10 ร้านอาหารและคาเฟ่ ย่านเลียบด่วนรามอินทรา อร่อยเด็ด น่าไปเช็กอินวันหยุด

calendar_month 22 มิ.ย. 2023 / stylus Admin Chillpainai / visibility 93,947 / สถานที่ยอดนิยม

ใครกำลังหาร้านสวย ๆ อาหารอร่อย ๆ แถวเลียบด่วน ขับรถเลยออกมาจากตัวเมืองไม่มาก ย่านที่มีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร คอมมูนิตี้มอลล์ หรือจะเป็นห้างสรรพสินค้า เรียกได้ว่าเป็นย่านที่สะดวกครบครันมาก และวันนี้ชิลไปไหนก็จะพาทุกคนไปตะลุยกินร้านอร่อย กับ 10 ร้านอาหารและคาเฟ่ ย่านเลียบด่วนรามอินทรา อร่อยเด็ด น่าไปเช็กอินวันหยุด จะมีร้านไหนถูกใจใครบ้าง เตรียมจดกันได้เลยยย

Shu Daxia

10 ร้านอาหารและคาเฟ่ ย่านเลียบด่วนรามอินทรา อร่อยเด็ด น่าไปเช็กอินวันหยุด

มาเอาใจคนรักหม้อไฟกันที่ร้านแรกอย่าง Shu Daxia (สู่ต้าเสีย) แบรนด์หม้อไฟหม่าล่าพรีเมียมที่ส่งตรงมาจากเมืองเฉิงตู ประเทศจีน บรรยากาศร้านอลังการสุด ๆ แล้วที่นี่เขาจะเรียกลูกค้าว่า “ต้าเสีย” หมายถึงจอมยุทธ์ ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้านด้วยนะ ร้านมีทั้งหมดสามชั้น ชั้นที่สามจะเป็นห้อง VIP แยกเป็นห้อง ๆ และจะมีห้องที่สามารถเชื่อมกันได้อีกด้วย ราคาสำหรับห้อง VIP ขั้นต่ำ 10,000 บาท (8 - 10 ท่าน) นอกจากบรรยากาศสวย ๆ ของร้านแล้วเนี่ย ที่นี่เขาก็ยังมีการแสดงเพลงจีนถึงวันละ 5 รอบเลย ไปดูเมนูอาหารของที่ร้านกันบ้างดีกว่า จุดเด่นของหม้อหม่าล่าที่นี่เลยก็คือ "หม้อไฟหัวมังกร" รายล้อมไปด้วยเนื้อสัตว์แบบจุใจ วางบนแผ่นไม้ประกบกันเป็นวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์มาก ซึ่งเขาก็จะเรียกสิ่งนี้ว่า "วงแหวนมังกร " นั่นเอง เนื้อสัตว์ของที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวากิวจากออสเตรเลีย หมูคุโรบุตะ สามชั้น สันคอ ซี่โครงหมูหมัก เนื้อวัวเสียบไม้ ตับสไลด์บาง ๆ นุ่มละมุนลิ้น และมีอาหารทานเล่นอย่างหมั่นโถวทอด กรอบนอกนุ่มใน ชิ้นพอดีคำ จิ้มกับนมข้นหอม ๆ และยังมีข้าวเหนียวทอด ทานคู่กับน้ำตาลทรายแดงเข้ากันอย่างลงตัว สามารถเลือกน้ำซุปได้ถึงสามช่องเลยนะ น้ำซุปที่เราสั่งมาก็จะมีซุปหม่าล่า ซุปกระดูกหมู แล้วก็ซุปต้มยำกุ้งน้ำข้น น้ำซุปหม่าล่าก็จะมีความเผ็ด ร้อน รสชาติเข้มข้นสุด ๆ แต่ถ้าใครทานเผ็ดไม่ได้ ที่นี่เขาก็มีน้ำซุปกระดูกหมู รสชาตินี่บอกเลยว่าอร่อยกลมกล่อมมาก ส่วนน้ำซุปต้มยำ รสชาติก็จะแซ่บตามแบบฉบับต้มยำกุ้งน้ำข้นเลย ส่วนโซนบาร์น้ำจิ้ม ก็ตักปรุงได้ตามใจชอบเลย หรือถ้าใครอยากทานน้ำจิ้มแบบต้นตำรับของทางร้าน ที่นี่เขาก็มีเสิร์ฟให้เหมือนกัน และทางร้านยังมีแพลนจะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ร้านจากโรงเตี๊ยมหม้อไฟหม่าล่า เป็นร้านนั่งดริ้งตอนสามทุ่ม มีหม้อไฟเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเพลง EDM สายปาร์ตี้เตรียมตัวมาแดนซ์กันได้เลย!

