ทริปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน เช็คอินที่เที่ยวสุดฮิต นอนชิลท่ามกลางธรรมชาติ

ใครที่เหนื่อยๆ ต้องการหาที่พักผ่อนใกล้กรุงเทพ ต้องที่นี่เลย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดที่มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาก พร้อมกับคาเฟ่ร้านอาหารอีกเพียบ นอกจากนี้ยังเดินทางสะดวกด้วยนะ วันนี้ชิลไปไหนนำทริปตัวอย่าง 2 วัน 1 คืน ที่จังหวัดกาญจนบุรี มาฝากเพื่อนๆ ใครที่กำลังหาที่เที่ยวอยู่สามารถนำไปปรับใช้ได้เลยน้าา แต่ว่าจะมีที่ไหนให้เพื่อนๆได้ไปเช็คอินบ้าง ไปดูกันเลย

DAY 1   

ทริปนี้เราเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าเพื่อไปจุดหมายแรกของเรา Skywalk กาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อมาถึงที่ Skywalk กาญจนบุรี เราก็จะเจอกับพี่ๆที่คอยอำนวยความสะดวก โดยที่นี่จะมีค่าบริการเพียง 60 บาทเท่านั้น พร้อมกับรองเท้าที่ต้องสวมใส่ขณะเดินขึ้นไปด้านบน ด้านล่างก็จะมีชั้นฝากของไว้ให้สำหรับทุกท่านค่ะ มีลิฟท์สำหรับขึ้นสะดวกสบายมากๆ ค่ะ

ขอกระซิบ..ขึ้นไปด้านบนได้เฉพาะโทรศัพท์ และกล้องเท่านั้นนะคะ ไม้เซลฟี่หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ไม่สามารถนำขึ้นไปได้ ถ้าพร้อมแล้วววววเราไปกันเล้ยยยยยย สำหรับสกายวอล์ค กาญจนบุรี เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแคว ที่สามารถมองเห็นแม่น้ำทั้งหมด 3 สาย คือ แม่น้ำแควใหญ่ แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแม่กลอง บอกเลยว่าวันที่เราไปเนี่ยอากาศดีมากๆ 

จะเห็นได้ว่าขึ้นมาแล้ว จะเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นวิวด้านล่าง พร้อมแม่น้ำได้จากด้านบนแบบสวย ๆ เลยค่ะ แถมยังเห็นวิวของภูเขาเขียวขจี อีกด้วยล่ะ ใครสายถ่ายรูปบอกเลยค่ะต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน

แสงสวยมากกสามารถถ่ายรูปออกมาได้แบบปังๆเลย ที่นี่สามารถมองเห็นทั้งท้องฟ้า แม่น้ำและภูเขา 360 องศาเลยนะ บอกเลยว่าห้ามพลาด

Skywalk กาญจนบุรี 

ที่ตั้ง : ท่าน้ำหน้าเมืองกาญจนบุรี ตัวอำเภอ ต.บ้านใต้ จ.กาญจนบุรี         
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น.         
โทรศัพท์ : 034 511 502
พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ooJqTxAz9NNe4Mrm6

เดินทางต่อไปยังจุดหมายถัดไปของเรา ที่ใครมาเที่ยวกาญจนบุรีต้องมาที่นี่ นั่นก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ไฮไลท์ของการเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเชียวนะ ฉะนั้น ใครที่ได้มาเที่ยวที่กาญจนบุรีแล้วไม่ได้มาถ่ายรูปกับสะพานข้ามแม่น้ำแควก็เหมือนมาไม่ถึงค่ะ 

สิ่งสําคัญคือที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แลนด์มาร์คที่ให้คนมาเช็คอินเท่านั้นค่ะ แต่อันนี้ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนให้เห็นความเป็นมาในสมัยก่อนของกาญจนบุรีอีกด้วยค่ะ 

ที่ตั้ง : ข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ตำบล ท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000
พิกัด  : https://goo.gl/maps/zN35Lm8qWzxqqoHK8

