มัลดีฟส์เที่ยวยังไง!? อัปเดตการเดินทางพร้อมแนะนำที่พักสุดหรูกลางทะเลปี 2566

          ออกไปสัมผัสเฉดสีน้ำเงินจากท้องทะเล หาดทรายขาวละเอียด ปล่อยใจชิล ๆ ไปกับท้องฟ้าสีสดใส และดื่มด่ำบรรยากาศพระอาทิตย์ตกแสนโรแมนติกที่หมู่เกาะมัลดีฟส์ (Maldives) กัน!! เชื่อว่า มัลดีฟส์ เป็นเป้าหมายในฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศ ทิวทัศน์ ความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลแห่งนี้ และตอนนี้เขาเปิดประเทศให้คนไทยมาเที่ยวแบบฟรีวีซ่าได้แล้ว คนรักทะเลต้องได้มาที่นี่สักครั้งในชีวิตนะ! วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปยังมัลดีฟส์ รวมถึงแนะนำ 3 ที่พักสุดฮิตที่ต้องเพิ่มลงในลิสต์ “มัลดีฟส์ทริปในฝัน!” รับรองว่าประทับใจแน่นอน! 

        ตอนนี้มีหลายสายการบินที่มีเที่ยวบินไปยังมัลดีฟส์ แต่ครั้งนี้เราเลือกไปกับสายการบิน Air Asia เพราะราคาประหยัด ไป-กลับไม่ถึงหมื่น! 

          และตอนนี้เขามีเมนูใหม่ให้ลองกันด้วย นั่นก็คือออ เมนู Black&Pink Cream Puff / Boba Black Choco & Pink Strawberry Milk และ Chicken Bulkoki Ssambap (แถมอร่อยมากกกก) เป็นเมนูรองท้องระหว่างเดินทางที่ดีมากก 

          เริ่มกันเลยยย เราออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เวลา 9.15 น. ไปถึงสนามบิน Velana หรือสนามบินมาเล (Malé) สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republic of Maldives) เวลา 11.30 น. เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที ก็ถึงมัลดีฟส์กันแล้ว ซึ่งเวลาที่มัลดีฟส์จะช้ากว่าประเทศไทยประมาณ 2 ชั่วโมงนะ

          มัลดีฟส์เป็นประเทศที่มีเกาะเยอะมาก และเกาะยอดฮิตของมัลดีฟส์มีทั้งเกาะ Male , เกาะVaavu Atoll , เกาะSun Island , เกาะFihalhohi Island , เกาะIhuru Island , เกาะMaafushi Island เราสามารถเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ ได้ทั้งทางเครื่องบิน Speed boat และ Seaplane พร้อมทั้งมีที่พักหลายแบบ หลายราคาให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อนกัน

          แต่ แต่ แต่ วันนี้ชิลไปไหนขอแนะนำ 3 ที่พักยอดฮิตที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัสสักครั้ง บอกเลยว่าครบจบทั้งกิจกรรม ห้องพัก ห้องอาหาร และHighlight ปัง ๆ พร้อมแล้วเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะเป็นยังไงงงงง

Mercure Hotels & Resort Maldives Kooddoo

       เริ่มกันที่ Mercure Hotels & Resort Maldives Kooddoo ที่นี่จะทำให้ทุกคนรับรู้ว่ามัลดีฟส์นั้นสวยทุกเวลาจริง ๆ ! ที่นี่เขาเป็นแบบ all-inclusive นะ อยากกินหรือดื่มอะไรก็ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ยกเว้นกิจกรรมบางบริการเช่น ขับ Jet Ski หรือสปาอันนี้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ

1.ห้อง Beach Villa 

         บีชวิลล่าส่วนตัวที่ถูกล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดทรายขาวและได้สัมผัสกับน้ำทะเลสีฟ้าครามแล้วว

         ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสบาย ๆ พื้นที่กว้างขวาง มีห้องอาบน้ำทั้งในร่มและกลางแจ้ง หรือหากใครอยากผ่อนคลายด้วยการแช่น้ำที่นี่เขาก็มีอ่างอาบน้ำกลางแจ้งให้ด้วย ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว และอยากตื่นมาเจอวิวทะเลแบบนี้ ห้องนี้เหมาะมาก ๆ

