มา-หา-นคร ย่านคลองสาน เที่ยวตามรอยตำนาน…ย่านธุรกิจเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

calendar_month 11 พ.ค. 2023 / stylus Admin Chillpainai / visibility 11,003 / ทริปตัวอย่าง , ที่เที่ยว

พาย้อนเวลา 100 ปี ไปตามรอยตำนานเก่าแก่ที่ย่านคลองสานกันค่ะ ที่นี่เป็นย่านธุรกิจริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน สืบทอดต่อกันมานับร้อยปี มา-หา-นคร EP. นี้เลยจะพาทุกคนไปเช็กอินที่กิน ที่เที่ยว พร้อมชมมนต์เสน่ห์แห่งวิถีของผู้คนย่านคลองสานกัน

ย่านคลองสานเป็นย่านธุรกิจเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีประวัติศาสตร์ ความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปี ทั้งยังมีที่กิน ที่เที่ยวให้ได้ไปเช็กอินหลากหลายแห่ง วันนี้เราเลยจะไปตามรอยตำนานโรงงานผลิตวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่สำคัญในอดีต พร้อมสัมผัสกลิ่นอายความวินเทจของที่นี่กัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย

มา-หา-นคร ย่านคลองสาน เที่ยวตามรอยตำนาน…ย่านธุรกิจเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

มา-หา-นคร ย่านคลองสาน เที่ยวตามรอยตำนาน…ย่านธุรกิจเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยามา-หา-นคร ย่านคลองสาน เที่ยวตามรอยตำนาน…ย่านธุรกิจเก่าแก่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

เช้า ๆ แบบเรานี้ก็เริ่มกันด้วย สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา ค่ะ บนสะพานนี้เราจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง ได้เห็นวิวเมืองแบบไกลสุดลูกหูลูกตา ที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่บอกเล่าคุณค่าและความงดงามของกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเรายังสามารถเดินจากสวนลอยฟ้าเจ้าพระยาเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางสัญจรระหว่างฝั่งธนบุรีกับฝั่งพระนครได้อีกด้วยค่ะ

ชื่นชมวิวเมืองที่สวยงามเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปเที่ยวต่อกันเลยค่ะ โดยเดินเข้าไปในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 เดินตรงไปจนสุดทาง เพื่อไปยัง ศาลเจ้ากวนอู อายุกว่า 300 ปี ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ที่นี่ถือเป็นศาลเจ้าแห่งแรกที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศไทย ว่ากันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา มีเรื่องราวบอกเล่าว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินเคยเสด็จมาสักการะเทพเจ้ากวนอูที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ก่อนจะกรีธาทัพไปทำสงคราม

ในอดีตบริเวณนี้จะรายล้อมไปด้วยโรงงานต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรงน้ำปลา โรงผักดอง โรงไม้ไผ่ โรงทอผ้า โกดังข้าว และโรงงานผลิตเกลือแห่งแรกในประเทศไทย เราเรียกย่านนี้ว่า ชุมชนสวนสมเด็จย่า เพราะเป็นบ้านเดิมของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสมเด็จย่า แต่ปัจจุบันเหลือเพียงโรงงานน้ำปลาของเฮียย้ง ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 เราเลยจะไปเช็กอินที่โรงงานน้ำปลานี้กันค่ะ

เก๋งจีนหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปลายรัชกาลที่ 2 ค่ะ หรือประมาณ 200 กว่าปีที่แล้ว ที่นี่จึงเป็นเครื่องแสดงถึงความสัมพันธ์ไทย-จีนได้เป็นอย่างดี เคยมีการบูรณะครั้งใหญ่ตอนหลังน้ำท่วมใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนทุกรูปแบบจากกรุงเทพมหานครเพื่ออนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้มาศึกษาเยี่ยมชม

นอกจากนี้ เฮียย้งยังมีบ้านอากงอาม่าที่ปัจจุบันแปลงมาเป็น บ้านอากงอาม่า คาเฟ่สุดวินเทจ ควรค่าแก่การมาเช็กอิน มีเมนูแนะนำอย่างเฉาก๊วย, น้ำเก๊กฮวย, ยำส้มโอ และช่อม่วง ซึ่งมีความพิเศษตรงที่เป็นสูตรอาม่าทั้งหมด บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนูค่ะ

บรรยากาศดีงามสุด ๆ เพราะตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้นอกจากจะได้เห็นวิวสวย ๆ แล้ว ยังได้สัมผัสลมเย็น ๆ จากแม่น้ำอีกด้วย

ทานกันจนอิ่มแล้วเราก็ไปเที่ยวกันต่อเลย โดยเราจะเดินย้อนลงมานิดหน่อย เห็นซุ้มประตูแขก หรือที่หลายคนเรียกว่า ตรอกดิลกจันทร์ จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเดินตรงไปจนสุดซอยก็จะเจอโรงเกลือแหลมทอง ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราจะไปเช็กอินกันค่ะ

แม้ปัจจุบันที่นี่จะกลายเป็นอาคารไม้ที่พักอาศัย ไม่ได้มีการโม่เกลือแล้ว แต่บรรยากาศและกลิ่นอายของความวินเทจยังคงอยู่ เพราะเหลืออาคารไม้แบบนี้เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในประเทศไทย ทำให้ที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่สำหรับถ่ายภาพยนตร์นับร้อยเรื่อง เราก็เลยขอแชะภาพ พร้อมเก็บบรรยากาศความวินเทจนี้สักหน่อย

ถัดมากับอีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวในย่านคลองสานนี้ก็คือ อุทยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือสวนสมเด็จย่า เป็นสวนละแวกบ้านและพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 ถนนสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา มีเนื้อที่ทั้งหมด 4 ไร่ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมราชชนนี รัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 ในอดีตที่นี่เคยเป็นที่ตั้งบ้านของพระชนกชูและพระชนนีคำ พระชนกและพระชนนีในสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ถือเป็นสถานที่ประสูติและดำรงพระชนม์ชีพของสมเด็จย่าเมื่อครั้งทรงพระเยาว์

ภายในอุทยานมีบ้านจำลองสมเด็จย่าที่สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตและความพอเพียงของสมเด็จย่า อุทยานแห่งนี้เปิดให้ประชาชนเข้าไปเยี่ยมชมและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินย่านคลองสานที่น่ามาเยี่ยมชมมาก ๆ ค่ะ

นอกจากนี้ ย่านคลองสานยังมี ของเล่นจิ๋วสไตล์วินเทจ โดย บ้านเรือนไทยพัฒนา ที่เป็นผลิตภัณฑ์ Bangkok Brand ให้ได้ชมได้ช้อปกันอีกเพียบ สินค้าแต่ละชิ้นนอกจากจะน่ารัก น่าสะสมแล้ว ยังสะท้อนภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของผู้คนย่านคลองสานได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทางกรุงเทพมหานคร ยังได้ให้การสนับสนุนจนทำให้คนในชุมชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วย