calendar_month 09 ส.ค. 2023 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 8,474 / เที่ยวต่างประเทศ , สถานที่ยอดนิยม
OHAYO!! ทักทายกันแบบนี้รู้เลยว่าทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปตะลุยญี่ปุ่นกับเมืองยอดฮิตโตเกียว ที่มีเวลาสั้นๆ เพียง 4 วัน 3 คืน กับทริปภาระกิจตามหาร้านแบรนด์เครื่องหนังญี่ปุ่นที่คนญี่ปุ่นยกนิ้วเลยว่าดีโดนใจไม่แพ้แบรนด์ระดับโลกกันเลย อ๊ะ! ใครเป็นสายช้อปเตรียมจดลิสต์เอาไว้ให้ดี ยิ่งช่วงนี้เงินเยนราคาดี๊ดี ใครที่แลกเงินเยนเอาไว้แล้วก็เตรียมบินไปตะลุยช้อปที่โตเกียวกันได้เลยค่าาาา
วันแรกเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เช้าตรู่นั่งเครื่องบินบินตรงไปยังสนามบินนานาชาตินาริตะ ซึ่งการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นล่าสุดนั้นก็แสนง่าย เพราะตอนนี้ไม่ใช้ผลวัคซีน ไม่ต้องตรวจ ATK อะไรให้วุ่นวาย ไม่ต้องกรอก Fast Track ที่เว็บไซต์ Visit Japan อีกแล้วตอนนี้มาตรการเหมือนกับตอนก่อนโควิดเลยคือคนไทยฟรีวีซ่าอยู่ได้ 15 วันในส่วน Visit Japan นั้นจะเป็นส่วนในการกรอกรายละเอียดของตม.และศุลกากรเท่านั้น กรอกก็ได้หรือไปเขียนในกระดาษที่โน่นก็ได้ แต่แนะนำให้หรอกไปค่ะ เพราะกรอกปุ๊บเราจะได้คิวอาร์โค้ดไว้สำหรับแสกนเข้าตม.และศุลกากรได้ทันที สะดวกสบายมากๆ จะกรอกก่อนเข้าตม.ก็ได้นะ เตรียมแค่หลักฐานไฟลท์เดินทาง ไป-กลับ เลขพาสปอร์ตและที่อยู่ เบอร์โทร(โรงแรม)ทีโน่นเพียงเท่านี้ก็ได้คิวอาร์โค้ดไว้แสกนกันแล้ว
วันแรกเรามาถึงโตเกียวตอนเย็นแล้วค่ะ วันนี้เลยตรงเข้าที่โรงแรมเลย โดยโรงแรมที่เราพักเป็นโรงแรมในย่านอาซากุสะ ย่านสุดฮอตฮิตของนักท่องเที่ยว ทำเลดีเว่อร์วังเดินประมาณ 3 นาทีก็ถึงวัดเซ็นโซจิ เดินต่อไปอีกนิดถึงทางลงรถไฟใต้ดินมีโตเกียวสกายทรีให้ชมทั้งวัน อยากช้อปก็มีดองกี้ มีห้างสรรพสินค้า มีย่านช้อปปิ้ง และไม่ต้องกลัวหิวเพราะเดินไม่กี่เมตรก็เจอร้านอาหารมากมายแล้วล่ะค่ะ วันนี้เลยเป็นวันของการพักเก็บแรงไปตะลุยช้อปต่อในวันพรุ่งนี้เช้า
เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้ากันแล้วเราก็ออกสตาร์ตไปยังร้านแรกซึ่งอยู่ในย่านอาซากุสะกับแบรนด์ Wisteria Fujiwara แบรนด์รองเท้าเครื่องหนังที่เมดทูออเดอร์ทำมาเพื่อเท้าของเราแต่ละคนเท่านั้น ละเมียดละไมใส่ความประณีตในรองเท้าทุกคู่ ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงญี่ปุ่นสามารถใส่รองเท้าส้นสูงเดินขึ้นลงบันไดได้แบบคล่องแคล่วเพราะเขามีรองเท้าดีๆ แบบนี้นี่เอง ซึ่งแบรนด์ Wisteria Fujiwara เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1950 เน้นรองเท้าผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ โดยบริการของเขาเริ่มตั้งแต่วัดไซส์ของแต่ละคนเลือกดีไซน์รองเท้าที่ชอบและลองใส่เดิน เลือกประเภทของหนังและสี และปรับขนาดจนกว่าจะได้รองเท้าที่ถูกใจและใส่สบาย รวมใช้เวลาในการผลิตต่อคู่ประมาณ 5 สัปดาห์ และสำหรับลูกค้าต่างชาติยังมีบริการส่งต่างประเทศอีกด้วยค่ะ แค่เพียงมาลองวัดไซส์เลือกแบบ เลือกหนังในสไตล์ที่ชอบก็สามารถรอรองเท้าที่บ้านได้เลย นอกจากนั้นยังมีบริการหลังการขายบริการซ่อมและเปลี่ยนส้นฟรี โดยทางร้านเล่าให้เราฟังว่าลูกค้าบางคนใส่รองเท้าของร้านมา 5 ปีแล้วก็ยังใส่ได้ดี เรียกได้ว่าเป็นร้านที่เข้าใจในเรื่องเท้าอย่างแท้จริง
Wisteria Fujiwara
ที่ตั้ง : 2-chōme−22−5 , Higashiasakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : 12.00 - 20.00 น. (ปิดวันพุธ)
ราคาเริ่มต้น : 47,000 เยน
การเดินทาง : สามารถนั่งรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทรสาย Hibiya มาลงสถานี Minowa แล้วเดินมาประมาณ 14 นาทีหรือสามารถเรียกแท็กซี่มาที่ร้านได้
เว็บไซต์ : https://wisteriafujiwara.jp/
IG : https://www.instagram.com/wisteriafujiwara/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/CP7SUXogPofJ3a1w5