Shu Daxia

ที่ตั้ง : 888, 1 Ladprao 87, แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

เวลาทำการ : ทุกวัน 11.00 - 1.00 น. / Walk-in โดยไม่ต้องรอคิว วันธรรมดา 13.00 -

17.00 น. และ 21.30 - 01.00 น.

โทรศัพท์ : 094 491 3900

Facebook : SHU DAXIA Thailand

GPS : https://goo.gl/maps/nFgw6ewGgegfRn8x8

SNOG XX

เปลี่ยนมาเอาใจสายคาเฟ่กันบ้างดีกว่ากับร้าน SNOG XX ทางร้านตกแต่งสไตล์ลอฟต์ปูนเปลือยผสมผสานกับไม้สีน้ำตาล ที่นี่มีที่จอดรถข้างล่างด้วย ส่วนร้านจะอยู่ข้างบน เดินขึ้นบันไดไปได้เลย เมนูเครื่องดื่มของที่นี่บอกเลยว่าคอกาแฟห้ามพลาด เพราะเขามีเมล็ดกาแฟให้เลือก 2 แบบ เป็นคั่วกลางทั้งคู่ แบบแรกจะเป็น House Blend บอดี้เบา รสเปรี้ยว ถ้าใช้ทำกาแฟดำรสชาติจะมีความฟรุ้ตตี้ แต่ถ้าใช้ทำกาแฟนมรสชาติจะเป็นนมคาราเมล เมล็ดที่สองเป็น Deeper Blend บอดี้หนัก เข้ม ไม่เปรี้ยว รสชาติจะเป็นดาร์กช็อกโกแลตทั้งกาแฟดำและกาแฟนม ที่เราสั่งมาก็จะเป็น C&T ซึ่งจะย่อมาจาก Coffee & Tonic เมนูนี้เป็นกาแฟผสมกับน้ำโทนิค ดื่มง่าย ไม่มีแอลกอฮอล์ มีกลิ่นของเลม่อน รสชาติเปรี้ยวหวานเล็กน้อย และยังได้ความซ่าสดชื่นอีกด้วย ถัดมาเป็น Black Cliff เป็นกาแฟนมผสมดาร์กช็อกโกแลต เมนูนี้จะทำมาแทนมอคค่า รสชาติจะคล้าย ๆ กันเลย ถัดมาเป็นเมนู Caramellow เมนูนี้จะเป็นกาแฟนมร้อน มีฟองนมและมูสครีมด้านบน เวลาทานจะรู้สึกเหมือนทานมาชเมลโล่นุ่ม ๆ เครื่องดื่มเมนูสุดท้ายคือ Marocchino XX ตัวนี้จะเป็นกึ่ง ๆ กาแฟกับขนม ข้างล่างจะเป็นมูสช็อกโกแลตตามด้วยช็อตกาแฟแล้วก็ท็อปด้วยมูสครีม ส่วนขนมก็จะมี Lemon Tart มีรสเปรี้ยวตัดด้วยน้ำตาลด้านบน ต่อไปเป็น Kiss Me Tender เมนูนี้จะเป็นช็อกโกแลตลาวา ทานคู่กับมูสช็อกโกแลตและมูสครีม ทางร้านเขาจะอุ่นมาให้เล็กน้อย ทานไปแล้วนุ่มละมุนมาก หรือถ้าใครยังไม่ได้ทานข้าวเช้าก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะทางร้านเขายังมีเมนูสลัดและซุปอีกด้วย เมนูที่เราสั่งมาทานก็คือ สลัดโรลปูอัด และเซ็ตซุปเห็ดทานคู่กับครัวซองต์ อร่อยสุด ๆ กลุ่มลูกค้าก็จะมีทั้งคนทำงาน วัยรุ่น และสายคาเฟ่เลย สามารถมานั่งทำงาน ถ่ายรูปกันได้ชิล ๆ

SNOG XX

ที่ตั้ง : 144 ชื่อ ยโยธินพัฒนา 3 แยก 2-4 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240

เวลาทำการ : ทุกวัน 8.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 080 221 1188

