่อ :  045958544
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/9e8myHWAHHR4KQem9

อิ่มแล้วก็เตรียมตัวเดินทางกลับที่พักเพราะพรุ่งนี้เรามีแพลนตื่นเช้าเพื่อเดินทางไปยังผาแต้มกันแต่เช้าค่า

เช้าวันที่สองเตรียมเก็บกระเป๋าเพื่อเช็คเอาท์และเติมพลังด้วยอาหารเช้าของที่พักก่อนออกเดินทางไปยังผาแต้ม ซึ่งประทับใจกับอาหารเช้าของที่นี่มากๆ ค่ะ อย่างแรกห้องอาหารที่จัดออกมาเหมือนว่าเรากำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ หรือในบ้านของคนยุโรปเลยค่ะ บรรยากาศมันอบอุ่นเหมือนกำลังมีคุณแม่ชาวยุโรปทำอาหารให้ทาน 

ส่วนอาหารของที่นี่เขาจะเป็นเซ็ตค่ะ มีให้เลือกทั้งเฝอ ขนมปังฝั่งเศส ปากหม้อญวณ ไข่กระทะ ข้าวจี่หมูทอด และอเมริกันเบรคฟาสต์ 

นอกจากนี้ยังมีมุมมินิบุฟเฟต์ที่ให้บริการขนมปัง ชา กาแฟ น้ำผลไม้ให้ตักได้ไม่อั้นอีกด้วย 

ที่ตั้ง : 51 ซอยชยางกูร 22 ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
ราคา : ราคา 1,250 - 2,500 บาท 
โทร : 098-2799476
GPS : https://goo.gl/maps/z8WGMnqPGgvBPVPx9
FB : de Lit

จากนั้นก็ขับรถมุ่งหน้ามายังอุทยานแห่งชาติผาแต้มกันค่ะ โดยใช้เวลาขับรถมาประมาณ 1 ชั่วโมง แนะนำว่ารีบออกเช้าๆ จะได้ไม่ร้อน มาถึงเราก็ไปถ่ายรูปกันตรงจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงและฝั่งลาวได้ด้วยค่ะ ส่วนใครอยากมาชมพระอาทิตย์ขึ้นก็แนะนำออกจากที่พักสักตี 4 ครึ่งก็จะมาทันชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย ซึ่งที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย

จากนั้นก็ไปเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติเพื่อไปชมภาพเขียนสีโบราณอายุราว 3,000-4,000 ปี โดยเส้นทางจะมีระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตรเป็นรูปวงกลม ทางเดินเดินสบายค่ะโดยจะเป็นทางเดินเลียบหน้าผา อากาศเย็นสบาย ปกคลุมไปด้วยต้นไม้มากมาย

จุดถ่ายรูปสุดอันซีนจะอยู่บริเวณทางแยกที่จะไปเดินลงไปชมภาพเขียนสีค่ะ ภาพเขียนสีจะเดินลงไปทางแยกขวา แต่จุดนี้จะเดินมาทางซ้าย เดินไปนิดเดียวจากจุดเริ่มต้นไม่ไกลค่ะ เราก็จะพบกับวิวแบบนี้แล้ว ใครไปไม่ถูกสามารถถามเจ้าหน้าอุทยานฯ ได้ว่าอยากไปถ่ายมุมนี้ให้เขาช่วยบอกทางให้

ซึ่งเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติจะมีภาพเขียนสีโบราณให้เราได้ชม 4 จุด แต่ทริปนี้เราเดินไปชมแค่ 2 จุดคือ บริเวณผาขามภาพเขียนสีกลุ่มที่ ซึ่งเป็นภาพปลาขนาดใหญ่จำนวน 4 ตัว ภาพช้าง 1 เชือกและรูปโครงร่างสัตว์สี่เท้า 1 ตัว และภาพเขียนกลุ่มที่ 2 ภาพเขียนสีขนาดใหญ่เป็นภาพต่อเนื่องกันยาว 180 เมตร โดยเป็นภาพคน ช้าง เต่า ปลากระเบนน้ำจืด ปลาบึก เครื่องมือจับปลาของชาวอีสานที่เรียกว่าตุ้มและภาพฝ่ามือคน 

