calendar_month 07 เม.ย. 2023 / stylus Admin Chillpainai / visibility 28,841 / เที่ยวต่างประเทศ
ทริปนี้บอกเลยว่าสาวกดิสนีย์ต้องถูกใจอย่างแน่นอนค่ะ เพราะไปฮ่องกงคราวนี้เราจะไปตะลุยฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กันแบบจัดเต็มไม่ว่าจะเป็นที่พัก อาหารการกิน สวนสนุก คุมธีมดิสนีย์ตลอดทั้งทริปแน่นอน วันหยุดยาวนี้ถ้าใครยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน ปักหมุดฮ่องกงแล้วมาเที่ยวตามชิลไปไหนได้เลย!
เช้านี้เรานัดเจอกันที่สนามบินสุวรรณภูมิค่ะ โดยไฟล์ทที่เราจะบินเป็นไฟล์ทเช้า 08.00 น. เลยนัดเจอกันตั้งแต่แต่ตี 5 เลย สำหรับมาตรการการเข้าฮ่องกงตอนนี้ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศสามารถเดินทางเข้าฮ่องกงได้ โดยไม่ต้องเตรียมเอกสารหรือตรวจโควิดก่อนเดินทาง เพราะฮ่องกงได้ประกาศยกเลิกข้อบังคับที่จะต้องมีผลการตรวจ ATK เป็นลบก่อนออกเดินทาง 24 ชั่วโมงแล้วค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม >> https://chill.travel/3o4KgRf
เพื่อไม่ให้การเที่ยวในทริปนี้เราติดขัด สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เมื่อต้องเดินทางไปต่างประเทศก็คือพาวเวอร์แบงค์ค่ะ ทริปนี้เราเลยนำพาวเวอร์แบงค์ของ Aukey มาด้วย ซึ่งภายในกล่องนอกจากจะมีพาวเวอร์แบงค์แล้ว เขายังมีอแดปเตอร์สำหรับแปลงหัวปลั๊กมาให้ด้วย โดยสามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่ Dutyfree ที่อยู่ภายในสนามบินเลยค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางโดยสายการบินไทยค่ะ โดยจะเป็นแบบ Full Service เราเลยได้ทานอาหารเช้ากันบนเครื่องเลย จากประเทศไทยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงฮ่องกงแล้วค่ะ สนามบินนานาชาติฮ่องกงดูแปลกตาไปจากเดิม เนื่องจากมีการปรับปรุงใหม่ ทั้งโซนจอ LED ขนาดใหญ่ ที่ฉายภาพน้ำตกอย่างสวยงาม จอบนพื้นเป็นภาพธารน้ำใส มีก้อนหินน้อยใหญ่ ปลาตัวเล็ก ๆ และสิ่งมีชีวิตน่ารัก ๆ ทั้งยังเป็นจอแบบ Interactive เมื่อเหยียบไปแล้วน้ำจะกระจายตัวเป็นวงกว้างเหมือนเราเหยียบน้ำจริง ๆ เลย นอกจากนี้เขายังมีการปรับปรุงร้านค้าร้านอาหารอีกมากมาย ปรับปรุงใหม่คราวนี้อลังการกว่าเดิมแน่นอน
ทริปนี้บอกเลยว่าพิเศษมาก ๆ เพราะทาง Eva Lau ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ส่วนงานฮ่องกงและต่างประเทศ ประจำฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท และ Wing Yeung ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายปฏิบัติการอาคารผู้โดยสาร การท่าอากาศยานฮ่องกงได้จัดงานต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมทั้งพามิกกี้ เมาส์และมินนี่ เมาส์ตัวจริงมาพบกับพวกเราด้วย เรียกได้ว่าประทับใจตั้งแต่เท้าแตะจากสนามบินนานาชาติฮ่องกงเลยค่ะ
มาต่างประเทศทั้งทีเราก็ต้องอัปเดตคอนเทนต์ลงโซเชียลบบรัว ๆ สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คืออินเทอร์เน็ตค่ะ ทริปนี้เราใช้ SIM2Fly จากทาง AIS ที่เขาให้เน็ตแบบจุก ๆ Non-Stop เต็มสปีด 6GB ใช้ได้นาน 10 วัน ในราคา 399 บาท เน็ตคือเร็วมาก ๆ คุ้มค่าคุ้มราคาสุด ๆ เลยค่ะ
