calendar_month 09 ส.ค. 2023 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 7,707 / เที่ยวต่างประเทศ , สถานที่ยอดนิยม
OHAYO!! ทักทายกันแบบนี้รู้เลยว่าทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปตะลุยญี่ปุ่นกับเมืองยอดฮิตโตเกียว ที่มีเวลาสั้นๆ เพียง 4 วัน 3 คืน กับทริปภาระกิจตามหาร้านแบรนด์เครื่องหนังญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นยกนิ้วเลยว่าดีโดนใจไม่แพ้แบรนด์ระดับโลกกันเลย อ๊ะ! ใครเป็นสายช้อปเตรียมจดลิสต์เอาไว้ให้ดี ยิ่งช่วงนี้เงินเยนราคาดี๊ดี ใครที่แลกเงินเยนเอาไว้แล้วก็เตรียมบินไปตะลุยช้อปที่โตเกียวกันได้เลยค่าาาา
วันแรกเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เช้าตรู่นั่งเครื่องบินบินตรงไปยังสนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นล่าสุดนั้นก็แสนง่าย เพราะตอนนี้ไม่ใช้ผลวัคซีน ไม่ต้องตรวจ ATK อะไรให้วุ่นวาย ไม่ต้องกรอก Fast Track ที่เว็บไซต์ Visit Japan อีกแล้วตอนนี้มาตรการเหมือนกับตอนก่อนโควิดเลยคือคนไทยฟรีวีซ่าอยู่ได้ 15 วันในส่วน Visit Japan นั้นจะเป็นส่วนในการกรอกรายละเอียดของตม.และศุลกากรเท่านั้น กรอกก็ได้หรือไปเขียนในกระดาษที่โน่นก็ได้ แต่แนะนำให้หรอกไปค่ะ เพราะกรอกปุ๊บเราจะได้คิวอาร์โค้ดไว้สำหรับแสกนเข้าตม.และศุลกากรได้ทันที สะดวกสบายมากๆ จะกรอกก่อนเข้าตม.ก็ได้นะ เตรียมแค่หลักฐานไฟลท์เดินทาง ไป-กลับ เลขพาสปอร์ตและที่อยู่ เบอร์โทร(โรงแรม)ทีโน่นเพียงเท่านี้ก็ได้คิวอาร์โค้ดไว้แสกนกันแล้ว
วันแรกเรามาถึงโตเกียวตอนเย็นแล้วค่ะ วันนี้เลยตรงเข้าที่โรงแรมเลย โดยโรงแรมที่เราพักเป็นโรงแรมในย่านอาซากุสะ ย่านสุดฮอตฮิตของนักท่องเที่ยว ทำเลดีเว่อร์วังเดินประมาณ 3 นาทีก็ถึงวัดเซ็นโซจิ เดินต่อไปอีกนิดถึงทางลงรถไฟใต้ดินมีโตเกียวสกายทรีให้ชมทั้งวัน อยากช้อปก็มีดองกี้ มีห้างสรรพสินค้า มีย่านช้อปปิ้ง และไม่ต้องกลัวหิวเพราะเดินไม่กี่เมตรก็เจอร้านอาหารมากมายแล้วล่ะค่ะ วันนี้เลยเป็นวันของการพักเก็บแรงไปตะลุยช้อปต่อในวันพรุ่งนี้เช้า
เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้ากันแล้วเราก็ออกสตาร์ตไปยังร้านแรกซึ่งอยู่ในย่านอาซากุสะกับแบรนด์ Wisteria Fujiwara แบรนด์รองเท้าเครื่องหนังที่เมดทูออเดอร์ทำมาเพื่อเท้าของเราแต่ละคนเท่านั้น ละเมียดละไมใส่ความประณีตในรองเท้าทุกคู่ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงญี่ปุ่นสามารถใส่รองเท้าส้นสูงเดินขึ้นลงบันไดได้แบบคล่องแคล่วเพราะเขามีรองเท้าดีๆ แบบนี้นี่เอง ซึ่งแบรนด์ Wisteria Fujiwara เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1950 เน้นรองเท้าผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ โดยบริการของเขาเริ่มตั้งแต่วัดไซส์ของแต่ละคนเลือกดีไซน์รองเท้าที่ชอบและลองใส่เดิน เลือกประเภทของหนังและสี และปรับขนาดจนกว่าจะได้รองเท้าที่ถูกใจและใส่สบาย รวมใช้เวลาในการผลิตต่อคู่ประมาณ 5 สัปดาห์ และสำหรับลูกค้าต่างชาติยังมีบริการส่งต่างประเทศอีกด้วยค่ะ แค่เพียงมาลองวัดไซส์เลือกแบบ เลือกหนังในสไตล์ที่ชอบก็สามารถรอรองเท้าที่บ้านได้เลย นอกจากนั้นยังมีบริการหลังการขายบริการซ่อมและเปลี่ยนส้นฟรี โดยทางร้านเล่าให้เราฟังว่าลูกค้าบางคนใส่รองเท้าของร้านมา 5 ปีแล้วก็ยังใส่ได้ดี เรียกได้ว่าเป็นร้านที่เข้าใจในเรื่องเท้าอย่างแท้จริง
Wisteria Fujiwara
ที่ตั้ง : 2-chōme−22−5 , Higashiasakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : 12.00 - 20.00 น. (ปิดวันพุธ)
ราคาเริ่มต้น : 47,000 เยน
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสาย Hibiya มาลงสถานี Minowa แล้วเดินมาประมาณ 14 นาทีหรือสามารถเรียกแท็กซี่มาที่ร้านได้
เว็บไซต์ : https://wisteriafujiwara.jp/
IG : https://www.instagram.com/wisteriafujiwara/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/CP7SUXogPofJ3a1w5