2.ห้อง Over Water Villa 

         วิลล่าที่ผสมผสานระหว่างความสบายแบบดั้งเดิมและสไตล์ร่วมสมัย ตั้งอยู่ท่ามกลางน้ำทะเลสีฟ้าสดใส สามารถมองเห็นวิวโดยรอบได้ วิวสวยมากกก สามารถสวมสนอร์กเกิลเดินลงบันไดสัมผัสน้ำทะเลได้เลย นอกจากนี้ยังมีสระเล็ก ๆ ให้ลงแช่เพิ่มความผ่อนคลายหลังจากทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกด้วย

กิจกรรมภายในรีสอร์ท

1.Chef’s Garden Tour

          เป็นกิจกรรมที่เชฟจะพาเราเดินชมสวนผักภายในรีสอร์ทนั่นเอง เดินเพลิน ๆ เรียนรู้พืชผักไปด้วย ก็ชิลเหมือนกันนะ!

2. Sand Bank

          กิจกรรมนั่งเรือชม Sand Bank หรือสันทรายนั่นเอง เป็น Highlight ของที่นี่เลย ซึ่งเราต้องนั่งเรือไปยังบริเวณสันทรายตรงนี้ประมาณ 40 นาที และมีเวลาถ่ายรูป ดำน้ำดูปะการังประมาณ 1 ชั่วโมง เป็น Sand Bank ที่มินิมอลมากกก ทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า สวยมากกกกก 

3.Movie Under Star

         ช่วงเวลาก่อนนอน เราโบกมือลาค่ำคืนสุดวิเศษนี้ไปกับกิจกรรมแสนพิเศษ Movie Under Star เป็นการดูหนังใต้แสงดาวริมทะเลที่เติมเต็มการพักผ่อนของทริปนี้ให้โรแมนติก และมีความสุขมากขึ้น!

4. Water Sport Activities 

         ที่นี่เขามีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำค่อนข้างเยอะทั้ง Jetski, Paddle bord, Snorkelling, พายเรือคายัค, แล่นเรือใบ และห่วงยาง ซึ่งกิจกรรมตรงนี้อาจจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่คุ้มค่ามากกับการได้ชื่นชมความใสของน้ำทะเล ความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเล สิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย ปะการังแสนสวย ปลาทะเลมากมาย เอาเป็นว่าเกาะแห่งนี้เป็นสวรรค์ของคนรักทะเลเลยก็ว่าได้!

ห้องอาหาร

1.ห้องอาหาร Vista

          เป็นห้องอาหารสไตล์ Italian ที่จะพาทุกคนเดินทางไปยังอิตาลีด้วยพาสต้าแฮนด์เมดรสชาติเยี่ยม เสิร์ฟพร้อมไวน์นานาชาติกว่า 40 ชนิดที่ไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่ม! จิบไวน์ชิล ๆ กับวิวทะเล บรรยากาศยามค่ำคืนใต้แสงดาว โรแมนติกมาก ๆ เหมาะกับพาหวานใจมาเดทสุดดด

2.ห้องอาหาร Alita 

          เป็นมื้อค่ำแบบ Buffet อาหารมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารค่ำตามธีมจากทั่วโลก และอาหารที่มาจากท้องถิ่น รสชาติแปลกใหม่แต่อร่อยดีนะ บวกกับวิวทะเลยามค่ำคืน เป็นการทานมื้อค่ำที่ชิลสุด ๆ ไปเลยค่ะ

การเดินทาง

เราเดินทางจากสนามบิน Malé ไปยังสนามบิน Kooddoo โดยสายการบิน Domestic ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีก็ถึง สนามบิน Kooddoo แล้ว ซึ่งทางที่พักจะมีรถรับ-ส่งเราไปยังรีสอร์ท ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง Mercure Hotels & Resort Maldives Kooddoo กันแล้วค่ะ

Pullman Hotels and Resorts Maldives Maamutaa 

             สัมผัสความชิลและความหรูหราที่ซ่อนตัวอยู่ที่ Pullman Hotels and Resorts Maldives Maamutaa ถึงเวลาหนีไปยังโลกแห่งความเงียบสงบที่มัลดีฟส์แล้วว! เอาล่ะทุกคน ออกไปใช้เวลาแห่งความสุขบนเกาะแห่งนี้กัน! บอกก่อนเลยว่า ที่นี่เขาเป็นแบบ all-inclusive นะคะ ครบจบในราคาเดียว! และเติมมินิบาร์ให้วันละสองครั้งด้วยนะ 