ถ้าอยากได้กระเป๋า หรือเข็มขัดหนังดีๆ สักชิ้นเราขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ANNAK Shop ร้านเครื่องหนังสุดเท่เปิดให้บริการมาประมาณ 8 ปีโดยช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญรังสรรค์ชิ้นงานที่เหมาะกับทุกคน สำหรับชื่อร้าน มาจากคำว่า KANNA ที่แปลว่ากบไสไม้ในภาษาญี่ปุ่นซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการขัดขอบหนังซึ่งเป็นเทคนิคของช่างฝีมือ ความเก๋คือการนำคำว่า KANNA มาเรียงใหม่โดยนำข้างหลังมาไว้ข้างหน้าเลยกลายเป็นชื่อร้านสุดเท่ว่า ANNAK พอเข้ามาในร้านก็พบกับการจัดวางเครื่องหนังไม่ว่าจะเป็นกระเป๋า เข็มขัด รองเท้าในบรรยากาศร้านที่จัดไว้เหมือนสตูดิโอ โดยมีการจัดวางสินค้าให้เราได้เลือกชมได้แบบสะดวกสบายมีกระเป๋าที่ห้อยอยู่บนราวให้เราสามารถหยิบมาลองได้อย่างพอใจซึ่งหนังของที่นี่เขาจะใช้หนังวัวแค่ได้สัมผัสตัวหนังก็รู้สึกผิวสัมผัสที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพน่าใช้มากๆ สีสวยชัด มีทั้งเข็มขัด กระเป๋าตังค์หนังสุดเท่ที่ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง ส่วนสาวๆ อย่างเราบอกเลยว่าเข้ามาในร้านนี้ก็อยากได้ไปหมด เพราะเขาดีไซน์ออกมาน่าใช้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าเป้ หรือครอสบอดี้สุดเก๋ ที่เขาใช้เทคนิคในการทำเข็มขัดมาทำสายกระเป๋า ใครอยากได้สีโทนสดใสก็มีให้เลือกมากมาย หรีอจะเป็นโทนสีชมพูอ่อนสีเมทัลลิคก็น่าใช้มากๆ
ANNAK Shop
ที่ตั้ง : 3-chōme−21−4, Motoasakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : วันพุธ - วันเสาร์ เวลา 11.00 - 17.00 น.
ราคาเริ่มต้น : เข็มขัด 8,000 - 20,000 เยน / กระเป๋าตังค์ 10,000 - 30,0000 เยน / กระเป๋า 20,000 - 50,000 เยน
การเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Tawaramachi ประมาณ 7 นาที
เว็บไซต์ : https://annak-shop.com/
IG : https://www.instagram.com/annak_onlineshop/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/TDJJXATDyKWes4xM8
จากนั้นพักทานอาหารกลางวันที่ร้าน Soba Shōnin ร้านโซบะเก่าแก่อายุยาวนานกว่า 100 ปี โดยเราสั่งเป็นเมนู Keshi-Kiri เส้นโซบะผสมเมล็ดป๊อปปี้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยเราสั่งแบบเย็นทานแล้วสดชื่นเหมาะกับหน้าร้อนมากๆที่ตั้ง : 2 Chome-7-3 Komagata, Taito City, Tokyo 111-0043 ญี่ปุ่น
เปิดบริการ : วันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 11.30 - 14.00 น. และ 17.00 - 20.30 น.
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/np3yuubJy7qrqbaH8
หลังจากทานอาหารกลางวันกันแล้ว ก็ตัดสินใจว่าจะไปตามรอยแบรนด์ PORTER แบรนด์กระเป๋าชื่อดังของญี่ปุ่นที่เขามีแกลลอรี่อยู่ในย่านอาซากุสะนี่เองกับ Yoshida Kichizo Memorial Museum
PORTER แบรนด์กระเป๋าชื่อดังของญี่ปุ่นที่ก่อตั้งโดยคุณ Yoshida Kichizo ซึ่งเริ่มทำกระเป๋าด้วยตัวเองตอนที่เขาอายุได้เพียง 12 ปี ต่อมาได้ก่อตั้งบริษัท Yoshida Kaban Seisakusho ในปี 1935 และเปลี่ยนมาเป็น YOSHIDA & Co. ในปี1951 และในปี 1962 ก็ได้มีการประกาศชื่อแบรนด์แรกโดยใช้ชื่อว่า PORTER ที่มาจากความคิดที่ว่าพนักงานยกกระเป๋าในโรงแรมเป็นคนที่สัมผัสกระเป๋าของลูกค้าอยู่เสมอและรู้ข้อดีของกระเป๋าแต่ละใบจุดเด่นของงานฝีมือของ PORTER คือ ความประณีตภายใต้สโลแกนที่ว่า ‘Heart and soul into every stitch’ จิตวิญญาณอยู่ในทุกตะเข็บ และกระบวนการทั้งหมดตั้งแต่การตัดจนถึงการเย็บทำในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งภายในแกลอรี่แห่งนี้จะโชว์เรื่องราวผลงานของคุณ Yoshida Kichizo ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และมีการจำลองโต๊ะทำงาน เก้าอี้ และเครื่องมือต่างๆ ที่เคยใช้งานจริง รวมไปถึงผลงานกระเป๋ารุ่นต่างๆ ให้เราได้ชม