Facebook : SNOG XX

GPS : https://goo.gl/maps/ChwLhKHB3L2c6h848

รส'สุคนธ์ Cafe Karaoke & Wine

พาไปนั่งชิลทานอาหารอร่อยที่ร้านรส'สุคนธ์ Cafe Karaoke & Wine ร้านอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ในโครงการ At168 ซอยประเสริฐมนูกิจ 33 ที่บรรยากาศชิลมากๆ เหมาะกับการชวนแก๊งค์เพื่อนหรือคนรู้ใจมานั่งชิลทานอาหารอร่อยพร้อมกับดนตรีสดเพราะๆ ที่มีให้ฟังทุกวัน นอกจากนี้ยังมีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเพียบอีกด้วยนะ ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่เขายังมี Rooftop ให้ได้นั่งชิลชมวิวในบรรยากาศโรแมนติก ส่วนใครเป็นสายร้องเพราะทางร้านยังมีโซนคาราโอเกะสุดเอ็กซ์คลูซีฟอีกด้วย มาถึงเมนูอาหารกันบ้างที่บอกเลยว่าจัดเต็มเมนูหลากหลาย อาทิ เมนู Rod'sukon Pasta, 4 Seasons Pizza, Mushroom Cheese Pizza, หมูทอดรส'สุคนธ์, ชุดเนื้อโคขุนย่างจิ้มแจ่ว, ยำเนื้อย่าง, สปาเก็ตตี้มันกุ้ง, ข้าวผัดมันกุ้ง, ข้าวปลาแซลมอนเทอริยากิ, ซีซาร์สลัด, ผักโขมอบชีส, คาปูชิโน่เย็น, สตรอว์เบอร์รี่โยเกิร์ตสมูทตี้, และ น้ำผักผลไม้สกัดเย็น แต่ละเมนูอร่อยจนอยากบอกต่อมากๆ ค่ะ ใครอยากหาปาร์ตี้แฮงค์เอาท์ หรือนั่งชิลฟังเพลงสบายก็ปักหมุดร้านรส'สุคนธ์ Cafe Karaoke & Wine มากันได้เลย

S__7389195 S__7389199 S__7389214 S__7389203 S__7389204

ที่ตั้ง : รส‘สุคนธ์ ภายในโครงการ At168 ซ.ประเสริฐมนูกิจ 33 แขวงบึงกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน : 10:00-02:00 น.
เบอร์ติดต่อ : 099 614 2292
เฟ้สบุ้ค : https://www.facebook.com/rodsukon168/
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/o2v4ZzBmJUWYysJJA

