calendar_month 22 ธ.ค. 2022 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 77,114 / เที่ยวต่างประเทศ
ถ้าพูดถึงที่เที่ยวต่างประเทศสุดฮอตฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็ต้องยกให้ประเทศญี่ปุ่นกันเลยค่ะ อย่างตอนนี้ญี่ปุ่นเพิ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวได้ไม่นาน แต่ก็ได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ต่างมุ่งหน้าเดินทางไปเที่ยวกันแบบอบอุ่นสุดๆ ซึ่งก็รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วย เชื่อว่าหลายคนก็มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2566 วันนี้ชิลไปไหนมี 10 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นรับปี 2566 มาฝากกันค่ะ อยากรู้ว่าจะมีอะไรบ้างตามมาเลย
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
ปัจจุบันญี่ปุ่นได้เปิดฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวไทยได้เที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่ต้องทำวีซ่า สามารถอยู่ได้นาน 15 วันค่ะ ซึ่งแม้จะไม่ต้องทำวีซ่าแต่นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ Visit Japan Web ก่อนเดินทางอย่างน้อย 6 ชั่วโมง ซึ่งวิธีการลงทะเบียนก็ไม่ยากโดยคุณจะต้องมีไฟลท์บิน หมายเลขที่นั่ง ที่อยู่ของที่พักที่ญี่ปุ่น และที่สำคัญพาสปอร์ตที่เหลือไม่ต่ำกว่า 6 เดือนในวันเดินทาง โดยสามารถดูวิธีการลงทะเบียนผ่านทางสกู๊ปนี้ได้เลยค่ะ>>วิธีกรอกใบตม.ญี่ปุ่นออนไลน์ Visit Japan อย่างละเอียดทุกขั้นตอน
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
สำหรับมาตรการในการเข้าญี่ปุ่นล่าสุดเพียงฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มก็สามารถเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นได้แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนไหนก็ได้ จะไขว้หน้า ไขว้หลังอย่างไรก็ได้ โดยสามารถแนบเอกสารในการฉีดวัคซีนที่แคปทางแอปพลิเคชันหมอพร้อมแล้วแนบไปในเว็บไซต์ Visit Japan ได้เลย แต่ในกรณีที่คุณไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ 3 เข็มก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นไม่ได้นะคะ โดยสามารถใช้ผลตรวจ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง โดยเอกสารรับรองที่ออกจะต้องออกเป็นภาษาญี่ปุ่นและสามารถแนบไปในเว็บไซต์ Visit Japan ได้เลยค่ะ
สำหรับกรณีเด็กที่ยังไม่ฉีดวัคซีนให้ยึดตามผู้ปกครองที่เดินทางไปด้วย หากผู้ปกครองสามารถแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิดครบตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนด เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิด (เด็กจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ฉีดก็ได้) แต่หากผู้ปกครองฉีดวัคซีนไม่ครบตามที่กำหนด แต่มีผลตรวจโควิดเป็นลบ เด็กอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ต้องแสดงผลตรวจโควิดเป็นลบด้วยเช่นเดียวกัน (ต่ำกว่า 6 ปี ไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิด)
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
แม้ว่าญี่ปุ่นจะผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่มาตรการในการป้องกันโควิด-19 ในญี่ปุ่นก็ยังคงเข้มงวดอยู่ค่ะ โดยทุกคนจะต้องสวมหน้ากากเวลาอยู่ในที่สาธารณะ และตามร้านอาหาร หรือโรงแรมจะมีการตั้งเจลแอลกอฮอล์ให้เราได้ฉีดก่อนเข้าไปใช้บริการ หรือที่พักบางที่อาจจะขอดูหลักฐานในการฉีดวัคซีน หรือผล RT-PCR ดังนั้นเราควรปริ๊นท์เอกสารต่างๆ เหล่านี้ติดตัวไว้อยู่เสมอค่ะ