ถ้าอยากได้กระเป๋า หรือเข็มขัดหนังดีๆ สักชิ้นเราขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ANNAK Shop ร้านเครื่องหนังสุดเท่เปิดให้บริการมาประมาณ 8 ปีโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญรังสรรค์ชิ้นงานที่เหมาะกับทุกคน สำหรับชื่อร้าน มาจากคำว่า KANNA ที่แปลว่ากบไสไม้ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการขัดขอบหนังซึ่งเป็นเทคนิคของช่างฝีมือ ความเก๋คือการนำคำว่า KANNA มาเรียงใหม่โดยนำข้างหลังมาไว้ข้างหน้าเลยกลายเป็นชื่อร้านสุดเท่ว่า ANNAK พอเข้ามาในร้านก็พบกับการจัดวางเครื่องหนังไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เข็มขัด รองเท้าในบรรยากาศร้านที่จัดไว้เหมือนสตูดิโอ โดยมีการจัดวางสินค้าให้เราได้เลือกชมได้แบบสะดวกสบายมีกระเป๋าที่ห้อยอยู่บนราวให้เราสามารถหยิบมาลองได้อย่างพอใจซึ่งหนังของที่นี่เขาจะใช้หนังวัวแค่ได้สัมผัสตัวหนังก็รู้สึกผิวสัมผัสที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพน่าใช้มากๆ สีสวยชัด มีทั้งเข็มขัด กระเป๋าตังค์หนังสุดเท่ที่ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ส่วนสาวๆ อย่างเราบอกเลยว่าเข้ามาในร้านนี้ก็อยากได้ไปหมด เพราะเขาดีไซน์ออกมาน่าใช้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าเป้ หรือครอสบอดี้สุดเก๋ ที่เขาใช้เทคนิคในการทำเข็มขัดมาทำสายกระเป๋า ใครอยากได้สีโทนสดใสก็มีให้เลือกมากมาย หรีอจะเป็นโทนสีชมพูอ่อนสีเมทัลลิคก็น่าใช้มากๆANNAK Shop
ที่ตั้ง : 3-chōme−21−4, Motoasakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : วันพุธ - วันเสาร์ เวลา 11.00 - 17.00 น.
ราคาเริ่มต้น : เข็มขัด 8,000 - 20,000 เยน / กระเป๋าตังค์ 10,000 - 30,0000 เยน / กระเป๋า 20,000 - 50,000 เยน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Tawaramachi ประมาณ 7 นาที
เว็บไซต์ : https://annak-shop.com/
IG : https://www.instagram.com/annak_onlineshop/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/TDJJXATDyKWes4xM8
จากนั้นพักทานอาหารกลางวันที่ร้าน Soba Shōnin ร้านโซบะเก่าแก่อายุยาวนานกว่า 100 ปี โดยเราสั่งเป็นเมนู Keshi-Kiri เส้นโซบะผสมเมล็ดป๊อปปี้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยเราสั่งแบบเย็นทานแล้วสดชื่นเหมาะกับหน้าร้อนมากๆที่ตั้ง : 2 Chome-7-3 Komagata, Taito City, Tokyo 111-0043 ญี่ปุ่น
เปิดบริการ : วันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 11.30 - 14.00 น. และ 17.00 - 20.30 น.
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/np3yuubJy7qrqbaH8
หลังจากทานอาหารกลางวันกันแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไปตามรอยแบรนด์ PORTER แบรนด์กระเป๋าชื่อดังของญี่ปุ่นที่เขามีแกลลอรี่อยู่ในย่านอาซากุสะนี่เองกับ Yoshida Kichizo Memorial Museum
PORTER แบรนด์กระเป๋าชื่อดังของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งโดยคุณ Yoshida Kichizo ซึ่งเริ่มทำกระเป๋าด้วยตัวเองตอนที่เขาอายุได้เพียง 12 ปี ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัท Yoshida Kaban Seisakusho ในปี 1935 และเปลี่ยนมาเป็น YOSHIDA & Co. ในปี1951 และในปี 1962 ก็ได้มีการประกาศชื่อแบรนด์แรกโดยใช้ชื่อว่า PORTER ที่มาจากความคิดที่ว่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมเป็นคนที่สัมผัสกระเป๋าของลูกค้าอยู่เสมอและรู้ข้อดีของกระเป๋าแต่ละใบจุดเด่นของงานฝีมือของ PORTER คือ ความประณีตภายใต้สโลแกนที่ว่า ‘Heart and soul into every stitch’ จิตวิญญาณอยู่ในทุกตะเข็บ และกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การตัดจนถึงการเย็บทำในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในแกลอรี่แห่งนี้จะโชว์เรื่องราวผลงานของคุณ Yoshida Kichizo ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และมีการจำลองโต๊ะทำงาน เก้าอี้ และเครื่องมือต่างๆ ที่เคยใช้งานจริง รวมไปถึงผลงานกระเป๋ารุ่นต่างๆ ให้เราได้ชมใครที่เป็นแฟนแบรนด์ PORTER อยากมาตามรอยเรื่องราวของคุณ Yoshida Kichizo ก็เดินทางมาที่นี่กันได้เลยYoshida Kichizo Memorial Museum
