calendar_month 14 ม.ค. 2023 / stylus Maprang Chillpainai / visibility 10,519 / ทริปตัวอย่าง
อันยองฮาเซโย ทักทายกันด้วยภาษาเกาหลีเกาใจ กันอีกครั้ง เปิดประเดิมทริปแรกของปี พาเพื่อนๆ ไปเปิดมุมมองที่เที่ยวใหม่ๆ ของประเทศเกาหลีใต้ กันค่ะ ทริปนี้เราจะไปตะลุยเที่ยวกันที่ จังหวัดช็อลลาใต้ (South Jeolla Province) หรือ จังหวัดชอลลานัมโด (Jeollanam-do, 전라남도) จะสนุกแค่ไหนไปลุยกันเลย...
1.มาตรการเข้าประเทศ
2.เวลาของเกาหลี : เวลาของเกาหลีใต้ จะเร็วกว่าเวลามาตรฐานสากล 9 ชั่วโมง และเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง ค่ะ
3.สกุลเงิน : สกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้ คือ “วอน” (Korea won: KRW) ประเภทธนบัตร ของเกาหลีใต้จะมี 3 ชนิดคือ ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน 5,000 วอน 10,000 วอน 50,000วอน ประเภทเหรียญ ได้แก่ 1 วอน, 10 วอน, 50 วอน ,100 วอน, 500 วอน ค่ะ
4. การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว : ในทริปนี้เราใช้ SIM2Fly ของ AIS ค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเลย รวดเร็วมาก เจ้าหน้าที่บริการติดตั้ง และลงทะเบียนให้เรียบร้อย มีวิธีการเปิดซิมการ์ดให้ด้วย
เราใช้ แพ็กเอเชีย และออสเตรเลีย ราคา 399 บาท เล่นเน็ตโรมมิ่งได้ 6 GB และเน็ตในไทยได้ 500MB นาน 10 วัน ใช้งานได้ 33 ประเทศเลย ซึ่งข้อดีของ SIM2Fly เป็นซิมโรมมิ่งที่มีเครือข่ายสัญญาณที่ดีที่สุด ใหญ่ที่สุดและครอบคลุมมากที่สุด สามารถใช้งาน 5G ได้มากกว่า 60 ประเทศ ซึ่งครอบคลุมมากที่สุด ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องเลือกเครือข่ายใช้งานเอง แต่ทาง AIS จะเลือกเครือข่ายที่ดีที่สุดให้อัตโนมัติเมื่ออยู่ต่างประเทศอีกด้วยนะค่ะ
อ่อลืมบอกไป ในช่วงวันที่เราเดินทาง เราได้ แพ็กเกจฟรี! เน็ตโรมมิ่งแบบจำกัดปริมาณจำนวน 4GB เพิ่มด้วยนะ เงื่อนไขแค่เราต้องเปลี่ยนซิมและกดลงทะเบียนจากประเทศไทย ง่ายมากเลย สรุปในทริปนี้เราได้เน็ตใช้ทั้งหมด 10GB เยี่ยมไปเลยจ้า...
แต่ปกติแล้ว ในประเทศเกาหลี ปัจจุบันมีสัญญาณ Free WiFi ให้บริการอยู่เยอะมาก ตามถนนหนทาง โดยเฉพาะบริเวณ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม คาเฟ่ร้านกาแฟใหญ่ๆ มีสัญญาณฟรีทุกร้าน แถมยังสามารถ VDO Call ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ กับคนที่บ้านได้สบาย หรือโรงแรม จะมี Free WiFi ไว้บริการทุกที่อยู่แล้ว แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และสัญญาณแรงไปจนถึงในห้องนอนเลยทีเดียวค่ะ สะดวกสบายสุดๆ
เตรียมตัวเสร็จแล้ว ก่อนไปเที่ยวกัน เรามาทำรู้จักจังหวัด ชอลลานัมโด กันสักหน่อย
ชอลลานัมโด (Jeollanam-do, 전라남도)
จังหวัดชอลลาใต้ (South Jeolla Province) หรือ ชอลลานัมโด (Jeollanam-do, 전라남도) อีกหนึ่งในจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ หลายแห่งของประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศเกาหลีใต้ โดยมี ควังจู เป็นเมืองเอกของจังหวัด และ มีเมืองมูอัน เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติมูอัน
ภูมิประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัด มีลักษณะเป็นที่ราบลุ่ม ตามฝั่งของแม่น้ำหลายสาย และมีภูเขาเพียงบางส่วนเท่านั้น ประกอบกับสภาพอากาศ ที่อบอุ่นและมีฝนตกชุก จึงทำให้จังหวัดนี้เป็นแหล่ง ในการเพาะปลูกผลิตผล ทางการเกษตรจำนวนมาก ได้แก่ ข้าว, ข้าวสาลี, ข้าวบาร์เลย์, มันฝรั่ง, ผัก, ฝ้าย และผลไม้ เป็นต้น
สภาพอากาศของเมืองชอลลานัมโด มี4 ฤดูค่ะ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
ท่องเที่ยว : เป็นฤดูที่เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลมากที่สุด
การแต่งกาย : ในช่วงฤดูนี้ แต่งกายสบายๆได้ พกร่มมาด้วยก็ดีค่ะ ในฤดูนี้บางปีจะมีปริมาณฝนหนาแน่นอาจเจอฝนตกได้
ท่องเที่ยว : เหมาะแก่การเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี จะพีคที่สุดคือในช่วงเดือนตุลาคม
การแต่งกาย : ควรจะเตรียมเสื้อโค้ทหนาๆ หมวกหรือผ้าพันคอติดไปด้วย
การแต่งกาย : เตรียมเสื้อโค้ทหนาๆ ถุงมือถุงเท้าผ้าพันคอและหมวกไปให้พร้อมสำหรับฤดูนี้
ท่องเที่ยว : เหมาะแก่การเที่ยวงานเทศกาลชมดอกพอตกด ทั่วทั้งเมืองก็จะถูกปกคลุมไปด้วยความงามของดอกไม้ที่เบ่งบาน
การแต่งกาย : ควรจะพกเสื้อกันหนาว และ ผ้าพันคอติดไปสักหน่อยในฤดูนี้ค่ะ
...................................