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
สำหรับสายช้อปปิ้งไปเที่ยวญี่ปุ่นเดี๋ยวนี้ไม่จำเป็นต้องพกเงินสดไปเยอะๆ ก็ได้ค่ะ เพราะเราสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดจ่ายได้เลยทันทีสะดวกสบายสุดๆ ซึ่งบริการที่เราจะแนะนำกันในวันนี้เป็น Krungsri QR Japan บริการชำระเงินในประเทศญี่ปุ่นผ่านการสแกน QR Code ด้วย KMA-Krungsri Mobile App ซึ่งกรุงศรีนั้นมีความได้เปรียบจากเครือข่ายอันแข็งแกร่งในฐานะที่เป็นบริษัทในเครือของ MUFG (ประเทศญี่ปุ่น) สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นและที่หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการเชื่อมโยงบริการทางด้านการเงินต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่น โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของกรุงศรี และ MUFG รู้ลึกรู้จริงกับตลาดประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถจัดการทุกเรื่องในการใช้ชีวิตให้เป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายช้อป สายกิน ก็สามารถสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการที่ร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมหลากหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่นได้เลยค่ะ
ขั้นตอนในการชำระเงินผ่าน Krungsri QR Japan เพียงเปิดแอป KMA และกดปุ่มสแกน เลือก “จ่าย” เพื่อเข้าสู่หน้า QR code ให้ร้านค้ายิงเพื่อสแกนจ่าย เป็นการชำระเงินระหว่างประเทศ ได้ง่ายๆ เหมือนกับการชำระเงินภายในประเทศ แถมยังรู้ผลการชำระเงินทันที ซึ่งธนาคารจะหักเงินในบัญชีเป็นสกุลเงินบาทโดยทันที และใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ ขณะที่ทำรายการ ที่สำคัญไม่มีค่าธรรมเนียมในการชำระเงิน อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากการพกเงินสดจำนวนมากได้อีกด้วยค่ะ
โดยก่อนหน้านี้กรุงศรีได้นำร่องการให้บริการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยการสแกน QR Code ที่ประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว เริ่มจากที่ห้างทาเคยะ (Takeya) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีภายใต้ชื่อ “ตึกม่วง” ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2565 – 30 เม.ย. 2566 กรุงศรีก็จัดโปรโมชั่นคุ้ม 3 ต่อ สำหรับนักท่องเที่ยวไทยที่ไปช้อปที่ตึกม่วงด้วย [www.krungsri.com] สำหรับครั้งนี้ทางกรุงศรีได้ขยายร้านค้าที่รับชำระเงินเพิ่มเติม ได้แก่ EDION ร้านจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ในบ้านชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นในโตเกียวและโอซาก้า รวมถึงร้านค้า ร้านอาหาร และโรงแรมในหลายเมืองของญี่ปุ่น ซึ่งเร็วๆ นี้จะมีการขยายบริการเพิ่มเติมไปยังนาโกยา (Nagoya) ในร้านค้าและร้านอาหารที่ตั้งอยู่ใน JR Central Towers และ JR Gate Tower และถนนช้อปปิ้งในชั้นใต้ดิน Gate Walk และมีแผนที่จะขยายไปยังร้านค้าในสนามบินระหว่างประเทศของญี่ปุ่นในลำดับถัดไป
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