ครั้งแรกที่มาได้ชมบอกเลยว่าทึ่งมากๆ เพราะแม้จะผ่านเวลามานับพันปี ภาพเขียนสีเหล่านี้ยังมีสีสันที่ชัดเจน ทำให้เราได้ศึกษาวิถีชีวิตคนโบราณในอดีตได้อย่างเข้าใจมากขึ้น

ทางเดินสบายและบรรยากาศร่มรื่นไม่ร้อนเลยค่ะ

บริเวณที่ทำการอุทยานมีการจัดแสดงเรื่องราวของอุทยานแห่งชาติผาแต้มและเรื่องราวของภาพเขียนสีโบราณให้เราได้ชมฟรีกันด้วย

มีร้านค้าของอุทยานจำหน่ายกาแฟ เครื่องดื่มและขนม สามารถนั่งจิบเครื่องดื่มชมวิวปังๆ แบบนี้ได้เลย

ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ต.โพธิ์กลาง อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี 
เปิด :  06.00 น. - 18.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 0-4525-2581
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/vP7CCY54iwDvGsP38

จากอุทยานแห่งชาติผาแต้มเราก็เดินทางไปสู่จุดหมายที่ 2 เอาใจสายมูกันบ้างกับวัดภูยอดรวยที่มีไฮไลท์คือองค์นาคราชองค์สีดำ ที่เป็นที่เลื่อมใสและศรัทธาของชาวบ้านและเหล่านักท่องเที่ยว โดยการเดินทางจากอุทยานแห่งชาติผาแต้มใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงคครึ่งค่ะ ซึ่งเส้นทางเข้าวัดค่อนข้างขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อและทางค่อนข้างแคบยิ่งในช่วงหน้าฝนอาจจะเกิดน้ำขังบางจุดดังนั้นควรขับรถด้วยความระมัดระวังกันนะคะ

พอมาถึงก็ไปกราบสักการะพระพุทธรูปสีขาวกันก่อน ซึ่งวัดภูยอดรวยนั้นเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อยอดรวย 108 พระองค์ เจดีย์พระพุทธเจ้า 28 พระองค์ ซึ่งจะเป็นเจดีย์สีขาวเรียงรายอยู่บริเวณด้านบน ในส่วนที่เราเดินเข้ามาจะอยู่บริเวณด้านล่างโดยมีลักษณะเป็นแอ่งหินทราย มีพญานาคสีดำขนาดใหญ่รูปร่างน่าเกรมขามให้ประชาชนสามารถเดินเข้าไปสักการะบูชาและขอพรกันได้

โดยการบูชาองค์พญานาคจะใช้บายสีที่ทางวัดจัดให้หรือเราสามารถเตรียมมาจากที่บ้านได้ ส่วนใครที่ขอพรแล้วประสบความสำเร็จก็จะมีการมารำบวงสรวงกันตลอดเวลาค่ะ 

ด้านบนที่เต็มไปด้วยเจดย์สีขาวที่เรียงรายมากมายโดยมีทางเดินจากด้านล่างสามารถเดินขึ้นไปด้านบนได้

ที่ตั้ง : อำเภอศรีเมืองใหม่ อุบลราชธานี 
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/MexQ7Q3L84YQAKRP9

จากนั้นขับรถตรงเข้าเมืองอุบลราชธานีเพื่อเดินทางมาทานอาหารกันที่ร้านหมก หนึ่งในร้านอร่อยของอุบลราชธานีการันตีด้วยสัญลักษณ์มิชลินบิบกูร์มองต์ 2023 ซึ่งร้านนี้เปิดมา 4 ปีแล้วค่ะ เจ้าของร้านคือป้าเชฟ ศิโรรัตน์ เถาว์โท ที่สร้างสรรค์อาหารอร่อยแถมยังน่ารักเป็นกันเองอีกด้วย