ใครที่เป็นแฟนแบรนด์ PORTER อยากมาตามรอยเรื่องราวของคุณ Yoshida Kichizo ก็เดินทางมาที่นี่กันได้เลย
Yoshida Kichizo Memorial Museum
ที่ตั้ง : 1-chōme-4-7, Imado, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : วันอังคาร - วันเสาร์ เวลา 12.00 - 17.00 น. (เข้าชมฟรี)
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดิน Asakusa สามารถนั่งรถแท็กซี่ต่อมาได้ใช้เวลาประมาณ 3 นาที หรือเดินมาได้ใช้เวลาประมาณ 13 นาที
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/HtCSwMheXoC4pHkK6
ช้อปปิ้งกันมาทั้งวันแวะพักทานขนมสุดอร่อยที่กำลังเป็นกระแสของเหล่าชาวโซเชียลญี่ปุ่นกันค่ะที่ร้าน Asakusa Chaya Tabanenoshi อยู่ใกล้ๆ กับวัดเซ็นโซจิย่านอาซากุสะเลยค่ะ ร้านนี้มีเมนูเครปชาเขียวที่กำลังมาแรงสุดๆ รวมถึงเมนูเครปรสชาติต่างๆ และเครื่องดื่มทั้งกาแฟและชาเขียวให้เลือกทานกันด้วยร้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์ผสมผสานกับกรอบไม้ของประตู มีน้องพนักงานใส่สุดแบบญี่ปุ่นอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์สามารถสั่งอาหารจากเคาน์เตอร์ด้านหน้าได้เลยค่ะ สั่งแล้วก็มีโต๊ะให้นั่งทานด้านใน อ๊ะคนญี่ปุ่นเขาไม่นิยมเดินกินนะคะ ถ้าจะทานก็ทานด้านในร้านหรือถ้าไม่มีที่นั่งก็สามารถยืนทานด้านหน้าร้านกันได้ค่ะ
มาดูเมนูที่เราสั่งมาทานกันในวันนี้ กับ Kakegawa matcha tiramisu (990 เยน) ซึ่งตัวแป้งเครปเป็นแป้งชาเขียวค่ะ ด้านในมีครีม ท็อปด้านบนด้วยผงชาเขียว ใครชอบชาเขียวบอกเลยว่าเลิฟแน่นอน และ Sweet potato(1,200 เยน) เครปหน้ามันหวานครีมนุ่มละมุนลิ้นไม่หวานมากด้วยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีเมนู Kakegawa matcha brulee(990 เยน) ที่ด้านบนจะมีน้ำตาลเบิร์นไฟอร่อยฟินมากๆ ส่วนเครื่องดื่มเราสั่ง Kakegawa matcha latte(550 เยน) ชาเขียวเย็นสุดเข้มข้นบวกกับความนุ่มของนม ทานแล้วสดชื่นคลายร้อนได้ดีมากๆ
Asakusa Chaya Tabanenoshi
ที่ตั้ง : 2-chōme-7-7, Asakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : ใกล้วัดเซ็นโซจิ จากสถานี Asakusa เดินประมาณ 2 นาที
เว็บไซต์ : https://tabanenoshi.com/
IG : https://www.instagram.com/asakusachaya_tabanenoshi/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/GWWDBhg8Ww6pPGRE6
อีกเมนูในย่านอาซากุสะที่ต้องห้ามพลาดกับเมนูผลไม้เคลือบน้ำตาลที่มีทั้ง ริงโกะอาเมะ (แอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาล) อิจิโกะอาเมะ (สตรอเบอร์รี่เคลือบน้ำตาล) มิกังอาเมะ(ส้มเคลือบน้ำตาล) บุโดอาเมะ (องุ่นเคลือบน้ำตาล) ที่เขาจะเสียบไม้ให้เราได้ทานแบบนี้เลยค่ะ โดยใช้ผลไม้สดๆ หวานชื่นใจมากๆ เป็นขนมที่เหมาะกับการทานในช่วงหน้าร้อนของญี่ปุ่นมากๆAsakusa Candy
ที่ตั้ง : 2-chōme-7-7, Asakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : ใกล้วัดเซ็นโซจ จากสถานี Asakusa เดินประมาณ 2 นาที
IG : https://www.instagram.com/asakusa__candy/
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/GWWDBhg8Ww6pPGRE6
จากนั้นเราเดินมาเที่ยวต่อที่วัดเซ็นโซจิ แลนด์มาร์คที่ใครมาโตเกียวก็ต้องมาเช็คอินกับโคมแดงยักษ์ด้านหน้าวัด และบริเวณวัดอาซากุสะจะมีถนนหน้าวัดที่ชื่อว่าถนนนากามิเสะ ระหว่างที่เดินเล่นลัดเลาะไปบนถนนเส้นนี้เราก็พบกับร้านกระเป๋าสุดน่ารักของสาวๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บอกเลยว่าเป็นร้านกระเป๋าที่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นนั่นก็คือร้าน Bunkoya-Oozeki
Bunkoya-Oozeki หน้าร้านมีแผ่นไม้ขนาดใหญ่พร้อมบรรยากาศด้านหน้าแบบวินเทจสะท้อนกับแสงยามเย็นทำให้บรรยากาศรอบข้างดูอบอุ่น หญิงสาวชาวญี่ปุ่นต่างเดินเข้าไปด้านในกันยังไม่ขาดสาย ทำให้เรายิ่งสนใจที่จะเดินเข้าไปชมบ้าง