DAY1
วันแรกของการเดินทาง หัวหน้าทัวร์นัดเจอกันที่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ประมาณสองทุ่ม เราเพื่อเวลาเพื่อจัดแจงเรื่องซิมโทรศัพท์ ทานอาหารเย็น พอถึงเวลานัดหมายก็ไปยังจุดนัดพบ อ่อ! ลืมบอกไปเลยค่ะ ในทริปนี้ ชิลไปไหน ร่วมเดินทางไปกับบริษัท Lucky Queen Holiday ร่วมกับ KTO องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี และ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชอลลานัมโด ค่ะ ถึงจุดนัดพบ พี่หัวหน้าทัวร์จัดแจงแจกเรื่องเอกสารการเดินทาง พร้อมเช็คอิน ในทริปนี้ เราเดินทางกันด้วย สายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) เที่ยวบินที่ 7C 2216 รวมน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่องไม่เกิน 20 กิโลกรัม และ ถือขึ้นเครื่องได้ 10 กิโลกรัม
สายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) เป็นสายการบินราคาประหยัดสัญชาติเกาหลีใต้ และเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายแรกของประเทศเกาหลีใต้ โดยเจจูแอร์มีศูนย์กลางทางการบินอยู่ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชจู (Jeju International Airport) บนเกาะเชจู ประเทศเกาหลีใต้ และ นอกจากนี้ยังมีฐานการบินอยู่ที่ ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน (Incheon International Airport) อีกด้วย โดยมีทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ มีเส้นทางการบินทั้งในและระหว่างประเทศหลายเส้นทางในราคาประหยัด
DAY2
เช้าวันที่สอง เราเดินทาง ถึง สนามบินนานาชาติมูอัน ประเทศเกาหลีใต้ หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็เปลี่ยนเสื้อผ้าพร้อมเที่ยวค่ะ
เนื่องจากในทริปนี้เป็นทริปปฐมฤกษ์ ก่อนออกเดินทางได้รับการตอนรับอย่างอบอุ่นจากทาง ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชอลลานัมโด และ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชอลลานัมโด ค่ะ มีแจกคิมบับ และ นมกล้วยเป็นอาหารเช้ารองท้องให้ด้วยนะ อร่อยมากค่ะ
ได้เวลาไปเที่ยวกันแล้วจ้า จากมูอัน เราเดินทางไปยัง เมือง Gichamaeul-ro จุดหมายแรกของวันนี้ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงจุดหมาย ด้วยความที่ประเทศเกาหลีใต้เวลาเดินเร็วกว่าเรา 2 ชั่วโมง พอไปถึงก็ได้เวลาทานอาหารกลางวันพอดี ประเดิมมื้อแรกของเราในทริปนี้ ด้วยเมนูสุดฮิตอย่าง ชาบูชาบู สไตล์เกาหลี ที่ ร้าน Gichamaeul Garden แก้กากาศหนาวๆ กันสักหน่อย
อร่อยมากเลย ได้ซดน้ำซุปร้อนๆ คือฟินมาก!!
เครื่องเคียงหลากหลายเติมได้ไม่อั้น ว้าววว มาก
หลังอิ่มท้องเดินย่อยไปที่ หมู่บ้านรถไฟซอมจินกัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านชาบูที่เราทานกันค่ะ เราเดินถ่ายรูปเล่นกันที่ สถานีกกซอง (Gokseong) หมู่บ้านรถไฟที่ถูกบูรณะขึ้นใหม่ให้มีพื้นที่สวยงาม มีจุดให้ถ่ายรูปน่ารักๆ มากมาย แถมยังเปิดเป็นสวนสาธารณะให้เดินเที่ยว มีร้านค้า คาเฟ่ ให้เราชิลกันได้ด้วย
ในทริปนี้เราได้นั่งรถไฟหัวรถจักรไอน้ำ สถานีกกซอง (Gokseong) ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดทาง เป็นระยะทาง 10 กม. เลียบแม่น้ำซอมจินกัง ชมวิวเมืองที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา เรียบไปตามแม่น้ำ ทุ่งนา และทิวสน สวยงามสุดๆค่ะ
บนรถไฟมีขนมขายด้วยน้า
ใช้เวลาประมาณ 30 นาที เราก็นั่งรถไฟไปถึง "สถานีคาซอง" เป็นสถานีปลายทางค่ะ รถมารอรับเราที่สถานีนี้ค่ะ ระหว่างทางเดินกลับรถแอบหันไปเห็นสะพานแขวนอันใหญ่ยักษ์ ที่ทอดยาวผ่านแม่น้ำซอมจินกัง เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยสุดๆ เลยขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย
Seomjingang Train Village
ที่ตั้ง : 232 Gichamaeul-ro, Ogok-myeon, Gokseong-gun, Jeollanam-do
การเดินทาง : เดิน 10 นาทีจากสถานีโกซอง (Gokseong Station)
เวลา : 09:30-18:00 น. ค่าเข้าชม : 5,000 วอน
เดินทางกันต่อสู่เมืองดัมยางเช็คอินที่เที่ยวสุดฮิต เมตา โพรวองซ์ หรือ หมู่บ้านฝรั่งเศส หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีลักษณะเป็นคอมเพล็กซ์ ที่มีการออกแบบตามเมืองโปรวองซ์ (Provence) ในประเทศฝรั่งเศส เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สวยงาม ในหมู่บ้านแห่งนี้ แบ่งออกเป็น 5 ส่วนเลยนะ จะรวมทั้งที่พัก พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า คาเฟ่ และอื่นๆ อีกมากมาย
เมตา โปรวองซ์ : Meta Provence
ที่ตั้ง : 2-17 Gipeunsil-gil, Damyang-eup, Damyang-gun, Jeollanam-do
การเดินทาง : รถบัสมาทัมยาง (ลงป้าย Gipeunsil) จากสถานีขนส่งระหว่างเมืองควางชอน (Gwangcheon Intercity Bus Terminal)
.
