ทริปเที่ยวจันทบุรี 3 วัน 2 คืน กินอาหารทะเล เช็คอินคาเฟ่ใหม่ สัมผัสวิถีชีวิตริมน้ำจันทบูร

calendar_month 08 ก.พ. 2023 / stylus Admin Chillpainai / visibility 32,773 / ทริปตัวอย่าง

ได้เวลาเดินทางไปเที่ยวกันอีกแล้วค่ะ ทริปนี้เราจะพาไปเที่ยวกันที่จังหวัดจันทบุรี เมืองรองสุดน่ารักที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะจันทบุรีนอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องสวนผลไม้แล้ว ยังมีที่เที่ยวอย่างทะล น้ำตก แม่น้ำ ชุมชน ที่พักสวย ๆ รวมทั้งคาเฟ่สุดชิคให้ได้ไปเช็คอินอีกเพียบ ครั้งนี้เราเลยวางแผนมาเที่ยวกันแบบจัดเต็ม 3 วัน 2 คืน เอาใจทั้งสายกิน สายเที่ยว สายคาเฟ่ สายถ่ายรูป ให้ทุกคนไปเที่ยวตามได้แบบสบาย ๆ จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

แต่ก่อนออกเดินทางอยากบอกว่าจันทบุรีถือเป็นเมืองรองที่มีครบทั้งที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ แถมตอนนี้เขาก็มีแคมเปญ เที่ยวสบ๊ายสบาย สไตล์จันท์ ที่ทางททท.สำนักงานจันทบุรี ร่วมกับสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรีผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ เมื่อเช็คอินที่พักที่ร่วมแคมเปญ รับฟรีไปเลย E-Coupon มูลค่า 500 บาท ซึ่งใช้ได้ครบทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ ทำกิจกรรมท่องเที่ยวหรือซื้อของฝากได้เลย กดรับสิทธิ์ทาง >> https://chill.travel/3vRByX5 เริ่มวันที่ 15 ม.ค. - 30 มิ.ย.นี้ ใครยังไม่ได้กดรับสิทธิ์ต้องรีบแล้ว เพราะสิทธิ์เขามีจำนวนจำกัด ส่วนใครที่กดรับสิทธิ์เรียบร้อยแล้วก็ไปเที่ยวจันทบุรีกันเลย!

DAY 1

เมื่อวางแผนกันเรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ ทริปนี้เราเดินทางกันโดยรถส่วนตัว ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า พิกัดแรกที่จะไปนั่นก็คือ ร้านฉุย จันทบุรี จุดเด่นของที่นี่คือทางร้านมีสวนของเขาเอง โดยในสวนมีพืชผักที่ปลูกเอง ทำให้ลูกค้าได้ทานของดี มีคุณภาพ สดใหม่ทุกจาน รวมทั้งข้าวหอมมะลิที่ใช้ก็ส่งตรงมาจากนาข้าวของเจ้าของร้านที่จังหวัดสุรินทร์ ทำให้ลูกค้าที่ทานอาหารที่ร้านมั่นใจได้เลยว่าวัตถุดิบที่นี่มีคุณภาพอย่างแน่นอน

ในส่วนของที่นั่งภายในร้านเขาก็มีให้เลือกหลายโซนค่ะ ทั้งโซนด้านในที่มีหลังคา และโซนด้านนอกที่เป็นแบบเปิดโล่ง โซนนี้จะตั้งอยู่ริมน้ำเลยค่ะ บริเวณรอบ ๆ มีต้นไม้น้อยใหญ่ที่คอยให้ความร่มรื่น ใครชอบบรรยากาศชิล ๆ รับลมสบาย ๆ แนะนำโซนนี้เลย หรือใครที่มาทานอาหารกันทั้งครอบครัว อยากนั่งในห้องแอร์เย็น ๆ แบบส่วนตัวเขาก็มีให้บริการเช่นกัน เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการเลยค่ะ

ในส่วนของเมนูอาหาร ที่นี่จะเป็นอาหารพื้นบ้านและซีฟู้ดค่ะ โดยมื้อนี้เราเลือกสั่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์อย่าง แกงคั่วกระวานสันคอหมู, หมึกต้มน้ำดำ, ข้าวผัดทะเลดำ และตำฉุย บอกเลยว่าแต่ละเมนูรสชาติอร่อยสุด ๆ แถมวัตถุดิบก็สดใหม่มาก ๆ สมคำร่ำลือเลย ซึ่งนอกจากเมนูซิกเนเจอร์แล้ว เมนูอื่น ๆ ของร้านก็ดีงามไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น กุ้งทอดกระเทียม, แกงส้มหม้อไฟ เรียกได้ว่าไม่ว่าจะสั่งเมนูไหนก็ไม่ผิดหวัง

ทานของคาวเรียบร้อยก็มาต่อกันที่ของหวานกันดีกว่า มื้อนี้เราเลือกสั่งเป็น บิงซูข้าวเหนียวมะม่วง ตัวบิงซูมีความหอมนม ทานคู่กับมะม่วงสุกที่หั่นเป็นลูกเต๋าพอดีคำ รสชาติหวานอร่อย ราดด้วยนมข้น ใครเป็นสายหวานไม่ควรพลาดเมนูนี้เลย ทางด้านเครื่องดื่มเราเลือกสั่งเป็น น้ำมะปี๊ด ผลไม้พื้นถิ่นของจังหวัดจันทบุรี รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่นสุด ๆ เลยค่ะ ร้านฉุย จันทบุรี

ที่ตั้ง : 9/19 ถ.ทุ่งดอนแดง ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 11:00–22:00 น.