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีต้อนรับ อันดับแรกเราก็ต้องเข้าไปเช็คอินที่พักกันก่อนค่ะ โดยเราจะเดินทางด้วยรถชัตเทิลบัส ทริปนี้เราพักที่โรงแรม Disney Explorers Lodge ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ถึงที่พักแล้ว ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท ทำให้ทั้งโรงแรมคุมธีมดิสนีย์ทั้งหมดตั้งแต่ประตูทางเข้าเลย ธีมของที่นี่จะเป็นแนวนักสำรวจค่ะ การตกแต่งจึงมีทั้งแผนที่ เต็นท์ อุปกรณ์สำหรับเดินป่า รองเท้านักสำรวจ ฯลฯ รวมทั้งมีร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่ภายในโรงแรมอีกด้วย
ห้องนี้เราพักวันนี้เป็นห้องสำหรับ 4 ท่านค่ะ ใครมากันเป็นครอบครัวบอกเลยว่าเหมาะมาก ภายในห้องประกอบไปด้วยเตียงเดี่ยว 2 เตียง มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน แต่เนื่องจากเป็นโรงแรมของดิสนีย์แน่นอนว่าก็ต้องพิเศษกว่าที่อื่นอย่างแน่นอน เพราะหัวเตียงจะมีการตกแต่งด้วยมิกกี้เมาส์และมินนี่เมาส์ มีตัวละครดิสนีย์ประดับประดาอยู่ทั่วทุกมุมของห้อง และที่เราชอบมาก ๆ เลยก็คือทุกอย่างภายในห้องเป็นดิสนีย์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นม่าน แก้วน้ำ รองเท้าสลิปเปอร์ ขวดโลชันที่ฝาเป็นหูมิกกี้เมาส์ สบู่ล้างมือลายมิกกี้เมาส์ รวมทั้งกล่องใส่อุปกรณ์อาบน้ำก็ยังไม่หลุดธีม น่ารักจนใจเจ็บ แถมยังเอากลับบ้านได้อีกด้วย
เก็บกระเป๋าเรียบร้อยและพักจนหายเหนื่อย กิจกรรมที่เราจะทำต่อไปก็คือไปจิบชายามบ่ายกับ LinaBell ตัวละครใหม่ของดิสนีย์จากเรื่อง Duffy and Friends ที่ห้องอาหาร World of Color ค่ะ ทันทีที่ถึงโต๊ะก็มีพี่ ๆ นำตุ๊กตาน้อง LinaBell มาให้ น้องหน้าตาน่ารัก ขนสีชมพูสดใส แถมนุ่มสุด ๆ หลังจากนั้นไม่นานพี่พนักงานก็จะมารับออเดอร์ค่ะ โดยเขาจะให้เราเลือกของคาว 1 อย่าง เราเลือกเป็นซูชิเนื้อค่ะ เสิร์ฟมาพร้อมกับของหวาน และเครื่องดื่ม อาหารของที่นี่แน่นอนว่าก็ต้องคุมธีมดิสนีย์เช่นกันค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหัวไชเท้าดองที่หั่นเป็นรูปมิกกี้เมาส์ ขนมที่คุมธีมนักสำรวจ ตกแต่งด้วยแว่นขยาย เข็มทิศ นาฬิกา นอกจากจะน่ารักและถ่ายรูปสวยแล้ว ยังอร่อยมาก ๆ อีกด้วยค่ะ
จิบชายามบ่ายเสร็จก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัยค่ะ เราเลยเลือกออกมาเดินชมรอบ ๆ โรงแรม ทางโรงแรมเขามีการตกแต่งด้วยโขดหินสีน้ำตาล มีสวนสีเขียว น้ำตกเย็น ๆ และต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ทั้งยังเป็นที่พักที่ติดทะเล บวกกับอากาศของฮ่องกงที่ช่วงนี้อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 19-25 องศาเซลเซียส บอกเลยว่าอากาศดีมากกกก สดชื่นสุด ๆ และถ้าใครโชคดีก็จะอาจจะเจอกับเหล่าตัวการ์ตูนของดิสนีย์ที่ออกมาทักทายทุกคน สามารถไปทักทายและขอถ่ายรูปได้เต็มที่เลยค่ะ