การเดินทางในทริปนี้ เรามากันช่วงฤดูหนาว อากาศที่เกาหลีช่วงที่มาก็หนาวสุดๆ อุณหภูมิต่ำสุดก็ประมาณ -1 องศา สูงสุดประมาณ 10 องศา แต่ที่สำคัญคือลมแรงมาก เราเลยขออวยยศเสื้อผ้าที่เราจัดมาในทริปนี้กันสักหน่อย กับแบรนด์คู่ใจอย่าง Timberland ซึ่งตอบโจทย์ในการเดินทางครั้งนี้สุดๆ
มาดูชุดของพี่ช่างภาพกันก่อน ชุดนี้พี่แกจัดแจ็คเก็ตรุ่น Timberland Men's 3-IN-1 Waterproof JACKET มาค่ะ ตัวนี้กันลมดีมาก ใส่สบายน้ำหนักเบา เพราะเป็นผ้าไนลอนรีไซเคิล 100% Water-Resistant แถมเนื้อผ้ายังกันน้ำ และระบายอากาศได้ดีสุดๆ กันหิมะกันลมได้ และกันฝนได้ปานกลางด้วยนะ ส่วนรองเท้าพี่แกก็ใช้รุ่นคู่ใจอย่าง Timberland MEN'S RADFORD 6-INCH LIGHTWEIGHT WATERPROOF BOOTS เลย เพราะ มี Primaloft ช่วยในเรื่องการให้ความอบอุ่นให้เท้า ต้านทานแรงกด กันน้ำ และระบายอากาศดี SensorFle สามชั้นใส่สบายและยืดหยุ่นได้ดีสุดๆ
ส่วนชุดของเรา เราชอบใส่ไซส์ใหญ่ๆ เราเลยเลือกแจ็คเก็ต รุ่น Timberland Men’s Waterproof 3-in-1 BOMBER Jacket ซึ่งรุ่นนี้ใส่ได้ทั้งชาย และหญิงเลยนะ เป็นแบบ Waterproof ผ้ากันน้ำ ระบายอากาศดี กันลมกันหิมะได้ดีเยี่ยม และกันฝนตกหนักได้ด้วย เรียกได้ว่าใส่ได้แบบ 3 in 1 ไปเลยจ้า ส่วนรองเท้าเราใช้รุ่น Timberland WOMEN'S GREENSTRIDE™ EDGE WATERPROOF BOOTS เราตกหลุมรักรองเท้าคู่นี้มาก เพราะรุ่นที่เค้ามีคอนเซ็ปท์แบบ GreenStride ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ประกอบด้วยอ้อย และยางพารา อัปเปอร์ยังทำจากหนัง Better Leather แถมมี Waterproof กันน้ำดีมาก พื้นรองเท้านุ่มเบาใส่สบายมาก แนะนำเลยค่ะ
ไปเที่ยวกันต่อค่ะ ใกล้ๆ หมู่บ้านฝรั่งเศส มีอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ห้ามพลาด Metasequoia-lined Road หรือ แนวต้นสนแดง ถนนต้นสนที่สวยที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นต้นแบบของทิวสนอันโด่งดังบนเกาะนามิ ด้วp ถนนเส้นนี้ มีความยาวทั้งหมด 8.5 กิโลเมตร แต่ส่วนที่สามารถเดินชมได้นั้นมีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็นสองฝั่ง มีค่าเข้าด้วยนะ คนละ 2000 วอน ซื้อตั๋วแล้วก็สามารถเดินเข้าไปถ่ายรูปสวยๆ ด้านในถนนได้เลยจ้า ในปัจจุบัน ต้นเมตาเซโคเอีย มีขนาดใหญ่ และพอฤดูใบไม้ผลิใบจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม เป็นอุโมงค์ต้นไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมาก ซึ่งในปี 2002 ได้รับรางวัลจาก Korea Forest Service ยกให้เป็นเส้นทางที่สวยงามที่สุดของเกาหลีใต้อีกด้วย
Metasequoia-lined Road
ที่ตั้ง : 2-17 Gipeunsil-gil, Damyang-eup, Damyang-gun, Jeollanam-do
การเดินทาง : รถบัสมาทัมยาง (ลงป้าย Gipeunsil) จากสถานีขนส่งระหว่างเมืองควางชอน (Gwangcheon Intercity Bus Terminal)
เดินทางมาถึงจุดเช็คอินสุดท้ายของวันนี้ ป่าไผ่จุกนกวอน สวนไผ่ขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ที่เมืองดัมยาง ซึ่งเมืองดัมยางเป็นเมืองที่ มีชื่อเสียงในเรื่องของอาชีพการปลูกไผ่ ไผ่ที่ปลูกจะเป็นไผ่ที่มีคุณภาพดี ทนทาน ทำให้เมืองแห่งนี้เป็นศูนย์กลางในการปลูกไผ่ และงานศิลปหัตถกรรมที่ทำจากไผ่มากมาย ภายในป่าไผ่มีทางเดินสวยงามให้เดินเล่นชมบรรยากาศ มีคาเฟ่ และมุมให้ถ่ายรูปมากมายเลยค่ะ เสียดายเวลาน้อย เราเลยเก็บภาพได้แค่ครึ่งเดียวจ้า รอบหน้ามาซ้ำต้องไม่พลาดแน่นอน
ใครมีเวลาแนะนำอีกมุมที่ต้องได้รูปสวยๆแนะ ก็คือบริเวณฝั่งตรงข้ามกับทางเข้า ป่าไผ่จุกนกวอน จะมีอุโมงค์ต้นไม้ ริมแม่น้ำวิวด้านหลังเป็นภูเขาด้วยค่ะสวยงามสุดๆ ใครมีเวลาอย่าลืมแวะไปถ่ายรูปกันนะคะ
