1 Day Trip ปักหมุดจุดเที่ยวกรุงเทพหนึ่งวันด้วยรถไฟฟ้า MRT ไปเที่ยวไหนดี?

calendar_month 31 ม.ค. 2023 / stylus Admin Chillpainai / visibility 52,425 / รีวิวที่เที่ยว

จะเดินทางไปไหนรถก็ติด ไปเที่ยวไหนไกลก็ไม่ได้เพราะวันหยุดส่วนมากก็มีแค่วันสองวัน งั้นวันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวแบบ One day Trip ใกล้ ๆ กรุงเทพ พาไปสัมผัสบรรยากาศชุมชม ท่องเที่ยวไหว้พระ ดูงานศิลปะ เดินเล่นชิล ๆ รับแสงยามบ่าย แบบครบจบในหนึ่งวัน ด้วยรถไฟฟ้า MRT กัน รับรองว่ารถไม่ติดและเดินทางสะดวกสุด ๆ

งานนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สำนักงานกรุงเทพมหานคร จะพาเราไปใช้เวลาว่างในวันหยุด หากใครไม่อยากเดินทางไกลไปต่างจังหวัด กรุงเทพของเราก็มีแหล่งท่องเที่ยวมากมายเดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า MRT

วันนี้มาเริ่มต้นกันที่ สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน เวลา ซึ่งทีนี่ พึ่งเปิด Metro Art อาร์ตสเปซ อย่างเป็นทางการไปไม่นานมานี้ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของกรุงเทพมหานคร บอกเลยว่าถูกใจสายอาร์ตอย่างแน่นอน ที่นี่ได้มีการจัดแสดงงานของศิลปินต่าง ๆ ทั้งแนวโมเดิร์นอาร์ตและแนวคลาสสิคตลอดสถานี และจะมีการสับเปลี่ยนไปทุก 3 เดือน โดย 2 ศิลปินคนดังกลุ่มแรก ได้แก่ PRJ และ The Jum เปิดให้เข้าเยี่ยมชมฟรีทุกวัน เวลา 07.00 - 21.00 น.และยังมีการจัดแสดงศิลปะอีกมากมายหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น Art Learning Centre ที่เป็นพื้นที่สำหรับเรียนรู้ทางศิลปะในแขนงต่างๆ รวมทั้ง IWS Gallery และ IWS Shop สำหรับการแสดงงานและขายผลงานศิลปะและยังได้รับความร่วมมือจาก Galleria Benettiที่จะมาจัดทำโซน Paint Here Alright ที่จะนำสินค้าไลฟ์สไตล์มาให้ทุกคนได้สร้างสรรค์ในแบบของตัวเองตลอดจน Art Market ตลาดนัดงานศิลป์ที่ได้ 10ML เข้ามาบริหารจัดการรวมไปถึงการแสดงดนตรีสดอีกมากมายจากศิลปินที่มีชื่อเสียงตลอดทั้งปี 2566โดย BEM และ BMN

มาเริ่มต้นปริกที่สถานีรถไฟฟ้า MRT พหลโยธิน

โอ้โห เข้มาถึงสถานีถึงกับร้องว้าว!

ผลงานน่ารักสุดๆ

แถมมุมถ่ายรูปก็เยอะด้วยนะ

อยู่ใกล้ๆก็มี Art Learning center

นิทรรศการงานศิลปะ เพียบ

ที่ตั้ง : ถนน ลาดพร้าว แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

GPS : https://goo.gl/maps/3o1MoK45awFsS7Ku8

ไปกันต่ออย่ารอช้า!! นั่งรถไฟใต้ดิน MRT จากสถานีพหลโยธินมายังสถานีบางขุนนนท์ บอกเลยว่าสถานีนี้เป็นสถานีสำหรับการเชื่อมต่อการเดินทาง ไปยังจุดหมายปลายทางในกรุงเทพมหานคร หลากหลายพื้นที่ และช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางจากช่วงเวลาเร่งด่วนบนท้องถนนได้ หลังจากลงสถานีบางขุนนนท์มาแล้วก็เดินเท้าต่อมาที่ชุมชนบ้านบุชมการทำ "ขันลงหินบ้านบุ" หนึ่งเดียวในไทย ที่สืบเชื้อสายการทำมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยก่อนคนในชุมชนทำอาชีพนี้เลี้ยงครอบครัวกันทั้งหมู่บ้านแต่ตอนนี้เหลือช่างเพียง 6-7 คนเท่านั้น ช่างฝีมือที่ยังทำอยู่อายุเฉลี่ย 60–70 ปี

เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และทรงคุณค่าที่สืบทอดภูมิปัญญากันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ เรียกว่าเป็นช่างฝีมือรุ่นสุดท้าย งานหัตถกรรมเครื่องทองลงหินของช่างบุเป็นการผลิตที่ยังอนุรักษ์การผลิตด้วยมือทุกขั้นตอน ตั้งแต่หลอมรวมวัตถุดิบเข้าด้วยกัน การตีแผ่ การขึ้นรูป การลาย(การตกแต่งเพื่อเก็บลาย) การกลึง การกรอ การเจียร และการขัด ซึ่งปัจจุบันกำลังใกล้สูญหาย

นั่งรถไฟฟ้าMRT มาลงสถานีบางขุนนนท์

เดินเข้ามาเยี่ยมชม ที่ ขันลงหินบ้านบุ

โรงงานหนึ่งเดียวในไทย และหนึ่งเดียวในโลก

"ขันลงหิน"

ผลิตด้วยมือทุกขั้นตอน

มรดกภูมิปัญญาที่ปัจจุบันกำลังใกล้สูญหาย

ผลงานประณีต งดงาม หาดูได้ยาก

ที่ตั้ง : 133 ซอย จรัญสนิทวงศ์ 32 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

GPS : https://goo.gl/maps/DLkUB9JbRTbAsZWbA

เดินมาไม่ไกลก็ถึง ที่หัวโขนลูกพระพาย ที่ทำหัวโขนจำลอง หรือที่เราเรียกกันว่า "หัวโขนจิ๋ว" ศิลปะแห่งชุมชนบ้านบุ ซึ่งที่นี่มี workshop การลงสีหัวโขน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมของไทยเราผ่านศิลปะ ตามที่ชุมชนแห่งนี้ได้มุ่งเน้นเพื้อปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ในการสืบสานศิลปะวัฒนธรรมประจำชาติ ผ่านการเรียนรู้ที่เข้าถึงง่าย โดยหัวโขนจิ๋วจะทำจากปูนปลาสเตอร์ใส่แม่พิมพ์ในราคาที่เอื้อมถึงและยังใส่ผงพุทธคุณหรือผงศักดิ์สิทธิ์ลงไปในสีที่ใช้สำหรับการตกแต่งตัวหัวโขนจิ๋วอีกด้วย ใครที่ซื้อไปสามารถนำกลับไปบูชาทำให้เกิดความเป็นสิริมงคลและเป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้ที่ซื้อกลับไปได้(ความเชื่อส่วนบุคคล) เรียกได้ว่าเป็นการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวในชุมชนได้ดีเลยทีเดียว

เดินมาชมงานศิลปะกันต่อ ที่ หัวโขนลูกพระพราย "หัวโขนจิ๋ว"

ที่มีเขามี Workshop การลงสีหัวโขนด้วยนะ

ลงสีเสร็จได้แบบนี้เลยยย

หลังจากเดินชมชุมชนบ้านบุแล้ว เราก็มาสักการะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรของที่นี่กันบ้าง เดินไปกันต่อที่ วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร หรือที่เรียกกันว่าวัดทอง บอกเลยว่า ใครอยากบนบานศาลกล่าวเรื่องการทหารเกณฑ์ ต้องมาที่นี่ โดยเฉพาะช่วงก่อนเดือนเมษายนของทุกปี แล้วถ้าสมหวังแล้วหละก็ ที่นี่เขานิยมมาแก้บนด้วยการนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวและวิ่งวนรอบพระอุโบสถ 3 รอบพร้อมกับส่งเสียงเหมือนม้าร้องไปด้วย เรียกว่า "วิ่งม้า" และนอกจากนี้ภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถนับว่าเป็นสิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของวัดโดยเฉพาะภาพเขียนของจิตรกรเอกสมัยรัชกาลที่ 3 ภายในพระอุโบสถ

เดินมากันต่อที่ วัดสุวรรณารามราชวรวิหาร แวะกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

ภาพจิตกรรมฝาผนังที่นี่ วิจิตระการตามาก

ใครอยากบนบานเรื่องทหารต้องวัดนี้ รับรองปัง!