เผลอแป๊บเดียวก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ เย็นนี้เราจะทานกันที่ห้องอาหาร Chart Room Cafe ของโรงแรมเลย ซึ่งเขาก็มีเมนูให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นพิซซ่า, ไก่เกาหลี, ข้าวหมูอบ, สปาเกตตี แต่เมนูที่เราสั่งวันนี้คือข้าวหมูอบที่ด้านบนเป็นชีสเยิ้ม ๆ ข้าวคือมีความหอมนุ่ม เข้ากันกับซอสและชีส เนื้อหมูเนื้อนุ่ม ๆ กำลังดี อร่อยลงตัวมาก ๆ แถมตกแต่งด้วยแครอทรูปมิกกี้เมาส์ น่ารักสุด ๆ เลยค่ะ
เช้าวันที่ 2 ของทริปแล้วค่ะ วันนี้เราจะไปตะลุยฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กันทั้งวันเลย แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องเติมพลังกันก่อน โดยเราจะไปทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Dragon Wind ของ Disney Explorers Lodge อาหารเช้าของที่นี่บอกเลยว่าจัดเต็มมากกก มีทั้ง American Breakfast, อาหารอิตาเลียน, อาหารจีน, ติ่มซำ, ของคาว, ของหวาน รวมทั้งเครื่องดื่มคือมีครบทุกอย่างจริง ๆ และทางโรงแรมเขาก็ไม่ลืมที่จะใส่รายละเอียดน่ารัก ๆ อย่างวาฟเฟิลรูป LinaBell, แก้วลายมิกกี้เมาส์ ใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ ค่ะ ทานอาหารจนอิ่มก็ได้เวลาตะลุยสวนสนุกกันแล้วค่ะ เราเดินออกมาขึ้นรถชัตเทิลบัสที่บริเวณหน้าโรงแรม รอไม่นานรถชัตเทิลบัสก็มารับเราและพาเดินทางไปยังฮ่องกงดิสแลนด์แล้ว หรือถ้าใครอยากจะชมวิวเดินสำรวจเส้นทางมาเรื่อย ๆ ก็สามารถเดินไปได้ค่ะ เพราะโรงแรมที่เราพักกับตัวสวนสนุกอยู่ไม่ไกลกันมาก
ในที่สุดก็ถึงฮ่องกงดิสนีย์แลนด์แล้วค่ะ เมื่อเข้ามาแล้วสิ่งแรกที่โดดเด่นขึ้นมาเลยก็คือ Duffy ตัวละครของดิสนีย์ที่โดดเด่นอยู่ตรงกลาง โดยอดีตมุมนี้เคยเป็นมิกกี้เมาส์มาก่อนค่ะ แต่เพื่อต้อนรับคอลเลกชันฤดูใบไม้ผลิช่วงนี้เขาเลยเปลี่ยนเป็นรูป Duffy จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2023 นี้ เป็นจุดเช็คอินแรกที่สามารถมาถ่ายรูปเก๋ ๆ ได้เลยยยย
เดินเข้ามาเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับปราสาทดิสนีย์ Castle of Magical Dreams ที่หลายคนคุ้นเคย ตั้งอยู่สุดทางเดินของ Main Street, U.S.A ค่ะ ปราสาทนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวของเจ้าหญิงและราชินีดิสนีย์รวม 13 เรื่องราว สองข้างทางเขาจะมีร้านขายของที่ระลึกตั้งอยู่ตลอดแนว แม้ว่าดูภายนอกแต่ละร้านจะมีการตกแต่งที่แตกต่างกันไป สินค้าภายในร้านก็มีทุกอย่างของทุกตัวละครไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า เครื่องเขียน เครื่องประดับ พวกกุญแจ เคสมือถือ ตุ๊กตา ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ร่ม กระเป๋า แก้วน้ำ ถ้วยชาม ฯลฯ เรียกได้ว่ามีทุกอย่างจริง ๆ ค่ะ ใครอยากซื้อที่คาดผมสำหรับถ่ายรูป หรือของที่ระลึกก็สามารถเลือกซื้อก่อนเข้าสวนสนุกได้เลย