ป่าไผ่จุกนกวอน Juknokwon Bamboo Garden
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,000 วอน/ เยาวชน 1,500 วอน/ เด็ก 1,000 วอน วันปิดทำการ : เปิดทุกวันเปิดทุกวัน
เวลา : พ.ย.-ก.พ.: 09:00-18:00 / มี.ค.-ต.ค.: 09:00-19:00 (เข้าชมรอบสุดท้ายก่อนปิด 1 ชั่วโมง)
การเดินทาง : รถไฟ จากสถานี Yongsan Station (Seoul) -> ขึ้นรถไฟไปยัง Gwangju Station -> จากนั้นต่อรถบัสสาย 311 ไปลงที่สถานี Juknokwon Bus Stop รถบัส จากสถานี Seoul Central City Bus Terminal -> ขึ้นรถบัสไปยัง Damyang Bus Terminal -> จากนั้นข้ามถนนและต่อรถบัสไปลงที่ป้าย Juknokwon Bus Stop
.
เที่ยวกันเสร็จ เดินทางกลับมายัง เมืองยอซู เย็นนี้เราได้ร่วมรับประทานอาหารเย็นที่ โรงแรม SONO Calm Yeosu ค่ะ เป็นการเลี้ยงต้อนรับจากทางจังหวัดชอลลานัมโด งานเลี้ยงต้อนรับอบอุ่นมาก ร่วมรับประธานอาหารมื้อคำแบบบุฟเฟ่ต์กัน มีการแสดง Cove K-POP โชว์จากน้องๆในเมืองด้วยค่ะ ประทับใจสุดๆเลย
หลังงานเลี้ยงจบก็เดินทางเข้าที่พัก เราพักกันที่ Hotel Kenny ที่พักขนาดกระทัดลัด ใจกลางเมืองยอซู ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์โมเดิร์น สูง 18 ชั้น ตั้งอยู่ในแหล่งช้อปปิ้งเลยนะ รอบๆโรงแรมก็มีร้านรวงมากมาย ใกล้แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในเมืองยอซูเลยนะเดินเล่นได้สบายเลยค่ะ
เราพักกันที่ห้อง Standard Twin Ocean View ห้องขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ใหม่ และสะอาดสุดๆ ห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน มีครบ กาน้ำร้อน ไดเป่าผม ตู้เย็น ตู้เซพ โต๊ะทำงานเล็กๆ ให้ด้วย Wifi ก็แรงปูดป๊าดเลย ถูกใจมาก ห้องไม่มีระเบียงนะคะ แต่มีกระจกบานใหญ่ มองเห็นวิวเมืองยอซู สะพานดอลซานแดโย และสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้จากเตียงนอนเลยนะ
ในห้องน้ำก็มีครีมอาบน้ำ ยาสระผมครีมนวด ให้พร้อม น้ำแรงมากซะใจสุดๆ มีทั้งน้ำอุ่นและน้ำเย็น ส่วนผ้าเช็ดตัวของประเทศเกาหลีใต้ส่วนมากจะใช้ผ้าผืนเล็กนะคะ ใครติดใช้ผืนใหญ่แนะนำให้ติดไปด้วยเลยค่ะ
ก่อนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อน ขอจัดเสื้อผ้าสำหรับใส่ในแต่ละวันสักหน่อยค่ะ เนื่องจากทริปนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆเยอะเลย เราเลยจัดเสื้อผ้ามากันแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ
เราเลือกใช้กระเป๋าเดินทางของ CAGGIONI (คาจีโอนี) รุ่นใหม่ล่าสุด KOLO (โคโร๊ะ) ความพิเศษคือมีขนาดใหญ่ แต่น้ำหนักเบา เพราะรุ่นนี้กระเป๋าเค้าทำจากวัสดุโพลี่พร็อพโพลีน(PP) ซึ่งตอบโจท์คนพร็อพเยอะแบบเราสุดๆ ทริปนี้เราเลยจัดขนาด 28 นิ้ว ไปเลยจ้า น้ำหนักแค่ 4.15 กก. เองนะ จุได้ถึง 108 ลิตร เป็นแบบซิป แถมมีช่องซิปเพิ่มความจุได้อีก 20% ด้วย สีพาสเทลสุดน่ารัก กระเป๋าเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัดของง่าย ล้อทั้ง4หมุนได้ 360องศา มีรหัสล็อคแบบTSA คันชักคู่อลูมิเนียมปรับความสูงได้ ภายในมีแผงผนังสองฝั่ง แถมรับประกันสองปีเลยนะ
Day 3
อันยองฮาเซโยค่ะ สวัสดีเช้าวันที่ 3 ค่ะทุกคน...และนี่คือวิวจากห้องพักเราเองนะ สวยมากเลยค่ะขออวดหน่อย
เช้านี้เรา รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรมค่ะ อยู่บนช้น 18 เป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์สไตล์เกาหลี มีเมนูให้เลือกหลากหลายเลยค่ะ เรียกว่าอิ่มแบบแน่นๆ แถมวิวบนชั้น18 ก็ปังปุริเย่สุดๆ ทานอาหารไปชมวิวเมืองยอซูไปชิลสุดๆ เลยค่ะ