รู้ไว้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น เมื่อญี่ปุ่นปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีผู้บริโภคจาก 8% เป็น 10% โดยจะเป็นสินค้าในหมวดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หรือการทานนอกบ้าน แต่ถ้าในส่วนสินค้าบริโภค อุปโภคทั่วไปยังอยู่ในหมวดลดหย่อนที่ยังคงจ่าย 8% ดังนั้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นให้สังเกตป้ายร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ TAX FREE เอาไว้ ค่ะ โดยถ้าซื้อสินค้าตั้งแต่ 5,000 เยน - 500,000 เยน / หนึ่งร้านค้า ก็สามารถแจ้งให้ทางร้านค้าทำ Tax refund ได้เลย โดยแต่ละร้านจะมีวิธีการขอคืนได้ 2 แบบ คือแบบแรกหักจากราคาสินค้าเลย หรือขอรับเงินภาษีที่จ่ายไปคืน ณ เคาน์เตอร์สำหรับขอภาษีคืน (Tax refund) สิ่งสำคัญสำหรับเวลาช้อปปิ้งเพื่อการขอคืนภาษีคือพาสปอร์ตค่ะ โดยต้องนำพาสปอร์ตติดตัวไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งการทำ Tax refund นั้นจะต้องทำในวันที่ซื้อสินค้าเท่านั้นไม่สามารถทำในวันอื่นได้
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
สำหรับคนที่ต้องการจะไปเที่ยวเมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นด้วยรถไฟชินกันเซ็น ได้มีการออกมาตรการสำหรับการนำกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นรถไฟชินกันเซ็นโดยจะต้องมีการจองที่วางกระเป๋าสำหรับเส้นทางดังต่อไปนี้
1.Tokaido Shinkansen วิ่งระหว่างสถานี Tokyo ถึงสถานี Shin-Osaka
2. Sanyo Shinkansen วิ่งระหว่างสถานี Shin-Osaka ถึงสถานี Hakata (จังหวัดฟุกุโอกะ)
3. Kyushu Shinkansen วิ่งระหว่างสถานี Hakata ถึงสถานี Kagoshima-chuo (จังหวัดคาโกชิม่า)
4. Nishi Kyushu Shinkansen : วิ่งระหว่างสถานี Takeo-Onsen ถึงสถานี Nagasaki
ซึ่งนอกเหนือจากเส้นทางเหล่านี้ไม่มีการบังคับต้องจองนะคะ
ขนาดกระเป๋าเท่าไรที่ต้องจองล่วงหน้า
- คำนวณโดยนำขนาด “กว้าง + ยาว + ลึก” ของกระเป๋ามาบวกรวมกัน หากเกิน 160 เซนติเมตร แต่ไม่เกิน 250 เซนติเมตร จะต้องจองที่นั่งพร้อมที่วางกระเป๋าล่วงหน้า ซึ่งจะเป็นที่นั่งแถวสุดท้ายของแต่ละตู้รถไฟที่ด้านหลังมีพื้นที่วางกระเป๋า โดยไม่ต้องเสียเงินค่าจองที่วางกระเป๋าเพิ่ม
- แต่หากขนาดกระเป๋าคำนวณแล้วเกิน 250 เซนติเมตร จะไม่สามารถนำขึ้นรถไฟชินคันเซ็นได้ ส่วนกระเป๋าที่ขนาดเล็กกว่า 160 เซนติเมตร ไม่ต้องจองที่วางล่วงหน้า แต่ให้เก็บไว้บนที่วางของเหนือศรีษะได้เลย
วิธีการจอง
จองผ่านแอปพลิเคชันที่กำหนด จองผ่านเครื่องจำหน่ายตั๋ว หรือจองกับเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วของรถไฟ JR ตามสถานีต่างๆ
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
ช่วงนี้เงินเยนกำลังอ่อนค่า เรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวที่สามารถจับจ่ายใช้สอยในญี่ปุ่นในราคาที่ถูกลง โดยเรทเงินเยนในแต่ละวันก็จะมีการขึ้นลงแตกต่างกันไปค่ะ ครั้นจะวิ่งไปแลกเงินตามจุดรับแลกก็เสียเวลาและค่าเดินทาง เราเลยมาบอกของดีที่จะมาช่วยทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นอย่างบัตรทราเวลการ์ด Krungsri Boarding Card ที่สามารถแลกเงินบาทเก็บไว้ในบัตรเพื่อการใช้จ่ายผ่านบัตรได้ โดยเรทที่ได้คุ้มค่า ถูกจริง ยิ่งคนที่มีแผนจะเดินทางไปญี่ปุ่น ชี้เป้าได้เลยว่าเรทเงินเยนที่ได้ ถูกและคุ้มค่ามาก โดยสามารถแลกได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลกก็สามารถแลกเงินได้ ตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งจริงๆ แล้วบัตร Krungsri Boarding Card นี้รองรับถึง 16 สกุลเงินหลัก ไม่ว่าจะเป็น JPY, KRW, HKD, SGD, USD, EUR, AUD, CAD, CHF, CNY, DKK, GBP, NOK, NZD, SEK, และ TWD ดังนั้นสมัครใช้เพื่อไปญี่ปุ่นทริปนี้ ทริปต่อไป พกพาไปประเทศ อื่นๆ ก็สะดวก