ที่ตั้ง : 1-chōme-4-7, Imado, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : วันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 12.00 - 17.00 น. (เข้าชมฟรี)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Asakusa สามารถนั่งรถแท็กซี่ต่อมาได้ใช้เวลาประมาณ 3 นาที หรือเดินมาได้ใช้เวลาประมาณ 13 นาที
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/HtCSwMheXoC4pHkK6
ช้อปปิ้งกันมาทั้งวันแวะพักทานขนมสุดอร่อยที่กำลังเป็นกระแสของเหล่าชาวโซเชียลญี่ปุ่นกันค่ะที่ร้าน Asakusa Chaya Tabanenoshi อยู่ใกล้ๆ กับวัดเซ็นโซจิย่านอาซากุสะเลยค่ะ ร้านนี้มีเมนูเครปชาเขียวที่กำลังมาแรงสุดๆ รวมถึงเมนูเครปรสชาติต่างๆ และเครื่องดื่มทั้งกาแฟและชาเขียวให้เลือกทานกันด้วยร้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์ผสมผสานกับกรอบไม้ของประตู มีน้องพนักงานใส่สุดแบบญี่ปุ่นอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์สามารถสั่งอาหารจากเคาน์เตอร์ด้านหน้าได้เลยค่ะ สั่งแล้วก็มีโต๊ะให้นั่งทานด้านใน อ๊ะคนญี่ปุ่นเขาไม่นิยมเดินกินนะคะ ถ้าจะทานก็ทานด้านในร้านหรือถ้าไม่มีที่นั่งก็สามารถยืนทานด้านหน้าร้านกันได้ค่ะมาดูเมนูที่เราสั่งมาทานกันในวันนี้ กับ Kakegawa matcha tiramisu (990 เยน) ซึ่งตัวแป้งเครปเป็นแป้งชาเขียวค่ะ ด้านในมีครีม ท็อปด้านบนด้วยผงชาเขียว ใครชอบชาเขียวบอกเลยว่าเลิฟแน่นอน และ Sweet potato(1,200 เยน) เครปหน้ามันหวานครีมนุ่มละมุนลิ้นไม่หวานมากด้วยค่ะนอกจากนี้ยังมีเมนู Kakegawa matcha brulee(990 เยน) ที่ด้านบนจะมีน้ำตาลเบิร์นไฟอร่อยฟินมากๆ ส่วนเครื่องดื่มเราสั่ง Kakegawa matcha latte(550 เยน) ชาเขียวเย็นสุดเข้มข้นบวกกับความนุ่มของนม ทานแล้วสดชื่นคลายร้อนได้ดีมากๆAsakusa Chaya Tabanenoshi
ที่ตั้ง : 2-chōme-7-7, Asakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : ใกล้วัดเซ็นโซจิ จากสถานี Asakusa เดินประมาณ 2 นาที
เว็บไซต์ : https://tabanenoshi.com/
IG : https://www.instagram.com/asakusachaya_tabanenoshi/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/GWWDBhg8Ww6pPGRE6
อีกเมนูในย่านอาซากุสะที่ต้องห้ามพลาดกับเมนูผลไม้เคลือบน้ำตาลที่มีทั้ง ริงโกะอาเมะ (แอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาล) อิจิโกะอาเมะ (สตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาล) มิกังอาเมะ(ส้มเคลือบน้ำตาล) บุโดอาเมะ (องุ่นเคลือบน้ำตาล) ที่เขาจะเสียบไม้ให้เราได้ทานแบบนี้เลยค่ะ โดยใช้ผลไม้สดๆ หวานชื่นใจมากๆ เป็นขนมที่เหมาะกับการทานในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นมากๆAsakusa Candy
ที่ตั้ง : 2-chōme-7-7, Asakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : ใกล้วัดเซ็นโซจ จากสถานี Asakusa เดินประมาณ 2 นาที
IG : https://www.instagram.com/asakusa__candy/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/GWWDBhg8Ww6pPGRE6
จากนั้นเราเดินมาเที่ยวต่อที่วัดเซ็นโซจิ แลนด์มาร์คที่ใครมาโตเกียวก็ต้องมาเช็คอินกับโคมแดงยักษ์ด้านหน้าวัด และบริเวณวัดอาซากุสะจะมีถนนหน้าวัดที่ชื่อว่าถนนนากามิเสะ ระหว่างที่เดินเล่นลัดเลาะไปบนถนนเส้นนี้เราก็พบกับร้านกระเป๋าสุดน่ารักของสาวๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บอกเลยว่าเป็นร้านกระเป๋าที่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นนั่นก็คือร้าน Bunkoya-Oozeki
Bunkoya-Oozeki หน้าร้านมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่พร้อมบรรยากาศด้านหน้าแบบวินเทจสะท้อนกับแสงยามเย็นทำให้บรรยากาศรอบข้างดูอบอุ่น หญิงสาวชาวญี่ปุ่นต่างเดินเข้าไปด้านในกันยังไม่ขาดสาย ทำให้เรายิ่งสนใจที่จะเดินเข้าไปชมบ้างด้านในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นมีกระเป๋าลายน่ารักตั้งวางไว้บนชั้น รวมทั้งยังมีตู้ขนาดใหญ่ด้านข้างที่ด้านในบรรจุกระเป๋าไว้ทุกชั้น รอให้เจ้าของกระเป๋ามาเปิดเลือกชมกันได้ตามใจชอบ เป็นบรรยากาศร้านกระเป๋าที่เราชอบมากๆ เลยค่ะ เหมือนกำลังเลือกชมงานศิลปะที่ลวดลายนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