เช้านี้เราไปเช็คอินที่แรกกันที่ เกาะโอดงโด Odongdo Island (오동도) เกาะที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลของเมืองยอซู เป็นเกาะที่มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เกาะนี้มีลักษณะเป็นผาหิน และแนวปะการัง แถมเป็น อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่เมืองยอซูด้วยค่ะ ถ้ามีเวลาเราสามารถเดินเล่นรอบเกาะได้ชิลๆทั้งวันเลยนะ เพราะเกาะแห่งนี้มีมุมสวยๆให้เดินเล่นถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ รวมไปถึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่งดงาม และอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ ในช่วงฤดูดอกไม้บาน บนเกาะนี้จะถูกปกคลุมไป ดอกคาเมลเลียสีชมพู สีสันสดใสสวยงามสุดๆ
จากป้ายจุดชมวิวเดินตรงไปสุดทางจะเจอมุมนี้ค่ะ มุมนี้เราจะได้รูปชิคๆ สไตล์เกาหลีเกาใจมาก
ใครมีเวลาอยากเดินเล่นขึ้นไปชมวิวด้านบนได้นะคะ วิวสวยมาก
เกาะโอดงโด Odongdo Island (오동도)
ที่อยู่ 242, Odongdo-ro, Yeosu-si, Jeollanam-do
เวลาทำการ เปิดตลอดทั้งปี 24 ชั่วโมง เข้าฟรี รถราง คนละ 1000 วอน/เที่ยว
.
หลังจากนั้นเราเดินทางสู่ ศูนย์เวชสำอางค์ (COSMETIC SHOP) ประเภทเวชสำอางค์ที่หมอศัลยกรรมเกาหลีร่วมออกแบบมากมาย เครื่อง HIFU เกาหลีที่ได้รับการการันตรีจากซัมซุง นวัตกรรมใหม่ ที่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นสิว มีริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำใบหน้าหมองคล้ำ อยากผิวขาวสว่างใส ไร้ริ้วรอย แต่งหน้าเบาๆโชว์ผิวแบบสาวเกาหลี โดยไม่ต้องศัลยกรรมค่ะ
.
วันนี้ เราไปทานอาหารกลางวันกันที่ ร้าน The Second is a luxury restaurant Gamjatang มื้อนี้เราทานเมนูสุตฮิตของเกาหลี "คัมจาทัง 감자탕" ซุปกระดูกหมูเผ็ด หรือ ที่คนไทยชอบเรียกกันว่า เล้งเกาหลี เมนูนี้ทำจากกระดูกสันหลัง หรือ กระดูกคอของหมู ใส่ด้วยมันฝรั่ง บะหมี่กระดาษแก้ว หัวไชเท้าแห้ง ใบเพริลลา หัวหอมใหญ่ พริกขี้หนู และงาป่น อร่อยไปอีกแบบ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อารมย์เหมือนกินเล้งในน้ำแกงส้มค่ะ ใช้ได้เลยนะ
จากนั้นเดินทางไปยังเมือง ชุนชอน ไปตามรอยซีรี่ส์กันที่ สถานที่ถ่ายทำละคร และ ภาพยนตร์ซุนชอน ที่มีชื่อเรียกว่า Suncheon Open Film Location (순천 드라마 촬영장) ซึ่งที่นี่ เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้เลยนะ ตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นที่ตั้งของ ฐานทัพทหารเก่ามาก่อน อยู่ในเมืองชุนชอน ของประเทศเกาหลีใต้
ซึ่งในหมู่บ้านนี้ประกอบไปด้วยบ้านเรือนกว่า 200 หลัง ซึ่งแบ่งออกเป็นหมู่บ้าน 3 ยุคในช่วงปี ค.ศ. 1950 ถึง ค.ศ. 1980 รวมไปถึงร้านค้าต่างๆ, โรงภาพยนตร์, ดิสโก้เธค, ถนนในกรุงโซล (Seoul) และอื่นๆ และยังถูกใช้เป็นสถานที่ ถ่ายทำรายการโทรทัศน์ และภาพยนตร์กว่า 700 รายการ อย่างเช่น รายการวาไรตี้อย่าง Running Man ภาพยนตร์เรื่อง A Werewolf Boy (2012) Love, Lies (2015) และเรื่องล่าสุดอย่างเรื่อง Pachinko เป็นเรื่องราว4ชั่วอายุคนของครอบครัวหนึ่งในยุคล่าอณานิคมของญี่ปุ่น นำแสดงโดย ยุนยอจอง ลีมินโฮ คิมมินฮา เป็นต้น
มุมนี้ในซีรี่ย์เรื่อง Pachinko ที่นำแสดงโดยพระเอกสุดฮิตอย่าง อีมินโฮ
Suncheon Open Film Location
ที่อยู่ 24 Biryegol-gil, Wangjo 2(i)-dong, Suncheon, Jeollanam-do, South Korea
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 3,000 วอน, วัยรุ่น 2,000 วอน, เด็ก 1,000 วอน
เวลาทำการ09.00-18.00 น. เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 17:00 น.