Forestpresso

ไปต่อกันที่ Forestpresso เป็นร้านกาแฟกึ่ง Specialty ที่มีอาหารขายในแนว Café & Bistro มีที่นั่งทั้งบริเวณด้านนอกเปิดโล่ง ตกแต่งในสไตล์สวนป่าเขตร้อนขนาดย่อม แต่อัดแน่นไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณพร้อมน้ำตกและไอหมอกละอองน้ำ สายธรรมชาติถูกใจแน่นอน และบริเวณด้านในตัวอาคารตกแต่งสไตล์ modern สี Earth tone มีผนังเป็นกระจกใสสามารถมองเห็นสวนป่าอันร่มรื่นภายนอกได้ นอกจากนี้ยังมีมุมพิเศษอย่าง Glasshouse สามารถเข้ามาทานอาหารและถ่ายรูปสวย ๆ ด้านในได้ด้วย และที่นี่ยังมีชั้น 2 ตกแต่งเป็นสไตล์ Homey สามารถนั่งทำงานได้ ทางร้านยังมีที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านด้วยนะ ส่วนเมนูก็มีทั้งอาหารไทยฟิวชั่น all-day brunch กาแฟก็มีเมล็ดให้เลือกเยอะมากทั้งไทยและต่างประเทศเลย เมนูที่เราสั่งมาก็จะเป็นข้าวไข่ข้นมันกุ้งราดคั่วกลิ้งกุ้ง ข้าวสวยร้อน ๆ on top ด้วยไข่ข้นมันกุ้งพร้อมเสิร์ฟคู่กับคั่วกลิ้งกุ้งสับรสเผ็ดร้อน เมนูนี้ก็เป็นเมนู signature ของทางร้านเลย เป็นเมนู fusion ที่เกิดจาก 2 เมนูที่แตกต่างกัน แต่เมื่อทานแล้วมีความเข้ากันได้อย่างลงตัว ไข่ข้นมันกุ้งช่วยตัดความเผ็ดร้อนของคั่วกลิ้ง ทำให้เป็นเมนูอาหารใต้ที่ทานง่ายขึ้น ถัดไปเป็นเมนู Truffle Cream จานนี้เป็นสปาเกตตีครีมซอส มีรสชาติเข้มข้นจากเห็ดทรัฟเฟิล พาร์เมซานชีส และเห็ดแชมปิญองสด ท็อปด้วย Truffle Paste เพิ่มความหอมและความอร่อยขึ้นไปอีก ส่วนจานนี้เป็น Eggs Benedict ครัวซองต์ชิ้นใหญ่และผักโขมผัดเนย ทานคู่กับซอสฮอลลันเดส ตัดเปรี้ยวด้วยเลม่อน เป็นเมนู Brunch ยอดนิยมที่ทานง่ายเหมาะกับการทานคู่กับกาแฟร้อน ๆ ยามเช้า ไปดูเมนูของหวานกันบ้างดีกว่า เราสั่งเค้กที่ขายดีที่สุดของทางร้านอย่าง Molten Chocolate Cake เค้กมีความนุ่มละมุนลิ้นและมีความเข้มของช็อกโกแลตแท้รวมถึงความหวานที่กำลังดี ซึ่งทางร้านได้เลือกใช้วัตถุดิบทุกตัวเป็นเกรดพรีเมียมนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมดเลย ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็จะสั่งเป็น Dirty Berry เป็นเมนู dirty ธรรมดาที่ถูกนำมาพัฒนาให้น่าดื่มยิ่งขึ้น โดยเขาได้ปรุงนมกับซอสสตรอว์เบอร์รี่ได้อย่างลงตัวและราดขอบแก้วด้วยแยมสตรอว์เบอร์รี่ และแต่งด้วยชิ้นสตรอว์เบอรี่เล็ก ๆ เพื่อเพิ่มความหอมหวาน ท็อปด้วยกาแฟคั่วกลางที่สกัดมาอย่างเข้มข้น รสชาติอมเปรี้ยวอมหวานโทนเบอร์รี่และยังได้ความเข้มข้นจากกาแฟอีกด้วย แก้วถัดมาเป็น Sparkling Punch Coffee เครื่องดื่มลูกผสมของกาแฟ ผลไม้ โซดา ที่มีช็อตกาแฟแบบคั่วกลางเป็น base ให้ความรู้สึกอร่อยสดชื่นแบบ fruity ที่มีรสอมหวานเบา ๆ แต่ยังคงรสชาติของความเป็นกาแฟอยู่ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับอากาศร้อนสุด ๆ ต่อไปเป็น Forest Punch มีส่วนผสมของโซดา น้ำส้ม ไซรัปสตรอว์เบอร์รี่และลิ้นจี่ เป็นเครื่องดื่มโซดารสอมหวานเบา ให้ความสดชื่นจากน้ำส้มแท้ สตรอว์เบอรรี่และลิ้นจี่ แก้วสุดท้ายที่เราสั่งมาก็จะเป็น Rainforest (soda) มีส่วนผสมของโซดา ไซรัปกีวี่ น้ำมะนาว บลูฮาวาย เครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยวซับซ้อนหลาย layer และมาพร้อมกับความ sparkling จากโซดา ให้ความรู้สึกอร่อยสดชื่นดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี

Forestpresso

ที่ตั้ง : 439/1 ถ. สังคมสงเคราะห์ 11 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง

กรุงเทพมหานคร 10310

เวลาทำการ : ทุกวัน 10.30 - 19.30 น.