ที่ตั้ง : ซอย จรัญสนิทวงศ์ 32 แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร 10700

GPS : https://goo.gl/maps/CN82ugiXuxduR4x78

ขอพร ขอโชคขอลาบกันเรียบร้อย ก็ไปสะสมแต้มบุญต่อกันอีกสักวัด ด้วยการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มาลงที่สถานีวัดมังกร เพื่อมากราบไหว้สักการะบูชาต่อที่ วัดมังกรหรือวัดเล่งเนยยี่ ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขอพรไท้ส่วยเอี๊ย หรือเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา ซึ่งเชื่อกันว่าองค์ท่านจะผ่อนหนักให้เป็นเบา หากใครดวงดีอยู่แล้วก็จะดวงดีขึ้นไปอีก จึงทำให้ผู้คนต่างแวะเวียนมาสักการะกันอย่างเนืองแน่นในแต่ละวัน ซึ่งดอกไม้ธูปเทียนมีบริการอยู่ด้านหน้าวัด โดยทางวัดได้จัดที่สำหรับจุดธูป เทียน ถวายดอกไม้ และอื่นๆ สำหรับวิธีการไหว้จะมีทั้งหมด 5 จุดด้วยกัน ไหว้ขอพรเสร็จเรียบร้อยให้เดินเข้ามาข้างในซึ่งจะมีเทพเจ้าหลายองค์ให้กราบไหว้สำหรับคนที่จะสะเดาะเคราะห์แก้ปีชงก็สามารถเข้าไปทำพิธีด้านในได้ ซึ่งทางวัดเปิดให้สะเดาะเคราะห์แก้ปีชงทุกวัน

นั่ง MRT มาสะสมแต้มบุญกันต่อที่ วัดเล่งเนยยี่

สาธุๆๆ รับบุญ

แวะถ่ายรูปเช็คอินตรงนี้สักหน่อย

ที่ตั้ง : 423 ถ. เจริญกรุง แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร 10100

GPS : https://goo.gl/maps/v1o6uqTf1KRKEwUD7

หลังจากนั้นเราเดินต่อ มาถ่ายรูปซุ้มไฟกัน เดินผ่านถนนแปลงนามเดินตามถนนเยาวราชมาที่ "ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา” หรือ “ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเยาวราชและเปรียบเสมือนเป็นประตูสู่เยาวราช และตอนนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีการจัดงานเฉลิมฉลอง 48 ปี สานความสัมพันธ์ไทย-จีน ประดับไฟถนนเยาวราชรับเทศกาลตรุษจีนปีเถาะ จึงจัดกิจกรรมการประดับไฟรับปีใหม่จีนภายใต้แนวคิด “สิริมงคล รุ่งเรือง โชคดี ปีกระต่าย” จัดซุ้มอุโมงค์ไฟความยาว 45 เมตร และโคมไฟประดับถนนกว่า 500 โคมบริเวณ ย่านเยาวราชกรุงเทพมหานครถนนสายวัฒนธรรมชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.00 - 24.00 น. ณ ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา (วงเวียนโอเดียน) และตลอดจนถนนเยาวราช ไปแวะถ่ายรูปกันได้น้า

ยังไม่หยุดความสายมู เดินมาขอพรกันต่อที่ซุ้มประตู

มองมาจะเห็นซุ้มไฟสวยๆแบบนี้เลย

ถ่ายออกมาสวยมากแม่ ปังๆ

แต่งานนี้จัดถึงแค่ 15 ก.พ. นี้เท่านั้น รีบไปกันนะ

ที่ตั้ง : 322 ถ. ตรีมิตร แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100

GPS : https://goo.gl/maps/KjRXkypQaaJ25hRW8

นอกจากนี้ใกล้ ๆ ที่เยาวราชยังเป็นแหล่งรวมความอร่อย สตรีทฟู้ด ทั้งของคาวของหวาน ที่ต้องบอกเลยว่าหลากหลายมากมายจริงๆ หลังจากเดินมาทั้งวันก็สามารถไปฝากท้องที่ถนนเยาวราชได้เลย