โทรศัพท์ : 0654264265

Facebook : ร้านอาหาร ฉุย จันทบุรี

GPS : https://goo.gl/maps/AMJrd8qFvABgHc6u6

ร้านนี้เข้าร่วมแคมเปญเที่ยวสบ๊ายสบายสไตล์จันท์ลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่นี่ >> https://chill.travel/3vRByX5

หลังจากทานอาหารกันจนอิ่มหนำสำราญก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าไปเช็คอินที่พักกันแล้ว โดยคืนนี้เราจะไปพักกันที่ บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี บ้านพักประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำจันทบูรที่มีอายุยาวนานกว่า 150 ปี ที่นี่เป็นบ้านพักที่หลวงราชไมตรี บิดาแห่งยางพารา (ตะวันออก) และเป็นผู้สร้างคุณูปการให้กับชาวจันทบุรีอาศัยอยู่จริงในอดีต แต่ต่อมาได้มีการอนุรักษ์ฟื้นฟูให้เป็นบ้านพัก โดยมีคอนเซ็ปท์คือ “พิพิธภัณฑ์ที่พร้อมให้คุณเข้าพัก” บริเวณชั้นล่างจะมีการจัดแสดงนิทรรศการและของใช้ในชีวิตประจำวันของหลวงราชไมตรีเอาไว้ ทำให้เมื่อเข้ามาแล้วจะรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลาไปในอดีต ได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชนริมแม่น้ำจันทบูรแท้ ๆ เลยค่ะ

ตัวบ้านพักแม้จะมีการอนุรักษ์ฟื้นฟู แต่จะยังคงสถาปัตกรรมเดิมเอาไว้เกือบทั้งหมดเลยค่ะ โดยจะเป็นสถาปัตกรรมแบบผสมผสานระหว่างไทย จีน ยุโรป จะมีเพียงการกั้นห้อง เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ และสร้างห้องน้ำเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ที่มาเข้าพัก ที่นี่มีห้องพักให้บริการทั้งหมด 10 ห้อง แต่ละห้องจะตั้งชื่อโดยอิงจากประวัติของหลวงราชไมตรี เช่น ห้องลูกยาง ที่ภายในห้องจะมีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทำยางพาราลมควัน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน, ห้องครัวนายแม่ ที่จะประดับตกแต่งด้วยถ้วยชามที่ใช้ในสมัยก่อน มีมารยาทบนโต๊ะอาหารแบบสากลที่หลวงราชไมตรีเขียนเอาไว้เพื่อสอนลูกหลาน เป็นต้น

ห้องที่เราจะพักในวันนี้คือ ห้องนายพ่อนายแม่ ซึ่งเป็นห้องที่หลวงราชไมตรีเคยพักอาศัยอยู่จริง มาพร้อมกับเตียงคิงไซซ์ ห้องน้ำส่วนตัว และเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากันได้ดีกับตัวบ้านพักที่เป็นไม้ ภายในห้องจะมีประวัติหลวงราชไมตรี และวีซ่าในสมัยที่ท่านเดินทางไปสิงคโปร์ ด้านหน้าห้องพักมีระเบียงริมน้ำที่กว้างขวาง มาพร้อมกับชุดโต๊ะเก้าอี้ที่สามารถมานั่งชิล จิบกาแฟริมแม่น้ำยามเช้าได้ บอกเลยว่าเป็นห้องที่บรรยากาศดี และให้กลิ่นอายของชุมชนริมน้ำจันทบูรแท้ ๆ เลยค่ะ

ไหน ๆ ที่พักที่เรานอนคืนนี้ก็ตั้งอยู่ที่ ชุมชนริมน้ำจันบูร แล้ว เราก็ไม่พลาดที่จะเดินออกไปเที่ยวสัมผัสวิถีชุมชนกัน ที่นี่ถือเป็นย่านเมืองเก่าที่ควรค่าแก่การมาเที่ยวมาก ๆ ค่ะ เพราะเป็นชุมชนเก่าแก่กว่า 300 ปี ซึ่งนอกจากจะได้เห็นบ้านเรือนเก่า ๆ สไตล์วินเทจแล้ว ยังมีสตรีทอาร์ตสวย ๆ ให้ได้ไปถ่ายรูปชิค ๆ เพียบ แถมตลอดข้างทางยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และร้านของฝากให้เลือกซื้ออีกหลากหลายร้านเลย

นอกจากนี้ยังมี อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล อาสนวิหารคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุกว่าร้อยปี ที่ด้านในตกแต่งด้วยเพชรพลอยชนิดต่าง ๆ อย่างสวยงาม เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่คนมาเที่ยวจันทบุรีไม่ควรพลาด