ด้านในร้านตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นมีกระเป๋าลายน่ารักตั้งวางไว้บนชั้น รวมทั้งยังมีตู้ขนาดใหญ่ด้านข้างที่ด้านในบรรจุกระเป๋าไว้ทุกชั้น รอให้เจ้าของกระเป๋ามาเปิดเลือกชมกันได้ตามใจชอบ เป็นบรรยากาศร้านกระเป๋าที่เราชอบมากๆ เลยค่ะ เหมือนกำลังเลือกชมงานศิลปะที่ลวดลายนั้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
ซึ่งร้าน Bunkoya-Oozeki เปิดมาตั้งแต่ปี 1996 โดยคำว่า Bunko เป็นชื่อกล่องชนิดหนึ่งในสมัยโบราณของคนญี่ปุ่นที่ใช้เก็บของใช้ส่วนตัว ของมีค่า มีการตกแต่งด้วยลวดลายที่สวยงามและมีการเคลือบเงา ซึ่งทางร้านใช้เทคนิคในการทำกล่อง Bunko มาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋าโดยใช้หนังจากวัว มีทั้งกระเป๋าตังค์เล็กๆ กระเป๋าเงิน ที่ใส่ตราปั๊มชื่อของคนญี่ปุ่น โดยทุกชิ้นทำด้วยมือมีลวดลายให้เลือกกว่า 120 ลายโดยจะมีลายใหม่ๆ ออกมาตามฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นลายประจำฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ผลิ เทศกาลคริสต์มาส บอกเลยว่าน่าซื้อทุกชิ้นเลยค่ะ Bunkoya-Oozeki Asakusa Store
ที่ตั้ง : 2-chōme−2−6, Asakusa, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : 10.00 - 18.00 น. (ปิดวันพุธ)
ราคาเริ่มต้น : 3,850 - 27,000 เยน
การเดินทาง : อยู่ในถนนนากามิเสะ หน้าวัดเซ็นโซจิ เดิน 5 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะ
เว็บไซต์ : https://www.oozeki-shop.com/page/133
IG : https://www.instagram.com/bunkoya_oozeki/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/C1J1qRzL8mfRrmCr9?g_st=ic
ปิดทริปวันที่ 2 แบบจุกๆ ที่งานนี้ขาช้อปอย่างเราได้กระเป๋า รองเท้า สินค้าเครื่องหนังกลับไปกันมากมาย และเตรียมไปช้อปต่อวันพรุ่งนี้เช้าที่แพลนพรุ่งนี้ก็จัดเต็มร้านเครื่องหนังแน่นๆ อีกเช่นเคย
เช้านี้หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังย่านฮิงาชิสุมิดะ ที่อยู่ไม่ไกลจากย่านอาซากุสะ เพื่อจะเดินทางไปชมการเดินทางของเครื่องหนังว่ากว่าจะมาเป็นเครื่องหนังสวยๆ สักชิ้นต้องทำอย่างไรบ้างที่ LEATHER LAB TOKYO
กว่าจะเป็นเครื่องหนังสักชิ้นต้องทำอย่างไรบ้าง? คือคำถามที่เหล่าคนรักเครื่องหนังอยากรู้ และวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกการทำเครื่องหนังกันค่ะที่ LEATHER LAB TOKYO ใครอยากมาชมสามารถติดต่อเข้ามาชมได้เลยค่ะ ที่สำคัญยังมีโชว์รูมให้เราได้เลือกซื้อเครื่องหนังคุณภาพดีในราคาโรงงานกันอีกด้วย
ด้านหน้าโรงงานมีที่บำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายของญี่ปุ่นในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งโรงงานนี้กำลังเข้าร่วมกับทางองค์กร LWG เป็นองค์กรที่จะการันตีในเรื่องมาตรฐานโรงงานเครื่องหนังที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยจะมีการตรวจสอบขั้นตอนการบำบัดน้ำเสียอย่างเข้มงวดทุกๆ วันกันเลยทีเดียวโดยตัวโรงงานจะแบ่งเป็น 4 ชั้น ชั้นที่ 1 จะเป็นขั้นตอนการย้อมสีหนัง การทำให้หนังนิ่ม การติดฟิล์มเพื่อสร้างลายบนหนัง ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นชั้นการฉีดพ่นสีไปบนหนังให้เท่ากัน ส่วนชั้นที่ 3 จะเป็นกระบวนการตากผืนหนัง ที่สามารถตากได้กว่า 1,500 ชื้นในครั้งเดียว ส่วนชั้น 4 จะเป็นชั้นที่เก็บสต็อกหนัง ซึ่งโรงงานแห่งนี้ผลิตหนังคุณภาพดีส่งให้กับแบรนด์เครื่องหนังชื่อดังต่างๆ และยังทำแบรนด์ของตัวเองโดยเราสามารถเลือกซื้อได้ที่บริเวณชั้น 3 ได้เลยค่ะ
โชว์รูมเครื่องหนังที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ที่จัดโชว์สิ้นค้าซึ่งเป็นแบรด์ของทาง LEATHER LAB TOKYO มีทั้งกระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือ แถมราคายังถูกกว่าเวลาเราไปซื้อข้างนอก ใครที่สนใจอยากมาชมกระบวนการทำเครื่องหนังสามารถติดต่อเข้ามาชมฟรีได้เลยค่ะ
LEATHER LAB TOKYO
ที่ตั้ง : 3 Chome-14-21 Higashisumida, Sumida City, Tokyo 131-0042 ญี่ปุ่น
เปิดบริการ : วันจันทร์ - วันศุกร์ 9.30-15.00 น.