ซึ่งร้าน Bunkoya-Oozeki เปิดมาตั้งแต่ปี 1996 โดยคำว่า Bunko เป็นชื่อกล่องชนิดหนึ่งในสมัยโบราณของคนญี่ปุ่นที่ใช้เก็บของใช้ส่วนตัว ของมีค่า มีการตกแต่งด้วยลวดลายที่สวยงามและมีการเคลือบเงา ซึ่งทางร้านใช้เทคนิคในการทำกล่อง Bunko มาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าโดยใช้หนังจากวัว มีทั้งกระเป๋าตังค์เล็กๆ กระเป๋าเงิน ที่ใส่ตราปั๊มชื่อของคนญี่ปุ่น โดยทุกชิ้นทำด้วยมือมีลวดลายให้เลือกกว่า 120 ลายโดยจะมีลายใหม่ๆ ออกมาตามฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นลายประจำฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลคริสต์มาส บอกเลยว่าน่าซื้อทุกชิ้นเลยค่ะ Bunkoya-Oozeki Asakusa Store
ที่ตั้ง : 2-chōme−2−6, Asakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : 10.00 - 18.00 น. (ปิดวันพุธ)
ราคาเริ่มต้น : 3,850 - 27,000 เยน
การเดินทาง : อยู่ในถนนนากามิเสะ หน้าวัดเซ็นโซจิ เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะ
เว็บไซต์ : https://www.oozeki-shop.com/page/133
IG : https://www.instagram.com/bunkoya_oozeki/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/C1J1qRzL8mfRrmCr9?g_st=ic
ปิดทริปวันที่ 2 แบบจุกๆ ที่งานนี้ขาช้อปอย่างเราได้กระเป๋า รองเท้า สินค้าเครื่องหนังกลับไปกันมากมาย และเตรียมไปช้อปต่อวันพรุ่งนี้เช้าที่แพลนพรุ่งนี้ก็จัดเต็มร้านเครื่องหนังแน่นๆ อีกเช่นเคย
เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังย่านฮิงาชิสุมิดะ ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านอาซากุสะ เพื่อจะเดินทางไปชมการเดินทางของเครื่องหนังว่ากว่าจะมาเป็นเครื่องหนังสวยๆ สักชิ้นต้องทำอย่างไรบ้างที่ LEATHER LAB TOKYO
กว่าจะเป็นเครื่องหนังสักชิ้นต้องทำอย่างไรบ้าง? คือคำถามที่เหล่าคนรักเครื่องหนังอยากรู้ และวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกการทำเครื่องหนังกันค่ะที่ LEATHER LAB TOKYO ใครอยากมาชมสามารถติดต่อเข้ามาชมได้เลยค่ะ ที่สำคัญยังมีโชว์รูมให้เราได้เลือกซื้อเครื่องหนังคุณภาพดีในราคาโรงงานกันอีกด้วย
ด้านหน้าโรงงานมีที่บำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่นในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงงานนี้กำลังเข้าร่วมกับทางองค์กร LWG เป็นองค์กรที่จะการันตีในเรื่องมาตรฐานโรงงานเครื่องหนังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยจะมีการตรวจสอบขั้นตอนการบำบัดน้ำเสียอย่างเข้มงวดทุกๆ วันกันเลยทีเดียวโดยตัวโรงงานจะแบ่งเป็น 4 ชั้น ชั้นที่ 1 จะเป็นขั้นตอนการย้อมสีหนัง การทำให้หนังนิ่ม การติดฟิล์มเพื่อสร้างลายบนหนัง ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นชั้นการฉีดพ่นสีไปบนหนังให้เท่ากัน ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นกระบวนการตากผืนหนัง ที่สามารถตากได้กว่า 1,500 ชื้นในครั้งเดียว ส่วนชั้น 4 จะเป็นชั้นที่เก็บสต็อกหนัง ซึ่งโรงงานแห่งนี้ผลิตหนังคุณภาพดีส่งให้กับแบรนด์เครื่องหนังชื่อดังต่างๆ และยังทำแบรนด์ของตัวเองโดยเราสามารถเลือกซื้อได้ที่บริเวณชั้น 3 ได้เลยค่ะโชว์รูมเครื่องหนังที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ที่จัดโชว์สิ้นค้าซึ่งเป็นแบรด์ของทาง LEATHER LAB TOKYO มีทั้งกระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือ แถมราคายังถูกกว่าเวลาเราไปซื้อข้างนอก ใครที่สนใจอยากมาชมกระบวนการทำเครื่องหนังสามารถติดต่อเข้ามาชมฟรีได้เลยค่ะLEATHER LAB TOKYO
ที่ตั้ง : 3 Chome-14-21 Higashisumida, Sumida City, Tokyo 131-0042 ญี่ปุ่น
เปิดบริการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 9.30-15.00 น.