หลังจากที่แวะเที่ยวที่แลนด์มาร์คของกาญจนบุรีไปถึง 2 ที่ ก็ได้เวลาทานอาหารแล้วค่ะ วันนี้เราไปทานอาหารที่ ต้องกาญ คาเฟ่ อีกหนึ่งคาเฟ่และร้านอาหารริมแม่น้ำแคว ที่บรรยากาศร่มรื่นและยังมีมุมถ่ายรูปอีกเพียบ ทางร้านมีทั้งโซน indoor และ outdoor ที่สามารถชมวิวแม่น้ำแควได้อย่างใกล้ชิด 

 ในโซน outdoor เป็นโซน pet friendly สามารถพาน้องๆสัตว์เลี้ยงมาได้ด้วยนะ ด้านบนของคาเฟ่จะตกแต่งด้วยสไตล์บาหลี มีบีนแบค เปลตาข่ายให้เลือกที่นั่งทานอาหารพร้อมชมวิวสวยๆได้เยอะมากกกก

ในส่วนของอาหารที่นี่มีอาหารให้เลือกทั้งคาวและหวาน บอกเลยว่ามีเมนูให้เลือกเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารจานเดียวอย่าง พิซซ่า สปาเกตตี สเต๊ก เมนูเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ ขนมหวาน ฯลฯ เรียกได้ว่ารวมครบจบในที่เดียวเลย


ที่ตั้ง : 10 ถนนลาว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000
เวลาเปิด-ปิด : วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 10.00-22.00 น. วันศุกร์-เสาร์ เวลา 10.00-24.00 น.
โทรศัพท์ : 0898888015 
Facebook : https://www.facebook.com/TongKanCafe

พิกัด : https://goo.gl/maps/qSqvHXpBCxuZ4nSV9

หลังจากที่ทานข้าวและของหวานกันจนอิ่มแล้วเนี่ย เราก็เดินทางเข้าไปเช็คอินที่ที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ เราพักกันที่ Hintok River Camp ที่พักที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ห้องพักที่นี่จะเป็นบ้านเต็นท์ติดแอร์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนเราไปแคมป์ปิ้ง มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์สไตล์ซาฟารีที่ให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสถึงธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด

สำหรับวันนี้เราพักกันที่ห้อง Superior Tented ขนาด 26 ตารางเมตร เหมาะสำหรับการเข้าพัก 2-3 ท่าน มาก ๆ ค่ะ ด้านหน้า มีเก้าอี้ โต๊ะ ให้นั่งชิล ๆ จิบกาแฟยามเช้า พร้อมชมธรรมชาติด้านในห้องจะประกอบไปด้วย เตียงคิงไซซ์ และเตียงเดี่ยว ที่เราสามารถชวน น่าชวนแก๊งเพื่อนมาเช็คอินมาก ๆ ค่ะ มีห้องน้ำในตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน


พักผ่อนกันไปสักพักแล้วขอตัวออกไปเดินชิล ถ่ายรูปเล่นกัน บริเวณนี้จะมีมุมที่ให้เราถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่นั่งชมวิวธรรมชาติ มองดูแม่น้ำแควจากหน้าที่พัก พร้อมกับวิวภูเขาพาโนรามาที่เขียวขจีค่ะ 

สำหรับทริปนี้เราจัดเต็มชุดสวย ๆ จากร้าน IG : Colabs Closet , FB : Co.labs.closet ใส่แล้วเข้ากับที่พักสุด ๆ ค่ะ ไปตำกันเร้วววววว!!