ที่สำคัญไม่มีการชาร์จ 2.5% เมื่อนำไปใช้จ่ายในร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA หรือช้อปออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็สามารถสนุกกับการท่องเที่ยวได้ และอีกหนึ่งสิ่งที่เรารู้สึกว่า Krungsri Boarding Card พิเศษกว่าบัตรทราเวลการ์ดเจ้าไหนคือการที่เราสามารถตั้งได้ล่วงหน้าได้นานถึง 15 วัน ผ่าน KMA-Krungsri Mobile App และเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนถึงจุดที่ตั้งไว้หรือต่ำกว่าก็จะมีการแจ้งเตือนหรือแลกให้อัตโนมัติ โดยสามารถตั้งซื้อเรทที่อยากได้พร้อมกันสูงสุด 3 รายการ
ส่วนการสมัครก็ง่ายค่ะ ถ้าคุณมีบัญชีของธนาคารกรุงศรีอยู่แล้วก็สมัครใช้งานผ่าน KMA-Krungsri Mobile App ได้เลย โดยเลือกเมนู "สมัคร Krungsri Boarding Card" แต่ถ้าไม่มีบัญชีกรุงศรี เพียงโหลดแอปพลิเคชัน KMA – Krungsri Mobile App แล้วสมัครเข้าใช้งาน จากนั้นเปิดบัญชี "มีแต่ได้ ออนไลน์" แล้วเลือก “สมัคร Krungsri Boarding Card” เพียงเท่านี้เราก็เรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับใครที่แพลนจะเที่ยวญี่ปุ่นช่วงต้นปีนี้ กรุงศรีขยายเวลาสมัครบัตรฟรี ถึง 31 มี.ค. 66 พร้อมโปรโมชั่น
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.krungsri.com
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องรู้ไว้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่นรับปี 2566 คือมารยาทในการใช้โทรศัพท์มือถือในที่สาธารณะ โดยคนญี่ปุ่นมักจะไม่โทรศัพท์พูดคุยเสียงดังในระบบขนส่งสาธารณะไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถบัส รถไฟชินกันเซ็น โดยส่วนมากเขาจะนั่งเล่นมือถือ ตอบไลน์หรือทำกิจกรรมที่ไม่ส่งเสียงรบกวนผู้อื่น แต่ถ้ามีเหตุที่ต้องรับโทรศัพท์จริงๆ เช่นในรถไฟชินกันเซ็นก็สามารถลุกออกจากที่นั่งไปโทรศัพท์ในพื้นที่ที่ไม่มีผู้คน เช่น บริเวณช่วงรอยต่อระหว่างตู้ได้ค่ะ และอย่าลืมปิดเสียงหรือเปิดระบบสั่นทุกครั้งเวลาที่ขึ้นระบบขนส่งสาธารณะด้วยนะคะ
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
มาถึงสิ่งสำคัญในการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ นอกจากพาสปอร์ต เงิน ตั๋วเครื่องบิน ที่พักแล้ว สิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่ข้ามไปไม่ได้คือการทำประกันการเดินทางค่ะทำให้เราอุ่นใจทุกครั้ง ซึ่งประกันการเดินทางที่เราอยากมาแนะนำในครั้งนี้คือ กรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure ที่ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาลที่ไม่ได้เตรียมมาเผื่อ หากจำเป็นต้องเข้ารักษาก็ไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกกับ รพ.ในเครือที่ญี่ปุ่น และหมดกังวลเรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจ เพราะกรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure เขามีผู้ช่วยประสานงานที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นกับคุณหมอที่นั่นได้ และในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การเดินทางกลับล่าช้าจากสภาพอากาศ ภัยธรรมชาติ ความผิดพลาดของอุปกรณ์การบิน หรือสายการบิน ก็มีความคุ้มครองในส่วนการขยายระยะเวลาคุ้มครองโดยอัตโนมัติอีกด้วยค่ะ