โทรศัพท์ : 098 390 9966

Facebook : Forestpresso

GPS : https://goo.gl/maps/MStcZHcYsPWhbGGTA

Davin Cafe

ถัดไปเป็น Davin Cafe คาเฟ่คลาสสิก ตกแต่งสไตล์ Steampunk เท่ ๆ มีความย้อนยุคไปในสมัยโรมัน มีประติมากรรมชื่อดังตกแต่งทั้งนอกและในร้านอย่างโดดเด่น เป็นร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ต่างประเทศ สายถ่ายรูปห้ามพลาด บอกเลยว่าแค่มาถึงหน้าร้านก็ได้รูปเก๋ ๆ กลับไปเพียบ นอกจากภายนอกร้านแล้วด้านในก็สวยไม่แพ้กันเลย ภายในร้านมีเพดานสูง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง นั่งสบาย ร้านมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะมี เคาน์เตอร์ใหญ่ ๆ ไว้ทำกาแฟและวางเบเกอรี่มากมาย มีที่นั่งเยอะมาก ทั้งโซฟานุ่ม ๆ และที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ชั้นบนจะมีที่นั่งเหมือนกัน และยังมีห้องประชุมส่วนตัวอีกด้วย และมีที่จอดรถกว้างมาก จอดได้หลายคัน ใครขับรถส่วนตัวมาไม่ต้องห่วงเลย ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มเขาก็มี Specialty Coffee จากหลากหลายประเทศที่ทางร้านเขาคัดเลือกอย่างพิถีพิถัน แน่นอนว่าเราก็ไม่พลาดที่สั่งกาแฟของทางร้าน กาแฟที่เราสั่งมาก็จะเป็น Cappuccino มีส่วนผสมของช็อตเอสเปรสโซ่ นมสด และ โฟมนม อีกแก้วที่เราสั่งคือ Real Matcha รสชาติมัจฉะเข้มข้นสุด ๆ และนอกจากนี้เขายังมีเมนู Mocktail สดชื่น ๆ อีกด้วย เมนูที่เราสั่งมามีชื่อว่า Dream of Summer แก้วนี้ก็จะมีทั้งน้ำมะนาว ส้ม Yuzu สตรอว์เบอร์รี่ ไซรัปเพิ่มความหวาน และโซดาซ่า ๆ ในส่วนของเมนูขนมเราขอแนะนำเป็น Fresh Mango Crepe Cake ตัวเครปจะมีความเนียนนุ่ม ตัวครีมและแป้งทำออกมาละเอียดแน่น พร้อมด้วยมะม่วงสดและราดด้วยกะทิ เมื่อทานคู่กับเครปจะได้อารมณ์เหมือนทานข้าวเหนียวมะม่วงเลยล่ะ

Davin Cafe

ที่ตั้ง : 108 ถ. คลองลำเจียก แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร 10230

เวลาทำการ : ทุกวัน 8.30 - 24.00 น.

โทรศัพท์ : 091 886 6999

Facebook : Davin Cafe

GPS : https://goo.gl/maps/XAxQ1e3e7UEW8ZRz6

หมอกคาเฟ่

ใครชอบฟีลธรรมชาติ ต้องถูกใจ หมอกคาเฟ่ แน่นอน เพราะจุดเด่นของที่นี่คือเขาจะเปิดไอน้ำทำหมอกเบา ๆ ภายนอกร้านให้ความชุ่มชื้น ทำให้เราไม่รู้สึกร้อนจนเกินไป และเขาก็ตกแต่งต้นไม้ไว้รอบ ๆ ร้านเยอะมาก บรรยากาศร่มรื่นสุด ๆ ร้านมีที่นั่งให้เลือกทั้งภายในร้านหรือถ้าหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ รับไอน้ำเย็น ๆ ก็สามารถเลือกนั่งโซนด้านนอกได้เหมือนกัน อาหารและเครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลากหลายเลย ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง หรือใครชอบดื่มกาแฟที่นี่ก็มีนะ และยังมีเมนูน้ำผลไม้ผสมโซดาต่าง ๆ เพิ่มความสดชื่นอีกด้วย

หมอกคาเฟ่

ที่ตั้ง : ถ. ประเสริฐมนูกิจ แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230

เวลาทำการ : ทุกวัน 9.00 - 20.00 น.