ติดต่อเข้าชมทางโทรศัพท์ 03-5630-8189
หรืออีเมล info@leatherlabtokyo.com
เว็บไซต์ : https://www.leatherlabtokyo.com/
IG : https://www.instagram.com/leatherlabtokyo/
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Yahiro แล้วนั่งแท็กซี่ต่อมาประมาณ 4 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/yqMGYoBPHPyceB1R6?g_st=ic
จากย่านฮิงาชิสุมิดะ เรานั่งรถกลับมาที่ย่านสุมิดะเพื่อมายัง Tokyo Skytree ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของร้านเครื่องหนังคุณภาพดี Scotch Grain Tokyo Skytree Town Solamachi ร้านเครื่องหนังที่มีอายุ 45 ปีซึ่งจุดเด่นของแบรนด์ Scotch Grain คือรองเท้าหนังที่ผลิตในเขตสุมิดะของโตเกียว และใช้เทคนิคในการผลิตเหมือนที่ทำในยุโรปซึ่งสืบทอดวิธีการผลิตมากว่า100 ปีโดยพื้นรองเท้าเขาจะมี 3 ชั้น ใส่แล้วไม่เมื่อยไม่เจ็บ ใช้หนังคุณภาพเดียวกับแบรนด์ระดับโลก รองเท้ามีความคงทนในการใช้งานซึ่งถ้าดูแลรักษาดีๆ ก็สามารถใส่ได้เป็น 10 ปีกันได้เลย สำหรับสินค้าในร้านส่วนมากจะเป็นรองเท้าผู้ชาย แต่จะมีรองเท้าผู้หญิง กระเป๋าหนังให้เลือกอีกด้วย
ภาพพื้นรองเท้าที่ประกอบไปด้วยชั้น 3 ชั้นซึ่งเป็นวิธีการทำรองเท้าแบบในยุโรบ นอกจากนี้ยังมีพื้นรองเท้าให้เราเลือกตามความชอบ ส่วนใครที่คิดว่ามีแต่รองเท้าผู้ชาย อ๊ะเขามีมุมรองเท้าและกระเป๋าผู้หญิงอยู่นะคะแม้ว่าจะมีไม่มาก แต่ก็น่ารักมากทุกชิ้นกันเลย โดยเฉพาะรองเท้าน้องแพนด้าเตะตาเตะใจเราสุดๆ ล่ะ
บริเวณด้านหน้าร้านจัดโชว์รองเท้าคอลเล็กชั่น Spider ใช้ชิ้นส่วนหนัง 38 ชิ้นต่อหนึ่งคู่มาปะติดปะต่อกันเหมือนแมงมุมซึ่งเป็นชิ้นงานที่ใช้ความประณีตและใช้เวลาทำนานโดยช่างฝีมือหนึ่งคนสามารถสร้างสรรค์รองเท้าคู่นี้ได้ 3 คู่/วันเท่านั้น
สำหรับช้อปของ Scotch Grain มี 4 สาขาคือสาขานี้ กินซ่า อุเอโนะ และโอซาก้า นอกจากนี้ยังมีช้อปใน Outlet อีก 5 สาขาคือโกเทมบะ รินคุทาวน์ กิฟุ และยูรากุโจ พร้อมกันนั้นยังมีขายใน Online Shop อีกด้วย
Scotch Grain
ที่ตั้ง : ชั้น 1 ภายใน Tokyo Skytree Town Solamachi 1 Chome-1-2 Oshiage, Sumida City, Tokyo 131-0045 ญี่ปุ่น
เปิด : ทุกวัน 10.00-21.00 น.
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานี Tokyo Skytree
เว็บไซต์ : https://scotchgrain.co.jp/
IG : https://www.instagram.com/scotchgrain_official/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/hL6MLsTXswaF8Uo98?g_st=ic
จากนั้นแวะทานอาหารเที่ยงที่ร้าน LAND_A ร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Tokyo Skytree ค่ะมีเมนูให้เลือกซึ่งส่วนมากเป็นเมนูพาสต้า พิซซ่า สเต็ก และของทานเล่น สำหรับมื้อนี้เราสั่งเมนู Sasebo,Nagasaki Steak with Lemon (ราคา 1,850 เยน) โดยใช้เนื้อวากิวระดับ A5 เสิร์ฟมาในกระทะร้อนพร้อมกับซอสเลม่อน เนื้อนุ่มแทบละลายในปาก ตัดด้วยความเปรี้ยวของเลม่อนสามารถเลือกทานได้ว่าจะทานคู่กับขนมปังหรือข้าว
ทานอาหารกันอิ่มแล้วสายช้อปอย่างเราก็มุ่งหน้าไปยังร้านต่อไปค่ะกับร้าน Kiyokawa Shouten ร้านเครื่องหนังรางวัล Japan Leather Award 2 ปีซ้อน ก่อตั้งมายาวนานกว่า 63 ปีจึงการันตีได้เลยว่าเป็นร้านเครื่องหนังที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพสำหรับสินค้าในร้านจะเน้นเป็นงานกระเป๋าหนังโดยมี 2 คอลเล็กชั่นคือ Kiyokawa เน้นกระเป๋าสำหรับผู้หญิงและคอลเลกชั่น Azzuni ที่เป็นแบบยูนิเซ็กส์ใช้ได้ทุกเพศ
โดยสินค้าในร้านจะใช้หนังวัวญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งกระเป๋าตังค์ กระเป๋าใส่นามบัตร กระเป๋าถือ เป้ ให้เลือกมากมายเลยค่ะ ดีไซน์แต่ละแบบก็น่าใช้มากๆ การตัดเย็บก็ประณีตพิถีพิถันใครอยากได้กระเป๋าสวยๆ คุณภาพดีก็ลองมาเลือกที่ร้านนี้ได้เลยค่ะ
Kiyokawa Shouten
ที่ตั้ง : 2-chōme−1−6, Azumabashi, Sumida City, Tokyo
ราคา : คอลเลกชั่น Kiyokawa ราคาเริ่มต้น 30,000 - 50,000 เยน / คอนเลกชั่น Azzuni ราคาเริ่มต้น 20,000 - 30,000 เยน
เปิด : ทุกวัน 11.00 - 18.00 น.