ชุมชนริมน้ำจันทบูร

ที่ตั้ง : ถนน สุขาภิบาล ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี จันทบุรี 22000

GPS : https://goo.gl/maps/tCKEgFF9AHiDAX6R8

หลังจากเที่ยวกันจนเหนื่อย ตอนนี้ก็ถึงเวลาอาหารเย็นกันแล้วค่ะ เย็นนี้เราจะไปทานอาหารกันที่ ร้านอาหารบางมะนาว ร้านอาหารที่เปิดมานานกว่า 10 ปี ที่นี่ตั้งอยู่ริมอ่าวมะนาว ทำให้บรรยากาศดีสุด ๆ โดยเฉพาะช่วงเย็นจะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ มีคอนเซ็ปท์การตกแต่งที่เป็นแบบอารยสถาปัตย์ รองรับได้ทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ รวมทั้งเป็นร้าน Pet Friendly อีกด้วย ถือเป็นร้านอาหารที่เหมาะกับการพาครอบครัวมาทานมาก ๆ ค่ะ

ในส่วนของเมนูอาหาร ทางร้านจะเน้นไปทางซีฟู้ดค่ะ โดยมีความพิเศษตรงที่บางเมนูจะมีแค่ที่นี่เท่านั้น เช่น ปลาอีคุด ที่จะมีแค่ที่หน้าอ่าวนี้ เนื่องจากเป็นปลาสองน้ำ โดยเมนูที่เราสั่งมาในวันนี้จะเป็นเมนูแนะนำของที่ร้านเลยค่ะ นั่นก็คือ แกงคั่วปูไข่หน่อไม้ดอง เนื้อปูแน่น ๆ เต็มคำ เข้ากันได้ดีกับเครื่องแกงรสจัดจ้าน, ปลาอีคุดทอดราดน้ำปลา กรอบนอก เนื้อนุ่ม, ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ซีฟู้ดแน่น ๆ เครื่องแกงรสกลมกล่อม เพิ่มความอร่อยด้วยมะพร้าวอ่อน และ ผัดพริกเกลือรวมมิตรทะเล ซีฟู้ดคุณภาพดี ทอดกรอบ ๆ เสริมรสด้วยพริกเกลือที่ให้ความเผ็ดร้อน แต่ละเมนูบอกเลยว่าวัตถุคุณภาพดี รสชาติอร่อยลงตัวจนต้องตักข้าวเพิ่มเลยค่ะ

ทางด้านเครื่องดื่มก็บอกเลยว่าดีงามไม่แพ้กันค่ะ เพราะมีให้เลือกทั้งค็อกเทลและม็อกเทล ซึ่งเมนูที่เราเลือกสั่งมาในวันนี้ก็คือ บางมะนาวเฮอริเคน ค็อกเทลซิกเนอเจอร์สีฟ้าสดใส ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น และ ละมุน ตัวนี้จะเป็นม็อกเทลที่มีส่วนผสมของใบมิ้นต์ ลิ้นจี่ รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี หอมใบมิ้นต์เบา ๆ อร่อยสดชื่นมาก

ร้านอาหารบางมะนาว

ที่ตั้ง : 77 หมู่ 10, ตำบล หนองบัว อำเภอเมืองจันทบุรี จันทบุรี 22000

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.30-21.00 น.

โทรศัพท์ : 0925386511

Facebook : ร้านบางมะนาว เสม็ดงาม จันทบุรี

GPS : https://goo.gl/maps/uKuP29M5mCJoHNR88

DAY 2

เดินทางมาถึงเช้าวันที่ 2 ของทริปกันแล้วค่ะ หลังจากตื่นนอนและอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย เราก็เช็คเอาท์และไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราจะทานอาหารกันที่ที่พักเลย โดยทางที่พักจะจัดอาหารมาให้เป็นเซ็ต มีเมนูให้เลือกหลายอย่าง ทั้งก๋วยจั๊บ, โจ๊กข้าวกล้อง, American Breakfast, สลัด เสิร์ฟมาพร้อมปาท่องโก๋และขนมมไทย รวมทั้งมีขนมปัง กาแฟ โกโก้ น้ำส้มไว้ให้บริการ เรียกได้ว่าเป็นมื้อเช้าที่อิ่มอร่อยครบทั้งของคาวของหวานเลยล่ะค่ะ

บ้านพักประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี

ที่ตั้ง : 252 ถนน สุขาภิบาล ตำบลวัดใหม่ อำเภอเมืองจันทบุรี จันทบุรี 22000

ราคา : เริ่มต้น 1,690 บาท

โทรศัพท์ : 0888434516

Facebook : บ้านหลวงราชไมตรี Historic Inn

เว็บไซต์ : http://www.baanluangrajamaitri.com/en/

GPS : https://goo.gl/maps/gxSYHShkStYNp9vf6

ที่พักนี้เข้าร่วมแคมเปญเที่ยวสบ๊ายสบายสไตล์จันท์ลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่นี่ >> https://chill.travel/3vRByX5