ตัวร้านจะมีโซนด้านหน้าที่ตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัยมีความเก๋ด้วยการเพ้นท์ชื่อร้านและคำอธิบายร้านอยู๋บนฝาผนังปูนเปลือยของร้าน นอกจากนี้ยังมีที่นั่งด้านในที่เป็นเหมือนบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่นพร้อมกันนั้นยังมีห้องส่วนตัวให้นั่งด้วยค่ะ 

ซึ่งที่มาของร้านนี้มาจากป้าเชฟ เชฟผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมาอย่างยาวนาน และตัดสินใจกลับมาเปิดร้านอาหารที่บ้าน โดยความตั้งใจแรกคืออยากทำร้านสไตล์เชฟเทเบิล แต่ด้วยความที่อาหารสไตล์เชฟเทเบิลไม่สามารถทานได้ทุกวันก็เลยเป็นสไตล์โฮมคุกกิ้งที่คัดเลือกวัตถุดิบที่ดี จากทั้งในอุบลราชธานีและทั่วประเทศนำมาปรุงเป็นเมนูสุดอร่อยทานง่ายและทานได้ทุกวันเหมือนคุณแม่ทำให้ลูกทาน มีทั้งอาหารไทย อาหารอีสาน และอาหารฟิวชั่นที่มีกลิ่นอายความเป็นอีสานผสมผสานกับอาหารสไตล์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว แต่ในส่วนเชฟเทเบิลทางร้านก็มีให้บริการนะคะโดยจะต้องจองล่วงหน้าค่ะ ป้าเชฟบอกว่ามาคนเดียวทางร้านก็สามารถจัดเชฟเทเบิลให้ได้

สำหรับเมนูที่เราสั่งมาในวันนี้ เริ่มต้นด้วยน้ำพริกหยำโจร (350 บาท) อาหารใต้ที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยวของป้าเชฟ โดยใช้กุ้งจากอำเภอระโนด จ.สงขลาทานกับผักเคียงที่เรียงมาในจานอย่างสวยงามตัวน้ำพริกรสชาติเข้มข้นทานกับข้าวสวยซึ่งเป็นข้าวหุงดอกอัญชันของร้านอร่อยมากๆ เลยค่ะ

ต่อด้วย ปลาหมึกย่าง(450 บาท) ที่ทางร้านใช้หมึกของแบรนด์หมึกมานะ อาหารทะเลไร้สารเคมี ส่งตรงจากชาวประมงพื้นบ้านคลองวาฬ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รสชาติสดหวาน เนื้อเด้งมากๆ ค่ะทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ทางร้านใช้พริกขี้หนูสวนจากบ้านหัวเรืออุบลราชธานีนำมาโขลกกับเครื่องเทศ ปรุงรสด้วยมะนาวสดที่ทางร้านปลูกเอง รสเผ็ดเปรี้ยวกำลังดีทานกับหมึกย่างหอมๆ อร่อยสุดๆ

อีกเมนูที่เราชอบมากๆ กับ พะโล้ไข่เค็ม (250 บาท) ซึ่งเมนูนี้ใช้ไข่เป็ดที่คุณพ่อของป้าเชฟเลี้ยงเองนำมาทำไข่เค็ม แล้วเอามาทำเป็นไข่พะโล้ ตัวไข่ไม่เค็มมากค่ะ ไข่แดงเป็นยางมะตูมเนื้อหนึบมัน เวลานำมาต้มเป็นไข่พะโล้ตัวน้ำพะโล้ที่ออกหวานๆเค็มๆ จะเข้าไปในตัวไข่อร่อยสุดๆ เพิ่มความอร่อยด้วยไข่นกกระทาอีกจานนี้ยกนิ้วให้เลยว่าสุดๆ ไปเลย

ซดร้อนๆ กับเมนูต้มส้มมะขามปลากระพง(550 บาท)ที่ใช้ปลากระพงจากจังหวัดตราด นำมาต้มส้มใส่มะขามเปียก ใส่ผักแขยง หอมเครื่องเทศอร่อยมากๆ

ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งชาดอกบัวลิ้นจี่(95 บาท) รสชาติหอมชื่นใจ, มะม่วงหวานมะกรูดซ่า(95 บาท) ได้รสชาติความหวานเปรี้ยวของมะม่วง และใช้มะกรูดที่ป้าปลูกหน้าบ้านชื่นใจมากๆ ค่ะ, 3 หอม(95 บาท) เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของลำใย ตะไคร้ ใบเตย หวานหอมอร่อยชื่นใจ ปิดท้ายด้วย Blue Summer Kisses(220 บาท)ค็อกเทลสีฟ้าสดใสที่ใช้ไวท์รัมของซอดแจ้งอร่อยชื่นใจมากๆ ค่ะ

ปิดท้ายด้วยขนมไทยอย่างเปียกข้าวเม่ากับไอศกรีมกะทิสด(149 บาท) โดยใช้ข้าวเม่าจากอำเภอตระการพืชผลของจังหวัดอุบลราชธานี และใช้ COCONUT RUM ของแบรนด์ซอดแจ้งสุราชุมชนของจังหวัดอุบลราชธานีนำมาปรุงเป็นขนมสุดอร่อย มาเติมความหวานต่อกับวุ้นลูกตาลเมนูขนมชื่อดังของเมืองอุบลราชธานีโดยนำลูกตาลสดมานวดกับน้ำปูนใสทานกับน้ำกะทิหอมหวาน มันอร่อยมากๆ

นอกจากนี้ยังมีไอศกรีม MUG ไอศกรีมโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง ที่มาเริ่มจากทำเสิร์ฟในเชฟเทเบิลแล้วลูกค้าชอบมากๆ เลยทำรสชาติให้เลือกทานหลายรสด้วยกัน มีทั้ง รสลาบเทา บักม่วงกระบก ก้อยบักโม ข้าวหมากยาคลู เหล้าอู และรสช็อคโกแลตไทยจากอำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ถ้วยละ 79 บาทเท่านั้น บอกเลยว่าแต่ละรสคุณจะไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนแน่นอนค่ะ อย่างเช่น รสลาบเทาที่นำเทาหรือสาหร่ายน้ำจืดของภาคอีสานนำมาทำเป็นไอศกรีมโรยด้วยผงปลาร้า รสชาติจะเป็นอย่างไรต้องมาลองเองค่ะแต่รับรองว่าจะติดใจแน่นอน

ที่ตั้ง : 115 ถนนพรหมราช อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 
เปิดบริการ : วันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 14.30 น. และ 17.00 - 22.00 น.(หยุดวันจันทร์และวันอังคาร)
เบอร์ติดต่อ : 096-740-9616
เฟ้สบุ้ค : https://web.facebook.com/mok113myauntykitchen
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/yWkJ7uF2jYE7MXP87?g_st=ic

อิ่มแล้วก็เข้าที่พักไปดช็คอินสำหรับคืนนี้เราพักกันที่ YUU HOTEL & Cafe' ยูโฮเทล แอนด์ คาเฟ่ อุบลราชธานี เป็นที่พักใจกลางเมืองอุบลราชธานีกันเลยค่ะ ทำเลดีใกล้ที่กิน ร้านอาหารอร่อยมากๆ ช่วงเช้าจะมีพระมาเดินบิณฑบาตหน้าที่พักด้วย โดยสามารถซื้อของใส่บาตรจากที่พักได้เลย  

ภายในที่พักยังเปิดเป็นคาเฟ่ที่ชื่อว่า Yuu Cafe อีกด้วยค่ะให้บริการเครื่องดื่มและขนมโดยเฉพาะเมนทาร์ตไข่ของร้านนี้บอกเลยว่าดีงามมากๆ เพราะเป็นสูตรจากโปรตุเกส ใครที่ไม่ได้เข้าพักก็สามารถมาใช้บริการได้เลยค่ะ ตกแต่งสวยทุกมุม ถ้าเป็นลูกค้าคาเฟ่จะสามารถจอดรถบริเวณด้านหน้าร้านได้ ส่วนลูกค้าห้องพักมีลานจอดรถด้านหลังที่พักให้บริการ