การเดินทาง : เดิน 1 นาทีจากสถานีรถไฟ Honjo - Azumabashi
เว็บไซต์ : https://www.kiyo-kawa.com/
IG : https://www.instagram.com/kiyokawa_official/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/WKG4QBFNbNANNxMX7?g_st=ic
ร้านสุดท้ายของวันนี้คือร้าน PLANT ฟังแค่ชื่อนึกว่าเป็นร้านขายต้นไม้ แต่ที่จริงร้านนี้คือช้อปและสตูดิโอเครื่องหนังทำมือที่มีดีไซน์สุดเท่ในแบบฉบับของตัวเองแค่ก้าวเข้ามาในร้านเราก็จะสัมผัสถึงงานเครื่องหนังที่ประณีตและละเมียดละไมโดยช่างฝีมือที่กำลังตั้งใจทำชิ้นงานแต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถันอยู่บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์
คอนเซ็ปต์ของเขาคือ Plain and natural โดยใช้หนังที่ใช้วิธีการฟอกสีธรรมชาติด้วยเปลือกไม้และวัสดุจากพืช โดยสินค้าในร้านมีทั้งกระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือ ครอสบอดี้ ที่เก็บกุญแจ โดยดีไซน์ของเขาจะเป็นแบบมินิมอลเหมาะกับทุกเพศและทำมือทุกชิ้น กระเป๋าแต่ละชิ้นใช้เวลาในการทำประมาณ 4-5 สัปดาห์ จึงทำให้สินค้าในร้านมีความยูนีคไม่ซ้ำกันเลยค่ะ หรือใครอยากมาสั่งทำ หรือให้ทางร้านสลักชื่อให้ก็มีบริการด้วยนะคะ
ซึ่งความหมายของชื่อแบรนด์ PLANT นั้นนอกจากการใช้สีธรรมชาติในกระบวนการฟอกหนังแล้ว ยังมีสื่อความหมายถึงเครื่องหนังที่เราซื้อไปนั้นแต่ละชิ้นก็จะปรับตัวไปตามสไตล์ของเจ้าของเหมือนกับต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโต เจ้าของอย่างเราก็ต้องดูแลเครื่องหนังเหล่านั้นเหมือนกับต้นไม้ต้นหนึ่งนั่นเอง
PLANT
ที่ตั้ง : 1-chōme−2−12, Honjo, Sumida City, Tokyo
เปิดบริการ : 13.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์และวันอังคาร)
ราคาเริ่มต้น : ประมาณ 10,000 เยน++
การเดินทาง : จากสถานี Ryogoku นั่งแท็กซี่มาประมาณ 3 นาที หรือเดินประมาณ 11 นาที
เว็บไซต์ : https://plant-leather.com/
IG : https://www.instagram.com/plant_leather/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/fBFBNUCH9JEkpNBH9?g_st=ic
ข้างๆ ร้าน PLANT มีร้านไอศกรีมพร้อมกับมุมถ่ายรูปสุดเก๋ให้ด้วยค่ะ ใครเลือกซื้อกระเป๋ากันแล้วก็มาทานไอศกรีมต่อกันได้เลยในตอนเย็นเราไปล่องเรือทานอาหารสุดอร่อยกับเรือ Yakatabune AMITATSU ที่จะล่องไปบนแม่น้ำสุมิดะ จุดขึ้นเรือจะอยู่บริเวณข้างๆ ตึกฮาซาฮีค่ะ โดยภายในเรือจะปูเสื่อตาตามิ มีที่นั่งแบบห้อยขา พร้อมกับมีห้องน้ำภายในเรือ เสิร์ฟอาหารแบบ Kaiseki โดยเป็นจานเล็กๆ อร่อยมากๆ ทานไปชมวิวบรรยากาศริมแม่น้ำสุมิดะที่เราจะเห็นทั้งโตเกียวสกายทรี โตเกียวทาวเวอร์ สะพานสายรุ้ง โอไดบะ บอกเลยว่าฟินมากๆ
ปิดวันที่ 3 ด้วยความประทับใจที่ได้รู้เรื่องราวการเดินทางของเครื่องหนัง รวมทั้งได้ทำความรู้จักแบรนด์เครื่องหนังดีๆ ในญี่ปุ่นอีกมากมาย พรุ่งนี้วันสุดท้ายที่เราจะอยู่ในโตเกียวแล้วขาช้อปอย่างเราก็เตรียมลิสต์ร้านเครื่องหนัง
วันสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ เช้านี้หลังจากตื่นมาทานอาหารเช้าที่โรงแรมปุ๊บก็เช็คเอาท์และฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมเพื่อเดินทางไปช้อปปิ้งต่อกันยาวๆ เลย โดยร้านแรกของวันนี้เราจะไปช้อปร้านกระเป๋าดีไซน์สุดมินิมอลกับแบรนด์ Neutral Gray ที่ตั้งอยู่ในย่านคุระมาเอะ ย่านสุดเก๋ในโตเกียวที่กำลังมาแรงสุดๆ
Neutral Gray แบรนด์สุดมินิมอลที่แอบซ่อนอยู่ในย่านคุระมาเอะ ที่ถ้าไม่สังเกตดีๆ เราจะไม่รู้เลยว่ามีร้านซ่อนอยู่ ทางเข้ามีป้ายไฟ Neutral Gray ติดอยู่พอเข้ามาในร้านเราจะพบกับกระเป๋าดีไซน์สุดเรียบง่าย วางอยู่บนชั้น ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าตังค์ กระเป๋าถือที่มีตั้งแต่ใบเล็ก ไปจนถึงใบใหญ่ กระเป๋าครอสบอดี้ บอกเลยว่าทุกแบบดีไซน์สไตล์แคชช่วล สวยประทับใจเรา จนอยากจะเหมากลับบ้านไปทุกชิ้นกันเลยค่ะ
จุดเด่นของ Neutral Gray คือการใช้หนังม้ามารังสรรค์เป็นกระเป๋าใบสวย โดยหนังม้ามีลักษณะเฉพาะตัวคือความเบา เนื้อละเอียด ค่อนข้างแข็งแรง และคงรูปทรง เมื่อมาผสานการออกแบบจากดีไซน์เนอร์ของร้านก็ทำให้เครื่องหนังของ Neutral Gray ดูเก๋มีสไตล์น่าใช้มากๆ นอกจากนี้ยังมีกระเป๋าหนังวัวให้ได้เลือกช้อปอีกด้วย
ความประทับใจคือการออกแบบแต่ละใบคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบาย น้ำหนักเบา เวลาสะพายไม่หนัก อย่างกระเป๋าตังค์ที่สามารถจุบัตร ใส่มือถือได้โดยกระเป๋าก็ยังคงรูปอยู่ได้เหมือนเดิม หรือกระเป๋าถือใบใหญ่ที่น้ำหนักเบาไม่ใช้ตัวยึดหรือตะขออะไรเลย แต่กระเป๋ายังคงรูปทรงเดิมแม้จะบรรจุของเยอะแค่ไหนทรงก็ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลย นอกจากนี้ยังมีการใช้เทคนิคการปั๊มลงไปในหนังให้เป็นลายตารางเหมือนกระเป๋าสานและลงสีด้วยมือได้กระเป๋าคลัตช์ใบเก๋ไก๋น่าใช้มากๆ
ซึ่งลูกค้าส่วนมากจะเป็นผู้หญิงแต่เราว่าก็มีแบบให้คุณผู้ชายได้เลือกใช้ให้ลุคคูลมินิมอลได้ด้วย
ที่ตั้ง : 4-chōme−14−13, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : วันพฤหัสบดี - วันอาทิตย์ เวลา 12.00 - 18.00 น.