เราเดินมาเรื่อย ๆ ไม่นานก็ถึงตัวปราสาทแล้วค่ะ กิจกรรมแรกที่เราจะไปทำก็คือการไปทักทายเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ The Royal Reception Hall ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านใน ของปราสาทค่ะ แต่ละช่วงเวลาก็จะมีเจ้าหญิงดิสนีย์สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป แต่วันนี้เราเจอกับเจ้าหญิงแอเรียล เมื่อถึงคิวที่เราได้เข้าไปทักทายเจ้าหญิงบอกเลยว่าใจฟูมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้พูดคุยและถ่ายรูปแลัว เจ้าหญิงยังส่งรอยยิ้มและพลังบวกมาให้เต็ม ๆ เป็นกิจกรรมที่เติมพลังใจได้อย่างดีเลยค่ะ
ต่อไปก็เดินต่อไปยังโซน Tomorrowland ค่ะ โซนนี้เราจะไปเล่นเครื่องเล่นกัน ภายในโซนมีเครื่องเล่นหลายอย่างเลยค่ะ ซึ่งเครื่องเล่นแรกที่เราจะไปเล่นก็คือ Hyperspace Mountain เครื่องเล่นนี้จะคล้าย ๆ กับการนั่งรถไฟเหาะตะลุยอวกาศค่ะ ตลอดสองข้างทางจะมืดหมดเลยแต่ก็จะมีแสงไฟจากดวงดาว ยานอวกาศต่าง ๆ ให้เห็นเป็นระยะ มีความเร็วและหวาดเสียวหน่อย ๆ แต่ก็สนุกดีค่ะ
อีกหนึ่งเครื่องเล่นในโซนนี้ก็คือ Iron Man Experience ค่ะ เราจะเข้าไปดูหนัง 4 มิติโดยเขาจะมีแว่นตาเตรียมไว้ให้ ภายในเครื่องเล่นจะเป็นการจำลองว่าเราอยู่ในยานอวกาศของไอรอนแมน ช่วยกันต่อสู้ แต่จะต่อสู้ชนะหรือไม่ ดุเดือดขนาดไหน ต้องลองไปดูเองค่ะ
ดูหนังจบก็เดินออกมาที่เวทีค่ะ เวทีนี้เราจะได้พบกับซุปเปอร์ฮีโร่มาเวลตัวเป็น ๆ อย่าง Ant-Man and The Wasp ที่นอกจากเขาจะมาโชว์ตัวแล้ว เรายังสามารถเข้าไปทักทาย พูดคุย และถ่ายรูปได้อีกด้วย เราแอบสังเกตว่ากิจกรรมนี้แฟน ๆ ส่วนใหญ่ชอบมากกกก วิ่งมาหน้าเวทีอย่างรวดเร็ว พร้อมเป็นสมุนตัวน้อยของพี่ ๆ ซุปเปอร์ฮีโร่มาเวลสุด ๆ
เสร็จจากโซนนี้เราก็รีบวิ่งไปที่บริเวณหน้าปราสาทต่อเลยค่ะ เพราะต้องรีบไปดูโชว์ Follow Your Dreams ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ช่วงกลางวันที่ไม่ควรพลาด โชว์นี้เราจะได้ชมการแสดงทั้งร้องเพลงสด เต้น รวมทั้งเหล่าตัวการ์ตูนและเจ้าหญิงดิสนีย์ที่ออกมาโชว์ตัวที่ละคนพร้อมเพลงประกอบเรื่องนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Coco, Zootopia, Frozen, Pocahontas, Moana และมิกกี้ มินนี่ บอกเลยว่าเป็นโชว์ที่อลังการ และตื่นตาตื่นใจสำหรับเรามากค่ะ
เมื่อดูโชว์จบแล้วเราก็เดินออกมาแถว ๆ บริเวณ Main Street, U.S.A. ค่ะ เพราะเขาจะมีห้อง Main Street Cinema ที่ให้เราได้ไปพบปะทักทายกับ LinaBell เข้ามาในห้องนี้เราจะได้พูดคุย และถ่ายรูปกับ LinaBell บอกเลยว่าน้องสดใสและน่ารักมาก ๆ เลยค่ะ
แถว ๆ ร้านขายของฝากจะร้านขายวาฟเฟิลอยู่ค่ะ เราก็เลยไม่พลาดที่จะแวะทานซะหน่อย โดยวาฟเฟิลที่เราทานจะเป็นรูป Duffy and Friends และ LinaBell ตัวแป้งมีความกรอบนอกนุ่มใน ทานคู่กับวิปครีมและซอสรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ และผลไม้อีกหลายชนิด กรอบอร่อย แถมน่ารักมากด้วย
ทานวาฟเฟิลเสร็จเราก็เดินไปโซนต่อไปกันเลยค่ะ โดยโซนที่เราจะไปนั่นก็คือโซน Adventureland โซนนี้เราจะไปดูการแสดง Festival of the Lion King กันค่ะ ความยาวประมาณ 30 นาที โดยเขาจะถ่ายทอดเรื่องราวของ Lion King ผ่านบทเพลง คล้าย ๆ กับดูละครเวที แต่บอกเลยว่าทั้งแสง สี เสียง อุปกรณ์ประกอบฉากคือยิ่งใหญ่อลังการมากกกกกก