หลังจากเช็คอินกันแล้วก็เข้ามาถ่ายรูปภายในห้องกันเลย แค่เปิดประตูก็ร้องว้าวกันแล้วเพราะห้องตกแต่งสวยตาแตกมากๆ โดยห้องที่เราจองมาคือห้อง 𝗔𝗿𝘁 𝗘𝘅𝗲𝗰𝘂𝘁𝗶𝘃𝗲 𝗥𝗼𝗼𝗺 ขนาดห้อง 28 ตารางเมตร การตกแต่งสไตล์ 𝐌𝐚𝐱𝐢𝐦𝐚𝐥 𝐈𝐧𝐭𝐞𝐫𝐢𝐨𝐫 สวยทุกมุมกันเลยค่ะ

มีโซฟาและที่วาดรูปได้ฟีลห้องพักของศิลปินเก๋ๆ จะนั่งเท่นั่งเพ้นท์ภาพ หรืออยากจะนั่งวาดรูปจริงๆ ก็ได้เลย

สิ่งอำนวยความาสะดวกภายในห้องก็มากมายค่ะ อาทิ Smart TV พร้อมด้วย Netflix โต๊ะทำงาน อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ตู้เซฟนิรภัย เครื่องทำน้ำอุ่น ห้องน้ำอุปกรณ์ครบครัน

ห้องน้ำจะเป็นแบบชาวเวอร์และเรนชาวเวอร์แยกส่วนเปียกและแห้ง พร้อมกับเครื่องทำน้ำอุ่น

เมื่อเก็บของ เก็บภาพกันจนพอใจแล้วเราก็ไปเดินเล่นหาของกินอร่อยยามเย็นกันที่ถนนคนเดินริมมูลค่ะ บอกเลยว่าเป็นถนนคนเดินที่สนุกมากๆ บรรยากาศดีเพราะตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลเลย ของกิน ของใช้ เสื้อผ้าของฝากมีให้เดินตลอดสองล็อกของร้านค้า สามารถเดินไปสุดทางล็อกที่ 1 และเดินวนกลับมาชมของต่อล็อกที่ 2 ได้ด้วยระยะทางไปกลับก็เกือบๆ 1 กิโลกันเลยทีเดียวค่ะ

ใครอยากนั่งทานก็มีที่นั่งริมน้ำเป็นโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ ให้สามารถซื้อของมานั่งทานริมน้ำมูลชิลๆ กันได้เลย

ข้าวจี่ร้านนี้คือดีงามมากๆ อร่อยสุดๆ 

ไข่ข้าวก็มีนะ มีให้เลือกทั้งแบบยังไม่มีตัว และแบบมีตัว 

ซึ่งถนนคนเดินริมมูลจะมีให้เดินทุกวันศุกร์ - วันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นไปจนถึง 4 ทุ่มกันเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีดนตรีสดเพราะๆ ให้เราฟังอีกด้วย คืนนี้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มเอมหัวใจ ก่อนจะเตรียมโบกมือลาเมืองอุบลราชธานในวันพรุ่งนี้

ที่ตั้ง : สามแยกถนนพนม ตำบลในเมือง อำเภอเมือง อุบลราชธานี 
เปิด : วันศุกร์ - วันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 17.00 - 22.00 น.
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/CFbS6k3diGMPHp356

เช้าวันสุดท้ายของทริปอุบลแล้วค่ะ วันนี้เราตื่นมาเตรียมเช็คเอาท์และทานอาหารเช้าของที่พัก โดยร้านอาหารจะอยู่บริเวณชั้นล่างค่ะ ติดกับล็อบบี้ ตัวห้องอาหารก็ตกแต่งสวยคุมธีมได้ดีมากๆ 

สำหรับอาหารเช้าของที่นี่เขาจะมีบริการเป็นทั้งแบบบุฟเฟ่ต์โดยเป็นเมนูสลัด ผลไม้ โยเกิร์ต นม ซีเรียล แยมโฮมเมด ปาท่องโก๋ น้ำเต้าหู้ น้ำผลไม้ ชา กาแฟ และขนมไทย