ทานข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อยต่อไปก็ไปเช็คอินคาเฟ่กันดีกว่าค่ะ โดยคาเฟ่ที่เราจะไปก็คือ KOFF House Coffee Bar&Eatery ค่ะ ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนร้านอาหารและคาเฟ่ มีการออกแบบตกแต่งเป็นธีมเหมืองผสมผสานกับความเป็นโรงงาน มาพร้อมกับมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ ในส่วนของที่นั่งภายในร้าน เขาก็มีให้เลือกทั้งแบบอินดอร์ในห้องแอร์ และแบบเอาท์ดอร์รับลมเย็น ๆ ของแม่น้ำจันทบูร ใครชอบโซนไหนก็เลือกนั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ

ทางด้านเมนูของที่นี่เขาก็มีครบทั้งของคาวของหวานเลยค่ะ มาเริ่มกันที่ของหวานก่อนเลย เมนูแนะนำก็คือ Homemade Korean Yogurt โยเกิร์ตเกาหลีรสชาติเปรี้ยวนิด ๆ มีความหอมมัน อร่อยกำลังดี ทานคู่กับผลไม้ และราดด้วยน้ำผึ้ง หรือจะเป็นเมนูยอดฮิตอย่าง โมจิหยดน้ำ โมจิวุ้นก้อนใส เนื้อเด้ง ทานคู่กับซอสน้ำตาลทรายแดง โรยด้วยผงถั่วรสชาติหอมมัน ใครมาเช็คอินร้านนี้ ห้ามพลาด 2 เมนูนี้เลยค่ะ

ส่วนใครที่อยากทานเป็นอาหารจานเดียว ทางร้านเขาก็มีให้บริการเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น สปาเกตตีหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ผัดกระเทียมกุ้ง สปาเกตตีเส้นเหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม เสิร์ฟมาพร้อมกับกุ้งและหอยแมลงภู่ตัวโต, ปลากะพงผัดพริกขี้หนู, กุ้งผัดน้ำพริกไข่เค็มกระวาน ก็บอกเลยว่าอร่อยกลมกล่อมถึงเครื่องไม่แพ้กันเลย

KOFF House Coffee Bar&Eatery

ที่ตั้ง : 34/8 จันทนิมิต, ตำบล จันทนิมิต เมือง, จันทบุรี 22000

เวลาเปิดบริการ

คาเฟ่ : 08.00-21.00 น.

ร้านอาหาร : 10.00-23.30 น.

โทรศัพท์ : 0836493995

Facebook : Koff House Coffee Bar&Eatery

GPS : https://goo.gl/maps/cQfenHPb4FUD1pjf9

เช็คอินคาเฟ่กันเรียบร้อยก็ไปเที่ยวกันต่อเลยค่ะ พิกัดต่อไปใครที่มาเที่ยวกันทั้งครอบครัว มีน้อง ๆ หนู ๆ มาด้วยรับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน เพราะเราจะไปกันที่ Oasis Sea World (โอเอซีส ซีเวิลด์) ที่นี่มีไฮไลต์เด็ดอย่างการแสดงโลมาที่จะได้เห็นน้อง ๆ กระโดดลอดห่วง เตะบอล เต้น ร้องเพลง โดยครูฝึกจะใช้สัญญาณมือแทนการใช้นกหวีด การแสดงจะมี 5 รอบต่อวัน (09.00 น. / 11.00 น. / 13.00 น. / 15.00 น. และ 17.00) และหลังจากการแสดงจบลง จะมีกิจกรรมให้ได้ไปถ่ายรูปกับเหล่าโลมาอย่างใกล้ชิด มีค่าใช้จ่ายคนละ 350 บาท ใครได้มาชมรับรองว่าจะต้องตกหลุมรักในความแสนรู้ของน้อง ๆ อย่างแน่นอน

ส่วนใครที่รู้สึกว่าอยากใกล้ชิดกับน้อง ๆ โลมามากกว่านี้ ทาง Oasis Sea World เขาก็มีกิจกรรมว่ายน้ำกับโลมา ที่เราสามารถกอด สัมผัส ให้อาหารน้อง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด โดยกิจกรรมนี้จะมีค่าใช้จ่าย 1,490 บาท/ท่าน

นอกจากนี้เขายังมีกิจกรรมอื่น ๆ อย่างการให้อาหารปลาหมอทะเลยักษ์ ปลาหมอตัวโตที่กินอาหารโดยการฮุบกลืนปลาเข้าไปทั้งตัว, กิจกรรมให้อาหารกวางรูซา และกิจกรรมป้อนนมปลาคาร์ป รับรองเลยว่าถูกใจทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอนค่ะ