ตกเย็นเราก็มานั่งทานอาหารกันในที่พัก  เย็นนี้เราทานเป็นชุดบาบีคิว ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ต้มจืด ส้มตำ ผัดผัก หมูย่าง แต่ละอย่างอร่อย อิ่มกันได้แบบจุก ๆ เลยค่ะ 

ที่ตั้ง : 109 หมู่ 9 บ้านวังเขมร ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี 71150

ราคา : เริ่มต้น 3,500 บาท (ราคาขึ้นอยู่ตามโปรโมชั่นโปรดติดต่อที่พักโดยตรง)

โทรศัพท์ : 02 642 5497

Facebook : Hintok River Camp at Hellfire Pass หินตก ริเวอร์ เเคมป์ กาญจนบุรี
GPS : https://goo.gl/maps/4g3ZVemtxh3meQ9X7

จองที่พัก Hintok River Camp (หินตกริเวอร์เเคมป์) ออนไลน์ที่นี่         

DAY 2   

หลังจากทานอาหารเช้าที่ที่พักแล้ว เราออกเดินทางมากันที่ ถ้ำกระแซ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้ของกาญจนบุรี ภายในถ้ำกระแซมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ สามารถมาไหว้พระขอพรได้ค่ะ หลังจากนั้นสามารถเดินออกมาถ่ายรูปที่ทางรถไฟมรณะ 

ที่ถือว่าเป็นจุดที่สวยที่สุด และอันตรายที่สุดของเส้นทางรถไฟ เนื่องจากบริเวณนี้มีความสูงที่สูงมากๆ และติดกับหน้าผาอีกด้วย ในจุดนี้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำแควด้วย เมื่อถ่ายภาพออกมาได้ภาพที่สวยมากๆเลยค่ะ


ที่ตั้ง : ตำบล ลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี 71150

GPS : https://goo.gl/maps/Big16cRyKc763eH26 

 หลังจากที่แวะไหว้พระและถ่ายภาพสวยๆแล้ว ก่อนกลับกรุงเทพฯเราไปแวะเช็คอินกันที่คาเฟ่เปิดใหม่ของกาญจนบุรีกันค่ะ คาเฟ่ที่เราไปวันนี้คือ Chan Natural Cafe คาเฟ่ที่บอกเลยว่าใครสายธรรมชาติและสายมัทฉะต้องห้ามพลาด 

คาเฟ่มีการตกแต่งด้วยสไตล์นอร์ดิกซ์ กับมุมกังหันลมและทางเดินกระจกที่ถือว่าเป็นมุมยอดฮิตของทางร้าน ที่สามารถแชะภาพได้แบบเก๋ๆเลย ในส่วนของเมนูหากใครมาที่นี่แนะนำเป็นเมนูมัทฉะ ที่มีทั้งเครื่องดื่มและของหวาน แอบกระซิบว่ามัทฉะที่นี่ส่งตรงมาจากญี่ปุ่นเลยนะ บอกเลยว่าอร่อยมากๆ

นอกจากคาเฟ่แล้วที่นี่ยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และจำหน่ายต้นกระบองเพชรอีกด้วย ใครที่มาที่นี่สามารถแวะมาชมและถ่ายภาพกับเหล่ากระบอกเพชรก็ได้มู๊ดอีกแบบ บอกเลยว่าน่ารักมากๆ 

ที่ตั้ง : 2 73/1 ซอย เทศบาล ตำบลแก่งเสี้ยน อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 9.00 - 20.00 น.
โทรศัพท์ : 0922799100
Facebook : https://www.facebook.com/channaturecafe/ 
พิกัด : https://goo.gl/maps/6wkf8upYoDMPmpq57 

แล้วก็ถึงเวลากลับกรุงเทพฯกันแล้วค่ะ ทริปนี้เหมือนได้รีเฟรชตัวเองมากกๆ ได้อยู่กับธรรมชาติ ไหว้พระขอพร ถ่ายรูปพร้อมทานอาหารอร่อยๆที่คาเฟ่ ครบจบในทริปเดียวเลย ใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวกาญจนบุรีสามารถนำทริปนี้ไปปรับใช้ได้เลยนะคะ

Tags: กาญจนบุรี ที่เที่ยวกาญจนบุรี ที่พักกาญจนบุรี วอเชอร์ที่พักกาญจนบุรี

เขียนโดย

Mew Chillpainai

แชร์บทความนี้