ติดต่อเข้าชมทางโทรศัพท์ 03-5630-8189
หรืออีเมล info@leatherlabtokyo.com
เว็บไซต์ : https://www.leatherlabtokyo.com/
IG : https://www.instagram.com/leatherlabtokyo/
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Yahiro แล้วนั่งแท็กซี่ต่อมาประมาณ 4 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/yqMGYoBPHPyceB1R6?g_st=ic
จากย่านฮิงาชิสุมิดะ เรานั่งรถกลับมาที่ย่านสุมิดะเพื่อมายัง Tokyo Skytree ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของร้านเครื่องหนังคุณภาพดี Scotch Grain Tokyo Skytree Town Solamachi ร้านเครื่องหนังที่มีอายุ 45 ปีซึ่งจุดเด่นของแบรนด์ Scotch Grain คือรองเท้าหนังที่ผลิตในเขตสุมิดะของโตเกียว และใช้เทคนิคในการผลิตเหมือนที่ทำในยุโรปซึ่งสืบทอดวิธีการผลิตมากว่า100 ปีโดยพื้นรองเท้าเขาจะมี 3 ชั้น ใส่แล้วไม่เมื่อยไม่เจ็บ ใช้หนังคุณภาพเดียวกับแบรนด์ระดับโลก รองเท้ามีความคงทนในการใช้งานซึ่งถ้าดูแลรักษาดีๆ ก็สามารถใส่ได้เป็น 10 ปีกันได้เลย สำหรับสินค้าในร้านส่วนมากจะเป็นรองเท้าผู้ชาย แต่จะมีรองเท้าผู้หญิง กระเป๋าหนังให้เลือกอีกด้วยภาพพื้นรองเท้าที่ประกอบไปด้วยชั้น 3 ชั้นซึ่งเป็นวิธีการทำรองเท้าแบบในยุโรบ นอกจากนี้ยังมีพื้นรองเท้าให้เราเลือกตามความชอบ ส่วนใครที่คิดว่ามีแต่รองเท้าผู้ชาย อ๊ะเขามีมุมรองเท้าและกระเป๋าผู้หญิงอยู่นะคะแม้ว่าจะมีไม่มาก แต่ก็น่ารักมากทุกชิ้นกันเลย โดยเฉพาะรองเท้าน้องแพนด้าเตะตาเตะใจเราสุดๆ ล่ะบริเวณด้านหน้าร้านจัดโชว์รองเท้าคอลเล็กชั่น Spider ใช้ชิ้นส่วนหนัง 38 ชิ้นต่อหนึ่งคู่มาปะติดปะต่อกันเหมือนแมงมุมซึ่งเป็นชิ้นงานที่ใช้ความประณีตและใช้เวลาทำนานโดยช่างฝีมือหนึ่งคนสามารถสร้างสรรค์รองเท้าคู่นี้ได้ 3 คู่/วันเท่านั้นสำหรับช้อปของ Scotch Grain มี 4 สาขาคือสาขานี้ กินซ่า อุเอโนะ และโอซาก้า นอกจากนี้ยังมีช้อปใน Outlet อีก 5 สาขาคือโกเทมบะ รินคุทาวน์ กิฟุ และยูรากุโจ พร้อมกันนั้นยังมีขายใน Online Shop อีกด้วย
Scotch Grain
ที่ตั้ง : ชั้น 1 ภายใน Tokyo Skytree Town Solamachi 1 Chome-1-2 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045 ญี่ปุ่น
เปิด : ทุกวัน 10.00-21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Tokyo Skytree
เว็บไซต์ : https://scotchgrain.co.jp/
IG : https://www.instagram.com/scotchgrain_official/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/hL6MLsTXswaF8Uo98?g_st=ic
จากนั้นแวะทานอาหารเที่ยงที่ร้าน LAND_A ร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Tokyo Skytree ค่ะมีเมนูให้เลือกซึ่งส่วนมากเป็นเมนูพาสต้า พิซซ่า สเต็ก และของทานเล่น สำหรับมื้อนี้เราสั่งเมนู Sasebo,Nagasaki Steak with Lemon (ราคา 1,850 เยน) โดยใช้เนื้อวากิวระดับ A5 เสิร์ฟมาในกระทะร้อนพร้อมกับซอสเลม่อน เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก ตัดด้วยความเปรี้ยวของเลม่อนสามารถเลือกทานได้ว่าจะทานคู่กับขนมปังหรือข้าว
ทานอาหารกันอิ่มแล้วสายช้อปอย่างเราก็มุ่งหน้าไปยังร้านต่อไปค่ะกับร้าน Kiyokawa Shouten ร้านเครื่องหนังรางวัล Japan Leather Award 2 ปีซ้อน ก่อตั้งมายาวนานกว่า 63 ปีจึงการันตีได้เลยว่าเป็นร้านเครื่องหนังที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพสำหรับสินค้าในร้านจะเน้นเป็นงานกระเป๋าหนังโดยมี 2 คอลเล็กชั่นคือ Kiyokawa เน้นกระเป๋าสำหรับผู้หญิงและคอลเลกชั่น Azzuni ที่เป็นแบบยูนิเซ็กส์ใช้ได้ทุกเพศโดยสินค้าในร้านจะใช้หนังวัวญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งกระเป๋าตังค์ กระเป๋าใส่นามบัตร กระเป๋าถือ เป้ ให้เลือกมากมายเลยค่ะ ดีไซน์แต่ละแบบก็น่าใช้มากๆ การตัดเย็บก็ประณีตพิถีพิถันใครอยากได้กระเป๋าสวยๆ คุณภาพดีก็ลองมาเลือกที่ร้านนี้ได้เลยค่ะ
Kiyokawa Shouten
ที่ตั้ง : 2-chōme−1−6, Azumabashi, Sumida City, Tokyo
ราคา : คอลเลกชั่น Kiyokawa ราคาเริ่มต้น 30,000 - 50,000 เยน / คอนเลกชั่น Azzuni ราคาเริ่มต้น 20,000 - 30,000 เยน
เปิด : ทุกวัน 11.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากสถานีรถไฟ Honjo - Azumabashi
เว็บไซต์ : https://www.kiyo-kawa.com/
IG : https://www.instagram.com/kiyokawa_official/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/WKG4QBFNbNANNxMX7?g_st=ic