1.ห้อง Ocean Pool Villa

          เป็นห้องที่วิวสวยมากกก ไม่ว่าจะเเสงเย็นหรือแสงเช้าคือสวยแบบตะโกนเลยทุกคน นอนฟังเสียงคลื่น ตื่นเช้ามาสูดอากาศดี ๆ ท่ามกลางวิวทะเลสีสดใส ไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสวย แดดฉ่ำ ๆ แบบนี้ฟินไม่ไหวแล้ววว  ในส่วนของห้องพัก บอกเลยว่าห้องกว้างมาก มีพื้นที่สำหรับพักผ่อนทั้งสระว่ายน้ำ มุมนั่งเล่น แถมตกแต่งสวยงามสบายตา มีอ่างอาบน้ำให้ผ่อนคลายอีกด้วย

2.ห้อง Aqua Villa
        ห้องพักคือสวยสะกดมาก สวยจึ้ง สวยแบบตะโกน ความปังคือเขามี 2 ชั้น ชั้นล่างมี 1 ห้องนอนใหญ่ UNDERWATER BEDROOM เป็นห้องวิวปะการัง สามารถมองเห็นน้องปลาแหวกว่ายไปมาได้เลย สำหรับใครที่เข้าพักห้องนี้ เขาจะจัดเซตแชมเปญไว้สำหรับถ่ายรูป ฟีลดีมาก ได้สัมผัสบรรยากาศใต้ท้องทะเลแบบเต็มอิ่มไปเลย

           หรือจะอยากชมวิวทะเล ก็สามารถเดินขึ้นมาชั้นบนได้เลย เพราะเขามีอีก 1 ห้องนอน OVERWATER BEDROOM วิวสวยไม่แพ้กัน มีสระว่ายน้ำวิวพระอาทิตย์ขึ้นแบบฟิน ๆ มีพื้นที่มากมายสำหรับการพักผ่อน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน! ควรค่าแก่การมาพักผ่อนจริง ๆ ค่ะ

กิจกรรมภายในรีสอร์ต

1.กิจกรรม Discovery Mermaid 

          กิจกรรม Discovery Mermaid (มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้เราได้ลองใส่ครีบ Mermaid และสอนเราว่ายน้ำแบบ Mermaid ในสระ ให้ฟีลเงือกน้อยมหัศจรรย์อะไรเบอร์นั้น เป็นกิจกรรมที่สานฝันวัยเด็กสุด ๆ ไปเลยค่ะ!

หรือใครอยากจะแหวกว่าย ดำดิ่งใต้ท้องทะเลใช้ชีวิตแฟนตาซีในการเป็นนางเงือกแบบนี้ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมีใบ Certificate นะคะ บอกเลยว่า Content Mermaid สาวปังจริงค่ะ!

2. กิจกรรม Sunset Cruise

เป็นกิจกรรมที่เรียบง่ายแต่ประทับใจสุด ๆ เป็นบรรยากาศยามเย็นที่ดีมากกก และเป็นวิวพระอาทิตย์ตกที่โรแมนติกแบบเต็มสิบไม่หัก! จิบไวน์เพลิน ๆ ปล่อยใจชิล ๆ ล่องเรือชมพระอาทิตย์ที่กำลังตก มองดูสีของท้องฟ้าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปในแต่ละวินาที เป็นการพักผ่อนที่คุ้มค่าอีกรูปแบบนึงเลยค่ะ

กลับมาชมวิวพระอาทิตย์ตก แสงเย็นสวย ๆ กันอีกรอบที่รีสอร์ต สวยมาก ฟีลดีมากกก

ห้องอาหาร

1. ห้องอาหาร MÉLANGE

           ทานมื้อค่ำกันที่ห้องอาหาร MÉLANGE  มื้อค่ำของเราเป็นเมนู Sea Food อาหารทะเล วัตถุของเขาสดใหม่มาก ๆ ทาสรักอาหารทะเลแบบเราบอกเลยว่าฟิน สำหรับคืนนี้หลับฝันดีแล้วค่ะ

การเดินทาง

           เราเดินทางจากสนามบิน Malé ไปยังสนามบิน Kooddoo โดยสายการบิน Domestic ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเราก็เดินทางไปยังรีสอร์ท Mercure Hotels & Resort Maldives Kooddoo
เพื่อที่จะขึ้น Speed Boat ไปยัง Pullman Hotels and Resorts Maldives Maamutaa ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ

Reethi Beach Resort

           สัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเที่ยวทะเลที่ Reethi Beach Resort กัน! นอกจากที่พักสวย หาดขาว น้ำใสแล้ว ตอกย้ำความปังด้วย Highlight ที่ทุกคนต้องประทับใจ! เมื่อเราเดินทางมาถึง Reethi Beach Resort แล้ว เขาจะให้เราปรับเวลาให้ไวกว่าเวลาปกติของมัลดีฟส์ประมาณ 1 ชั่วโมง โดยให้เหตุผลว่า ต้องการให้แขกที่มาพักมีเวลาใน 1 วันมากขึ้น 1 ชั่วโมงนั่นเองค่ะ และที่สำคัญที่นี่เป็นแบบ Social Detox ซึ่งภายในห้องพักจะไม่มี WiFi ให้ แต่สามารถติดต่อเพื่อขอใช้ Pocket WiFi ได้เช่นกันค่ะ

1.ห้องพัก Water Villa

          ห้องพักกว้าง มีห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำให้แช่ มีพื้นที่นั่งเล่นสำหรับชมวิวทะเล รวมถึงระเบียงที่สามารถเดินลงทะเลได้เลย มีร่มกันแดดพร้อม Sun Bed ให้นอนอาบแดดกันชิล ๆ อีกด้วย บรรยากาศโดยรอบคือดีมากกก ยิ่งเป็นแบบ Social Detox ได้นอนฟังเสียงคลื่น อ่านหนังสือ หรือใช้เวลาร่วมกับคนรัก ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีกค่ะ 

กิจกรรมภายในรีสอร์ท

1. กิจกรรม Castaway Cocktail at Dha’nd Island

           ออกเดินทางไปยังเกาะ Dha’nd Island เพื่อทำกิจกรรมที่ชื่อว่า Castaway Cocktail at Dha’nd Island เป็นอีกหนึ่ง Highlight ของทางที่พักนั่นเอง เกาะแห่งนี้เป็นเกาะที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เหมาะสำหรับใครที่อยากมีเดทน่ารัก ๆ เป็นส่วนตัวกับคุณแฟน หรือจะมาล่องเรือ ชมวิว เช็กอิน ถ่ายรูปก็ได้ค่ะเพราะแสงสวย หาดขาว และขอบอกว่าน้ำทะเลใสมากกกก 

            และสิ่งที่ทำให้เกาะแห่งนี้มีความพิเศษมากขึ้นก็คือ ทางที่พักเขาได้จัดเตรียม Cocktail ไว้ให้เราได้จิบชมวิวพระอาทิตย์ตก พร้อมเปิดเพลงคลอไปด้วย บอกเลยว่าจิบ Cocktail ในช่วงเวลา Golden Hour เหมือนได้ขึ้นสวรรค์ชัด ๆ เลยค่ะ (ถ้าใครสนใจอยากมาทำกิจกรรมส่วนตัว น่ารัก ๆ แบบนี้ก็สามารถแจ้งกับทางที่พักก่อนน้า)

2. กิจกรรม Guided Snorkelling

       เป็นการดำน้ำตื่นที่บริเวณหาดหน้าที่พัก บอกเลยว่าสวยมากกก แม้ในวันที่แดดไม่จ้า น้ำก็ยังใสแจ๋ว ได้ชื่นชมความงามและความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลแบบเต็มอิ่มเลยค่ะ 

3. กิจกรรม Hydroponic Garden Tour with Exclusive Chef 

           โดยเชฟจะพาเราเยี่ยมชมสวนผักต่าง ๆ และมีความพิเศษตรงที่เราสามารถเก็บผักมาให้เชฟประกอบอาหารท้องถิ่นให้ได้ชิมกันด้วย และกิจกรรมนี้มีชื่อว่า Maldives Cooking Class นอกจากได้ชื่นชมทะเลสวย ๆ แล้วยังได้เรียนรู้วัฒนธรรม วิถีชีวิตของคนที่นี่ไปด้วย กิจกรรมนี้ทั้งสนุกและตื่นเต้นไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ เป็นใครก็ต้องหลงรักมัลดีฟส์อย่างแน่นอนนน

4. กิจกรรม Water Sport

         ทางที่พักเขาได้เตรียมกิจกรรมทางน้ำไว้บริการมากมาย เราเลือกพายบอร์ดแบบชิล ๆ และที่สำคัญคือถ่ายรูปออกมาสวยมากถึงมากที่สุด!

5. กิจกรรมชมเจ้าปลากระเบนสติงเรย์ และฉลามพยาบาล

           Highlight ที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนที่นี่ก็คือ การชมเจ้าปลากระเบน และฉลามพยาบาลที่ริมหาดแบบใกล้ชิดดด น้องจะมาที่ริมหาดในช่วงเย็นของวัน ยิ่งคลื่นเบาก็จะเจอกับเจ้าปลากระเบน และผองเพื่อนง่ายมากขึ้น! อยากให้ทุกคนได้ลองไปสัมผัส และได้เห็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงามท่ามกลางท้องทะเลสีสดแห่งนี้ด้วยตัวเองมาก ๆ เพราะมันตื่นตาตื่นใจมากกก แถมถ่ายรูปออกมาเท่สุด ๆ เลยย!