สำหรับใครที่อยากเพิ่มความสดชื่น ที่ Oasis Sea World เขาก็มี "ลานไทร คาเฟ่" ไว้ให้บริการ คาเฟ่นี้จะตั้งอยู่ใกล้กับบ่อปลาคาร์ปเลยค่ะ มีโซนให้เลือกนั่งทั้งบริเวณสนามหญ้าเทียม ที่มาพร้อมกับโต๊ะญี่ปุ่นและบีนแบคหลากสีสันเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบ หรือจะเป็นโซนโต๊ะริมน้ำ นั่งจิบกาแฟเพลิน ๆ ก็บรรยากาศดีไปอีกแบบ ในส่วนของเมนูเขาก็มีให้บริการครบทั้งเครื่องดื่ม ขนม เบเกอรี่ ซึ่งวันนี้เราเลือกสั่งเป็น กาแฟมะปี๊ด ที่จะได้กลิ่นหอมของกาแฟ และได้ความสดชื่นจากมะปี๊ดซึ่งเป็นผลไม้ท้องถิ่นของจันทบุรี และอีกหนึ่งเมนูอย่าง โรสอเมริกาโน่ น้ำสตรอว์เบอร์รีสีสันสดใส ราดด้วยช็อตกาแฟหอม ๆ เป็นอีกเมนูที่อร่อยสดชื่นไม่แพ้กันเลยค่ะ

Oasis Sea World (โอเอซีส ซีเวิลด์)

ที่ตั้ง : ตำบล ปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอ แหลมสิงห์ จันทบุรี 22130

เวลาเปิดบริการ : 09.00-18.00 น.

ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 130 บาท / เด็ก 80 บาท / เด็กสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร เข้าฟรี

โทรศัพท์ : 039499222

Facebook : Oasis Sea World

GPS : https://goo.gl/maps/kERsnZm3zfNwKhQL7

ที่เที่ยวนี้เข้าร่วมแคมเปญเที่ยวสบ๊ายสบายสไตล์จันท์ลงทะเบียนรับสิทธิ์ที่นี่ >> https://chill.travel/3vRByX5

เผลอแป๊บเดียวก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ มื้อนี้เราจะทานกันที่ ร้านอาหารท่องนที ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายใน Oasis Sea World เลย ตัวร้านจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมดค่ะ มีโซนที่นั่งให้เลือกหลากหลาย ทั้งโซนแพริมน้ำและโซนด้านในอาคาร

เมนูของที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารพื้นเมืองและซีฟู้ดค่ะ โดยวันนี้เราสั่งเป็น หมูชะมวง เมนูเด็ดที่ใครมาจันทบุรีก็ต้องสั่ง, ยำผักกูด ผักกูดกรอบ ๆ เข้ากันกับน้ำยำรสจัดจ้าน, หอยคอนโด หอยนางลมสด ทานคู่กับน้ำจิ้มและพริกเผา เสริมความอร่อยด้วยกระถินและหอมเจียวกรอบ ๆ, ปลาสามรส ปลาทอดกรอบราดด้วยซอสสูตรเด็ดของร้าน และ ทะเลเข่ง ที่มีทั้งกุ้ง หมึก หอย ราดซอสรสครีมมี่ มีความหอมมัน อร่อยกลมกล่อมไม่เหมือนที่อื่น

ร้านอาหารท่องนที

ที่ตั้ง : โอเอซีส ซีเวิลด์ 48/2 ม .5, ตำบล ปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอ แหลมสิงห์ จันทบุรี 22130

เวลาเปิดบริการ : 09.00-18.00 น.

โทรศัพท์ : 063 196 2083

Facebook : ท่องนที Seafood

GPS : https://goo.gl/maps/9naATWZyKPMJbyGP9

เมื่อทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องเข้าเช็คอินที่พักกันแล้วค่ะ คืนนี้เราจะนอนกันที่ Saint Tropez Beach Hotel (โรงแรมเซนต์โทรเปซ บีช รีสอร์ท) ที่พักนี้ตั้งอยู่ติดกับชายหาดแหลมเสด็จเลยค่ะ มีการออกแบบตกแต่งอย่างทันสมัย ให้กลิ่นอายความเป็นฝรั่งเศสเบา ๆ สมกับชื่อที่พักที่มาจากภาษาฝรั่งเศส

ที่นี่มีห้องพักให้บริการหลากหลายรูปแบบ แต่ห้องเราเลือกพักในวันนี้คือ ห้อง Beachfront Villa (อาทิตย์-พฤหัสบดี ราคา 5,000 บาท, ศุกร์-เสาร์ ราคา 6,000 บาท, วันหยุดยาว ราคา 7,000 บาท) ตัวห้องพักมีลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น 1 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น ด้านบนมีระเบียงพร้อมชุดโต๊ะเก้าอี้ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้แบบ 180 องศา มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง อุปกรณ์อาบน้ำ, ไดร์เป่าผม, ทีวี, ตู้เย็น ครบเลยค่ะ

นอกจากนี้เรื่องวิวสวย ๆ แล้ว ที่นี่เขายังโดดเด่นเรื่องสระว่ายน้ำ เพราะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือที่มีเครื่องเล่น มีทั้งสระผู้ใหญ่และสระเด็ก

หลังจากเช็คอินเรียบร้อยและพักจนหายเหนื่อย ตอนนี้ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ เย็นนี้เราจะทานอาหารกันในที่พักเพราะเขามีร้านอาหารอยู่ริมทะเลเลย บอกเลยว่าบรรยากาศชิลสุด ๆ แถมวิวยังดีงามมาก ๆ เพราะจะได้เห็นพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ ด้วย อาหารที่นี่จะเป็นแบบอลาคาร์ทค่ะ วันนี้เราสั่งเป็นเมนู ปลากระพงทอดยำสมุนไพร, ซี่โครงหมูผัดซอส, กุ้งฝอยทอดกรอบ, ทะเลเดือด และยำสามกรอบ แต่ละเมนูของที่นี่เชฟจะปรุงรสชาติจัดจ้าน ใครชอบทานอาหารสจัดบอกเลยว่าถูกใจแน่นอนค่ะ