ร้านสุดท้ายของวันนี้คือร้าน PLANT ฟังแค่ชื่อนึกว่าเป็นร้านขายต้นไม้ แต่ที่จริงร้านนี้คือช้อปและสตูดิโอเครื่องหนังทำมือที่มีดีไซน์สุดเท่ในแบบฉบับของตัวเองแค่ก้าวเข้ามาในร้านเราก็จะสัมผัสถึงงานเครื่องหนังที่ประณีตและละเมียดละไมโดยช่างฝีมือที่กำลังตั้งใจทำชิ้นงานแต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถันอยู่บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์คอนเซ็ปต์ของเขาคือ Plain and natural โดยใช้หนังที่ใช้วิธีการฟอกสีธรรมชาติด้วยเปลือกไม้และวัสดุจากพืช โดยสินค้าในร้านมีทั้งกระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือ ครอสบอดี้ ที่เก็บกุญแจ โดยดีไซน์ของเขาจะเป็นแบบมินิมอลเหมาะกับทุกเพศและทำมือทุกชิ้น กระเป๋าแต่ละชิ้นใช้เวลาในการทำประมาณ 4-5 สัปดาห์ จึงทำให้สินค้าในร้านมีความยูนีคไม่ซ้ำกันเลยค่ะ หรือใครอยากมาสั่งทำ หรือให้ทางร้านสลักชื่อให้ก็มีบริการด้วยนะคะ
ซึ่งความหมายของชื่อแบรนด์ PLANT นั้นนอกจากการใช้สีธรรมชาติในกระบวนการฟอกหนังแล้ว ยังมีสื่อความหมายถึงเครื่องหนังที่เราซื้อไปนั้นแต่ละชิ้นก็จะปรับตัวไปตามสไตล์ของเจ้าของเหมือนกับต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโต เจ้าของอย่างเราก็ต้องดูแลเครื่องหนังเหล่านั้นเหมือนกับต้นไม้ต้นหนึ่งนั่นเอง
PLANT
ที่ตั้ง : 1-chōme−2−12, Honjo, Sumida City, Tokyo
เปิดบริการ : 13.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันอังคาร)
ราคาเริ่มต้น : ประมาณ 10,000 เยน++
การเดินทาง : จากสถานี Ryogoku นั่งแท็กซี่มาประมาณ 3 นาที หรือเดินประมาณ 11 นาที
เว็บไซต์ : https://plant-leather.com/
IG : https://www.instagram.com/plant_leather/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/fBFBNUCH9JEkpNBH9?g_st=ic
ข้างๆ ร้าน PLANT มีร้านไอศกรีมพร้อมกับมุมถ่ายรูปสุดเก๋ให้ด้วยค่ะ ใครเลือกซื้อกระเป๋ากันแล้วก็มาทานไอศกรีมต่อกันได้เลยในตอนเย็นเราไปล่องเรือทานอาหารสุดอร่อยกับเรือ Yakatabune AMITATSU ที่จะล่องไปบนแม่น้ำสุมิดะ จุดขึ้นเรือจะอยู่บริเวณข้างๆ ตึกฮาซาฮีค่ะ โดยภายในเรือจะปูเสื่อตาตามิ มีที่นั่งแบบห้อยขา พร้อมกับมีห้องน้ำภายในเรือ เสิร์ฟอาหารแบบ Kaiseki โดยเป็นจานเล็กๆ อร่อยมากๆ ทานไปชมวิวบรรยากาศริมแม่น้ำสุมิดะที่เราจะเห็นทั้งโตเกียวสกายทรี โตเกียวทาวเวอร์ สะพานสายรุ้ง โอไดบะ บอกเลยว่าฟินมากๆ
ปิดวันที่ 3 ด้วยความประทับใจที่ได้รู้เรื่องราวการเดินทางของเครื่องหนัง รวมทั้งได้ทำความรู้จักแบรนด์เครื่องหนังดีๆ ในญี่ปุ่นอีกมากมาย พรุ่งนี้วันสุดท้ายที่เราจะอยู่ในโตเกียวแล้วขาช้อปอย่างเราก็เตรียมลิสต์ร้านเครื่องหนัง
วันสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ เช้านี้หลังจากตื่นมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมปุ๊บก็เช็คเอาท์และฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมเพื่อเดินทางไปช้อปปิ้งต่อกันยาวๆ เลย โดยร้านแรกของวันนี้เราจะไปช้อปร้านกระเป๋าดีไซน์สุดมินิมอลกับแบรนด์ Neutral Gray ที่ตั้งอยู่ในย่านคุระมาเอะ ย่านสุดเก๋ในโตเกียวที่กำลังมาแรงสุดๆ
Neutral Gray แบรนด์สุดมินิมอลที่แอบซ่อนอยู่ในย่านคุระมาเอะ ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆ เราจะไม่รู้เลยว่ามีร้านซ่อนอยู่ ทางเข้ามีป้ายไฟ Neutral Gray ติดอยู่พอเข้ามาในร้านเราจะพบกับกระเป๋าดีไซน์สุดเรียบง่าย วางอยู่บนชั้น ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือที่มีตั้งแต่ใบเล็ก ไปจนถึงใบใหญ่ กระเป๋าครอสบอดี้ บอกเลยว่าทุกแบบดีไซน์สไตล์แคชช่วล สวยประทับใจเรา จนอยากจะเหมากลับบ้านไปทุกชิ้นกันเลยค่ะ
จุดเด่นของ Neutral Gray คือการใช้หนังม้ามารังสรรค์เป็นกระเป๋าใบสวย โดยหนังม้ามีลักษณะเฉพาะตัวคือความเบา เนื้อละเอียด ค่อนข้างแข็งแรง และคงรูปทรง เมื่อมาผสานการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ของร้านก็ทำให้เครื่องหนังของ Neutral Gray ดูเก๋มีสไตล์น่าใช้มากๆ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าหนังวัวให้ได้เลือกช้อปอีกด้วย
ความประทับใจคือการออกแบบแต่ละใบคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบาย น้ำหนักเบา เวลาสะพายไม่หนัก อย่างกระเป๋าตังค์ที่สามารถจุบัตร ใส่มือถือได้โดยกระเป๋าก็ยังคงรูปอยู่ได้เหมือนเดิม หรือกระเป๋าถือใบใหญ่ที่น้ำหนักเบาไม่ใช้ตัวยึดหรือตะขออะไรเลย แต่กระเป๋ายังคงรูปทรงเดิมแม้จะบรรจุของเยอะแค่ไหนทรงก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคการปั๊มลงไปในหนังให้เป็นลายตารางเหมือนกระเป๋าสานและลงสีด้วยมือได้กระเป๋าคลัตช์ใบเก๋ไก๋น่าใช้มากๆ