 นอกจากนี้ยังมีเซ็ตเมนูที่ให้เราสั่งมาทานโดยจะมีเมนูให้เลือกมากมายเลยค่ะ มีทั้งก๋วยจั๊บญวน อเมริกันเบรคฟาสต์ ข้าวต้มทรงเครื่อง แต่ที่เราชอบที่สุดคือเซ็ตนี้เลยค่ะข้าวต้มกุ๊ย ที่เสิร์ฟมาในเข่งแบบติ่มซำ มีทั้งกานาฉ่าย กุนเชียง หมูยอ เต้าหู้ยี้ ผักดองบอกเลยว่าอร่อยมากๆ 

หลังจากเช็คเอาท์แล้วยังมีเวลาก่อนจะไปสนามบินเพราะไฟลท์กลับของเราวันนี้ในช่วงค่ำค่ะ เลยมีเวลาเที่ยวอุบลอีกหนึ่งวัน ที่แรกปักหมุดร้านมัทฉะที่ได้ฟีลญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น เหมือนหลุดมาจากเมืองเกียวโตประเทศญี่ปุ่นกันเลยกับร้าน Luk6 Cafe

ตัวร้านขนาดไม่ใหญ่มาก ใช้อาคารหลังเล็กตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ กรุกระจกใสจากด้านในสามารถมองเห็นความเขียวขจีของสวนด้านนอกได้ อีกทั้งยังใช้ม่านโปร่งแสงสีขาวทำให้บรรยากาศสบายตา มีที่นั่งทั้งเคาน์เตอร์บาร์ที่สามารถนั่งไปและชมวิธีการชงชาเขียวไปด้วยได้

จุดเด่นคือคาเฟ่ชาเขียวที่ใช้ชาเขียวนำเข้าจากต่างประเทศ 5 สายพันธุ์ นำมาตีกับน้ำและตีกับนม ได้มัทฉะรสชาติเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีเมนูมัทฉะที่ไปมิกซ์กับฮันนี่เลม่อนโซดาให้ความสดชื่น นำไปเพิ่มความหวานด้วยซอสสตอเบอร์รี่ หรือทำเป็นเมนูอัลโฟกาโตแทนช็อตกาแฟที่บอกเลยว่าโดนใจคนรักมัทฉะแน่นอน

ที่ตั้ง : 2 21 ซอยชยางกูร 23 อ.เมือง จ.อุบลราชธานี 
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 9.00 - 18.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 083-289-4629
เฟ้สบุ้ค : https://www.facebook.com/Luk6bar/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/7RyvXyu8TJdyLax3A

จากนั้นเดินทางไปไหว้พระเอาฤฏษ์เอาชัยก่อนกลับที่ วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ อีกหนึ่งวัดสวยคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดเก่าแก่ก่อตั้งในปีพ.ศ. 2322 และยกฐานะพระอารามหลวงเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2521

 ภายในวัดประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานีซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่งดงามและศักดิ์สิทธิ์มากๆ ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถลวดลายปูนปั้นหลังคากระเบื้องเคลือบมุก ใครมาอุบลราชธานีก็แวะมาสักการะกันได้เลยค่ะ

ที่ตั้ง : ถนนหลวง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/GBEUHZPFSVzLoSU68

ก่อนจะเดินทางไปสนามบินเราแวะไปซื้อของฝากจากเมืองอุบลราชธานีกลับบ้านที่ร้านหมูยอแม่ฮาย 1 สาขาในเมือง (ติดเซเว่น) มีของฝากมากมายให้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็น หมูยอ แหนมซี่โครง ไส้กรอก ก๋วยจั๊บ กุนเชียง หมูหยอง หมูฝอย หมูเค็ม หมูสวรรค์ และอื่นๆ อีกมากมาย

ที่ตั้ง :  ร้านหมูยอแม่ฮาย1 สาขาในเมือง (ติดเซเว่น)ตั้งอยู่ถนนพโลชัย สังเกตง่ายๆอยู่ติดเซเว่นมุมสี่แยก
เปิด : 3.00 - 20.00
เบอร์ติดต่อ : 089-722-6099
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/7ZXehrSZkWjtRUW77