DAY 3

หลังจากพักผ่อนกันอย่างเต็มอิ่ม ในที่สุดก็เดินทางมาถึงเช้าวันที่ 3 ของทริปกันแล้วค่ะ เช้านี้เราจะทานกันที่ที่พักเลย โดยอาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ มีให้เลือกทั้ง American Breakfast และอาหารไทย ใครชอบทานอาหารสไตล์ไหนก็เลือกได้เต็มที่เลย

Saint Tropez Beach Hotel (โรงแรมเซนต์โทรเปซ บีช รีสอร์ท)

ที่ตั้ง : 54/6 หมู่. 4 หาดแหลมเสด็จ ตำบล คลองขุด อำเภอท่าใหม่ จันทบุรี 22120

ราคา : เริ่มต้น 2,200 บาท

โทรศัพท์ : 0807770809

Facebook : Saint Tropez Beach Hotel : โรงแรม เซนต์ โทรเปซ บีช จันทบุรี

GPS : https://goo.gl/maps/PDSjh9jf81jyTRSx5

ทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเพื่อไปเที่ยวกันต่อแล้ว โดยจุดหมายต่อไปที่เราจะเดินทางไปนั่นก็คือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน จากที่พักใช้เวลาเดินทางไม่กี่นาทีก็ถึงแล้วค่ะ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มาเที่ยวกันได้ทั้งครอบครัว โดยมีจุดเด่นคือสะพานไม้ที่ทอดยาวกว่า 1,700 เมตร (ใช้เวลาเดินประมาณ 45 นาที - 1 ช.ม.) ท่ามกลางธรรมชาติและป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งต้นแสม ลำพูทะเล โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ โปรงแดง บอกเลยว่าบรรยากาศร่มรื่น เดินเล่นได้แบบเพลิน ๆ เลยค่ะ

อีกหนึ่งไฮไลต์ของที่นี่ก็คือสะพานแขวนและหอดูนก ที่นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวอ่าวคุ้งกระเบนจากมุมสูง หรือจะถ่ายรูปชิค ๆ ก็เท่ไปอีกแบบ อีกทั้งยังมีอนุสรณ์หมูดุดหรือพะยูน ที่อดีตบริเวณนี้เคยมีพะยูนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากหญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารหลักของพะยูน และเป็นแหล่งอาศัย หลบหนี วางไข่ ตลอดจนเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์อ่อนนานาชนิดในพื้นที่อ่าวคุ้งกระเบนมีปริมาณลดลง ทำให้ไม่มีรายงานการพบพะยูนเข้ามาหากินในอ่าวคุ้งกระเบนอีกเลย ทางศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนจึงสร้างอนุสรณ์เพื่อเป็นที่ระลึกนั่นเองค่ะ

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน

ที่ตั้ง : หมู่ที่ 4 31 ตำบล คลองขุด อำเภอท่าใหม่ 22000

เวลาทำการ : 06.00 น. - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 039433216

Facebook : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน

GPS : https://goo.gl/maps/mkT4wnFnvtb3taHt9

เดินเที่ยวกันเสร็จเรียบร้อย ต่อไปก็ได้เวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ มื้อนี้เราจะไปทานกันที่ ร้านครัวแม่อรุณศรี ที่นี่เป็นร้านอาหารซีฟู้ดที่นอกจากจะรสชาติดี วัตถุดิบสดใหม่แล้ว ราคายังสบายกระเป๋าอีกด้วย ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางไปเนินนางพญาและหาดเจ้าหลาว ตัวร้านจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์ มีความโล่ง โปร่ง สบาย มีที่นั่งให้เลือกหลากหลายโต๊ะ จะมากันแบบครอบครัว คู่รัก หรือแก๊งเพื่อน ก็สามารถรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่มเลยค่ะ

ทางด้านเมนูก็บอกเลยว่าหลากหลายมากค่ะ ทั้งเมนูผัด ต้ม อบ ทอด นึ่ง ยำ ลาบ ส้มตำ หรือจะเป็นอาหารจานเดียวเขาก็มีให้บริการ ซึ่งวันนี้เราเลือกสั่งเป็น ผัดไข่เค็มหมึกไข่ (180.-) หนึ่งในเมนูขายดีอันดับต้น ๆ ของทางร้าน หมึกไข่แน่น ๆ ผัดกับไข่เค็ม มีความอร่อย หอม มัน เข้มข้น ถัดมากับเมนู สามทหารเสือ (180.-) เมนูที่รวมทั้งเนื้อกั้งแก้ว ปูนิ่ม ไข่หมึกไว้ในจานเดียว นำมาทอดกรอบ ๆ โรยด้วยกระเทียมหอม ๆ ทานคู่กับซอสพริก หรือจะเป็นเมนูต้มอย่าง แกงส้มสองไข่ (200.-) แกงส้มรสชาติเข้มข้นที่มีทั้งไข่ปลาหมึก ไข่ปลาริวกิว และกุ้ง ตัวน้ำแกงรสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตามตามแบบฉบับแกงส้มแท้ ๆ อร่อยกลมกล่อมสุด ๆ และอีกหนึ่งเมนูอย่าง ยำสามไข่ (350.-) ได้แก่ ไข่ปลาริวกิว ไข่แมงดา ไข่ปลาหมึก และเพิ่มความฟินด้วยกุ้งที่ปรุงสุกกำลังดี เข้ากันกับน้ำยำรสเด็ด