โทรศัพท์ : 094 639 2364

Facebook : หมอกคาเฟ่

GPS : https://goo.gl/maps/kHV8iPEzUi7KeEVx7

บ้านต้นไม้สีขาว

ไปต่อกันที่ บ้านต้นไม้สีขาว บรรยากาศร้านอบอุ่นมาก เหมือนอยู่บ้าน จุดเด่นของที่นี่คือเขาจะมีรากต้นไม้จำลองอยู่ภายในร้าน ทำให้รู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในบ้านต้นไม้จริง ๆ ตรงตามคอนเซ็ปต์ชื่อร้านเลยล่ะ โทนสีของร้านจะเป็นสีขาวน้ำตาลอ่อน สบายตา โซนที่นั่งต่าง ๆ ก็มีหลากหลายทั้งโต๊ะเล็กโต๊ะใหญ่ รองรับลูกค้าที่มาทั้งคนเดียวหรือกลุ่มใหญ่ ส่วนเมนูอาหารของที่นี่ก็มีทั้งอาหารจานเดียว อย่างเช่นสปาเกตตี ที่ร้านก็จะมีทั้งเนื้อและหมูเลย อาหารทานเล่น ของหวาน ไม่ว่าจะเป็นขนมเค้ก ครอฟเฟิล และยังมีเครื่องดื่มให้เลือกอีกมากมายเลย ทั้งอิตาเลี่ยนโซดา ชา หรือจะเป็นสมูทตี้ เลือกได้ตามใจชอบเลย

บ้านต้นไม้สีขาว

ที่ตั้ง : 496 ถ. ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

เวลาทำการ : เปิด 8.00 - 17.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)

โทรศัพท์ : 02 042 5530

Facebook : บ้านต้นไม้สีขาว

GPS : https://goo.gl/maps/Dcnru9SyaP1EayxXA

Gimmick Cafe & Restaurant

ถัดมาเป็นร้าน Gimmick Cafe & Restaurant จุดเด่นของที่นี่เลยก็คือ ทางร้านเขาจะวาดรูปการ์ตูนลงบนแก้วน้ำให้เราด้วย แล้วเขาจะวาดตามลักษณะของเจ้าของเครื่องดื่มเลยนะ ใครอยากใช้ชื่ออะไรก็สามารถรีเควสให้ทางร้านเขาเขียนได้นะ น่ารักสุด ๆ ไปเลย ร้านจะมีทั้งโซนด้านนอกและด้านใน สามารถนำน้องหมาน้องแมวเข้าได้นะ แต่เขาก็จะมีแบ่งโซนไว้อย่างชัดเจนเลย ส่วนเมนูของทางร้านก็มีทั้งของคาวของหวาน และเครื่องดื่มอร่อย ๆ เยอะแยะเลย เมนูแนะนำของที่ร้านเขาก็จะมีหมูสามชั้นทอดผัดพริกสด วุ้นเส้นผัดชะอม และเมนูที่เห็นอยู่ในภาพเลย ไม่ว่าจะเป็นแกงส้มปลากะพงยอดมะพร้าว แกงคั่วปู หลนกุ้ง ไก่ต้มขมิ้นต้มยำ หมูผัดกะปิ และเมนูอื่น ๆ อีกมากมายเลย

Gimmick Cafe & Restaurant

ที่ตั้ง : 589/10 ซอย กระจ่างเนตร แขวงวังทองหลาง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

เวลาทำการ : ทุกวัน 7.00 - 23.00 น.

โทรศัพท์ : 095 027 5144

Facebook : Gimmick Cafe & Restaurant

GPS : https://goo.gl/maps/PuTwz9MQ5hGEmpEf6

B-Story Garden Cafe & Restaurants

การตกแต่งสไตล์วินเทจ ให้ฟีลเหมือนอยู่ยุโรปต้องร้านนี้เลย B-Story Cafe & Restaurant กิมมิคเล็ก ๆ ของทางร้านคือ ในแต่ละเทศกาล เขาก็จะตกแต่งธีมร้านให้เข้ากับเทศกาลนั้น ๆ ด้วย เช่น วันคริสต์มาส ทางร้านก็จะทำลานหน้าร้านให้มีหิมะปกคลุม มีตุ๊กตาซานตาคลอส สโนว์แมน และกวางมูสตกแต่งสวยงาม เสมือนเราอยู่ต่างประเทศในช่วงเทศกาลคริสต์มาสเลย ใครมาช่วงเทศกาลนี่บอกเลยว่าได้รูปเก๋ ๆ เพียบ หรือถ้าเป็นช่วงวันปกติที่นี่ก็สวยไม่แพ้กันเลยนะ มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนกัน เมนูน่าทานก็มีเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นสลัดแซลมอนรมควัน สเต็กเนื้อโคขุนซอสแจ่ว ซุปเห็ดร้อน ๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูของหวานและเครื่องดื่มอีกมากมายเลย

B-Story Cafe & Restaurant

ที่ตั้ง : B-Story Garden 33 25 ถ. ประดิษฐ์มนูธรรม แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230

เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 - 22.00 น.