.
เที่ยวกันต่อค่ะ เดินทางไปยัง เมืองโบซอง ไปเช็คอินกันที่ Boseong GreenTea Plantation ไร่ชาเขียวโบซอง แหล่งปลูกชาเชียวขนาดใหญ่ของเกาหลีใต้ ซึ่งจะปลูกบนภูเขา เป็นแบบไร่ชาขั้นบันได ทำให้ มองเห็นไร่ชาเป็นแนวสีเขียวสูงต่ำสลับกันไปสวยงามสุดๆ ไร่ชาโบซองแห่งนี้เป็นไร่ชาเขียวที่แรกของเกาหลีใต้ ที่มีการใช้วิธีการปลูกชาแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม และชาวไร่ที่นี่ก็ยังมีความชำนาญในการปลูกชาเขียว เป็นอย่างดี จึงทำให้เป็นแหล่งผลิตชาเขียวขึ้นชื่อของเกาหลีใต้ นอกจากชาที่มีคุณภาพแล้ว ไร่ชาเองก็มี บรรยากาศที่สวยงาม และเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มักจะมีการถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องจึงทำให้เป็นที่ รู้จักกันทั่วประเทศ
ก่อนกลับอย่าลืมแวะกินไอติมชาเขียวกันนะคะ อร่อยมาก!!!
Boseong GreenTea Plantation ไร่ชาเขียวโบซอง
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 4,000 วอน/ เด็กและเยาวชน (7-18 ปี) 3,000 วอน/ ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) 3,000 วอน
เวลาเปิด-ปิด: มี.ค.-ส.ค. 09:00-19:00 / ก.ย.-เม.ย. 09:00-18:00
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Seoul Central City Bus Terminal, ขึ้นรถ express bus มาลงที่สถานี Boseong Intercity Bus Terminal (มีรถ 2 รอบต่อวัน, ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 40 นาที) -> จากสถานีรถบัสโบซอง ขึ้นรถบัสปลายทาง Yulpo -> จากนั้นลงรถที่ป้าย Daehan Dawon Bus Stop
.
ระหว่างทางกลับเรา แวะถ่ายภาพ และทานสตีทฟูดรองท้องกันเบาๆแถวเมือง G wangyang ค่ะ
เย็นนี้เราไปทานอาหารเย็นกันในห้างสรรพสินค้า LF SQUARE G wangyang และ หลังทานอาหารเสร็จ เราจะได้เดินช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์เนม ที่มีให้ท่านเลือกช้อปปิ้งหลากหลาย ลดกระหน่ำจุใจมากค่ะ
มื้อนี้เราทานหมี่เย็นสไตล์เกาหลีค่ะ อร่อยมากเลย
DAY 4
เช้าวันนี้เราเดินทางไปที่ หมู่บ้านพื้นเมืองนากานอึบซอง ตั้งอยู่ในเขตซอลลานัมโด หมู่บ้านพื้นเมืองนากานอึบซอง เป็นหมู่บ้านพื้นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 300ปี ตั้งแต่สมันโชซอนเลยนะ หมู่บ้านโบราณแห่งนี้นี้มีขนาดใหญ่ และมีคนอาศัยอยู่เกือบ 100 หลังคาเรือน ซึ่งบ้านแต่ละหลังยังคงรักษาของดั้งเดิมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น ห้องที่ทำมาจากดิน, ห้องครัวแบบดั้งเดิม, ระเบียงบ้านแบบเกาหลีโบราณ รวมทั้งบ้านหลังคามุงด้วยฟางที่เป็นเหมือนเอกลักษณ์ของบ้านเกาหลีแบบโบราณอีกด้วย นอกจากอาคารบ้านเรือนแล้วยังมีปราสาทโบราณที่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของหมู่บ้านนี้อีกด้วย
อีกทั้งเป็นสถานที่ถ่ายทำ ซีรี่ส์ดังอย่างเรื่อง love in the moonlight : รักเราพระจันทร์เป็นใจ อีกด้วยค่ะ
หมู่บ้านพื้นเมืองนากานอึบซอง
ที่ตั้ง : 30 Chungmin-gil, Nagan-myeon, Suncheon-si, Jeollanam-do
การเดินทาง : 15 นาทีโดยแท็กซี่จากสถานีบอลกโย (Beolgyo Station)
เวลา : 09:00-18:00 น. ค่าเข้าชม : 3,000 วอน
.