ราคา : 10,000 - 40,000 เยน
เว็บไซต์ : https://neutralgray.jp
IG : https://www.instagram.com/neutralgray_bag/
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ เดินประมาณ 2 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/oGVwC3QbVrMvPeCg7?g_st=ic
ร้านต่อไปสร้างความเซอร์ไพรส์ให้เราอีกแล้วค่ะ เพราะนอกจากหนังวัว หนังม้า หนังแพะที่สามารถนำมาทำเครื่องหนังได้แล้ว หนังหมูก็สามารถนำมาทำเครื่องหนังสวยๆ ได้อีกด้วยกับแบรนด์ REN ที่เปิดตัวเมื่อปี 2005 และสร้างความสนใจสำหรับคนใช้สินค้าหนัง เพราะเขาใช้หนังหมู ซึ่งหมูเป็นสัตว์ที่คนญี่ปุ่นบริโภคเยอะนำมาสร้างสรรค์เป็นกระเป๋า จุดเด่นคือน้ำหนักเบาและการดีไซน์ที่ทำให้กระเป๋ามีรูปร่างเหมือนถุงใส่ของใบใหญ่จุของได้เยอะ
ซึ่งกระเป๋าแต่ละใบถ้าเราสังเกตดีๆ จะเห็นรอยบนกระเป๋าก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เพราะรอยเหล่านี้คือรอยที่เกิดจากธรรมชาติของสัตว์ที่นำมาทำเป็นหนังเหมือนกับใบหน้าของแต่ละคนที่มีร่องรอยและเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ทำให้แต่ละใบมีความยูนีคไม่เหมือนกัน
นอกจากหนังหมูแล้วทางร้านยังเลือกใช้หนังแพะ หนังวัวมาดีไซน์เป็นกระเป๋าอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นทางร้านยังมีชุดทำกระเป๋าจิ๋ว DIY ให้เราได้ซื้อกลับไปทำที่บ้านได้อีกด้วยค่ะ ซึ่งชุด DIY ราคา 4,070 เยนในชุดมีหนังมีเชือกมีวิธีทำมาให้ทำไม่ยาก วันนี้เราลองทำแล้วใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็ได้กระเป๋าจิ๋วสุดน่ารักกันแล้ว
สาขาของร้าน REN มีทั้งหมด 4 สาขาค่ะคือ ที่คุระมาเอะ คากุระซะกะ โยโกฮาม่า และโอซาก้าใครอยากมาตามหากระเป๋าหนังหมูก็ลองมาเลือกชมกันได้เลยค่ะ
ที่ตั้ง : 4-chōme−13−4, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิด: วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 12.00 - 18.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 18.00 น.
ราคา : 10,000 - 30,000 เยน
เว็บไซต์ : https://ren-webshop.com/
IG : https://www.instagram.com/ren_kuramae/?hl=ja
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ เดินประมาณ 1 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/DvuvEhZ14XH2z6c66?g_st=ic
พักทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน CAMERA คาเฟ่สุดน่ารักในย่านคุระมาเอะ ซึ่งเกิดจากคู่รักคุณภรรยาที่ชอบทำขนมและคุณสามีที่มีสตูดิโอทำเครื่องหนังเลยมาเปิดร้านนี้ด้วยกัน โดยแบ่งเป็นโซนคาเฟ่ให้บริการเมนูอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่มสุดอร่อย ส่วนอีกด้านนึงเราก็สามารถเดินเลือกซื้อกระเป๋าหนังสวยๆ ไปได้ด้วย
ซึ่งข้อดีของการนำร้านเครื่องหนังมาอยู่ในร้านคาเฟ่คือทำให้เครื่องหนังเข้าถึงได้ง่าย เพราะคนทั่วไปอาจจะคิดว่าเครื่องหนังมีราคาแพงและอาจจะไม่กล้าเข้า แต่พอมาเป็นคาเฟ่ทำให้ลูกค้าที่รออาหารก็สามารถเดินไปชมเครื่องหนัง ได้ทดลองจับ ได้สัมผัส จนทำให้รู้สึกอยากเป็นเจ้าของ
สำหรับชื่อร้าน CAMERA มาจากภาษาลาตินแปลว่าห้องที่ความตั้งใจของเจ้าของร้านคือความรู้สึกผ่อนคลายเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน ได้ทานอาหารอร่อยๆ เหมือนกับเราในวันนี้ที่เลือกสั่งเมนู Keema Curry ข้าวหน้าแกงกะหรี่คีมา เมนูสไตล์โฮมคุกกิ้งอร่อยมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงคือสลัด พร้อมกันนั้นยังมีเมนูเครื่องดื่มแนะนำอย่างน้ำบ๊วยโซดาที่ทางร้านดองบ๊วยเอง หวาน เย็น ชื่นใจมากๆ
ที่ตั้ง : 4-chōme-21-8, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิด : วันอังคาร - วันศุกร์ เวลา 11.00 - 17.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 18.00 น.