ออกมาจากโซน Adventureland เราก็แอบเห็น Mystic Manor ซึ่งมีแค่ที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เท่านั้น เลยขอแวะเล่นซะหน่อย เครื่องเล่นนี้จะเป็นรถที่เลื่อนและหมุนไปเรื่อย ๆ มีตัวละครหลักคือเจ้าลิงอัลเบิร์ตที่จะพาเราไปสำรวจพิพิธภัณฑ์ ซึ่งได้สะสมวัตถุโบราณเอาไว้ โดยมีของสะสมชิ้นใหม่อย่างกล่องดนตรีแกะสลักที่เชื่อว่าเมื่อสัมผัสแล้วจะทำให้สิ่งที่เคลื่อนไหวไม่ได้กลับมีชีวิตขึ้น แต่เมื่อเจ้าลิงอัลเบิร์ต แอบไปสัมผัสกล่องดนตรีนี้เข้า สิ่งมีชีวิตในพิพิธภัณฑ์ก็กลับมามีชีวิตขึ้นทันที เครื่องเล่นนี้จะทำให้เราได้ผจญภัยและเจอเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย มีความลุ้นระทึกและสนุกมาก ๆ ค่ะ
ด้วยความที่เห็นอะไรก็อยากเล่นไปหมด เราเลยขอต่ออีกหนึ่งเครื่องเล่นอย่าง Big Grizzly Mountain Runaway Mine Cars เครื่องเล่นสุดยูนีคของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ เครื่องเล่นนี้จะเป็นรถไฟเหาะที่พาเราท่องไปสำรวจเหมือง ขับผ่านครอบครัวหมี พาเราลัดเลาะเหวี่ยงตัวผ่านอุโมงค์ เป็นเครื่องเล่นที่พุ่งไปตามรางที่คดเคี้ยว ก่อนตกถอยหลังจากยอดเขาอย่างรวดเร็วจนกรี๊ดแบบสุดเสียงเลยค่ะ
อีกหนึ่งโซนที่น่ารักมาก ๆ ก็คือโซน Toy Story Land ค่ะ โซนนี้จะขนตัวละครจาก Toy Story มาทั้งหมดเลย ภายในโซนมีทั้งมุมถ่ายรูป ร้านขายของที่ระลึกที่ด้านนอกตกแต่งคุมธีม Toy Story และเครื่องเล่นสนุก ๆ เพียบ ไม่ว่าจะเป็น RC Racer รถบังคับวิทยุสีเขียวคันโปรดของแอนดี้ที่ขับขึ้นลงบนรางอย่างน่าหวาดเสียว, Slinky Dog Spin รถรางรูปหมาที่จะเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ เป็นวงกลม หรือจะเป็น Toy Soldier Parachute Drop ที่จำลองการกระโดดร่มของทหาร ทิ้งตัวลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับทหารของเล่นจาก Toy Story เครื่องเล่นนี้มีเด็ก ๆ เล่นเยอะมาก ทั้งแฟนๆ ทุกเพศทุกวัยคือชอบใจกันสุด ๆ เลยค่ะ
เดินทางไปยังโซนต่อไปเลยค่ะ โดยเราจะไปต่อกันที่โซน Fantasyland โซนนี้ตอนกลางคืนคือสวยงาม ๆ มากค่ะ ภายในโซนก็มีจะม้าหมุน, Mad Hatter Tea Cups จากเรื่อง Alice in Wonderland ที่เราจะเข้าไปนั่งในถ้วยชายักษ์สีสันสดใสและหมุนเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ และสามารถบังคับพวงมาลัยด้วยตัวเองเพื่อเร่งความเร็วของถ้วยชายักษ์ได้ แต่ที่แนะนำสุด ๆ เลยก็คือ it’s a small world ค่ะ เพราะเป็นการจำลองโลกทั้งใบมาไว้ในที่เดียว โดยเขาจะพาเรานั่งเรือล่องไปตามทวีปต่าง ๆ พร้อมกับเพลงธีมซาวน์แทรกในหลากหลายภาษาที่เคล้าคลอไปตลอดการเดินทาง ทำให้ได้เห็นวัฒนธรรม การแต่งกาย สัตว์น้อยใหญ่ รวมทั้งเห็นสภาพแวดล้อมของภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกเลย เด็กเล็ก ๆ และผู้ปกครองคือถูกใจมากกก
ต่อไปก็ถึงเวลาของไฮไลต์ในค่ำคืนกันแล้วค่ะ นั่นก็คือโชว์ Momentous ที่เราจะไปชมกันที่บริเวณหน้าปราสาท โชว์นี้เราจะได้แสงสีเสียงความยาวกว่า 20 นาที เป็นโชว์ที่เขาจะถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ โดยใช้ปราสาทเป็นเหมือนจอฉายภาพด้วย Mapping Technology มีดนตรี น้ำพุ เลเซอร์ เอฟเฟกต์ดอกไม้ไฟ และพลุสุดอลังการ ถูกใจทุกเพศทุกวัยแน่นอน