จากนั้นนำท่านสู่ ศูนย์โสม (GINSENG CENTER) ศูนย์โสมแห่งนี้รัฐบาลรับรองคุณภาพว่าผลิตจากโสมที่อายุ 6 ปี ซึ่งถือว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพดีที่สุด ภายในจะมีเจ้าหน้าที่้ให้ความรู้เกี่ยวกับโสมพร้อมอธิบายคุณภาพและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโสม รวมไปถึง สมุนไพรฮ็อกเก็ตนามู ชาวเกาหลีรุ่นใหม่นิยมนำมารับประทาน เพื่อช่วยดูแลตับให้สะอาดแข็งแรงป้องกันโรคและสารตกค้างจากอาหาร และ น้ำมันสนเข็มแดง ที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันและน้ำตาลในกระแสเลือด ป้องกันการเกิดเส้นเลือดตีบ แตก ตัน และสามารถล้างสารพิษในร่างกาย เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานและทำให้อายุยืนแบบชาวเกาหลี อีกด้วยจ้า
จากนั้นเราเเดินทางกลับไปที่เมือง ยอซู เป็นเมืองชายฝั่งทะเลมีธรรมชาติที่สวยงาม อยู่ในจังหวัด Jeollanamdo อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเกาหลีใต้ นอกจากจะเป็นเมืองที่เคยจัด World Expo ในปี 2012 แล้ว ยังมีสถานที่เที่ยวสวย ๆ และเป็นแหล่งอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อด้วยนะ
เดินเที่ยวถ่ายรูปกันที่ Yeosu Teddy Bear Museum พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ สุดน่ารัก เป็นเทดดี้ แบร์ มิวเซี่ยม แห่งใหม่ ตั้งอยู่ในสวนสนุก U World มี 4 ชั้นให้เดินชม ถ่ายรูปเล่น เราจะได้เพลิดเพลิน เก็บภาพตุ๊กตาหมี ที่มีมากกว่า 2,000 ตัว ตุ๊กตามีหลายขนาดตั้งแต่เล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งจะแต่งตัวให้เข้ากับคอนเซ็ปแต่ละโซน ค่ะ
ไปต่อกันที่ Yeosu Art Land Culture & Resort YEOSU ART LAND MUSEUM ใครมาเที่ยวยอซู ห้ามพลาดที่นี่นะคะ เพราะก็ได้รูปเก๋ๆ กลับไปแน่นอน ที่นี่มีทั้ง วิวสวยๆสุดปัง คาเฟ่ชิคๆ เครื่องเล่นสนุกๆ และเทคโนโลยี AR 3D Trick Art Museum และไฮไลท์ตื่นตาตื่นใจกับภาพเสมือนจริง ผ่านอุโมงค์ไฮไลท์ ที่ยาวถึง 60 เมตร เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบเลย ส่วนใครที่อยากจะพักที่นี่ก็มีบริการห้องพักด้วยนะคะ
มุมนี้ห้ามพลาดนะ ต่อคิวนานหน่อยแต่คุ้มค่ามากวิวสวยสุดๆ
กิจกรรมสนุกๆ ที่ห้ามพลาด คือ โหนสลิงเดินบนทางเดินสุดหวาดเสียวชมวิวทะเลปังๆ (คนละ8,000วอนค่ะ)
หรือใครจะชิลๆ นั่งชิงช้ายักษ์ชมวิวทะเลชิลๆเค้าก็มีบริการนะ (คนละ 5,000 วอน)
อย่าลืมแวะถ่ายรูปในอุโมงค์มีเดียอาร์ต ที่จะทำให้คุณกลมกลืนไปกับโลกใต้ท้องทะเล
Trick Art Museum ตื่นตากับภาพวาดสามมิติที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แดดร่มลมตก ไปชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ กันที่ ถนนนังมานโพชา ถนนแห่งความโรแมนติก ริมทะเลแห่งเมืองยอซู
นอกจากจะมีวิวสวยๆให้ชมแล้ว บริเวณนี้มีบริการร้านอาหารทะเลหลากหลาย อาหารทะเลสดใหม่ เรียกได้ว่าเป็นย่านของกินขึ้นชื่อเลยค่ะ โดยของทะเลที่ขายจะเป็นของทะเลที่จับขึ้นมาโดยแฮนยอ (Haenyeo) หรือนักดำน้ำหญิง ซึ่งเมนูที่ห้ามพลาดเลยก็คือ จุกคูมิ ซัมฮับ (Jjukkumi Samhap, ปลาหมึกยักษ์หนวดแบบพังผืด และ อาหารสามเกลอ ประกอบด้วยปลาสด หมูย่าง และกิมจิ) ปลาย่างจกบาล (Jokbal) หรือ หมูย่างก๊บชาง (Gopchang) ผัดไส้กรอกซุนแด และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ
ใกล้ๆบริเวณนี้ เราสามารถเดินเล่นไปที่ อนุสาวรีย์ขุนพล Yi Sun Shin ขุนพล Yi Sun Shin ที่ยืนบนเรือเต่าต่อสู้ และสกัดกั้นการส่งเสบียงของญี่ปุ่นทางน้ำได้โดยใช้คอบุกซอน (เรือเต่า)ได้สำเร็จ ท่านจึงเปรียบเสมือนฮีโร่ของเมืองนี้ โดยเรือเต่าจะเป็นเรือที่มีเกราะเหล็กลำแรกของโลก และเป็นเรือที่สามารถต่อสู้และขับไล่กองทัพจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นในปี 1952 ได้สำเร็จด้วย บริเวณนี้นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปและขอพรจากท่านขุนพลกันด้วยค่ะ
จากนั้นเราก็เดินทางกลับโรงแรมกันค่ะ ยังมีเวลาเหลือก่อนทานมื้อเย็น เราออกมาเดินเล่นช้อบปิ้งกันแถวที่พัก มีร้านขายของมากมายเลย ทั้งสินค้าแบรนด์ สินค้ามือสอง ร้านขนม ร้านอาหาร คาเฟ่ เดินเล่นได้เพลินเลยจ้า
จากนั้นไปทานอาหารเย็นกันที่ ร้านอาหารหน้าโรงแรม ร้าน Ganeeyeok ฟิลล์ร้านเหล้าเบาๆ ซุป กับตีไก่เผ็ดคืออร่อยจึ้งมาก คุณป้าเจ้าของร้านน่ารักใจดีสุดๆ
DAY 5
เช้าวันสุดท้าย บอกลาเมืองยอซู ยังมีเวลาเที่ยวกันต่ออีกหนึ่งวัน...