ส่วนใครที่มีแพลนจะเดินทางไปกับทัวร์บอกเลยว่าควรทำกรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure เอาไว้ด้วยค่ะ เพราะเขาครอบคลุมการถูกยกเลิกแพลนหรือการโกงของบริษัททัวร์ได้ด้วยนะ อีกทั้งหลังกลับจากการเดินทางยังมีชดเชยให้ในกรณีที่ทรัพย์สินในบ้านสูญเสียหรือเสียหายระหว่างทริป อุ่นใจทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และหลังเดินทางกันเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566
เรื่องที่ต้องรู้เรื่องสุดท้ายสำหรับการไปเที่ยวญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นมีวินัยในการแยกขยะกันอย่างดีเยี่ยมค่ะ ดังนั้นไปเที่ยวบ้านเขาก็ต้องทำตามกฎระเบียบในบ้านเขากันด้วยนะคะที่ญี่ปุ่นจะมีการแยกขยะตามประเภท และอีกเรื่องคือที่ญี่ปุ่นหาถังขยะค่อนข้างยาก ดังนั้นเมื่อเราหาที่ทิ้งขยะไม่ได้ ให้เก็บมาทิ้งที่โรงแรม โดยจะแยกเป็นขยะที่เผาไฟได้ กับเผาไฟไม่ได้ และใส่ถุงแยกเอาไว้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่ดี และยังช่วยฝึกวินัยในการแยกขยะอีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 10 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวญี่ปุ่น รับปี 2566 ที่เรามาฝากในวันนี้ หวังว่าจะเป็นตัวช่วยให้เพื่อนๆ ได้เที่ยวญี่ปุ่นอย่างสนุกมากขึ้น โดยเฉพาะยิ่งการที่เรามีตัวช่วยซึ่งเป็น 3 บริการของทางกรุงศรี ที่ไม่ว่าจะเป็น Krungsri QR Japan ที่ทำให้การช้อปปิ้งในญี่ปุ่นสะดวกสบายกับการสแกน QR Code ด้วย KMA-Krungsri Mobile App , บริการ Krungsri Boarding Card บัตรทราเวลการ์ดของกรุงศรี ที่เรทถูกจริงสามารถแลกเงินเก็บไว้ในบัตรได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ปิดท้ายกับบริการ กรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure ที่ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับค่ารักษาพยาบาล แถมยังมีผู้ช่วยประสานงานที่สื่อสารภาษาญี่ปุ่นกับคุณหมอที่นั่นได้ เห็นได้ว่าหากเรามีตัวช่วยดีๆ ก็ช่วยให้การเดินทางราบรื่น ยิ่งเรื่องญี่ปุ่นก็ต้องยกให้กรุงศรีนี่เลย ที่ทำให้ทริปไปญี่ปุ่นของคุณเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายมากขึ้นแน่นอน #เรื่องญี่ปุ่นต้องกรุงศรี
Tags: Krungsri InternationalTransfer ชีวิตง่ายได้ทุกวัน SMEs CrossBoarderPayment CrossBorderTransaction Investment Startup MUFG Banking Entrepreneur Simplelife MakeLifeSimple เรื่องญี่ปุ่นต้องกรุงศรี KrungsriJapan TravelCard ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น2566 เที่ยวญี่ปุ่น2023 การเดินทางในญี่ปุ่น รถไฟญี่ปุ่น จองรถไฟญี่ปุ่น ช้อปปิ้งญี่ปุ่น visit japan web มาตรการเข้าญี่ปุ่น2566 มาตรการเข้าญี่ปุ่น2023 ที่เที่ยวญี่ปุ่น
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 511 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 746 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 652 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 1,203 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 1,907 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 4,171 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 2,039 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 3,516 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 21 ก.พ. 2024 | 5,431 อ่าน