ระหว่างที่เดินทางไปสนามบินเราก็ยังไม่พลาดหาร้านคาเฟ่น่ารักใกล้ๆ สนามบินนั่งชิลทานขนมจิบกาแฟก่อนเครื่องขึ้น ซึ่งไปสะดุดตากับร้านนี้ค่ะ 115 Bakehouse x Coffee Bar ซึ่งตั้งห่างจากสนามบินเพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น เลยปักหมุดมากันเลย มาถึงร้านก็ร้องว้าวกับการตกแต่งที่เก๋ไก๋ด้วยอาคารสไตล์โมเดิร์นมินิมอลสีขาวทรงกล่อง กรุกระจกทรงสามเหลี่ยมถ่ายออกมาเท่บาดตาสุดๆ 

และยิ่งมาชิมกาแฟของร้านและพูกคุยกับเจ้าของร้านก็ยิ่งประทับใจค่ะเพราะเขาใช้กาแฟนำเข้าจากโรงคั่วของประเทศออสเตรเลียพร้อมกับมีขนมมีครัวซ็องที่ทางร้านทำเองให้เลือกทานมากมาย ซึ่งที่มาของร้านนี้เริ่มจากเจ้าของร้านที่เคยเป็นบาริสต้าและเชฟอยู่ประเทศออสเตรเลียแล้วซึมซับวัฒนธรรมการทานกาแฟที่ออสเตรเลีย พอตัดสินใจกลับมาเปิดร้านที่ไทยจึงนำความหลากหลายและคุณภาพของกาแฟที่ออสเตรเลียมาให้คอนักดื่มชาวไทยได้ลองชิมกัน 

โดยกาแฟที่นำมาจะเป็นกาแฟจากหลากหลายโรงคั่วที่เมืองซิดนีย์ นิวเซาท์เวลส์ และเมลเบิร์น มีให้เลือกทานทั้งแบบสโลว์บาร์ และสปีดบาร์ ซึ่งสโลว์บาร์จะเป็นเมล็ดออสเตรเลียหมุนเวียนให้คอกาแฟได้มาลองทาน ในส่วนเมนูขนมของทางร้านที่เป็นไฮไลท์คือเมนูครัวซ็องที่มีให้เลือกถึง 16 เมนูราคาอยู่ที่ประมาณ 70-95 บาท/ชิ้น โดยจะหมุนเวียนไปในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีเมนูไฮไลท์ที่ห้ามพลาดอย่างเค้กแตงโม ได้เนื้อแตงโมหวานฉ่ำ อร่อยมากๆ

ที่ตั้ง : ต.ไร่น้อย อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 8.00 - 17.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 090-285-5178
เฟ้สบุ้ค : https://www.facebook.com/profile.php?id=100064105870375
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/6XdGrBTLAca5oa4v7

และแล้วก็ถึงเวลาเมืองอุบลราชธานีกันแล้วค่ะ บอกเลยว่า 3 วัน 2 คืนสำหรับจังหวัดอุบลนั้นเป็นช่วงเวลาที่สนุกและประทับใจมากๆ แม้ความจริงอุบลยังมีที่เที่ยวๆ อื่นๆ ร้านอร่อยอีกมากมายที่รอเราไปสัมผัส ใครมีเวลาเที่ยวสั้นๆ ก็ลองนำทริปนี้ไปปรับใจกันได้เลยนะคะ ส่วนใครที่อยากให้เราไปรีวิวเส้นทางอื่นๆ ในอุบลราชธานีก็รอกันได้เลย รับรองว่าทริปหน้าถ้าได้ไปอีกครั้งเราจะพาไปเที่ยวเส้นทางสวยๆ อันซีนอีกมากมายในอุบลราชธานีมาให้เพื่อนๆได้ตามรอยไปเที่ยวกันค่ะ

Tags: อุบลราชธานี เที่ยวอุบลราชธานี ที่เที่ยวอุบลราชธานี ร้านอาหารอุบลราชธานี ที่พักอุบลราชธานี ที่กินอุบลราชธานี คาเฟ่อุบลราชธานี

เขียนโดย

นางสาวฮานะ ชิลไปไหน

แชร์บทความนี้