เช็คอินกันที่ วัดนัมมีรึกซา (Nammireuksa, 남미륵사) วัดที่ตั้งอยู่ในภูเขาฮวาบังซาน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในเกาหลีใต้ สิ่งแรกที่จะได้พบเลยก็คือ ไฮไลท์ของที่นี่เลยก็คือ พระอมิตาภพุทธะปางประทับนั่ง สูง 26 เมตร และ เจดีย์หินสูงหลายสิบชั้น ที่ตระหง่านอยู่ใกล้ๆ กับพระพุทธรูป แถมรอบๆวัดยังมีรูปปั้นขนาดเล็กมากมายที่ตั้งไว้อยู่รอบๆวัด ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินชม วัดแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนนิทรรศการขนาดใหญ่ที่จัดแสดงตลอดทั้งปี และความพิเศษของที่นี่อีกอย่างก็คือ ในช่วงฤดูดอกไม้บานเราจะได้พบกับ “ทุ่งดอกอาซาเลีย” หรือดอกกุหลาบพันปี ดอกสีแดง และสีม่วงสด ที่บานสะพรั่งสดใสต้อนรับบรรดานักท่องเที่ยวที่ไปเยือน
เดินทางไปเที่ยวกันต่อที่เมืองมกโพ เช็คอินกันที่ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มกโพ สถานที่ท่องเที่ยวด้านประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของเมืองมกโพ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นอาคารอิฐแดงสีโดดเด่น สวยงาม เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในมกโพ โดยเคยใช้เป็นสถานกงสุลในยุคอาณานิคมญี่ปุ่นมาก่อน ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นศาลาว่าการเมืองมกโพ เป็นห้องสมุดเทศบาล และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำซี่รี่ส์เกาหลีชื่อดัง อย่างเรื่อง Hotel Del Luna อีกด้วยค่ะ
มื้อสุดท้ายในเกาหลีเรากิน หมูย่างเกาหลี กันค่ะ เมนูนี้ต้องกินทุกครั้งมารอบไหนไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึงเกาหลีนะจ๊ะ
เดินทางต่อไปที่เมืองชินอัน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดชอลลานัมโดที่พลาดไม่ได้ก็คือ เกาะสีม่วง Purple Island โดยเกาะแห่งนี้เป็นฉายาของ เกาะพันวอลโด และเกาะพัคจีโด หมู่บ้านเพื่อการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก ที่เกาะแห่งนี้ถูกเรียกว่าเกาะสีม่วง ก็เพราะ ทุกสถานที่จุดเช็คอินบนเกาะแห่งนี้ถูกเนรมิตรให้เป็นสีม่วง โดยชาวเกาหลีเชื่อว่า สีม่วงเป็นสีแห่งความโชคดี และนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ไม่ว่าจะร้านอาหาร คาเฟ่ หรือที่พัก ก็ล้วนแต่เป็นสีม่วงทั้งหมด รวมไปถึงหลังคาบ้านเรือนของชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ที่เกาะแห่งนี้ ก็เป็นสีม่วงไปด้วย จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ ที่ทั้งสวย โดดเด่น และมีเสน่ห์ดึงดูดให้บรรดานักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสกันค่ะ
เช็คอินกันที่ สนามบินนานาชาติมูอัน เตรียมตัวเดินทางกลับกันค่ะ โดยสายการบิน JEJU AIR เที่ยวบิน 7C 2215
จบทริปแล้วค่ะ ได้เวลาเดินทางกลับบ้าน การเดินทางครั้งนี้เต็มอิ่มไปด้วยประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ ของประเทศเกาหลีใต้ ได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงไหลของ จังหวัดชอลลานัมโด ที่เรียกได้ว่าเที่ยวสนุก ครบรส ทุกสไตล์ เลยค่ะ ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นนอน ในทริปนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท Lucky Queen Holiday ,KTO องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลีใต้ และ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชอลลานัมโด ที่สนับสนุนการเดินทางของเราในครั้งนี้ และสุดท้ายขอบคุณสำหรับมิตราภาพที่แสนจะน่ารักและอบอุ่นจากพี่ๆ และเพื่อน ร่วมเดินทางทุกท่านเลยค่ะ มาเที่ยว ชอลลานัมโด กันเยอะๆนะคะ
แล้วเจอกันใหม่ทริปต่อไป...
แล้วเจอกันใหม่ นะ เกาหลีที่รัก อันยอง...
Tags: เกาหลี ชอลลานัมโด SIM2Fly AIS Jeollanamdo ประเทศเกาหลีใต้ กรุงโซล เมตาโพรวองซ์ หมู่บ้านฝรั่งเศส META PROVENCE Gichamaeulro ชาบูชาบู GichamaeulGarden คิมบับ นมกล้วย มูอัน สนามบินนานาชาติมูอัน หมู่บ้านรถไฟซอมจินกัง SeomjingangTrainVillage Timberland Metasequoia-lined Road แนวต้นสนแดง ถนนต้นสนที่สวยที่สุดในเกาหลีใต้ ป่าไผ่จุกนกวอน JUKNOKWON BAMBOO GARDEN ดัมยาง Hotel Kenny เกาะโอดงโดมOdongdo Island 오동도 Suncheon Open Film Location Boseong GreenTea Plantation ไร่ชาเขียวโบซอง ช้อปปิ้ง LF SQUARE Gwangyang หมู่บ้านพื้นเมืองนากานอึบซอง Naganeupseong Folk Village พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ยอซู YeosuTeddyBearMuseum ถนนโพชา YEOSUPOCHASTREET อนุสาวรีย์ขุนพลYiSunShin วัดนัมมีรึกซา ชอลลานัมโด ชัลลานัมโด Jeollanam-do
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 107 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 299 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 399 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 530 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 735 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,049 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 483 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 912 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,244 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,405 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,766 อ่าน