เช้าวันสุดท้ายของทริปแล้วค่ะ หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อยก็ได้ ก่อนเช็คเอาท์เราเลยขอไปทำกิจกรรม Disney's Delicious Decoration Class กันก่อน โดยเราจะไปทำหมวกเชฟที่เขาจะมีภาพตัวการ์ตูน Disney Tsum Tsum และอุปกรณ์สำหรับตกแต่งหมวกมาให้ เมื่อได้หมวกเชฟมาแล้วก็ไปแต่งหน้าคุกกี้ Donald Duck และ Daisy Duck ต่อเลย โดยสามารถวาดและตกแต่งได้ตามใจชอบ ตกแต่งเสร็จก็เอากลับไปทานได้เลยค่ะ
ก่อนออกจากโรงแรมเราได้มีโอกาสไปดูห้อง Theme LinaBell ที่ Disney Explorers Lodge ด้วยค่ะ ห้องนี้จะพิเศษกว่าห้องอื่น ๆ ตรงที่หมอน ผ้าห่ม สลิปเปอร์ พรมเช็ดเท้าคือเป็นลาย LinaBell หมดเลยค่ะ แฟน ๆ Duffy and Friends ต้องจองห้องนี้เลย
มื้อกลางวันนี้เราจะเดินทางด้วยรถชัตเทิลบัสไปยัง Hong Kong Disneyland Hotel กันค่ะ มื้อนี้เราจะทานเป็นอาหารจีนที่ร้าน Crystal Lotus แต่พิเศษกว่าที่อื่นตรงที่อาหารจะเป็นรูปการ์ตูนดิสนีย์ค่ะ โดยจะมีทั้งแพนเค้กซีฟู้ดมิกกี้เมาส์, ซาลาเปาบาบีคิวหมูรูปลูกหมูสามตัว, ซาลาเปาไส้หวานลายดัฟฟี่และเชลลี่เมย์, ซาลาเปาเบย์แม็กซ์ เรียกได้ว่าเป็นมื้อใหญ่จัดเต็มมากค่ะ
ทริปนี้ถือเป็นทริปที่เราประทับใจมาก ๆ ค่ะ เพราะทั้งกิน เที่ยว ชอป พัก คือสะดวกสบายและสนุกมาก ๆ เราคิดว่าเสน่ห์ของการมาเที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์คือการที่เราได้ย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เข้าไปในโลกแห่งจินตนาการ ช่วยผ่อนคลายความเครียดและบรรเทาความเหนื่อยล้าได้อย่างดี เป็นทริปที่ทำให้เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมใคร ๆ ก็ตกหลุมรักฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
บทความแนะนำ:
อัปเดตมาตรการเข้าประเทศต่างๆ ล่าสุด มกราคม 2566
10 ที่พักฮ่องกงสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน เดินทางง่ายใกล้รถไฟฟ้าใต้ดิน อัปเดตใหม่ 2566
10 ที่พักฮ่องกงใกล้สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MTR เดินทางง่าย ห้องสวย ราคาไม่แรง อัปเดตใหม่ 2566
Tags: ฮ่องกง เที่ยวต่างประทศ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ดิสนีย์แลนด์ Disney Explorers Lodge
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 497 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 738 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 648 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 1,186 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 1,895 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 4,139 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 2,025 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 3,508 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 21 ก.พ. 2024 | 5,422 อ่าน