6. การแสดงพื้นเมือง Traditional Maldivian Dance, Bodu Beru in Main bar

            การแสดงพื้นเมือง Traditional Maldivian Dance, Bodu Beru in Main bar เราสามารถไปจอยกับเขาได้ด้วยนะ สนุกสนานเพลิดเพลินกันไป นอกจากธรรมชาติที่สวยงาม ท้องทะเลแสนมหัศจรรย์แล้ว ที่มัลดีฟส์ยังมีวัฒนธรรม วิถีชีวิตที่สวยงาม มีเสน่ห์ น่าหลงใหลอีกด้วยค่ะ

ห้องอาหาร

1.ห้องอาหาร MOODHU BAR & Restaurant 

          อาหารและเครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลาย มีอาหารไทยด้วยนะ ห้องอาหารตั้งอยู่ท่ามกลางทะเล บรรยากาศโรแมนติกมาก ๆ มาพร้อมความสะดวกสบายและความเงียบสงบ เป็นส่วนตัว

การเดินทาง

          เมื่อเราเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมาถึงสนามบิน Malé แล้ว เราสามารถซื้อตั๋ว Seaplane เพื่อเดินทางไปยัง Reethi Beach Resort ได้ที่สนาม Malé ได้เลย เมื่อได้ตั๋วมาแล้ว เราต้องนั่งรถตู้อีกประมาณ 10 นาทีเพื่อไปขึ้น Seaplane ของสายการบิน Manta Air และใช้เวลาเดินทางโดย Seaplane ประมาณ 40 นาทีก็จะถึง Reethi Beach Resort แล้วค่ะ

***ข้อควรรู้เกี่ยวกับมัลดีฟส์

1.สายการบินนานาชาติทุกสายการบินจะต้องบินลงสนามบินนานาชาติที่เมืองหลวงมาเล่

2.การเดินทางไปยังเกาะต่าง ๆ ของที่นี่จะใช้ Speed boat และ Sea Plane

3.ค่าเงินของที่นี่คือ รูฟียาห์ ซึ่ง 15 รูฟียาห์ เท่ากับ 1 US ดอลลาร์ / 1 รูฟียาห์ เท่ากับ
2.22 บาท ซึ่งที่มัลดีฟส์ส่วนมากจะใช้เงินสดกัน

4.สภาพอากาศที่นี่เป็นแบบร้อนชื้น มี 2 ฤดูกาลคือ ฤดูร้อนและฤดูฝน

5.สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีตั้งเเต่เดือนธันวาคม-เมษายน และเดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน 

6.ช่วง Hight season เหมาะกับการไปเที่ยวมากที่สุด และน้ำใสเป็นพิเศษคือ ช่วงมีนาคม-เมษายน

7.ชาวมัลดีฟส์ค่อนข้างเคร่งเรื่องศาสนา อาจจะต้องระมัดระวังเรื่องแต่งกายกันนิดนึงน้า

          สำหรับใครที่มีแพลนเดินทางไปมัลดีฟส์ เราแนะนำให้จองเที่ยวบินไปกับสายการบิน Air Asia เพราะราคาประหยัด ไป-กลับไม่ถึงหมื่น! ช่วยประหยัดงบเที่ยวของเราไปอีก และใครที่อยากได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการพักผ่อน การดูแลและการบริการที่น่าประทับใจแบบเราก็สามารถตามรอย 3 ที่พักด้านบนได้เลย แล้วมัลดีฟส์จะไม่กลายเป็นทริปในฝันอีกต่อไป ลุยโลดด!! 

           ขอขอบคุณทาง Maldives Marketing & Public Relations (MMPRC) หน่วยงานการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวมัลดีฟส์ ที่ให้โอกาสเราได้ไปสัมผัสความสวยงาม ความหรูหรา และประสบการณ์การท่องเที่ยวดี ๆ ที่มัลดีฟส์ด้วยนะคะ

Tags: มัลดีฟส์ Maldives Air Asia สายการบินแอร์เอเชีย แอร์เอเชีย Mercure Hotels and Resort Maldives Kooddoo Pullman Hotels and Resorts Maldives Maamutaa Reethi Beach Resort

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้