เว็บไซต์ : https://camera1010.tokyo/
IG : https://www.instagram.com/camera_bake/
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ เดินประมาณ 3 นาที
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/SwuHs1q89rx6XvUM7?g_st=ic
ร้านสุดท้ายสำหรับทริปนี้ กับร้านเครื่องหนังสุดพรีเมียมในย่านคุระมาเอะ นั่นก็คือแบรนด์ ETIAM ที่เปิดเป็นช้อปเครื่องหนัง พร้อมกับมีร้านคาเฟ่ และมีสตูดิโอทำเครื่องหนังให้เราได้ชมด้วยค่ะ
ภายในร้านตกแต่งผสมผสานความเป็นแอนทีค มีตู้โชว์เครื่องหนังที่ทำจากไม้ภายในมีเครื่องหนังทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าตังค์ กระเป๋าครัตช์ กระเป๋าเก็บนามบัตรเปิดโชว์ให้เราได้เลือกชม พร้อมกันนั้นยังสามารถสั่งเครื่องดื่มและขนมทานจากโซนคาเฟ่ได้ด้วย
สำหรับชื่อแบรนด์ ETIAM มาจาก 2 คำคือ ET (Eternal) ที่แปลว่านิรันดร์ สื่อถึงความต้องการอยากให้ลูกค้าได้ใช้สินค้าของร้านไปชั่วนิรันด์ ส่วนคำว่า TIAM มาจากประกายดวงตาเวลาที่เราเจอสิ่งที่ประทับใจเมื่อแรกพบ
สำหรับจุดเด่นของแบรนด์ ETIAM คือการรวมสิ่งยอดเยี่ยมในญี่ปุ่นมาเป็นชิ้นงานไม่ว่าจะเครื่องเงินของจังหวัดไซตามะ ผ้าที่ทำกระเป๋ามาจากโอคะยาม่า ตัวหนังจากจังหวัดเฮียวโงะ ผ้าด้านในมาจากฟุกุอิ ชิ้นส่วนทุกชิ้นถูกผลิตอย่างพิถีพิถันในญี่ปุ่น กลายมาเป็นชิ้นงานสุดเนี้ยบดีไซน์สุดหรูใช้ได้ทุกเพศและแมชกับเสื้อผ้าได้หลายแบบ
โดยตัวร้านจะแบ่งเป็น 2 ชั้นค่ะ ด้านล่างจะเป็นโซนคาเฟ่ และช้อป พร้อมกันนั้นยังมีสตูดิโอให้เราได้ชมการทำงานของช่างฝีมือได้ด้วย ส่วนด้านบนจะมีที่นั่งให้นั่งทานพร้อมกับมีระเบียงที่สามารถนั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศของย่านคุระมาเอะได้อีกด้วย
ที่ตั้ง : 2-chōme−3−5, Kuramae, Taito City, Tokyo
เปิดบริการ : เวลา 10.00 - 19.00 น. (ปิดวันอังคาร)
ราคา : เครื่องหนังเริ่มต้นที่ 30,000 - 60,000 เยน
เว็บไซต์ : https://www.etiam.shop/?utm_source=GMB&utm_medium=profile
IG : https://www.instagram.com/etiam.2020/
การเดินทาง : ใกล้กับทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินคุระมาเอะ
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/CxPQENdxVkf39Gci8?g_st=ic
เตรียมโบกมือลาโตเกียวกับทริปสั้นๆ 4 วัน 3 คืนที่อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวของเครื่องหนัง ทริปนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ในการเที่ยวญี่ปุ่นที่เราไม่ได้เน้นไปตะลุยที่เที่ยว แต่เน้นการเดินทางตามหาแบรนด์เครื่องหนังที่คนญี่ปุ่นยกให้ว่าดีมานำเสนอให้เหล่านักช้อปได้ลองออกเดินทางไปตามรอยกันค่ะ ใครที่เป็นสายช้อปก็เตรียมลิสต์ร้านที่ชอบและถูกใจไว้ ไปโตเกียวเมื่อไรก็ตามไปตะลุยช้อปกันได้เลย
บทความแนะนำ:
Tags: ญี่ปุ่น โตเกียว ร้านเครื่องหนังญี่ปุ่น กระเป๋าหนังญี่ปุ่น ของฝากญี่ปุ่น
เที่ยวต่างประเทศ | 20 ก.พ. 2025 | 115 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ที่เที่ยว | 18 ก.พ. 2025 | 329 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 17 ก.พ. 2025 | 124 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 14 ก.พ. 2025 | 413 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 ก.พ. 2025 | 417 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 12 ก.พ. 2025 | 1,527 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 11 ก.พ. 2025 | 335 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 07 ก.พ. 2025 | 373 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 06 ก.พ. 2025 | 407 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 08 ก.พ. 2025 | 334 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 04 ก.พ. 2025 | 4,576 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 07 ก.พ. 2025 | 365 อ่าน