โทรศัพท์ : 083 751 1137

Facebook : B-Story Cafe & Restaurant

GPS : https://goo.gl/maps/jNbB4Xz7rF5A7e1u9

Bluetamp Cafe

ไปต่อกันที่ร้าน Bluetamp Cafe การตกแต่งของร้านจะใช้ไม้เป็นส่วนใหญ่ ภายนอกร้านจะมีต้นไม้อยู่รอบ ๆ บรรยากาศอบอุ่น ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ในสวน มีทั้งโซนในร้านและนอกร้าน นั่งชิลได้เลย มีอาหารสไตล์ Brunch เบเกอรี่ และกาแฟพรีเมียมมากมาย เมนูเด่น ๆ ของที่นี่ก็จะเป็น Egg Benedict Salmon หรือจะเมนูข้าวอย่าง ข้าวไข่ข้นกุ้ง และถ้าใครชอบทานเนื้อที่นี่เขาก็มีเมนูข้าวเนื้อเนื้อด้วย แค่ชื่อเมนูก็บอกเลยว่าให้เนื้อเน้น ๆ ส่วนขนมหวานจะแนะนำเป็น Caramelized Banana Toast ขนมปังหอมนุ่มทานคู่กับกล้วยแล้วราดด้วยคาราเมล เข้ากันลงตัวสุด ๆ สำหรับเมนูเครื่องดื่ม คอกาแฟแนะนำเมนูนี้เลย Piccolo Latte นอกจากนี้ทางร้านเขายังมีเมล็ดกาแฟให้เราเลือกอีกด้วยนะ แวะมาลองชิมกันได้

Bluetamp Cafe

ที่ตั้ง : 56 ซ. ลาดพร้าว 73 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310

เวลาทำการ : ทุกวัน 8.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 020 709 282

Facebook : Bluetamp Cafe

GPS : https://goo.gl/maps/r2Meo1i9CCse3Htx7

EST.33

มาถึงร้านสุดท้ายกันแล้ววว กับ EST.33 เป็นร้านคราฟต์เบียร์สัญชาติไทย ผลิตเบียร์ผ่าน Microbrewery ซึ่งจะมีหม้อต้มเบียร์ตั้งอยู่โดดเด่นใจกลางร้าน โดยคราฟต์เบียร์ของที่นี่จะมีความหลากหลายทั้ง Lager, Kopper, Snowy, 33 Pale Ale, Dark และตัวที่ออกใหม่ล่าสุดอย่าง ‘Alarm’ ไว้มาลองกันได้นะ ในส่วนของเมนูอาหาร ด้วยความที่ร้านอยู่มานาน ทางร้านจึงจัดฉลองครบรอบ 10+3 ปี และได้เชิญเชฟชื่อดังอย่างเชฟชุมพล เชฟป้อม และเชฟอ๊อตโต มารังสรรค์เมนูสุดพิเศษ อย่างเช่นเมนูน้ำตกเบคอนรมควัน เป็นเมนูที่ผสมผสานระหว่างน้ำตกดั้งเดิมสไตล์ไทยกับเบคอนได้อย่างลงตัว พิคานย่ากับเกลือ 3 ภาค จะเป็นเนื้อส่วนสะโพกติดมัน เสิร์ฟคู่กับมันบดทรัฟเฟิล และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเกลือ 3 ภาคที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน นั่นก็คือ เกลือปัตตานี เกลือสมุทรสาคร และเกลือน่าน หรือจะเป็นเมนูคาเปลลินีสไตล์อีสาน ทางร้านจะใช้เส้นพาสต้าของอิตาเลียนมาผสมผสานให้เข้ากับความเป็นไทยโดยจะใช้สมุนไพรไทยไปผัดกับหมูสับ จะได้กลิ่นสมุนไพรหอม ๆ ส่วนรสชาติบอกเลยว่าถูกปากคนไทยแน่นอน และทางร้านยังมีเมนูนอกเหนือจากนี้อีกมากมายเลยนะ โดยแต่ละเมนูเนี่ยก็สามารถทานคู่กับคราฟต์เบียร์ได้เข้ากันสุด ๆ เลยนะ โดยเมนูครบรอบ 10+3 ปีจะมีแค่ช่วงวันที่ 26 มิ.ย. - 31 ส.ค. 66 เท่านั้นนะ ส่วนบรรยากาศของร้านก็จะชิล ๆ ยิ่งมาตอนกลางคืนกับแก๊งค์เพื่อนน่าจะสนุกยิ่งขึ้นไปอีกเลยล่ะ