ซึ่งลูกค้าส่วนมากจะเป็นผู้หญิงแต่เราว่าก็มีแบบให้คุณผู้ชายได้เลือกใช้ให้ลุคคูลมินิมอลได้ด้วย
ที่ตั้ง : 4-chōme−14−13, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : วันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ เวลา 12.00 - 18.00 น.
ราคา : 10,000 - 40,000 เยน
เว็บไซต์ : https://neutralgray.jp
IG : https://www.instagram.com/neutralgray_bag/
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ เดินประมาณ 2 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/oGVwC3QbVrMvPeCg7?g_st=ic
ร้านต่อไปสร้างความเซอร์ไพรส์ให้เราอีกแล้วค่ะ เพราะนอกจากหนังวัว หนังม้า หนังแพะที่สามารถนำมาทำเครื่องหนังได้แล้ว หนังหมูก็สามารถนำมาทำเครื่องหนังสวยๆ ได้อีกด้วยกับแบรนด์ REN ที่เปิดตัวเมื่อปี 2005 และสร้างความสนใจสำหรับคนใช้สินค้าหนัง เพราะเขาใช้หนังหมู ซึ่งหมูเป็นสัตว์ที่คนญี่ปุ่นบริโภคเยอะนำมาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋า จุดเด่นคือน้ำหนักเบาและการดีไซน์ที่ทำให้กระเป๋ามีรูปร่างเหมือนถุงใส่ของใบใหญ่จุของได้เยอะ
ซึ่งกระเป๋าแต่ละใบถ้าเราสังเกตดีๆ จะเห็นรอยบนกระเป๋าก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะรอยเหล่านี้คือรอยที่เกิดจากธรรมชาติของสัตว์ที่นำมาทำเป็นหนังเหมือนกับใบหน้าของแต่ละคนที่มีร่องรอยและเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ทำให้แต่ละใบมีความยูนีคไม่เหมือนกัน
นอกจากหนังหมูแล้วทางร้านยังเลือกใช้หนังแพะ หนังวัวมาดีไซน์เป็นกระเป๋าอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นทางร้านยังมีชุดทำกระเป๋าจิ๋ว DIY ให้เราได้ซื้อกลับไปทำที่บ้านได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งชุด DIY ราคา 4,070 เยนในชุดมีหนังมีเชือกมีวิธีทำมาให้ทำไม่ยาก วันนี้เราลองทำแล้วใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ได้กระเป๋าจิ๋วสุดน่ารักกันแล้ว
สาขาของร้าน REN มีทั้งหมด 4 สาขาค่ะคือ ที่คุระมาเอะ คากุระซะกะ โยโกฮาม่า และโอซาก้าใครอยากมาตามหากระเป๋าหนังหมูก็ลองมาเลือกชมกันได้เลยค่ะ
ที่ตั้ง : 4-chōme−13−4, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิด: วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 12.00 - 18.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 18.00 น.
ราคา : 10,000 - 30,000 เยน
เว็บไซต์ : https://ren-webshop.com/
IG : https://www.instagram.com/ren_kuramae/?hl=ja
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ เดินประมาณ 1 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/DvuvEhZ14XH2z6c66?g_st=ic
พักทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน CAMERA คาเฟ่สุดน่ารักในย่านคุระมาเอะ ซึ่งเกิดจากคู่รักคุณภรรยาที่ชอบทำขนมและคุณสามีที่มีสตูดิโอทำเครื่องหนังเลยมาเปิดร้านนี้ด้วยกัน โดยแบ่งเป็นโซนคาเฟ่ให้บริการเมนูอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มสุดอร่อย ส่วนอีกด้านนึงเราก็สามารถเดินเลือกซื้อกระเป๋าหนังสวยๆ ไปได้ด้วย
ซึ่งข้อดีของการนำร้านเครื่องหนังมาอยู่ในร้านคาเฟ่คือทำให้เครื่องหนังเข้าถึงได้ง่าย เพราะคนทั่วไปอาจจะคิดว่าเครื่องหนังมีราคาแพงและอาจจะไม่กล้าเข้า แต่พอมาเป็นคาเฟ่ทำให้ลูกค้าที่รออาหารก็สามารถเดินไปชมเครื่องหนัง ได้ทดลองจับ ได้สัมผัส จนทำให้รู้สึกอยากเป็นเจ้าของ
สำหรับชื่อร้าน CAMERA มาจากภาษาลาตินแปลว่าห้องที่ความตั้งใจของเจ้าของร้านคือความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน ได้ทานอาหารอร่อยๆ เหมือนกับเราในวันนี้ที่เลือกสั่งเมนู Keema Curry ข้าวหน้าแกงกะหรี่คีมา เมนูสไตล์โฮมคุกกิ้งอร่อยมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงคือสลัด พร้อมกันนั้นยังมีเมนูเครื่องดื่มแนะนำอย่างน้ำบ๊วยโซดาที่ทางร้านดองบ๊วยเอง หวาน เย็น ชื่นใจมากๆ
ที่ตั้ง : 4-chōme-21-8, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิด : วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 11.00 - 17.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.