นอกจากนี้ยังมีเมนูผัดฉ่าหอยเชลล์ (140.-) และปูไข่ดอง (320.-) อีกด้วย บอกเลยว่าแต่ละเมนูวัตถุดิบสดใหม่มาก ๆ แถมรสชาติอร่อยทุกเมนู ใครเป็นสายซีฟู้ดห้ามพลาดเลยค่ะ

ร้านครัวแม่อรุณศรี

ที่ตั้ง : 37 ม 10 คลองขุด อำเภอท่าใหม่ จันทบุรี 22120

เวลาทำการ : ทุกวัน 09.00-20.00 น.

โทรศัพท์ : 0834488398

Facebook : ครัวแม่อรุณศรี จันทบุรี

GPS : https://goo.gl/maps/iXykHhy8wq2Fi9Sr6

ทานอาหารกลางวันกันเสร็จ เราก็เดินทางไปเที่ยวกันเลยค่ะ โดยจุดหมายต่อไปที่เราจะไปเช็คอินก็คือ จุดชมวิวเนินนางพญา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ถนนเลียบชายหาดที่ยาวที่สุดในไทย จุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอิน เพราะจะมองเห็นวิวทะเลตัดกับภูเขาสูง มีถนนคดเคี้ยวสวยงาม รวมทั้งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งด้วย ที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเช็คอินกัน

จุดชมวิวเนินนางพญา

ที่ตั้ง : 2 99 หาดเจ้าหลาว ตำบล สนามไชย อำเภอนายายอาม จันทบุรี 22170

GPS : https://goo.gl/maps/piyVDewjsVDWYpZK9

ถัดมาอีกประมาณ 1 กม. ก็จะเจอกับอีกหนึ่งจุดเช็คอินอย่าง จุดชมวิวเจดีย์กลางน้ำบ้านหัวแหลม จุดชมวิวที่จะมีสะพานทอดยาวลงไปในทะเล ระยะทางประมาณ 50 เมตร มีเจดีย์กลางน้ำที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาของชาวบ้านอายุกว่า 200 ปีตั้งตระหง่านอยู่บนโขดหินกลางทะเล ซึ่งนอกจากจะมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ที่นี่ยังถือเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูป และจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงามมาก ๆ อีกแห่งหนึ่งเลยค่ะ

จุดชมวิวเจดีย์กลางน้ำบ้านหัวแหลม

ที่ตั้ง : ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

GPS : https://goo.gl/maps/raKNiGiqr55Ug4sWA

มาเที่ยวจันทบุรีทั้งทีแน่นอนว่าก็ต้องมีของฝากติดไม้ติดมือกลับกรุงเทพซะหน่อย ซึ่งร้านดั้งเดิมที่คนในพื้นที่แนะนำก็คือ ร้านป้าแกลบ ของดีเมืองจันท์ ที่นี่มีสินค้าแปรรูปจากผลไม้คุณภาพของจังหวัดจันทบุรีให้เลือกมากมาย ทั้งทุเรียนทอดกรอบ, ขนุนอบกรอบ, มังคุดกวน, สละลอยแก้ว, น้ำสำรอง, น้ำมะปี๊ด ฯลฯ บอกเลยว่าเลือกซื้อกันเพลินสุด ๆ รู้ตัวอีกทีของฝากก็ล้นมือแล้วค่ะ

ร้านป้าแกลบ ของดีเมืองจันท์

ที่ตั้ง : 4/3 ม.8, เขาบายศรี, ท่าใหม่, Chanthaburi 22120

เวลาทำการ : 08.00-18.00 น.

โทรศัพท์ : 0819364585

Facebook : ป้าแกลบ ของดีเมืองจันท์ - Paglaeb

GPS : https://goo.gl/maps/wZBCUQPPyDMLSgwT8

ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ เราก็ขอแวะคาเฟ่สักหน่อยดีกว่าค่ะ โดยคาเฟ่ที่เราจะไปก็คือ Good cafe chanthaburi ที่นี่เป็นคาเฟ่เปิดใหม่ที่เพิ่งเปิดได้ประมาณ 4 เดือนเท่านั้นค่ะ คอนเซ็ปท์การตกแต่งของร้านจะเน้นไปที่ความโฮมมี่ เพราะรีโนเวทจากโรงเรือนเดิม และต้องการคงความเป็นบ้านสวนเอาไว้ ไม่ให้ดูโมเดิร์นหรือดูเมืองจนเกินไป ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูอบุอ่น เป็นกันเอง เหมาะแก่การมานั่งชิล จิบกาแฟ และพักผ่อนหย่อนใจมาก ๆ

ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่โดดเด่นเรื่องเบเกอรีมาก ๆ ค่ะ เพราะเป็นโฮมเมดเบเกอรี มีเค้กให้เลือกกว่า 40 ชนิด สลับสับเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน แถมยังมีเครื่องดื่ม โดนัท ครัวซองต์ที่ทางร้านทำใหม่ทุกวัน รวมทั้งอาหารจานเดียวไว้ให้บริการ ซึ่งวันนี้เราเลือกสั่งเป็น Golden Banana เค้กกล้วยเนื้อฉ่ำ รสชาติดี เมนูยอดฮิตที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องสั่ง, Lemon Menrgue Cake เค้กชิฟฟ่อนเนื้อละมุน เข้ากันกับเมอแรงเลม่อน รสชาติจะออกเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ, Mix Nut Brownie With French Vanilla Ice Cream บราวนี่เนื้อนุ่มรสชาติเข้มข้น ทานคู่กับไอศกรีมโฮมเมดรสวานิลลารสหวานละมุน และเนื่องจากเรามาเที่ยวจันทบุรีในเดือนกุมภาพันธ์ ทางร้านเลยแนะนำเมนู พานาคอตต้า Full of Love เมนูพิเศษประจำเดือนแห่งความรักให้ลองชิม พานาคอตต้าเนื้อเนียน ทานคู่กับซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เพิ่มความอร่อยด้วยผลไม้อย่างสตรอว์เบอร์รี, บลูเบอร์รี และกีวี ปิดท้ายด้วยช็อคโกแลตกานาจ Basket บอกเลยว่าเป็นเมนูที่อร่อยลงตัวสุด ๆ ค่ะ

ทางด้านเครื่องดื่มก็มีหลากหลายไม่แพ้กัน ทั้ง Coffee, Non-Coffee น้ำผลไม้ และอิตาเลียนโซดา ซึ่งเราเลือกสั่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์นั่นก็คือ Mulberry Smooyies Signature เมนูนี้ทางร้านใช้มัลเบอร์รีสดจากสวนของตัวเอง ไม่ใส่น้ำตาล แต่ให้ความหวานโดยน้ำผึ้ง ใครสายรักสุขภาพรับรองว่าถูกใจแน่นอน และอีกหนึ่งเมนูคือ Piccolo Latte กาแฟนมที่ใช้ปริมาณกาแฟเท่ากับลาเต้ แต่เสิร์ฟแก้วเล็กและใช้นมน้อยกว่า ทำให้มีรสชาติโดดเด่น ได้รสเข้มของกาแฟ ใครเป็นคอกาแฟห้ามพลาดเมนูนี้เลยค่ะ

นอกจากนี้ทางร้านเขายังมีของทานเล่นและอาหารจานเดียวไว้ให้บริการ ซึ่งเมนูที่ทางร้านแนะนำก็คือ ข้าวคั่วโบราณ ข้าวคั่วหอมกลิ่นกระทะ โรยด้วยเกี้ยนผ่างและบ๊ะอิ่วโผะ เพิ่มความอร่อยด้วยการบีบมะนาวเล็กน้อย บอกเลยว่ารสชาติอร่อยกลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์จนอยากสั่งเพิ่มอีกจานเลยค่ะ

Good cafe chanthaburi

ที่ตั้ง : 95 หมู่ 3 ซอย เทศบาล 15 ตำบล ทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จันทบุรี 22170

เวลาทำการ : ทุกวัน 08.00-18.00 น.

ราคา : เริ่มต้น 30 บาท

โทรศัพท์ : 091 566 4152

Facebook : Good Cafe Chanthaburi

GPS : https://goo.gl/maps/X8GuEKKkJZs898BKA

เที่ยวกันจนเต็มอิ่มก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพเป็นอันจบทริปค่ะ มาเที่ยวจันทบุรีครั้งนี้บอกเลยว่าเป็นทริปที่ฟินมาก เพราะนอกจากจะได้ไปเช็คอินสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ดื่มด่ำธรรมชาติ ถ่ายรูปชิค ๆ ที่คาเฟ่ พักผ่อนนอนหลับสบาย พร้อมสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนริมน้ำจันทบูรแล้ว ยังได้ใช้สิทธิ์เที่ยวสบ๊ายสบายสไตล์จันท์ รับส่วนลดร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า และสถานที่ท่องเที่ยว 500 บาทอีกด้วย ใครที่ทำงานมาเหนื่อย ๆ อยากพาร่างกายไปชาร์จแบต พักผ่อนสบาย ๆ ไม่ไกลจากรุงเทพ ก็สามารถเที่ยวตามทริปนี้ได้เลย และที่สำคัญอย่าลืมลงทะเบียนรับ E-Coupon เที่ยวสบ๊ายสบายสไตล์จันท์กันด้วยนะ ดูรายละเอียดได้ที่นี่เลย >> https://chill.travel/3vRByX5

Tags: จันทบุรี ที่เที่ยวจันทบุรี ที่กินจัรทบุรี

เขียนโดย