เว็บไซต์ : https://camera1010.tokyo/
IG : https://www.instagram.com/camera_bake/
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ เดินประมาณ 3 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/SwuHs1q89rx6XvUM7?g_st=ic
ร้านสุดท้ายสำหรับทริปนี้ กับร้านเครื่องหนังสุดพรีเมียมในย่านคุระมาเอะ นั่นก็คือแบรนด์ ETIAM ที่เปิดเป็นช้อปเครื่องหนัง พร้อมกับมีร้านคาเฟ่ และมีสตูดิโอทำเครื่องหนังให้เราได้ชมด้วยค่ะ
ภายในร้านตกแต่งผสมผสานความเป็นแอนทีค มีตู้โชว์เครื่องหนังที่ทำจากไม้ภายในมีเครื่องหนังทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าตังค์ กระเป๋าครัตช์ กระเป๋าเก็บนามบัตรเปิดโชว์ให้เราได้เลือกชม พร้อมกันนั้นยังสามารถสั่งเครื่องดื่มและขนมทานจากโซนคาเฟ่ได้ด้วย
สำหรับชื่อแบรนด์ ETIAM มาจาก 2 คำคือ ET (Eternal) ที่แปลว่านิรันดร์ สื่อถึงความต้องการอยากให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าของร้านไปชั่วนิรันด์ ส่วนคำว่า TIAM มาจากประกายดวงตาเวลาที่เราเจอสิ่งที่ประทับใจเมื่อแรกพบ
สำหรับจุดเด่นของแบรนด์ ETIAM คือการรวมสิ่งยอดเยี่ยมในญี่ปุ่นมาเป็นชิ้นงานไม่ว่าจะเครื่องเงินของจังหวัดไซตามะ ผ้าที่ทำกระเป๋ามาจากโอคะยาม่า ตัวหนังจากจังหวัดเฮียวโงะ ผ้าด้านในมาจากฟุกุอิ ชิ้นส่วนทุกชิ้นถูกผลิตอย่างพิถีพิถันในญี่ปุ่น กลายมาเป็นชิ้นงานสุดเนี้ยบดีไซน์สุดหรูใช้ได้ทุกเพศและแมชกับเสื้อผ้าได้หลายแบบ
โดยตัวร้านจะแบ่งเป็น 2 ชั้นค่ะ ด้านล่างจะเป็นโซนคาเฟ่ และช้อป พร้อมกันนั้นยังมีสตูดิโอให้เราได้ชมการทำงานของช่างฝีมือได้ด้วย ส่วนด้านบนจะมีที่นั่งให้นั่งทานพร้อมกับมีระเบียงที่สามารถนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศของย่านคุระมาเอะได้อีกด้วย
ที่ตั้ง : 2-chōme−3−5, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : เวลา 10.00 - 19.00 น. (ปิดวันอังคาร)
ราคา : เครื่องหนังเริ่มต้นที่ 30,000 - 60,000 เยน
เว็บไซต์ : https://www.etiam.shop/?utm_source=GMB&utm_medium=profile
IG : https://www.instagram.com/etiam.2020/
การเดินทาง : ใกล้กับทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/CxPQENdxVkf39Gci8?g_st=ic
เตรียมโบกมือลาโตเกียวกับทริปสั้นๆ 4 วัน 3 คืนที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของเครื่องหนัง ทริปนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยวญี่ปุ่นที่เราไม่ได้เน้นไปตะลุยที่เที่ยว แต่เน้นการเดินทางตามหาแบรนด์เครื่องหนังที่คนญี่ปุ่นยกให้ว่าดีมานำเสนอให้เหล่านักช้อปได้ลองออกเดินทางไปตามรอยกันค่ะ ใครที่เป็นสายช้อปก็เตรียมลิสต์ร้านที่ชอบและถูกใจไว้ ไปโตเกียวเมื่อไรก็ตามไปตะลุยช้อปกันได้เลย
บทความแนะนำ:
Tags: ญี่ปุ่น โตเกียว ร้านเครื่องหนังญี่ปุ่น กระเป๋าหนังญี่ปุ่น ของฝากญี่ปุ่น
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 60 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 พ.ย. 2024 | 1,928 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 พ.ย. 2024 | 1,085 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 01 พ.ย. 2024 | 573 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 08 พ.ย. 2024 | 998 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 27 ต.ค. 2024 | 2,261 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 03 พ.ย. 2024 | 797 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 30 ต.ค. 2024 | 845 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 734 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 06 พ.ย. 2024 | 182 อ่าน