calendar_month 08 ธ.ค. 2022 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 23,048 / เที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวฮอกไกโด ชมความสวยงามยามหิมะโปรยปราย จูงมือคุณแฟนไปสัมผัสความโรแมนติกริมคลองโอตาครุ แช่ออนเซ็น พร้อมทานบุฟเฟ่ต์ขาปู กับทริปเที่ยวฮอกไกโดกับทัวร์ 6 วัน 4 คืน สัมผัสหิมะที่ ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ อาซาฮิคาว่า ในงบไม่เกิน 4 หมื่นบาทจะคุ้มแค่ไหนตามไปชมกันเลยค่ะ
การเตรียมตัวก่อนไปฮอกไกโด
ซึ่งครั้งนี้เราไปกับทางทัวร์ค่ะ ราคาเริ่มต้นที่ 38,888 บาท/คน รวมตั๋วเครื่องบินแล้วด้วย สำหรับการเตรียมตัวเนื่องจากเดินทางช่วงหน้าหนาว เสื้อโค้ทกันหนาว ก็เตรียมไปให้พร้อม เพราะอากาศที่ฮอกไกโดจะอยู่ที่ -10 ถึง 0 องศาเซลเซียสในเดือนธันวาคม รองเท้าที่ใช้ก็ต้องเป็นรองเท้าที่สามารถเดินบนหิมะได้ ใครที่มีพวกถุงร้อนก็เตรียมซื้อกันไว้ได้เลยเพราะอากาศหนาวที่ฮอกไกโดนั่นค่อนข้างโหดมากๆ
ลงทะเบียน Visit Japan Web
ก่อนเดินทางทางทัวร์จะให้เราลงทะเบียน Visit Japan Web ด้วยตัวเองค่ะ แต่ไม่ต้องกังวลเพราะทางทัวร์จะคอยให้คำแนะนำเราตลอดเวลาเลยค่ะ ส่วนใครที่อยากดูวิธีการลงทะเบียนเข้าญี่ปุ่นผ่าน Visit Japan Web ก็สามารถคลิกไปชมได้ที่นี่>>https://chill.travel/3FtyaYa
ซิมการ์ด
ปัจจุบันการใช้อินเตอร์เน็ตในต่างประเทศสะดวกสบายค่ะ ในไทยก็มีค่ายมือถือมากมายที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศ ซึ่งครั้งนี้เราเลือก AIS Sim2Fly 399 บาทสามารถใช้เน็ตได้ 6 GB ภายในระยะเวลา 10 วัน และยังสามารถใช้เน็ตในประเทศโซนเอเชียและออสเตรเลียได้อีกด้วย ซื้อได้ที่สนามบินเคาน์เตอร์ AIS ของสนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่บริเวณชั้น 2 ระหว่างประตูทางออกที่ 6 กับ 7
แลกเงิน
ช่วงนี้ค่าเงินญี่ปุ่นถูกมากๆ ตอนที่เราไปประมาณ 25.60 บาท/100 เยนค่ะ โดยสามารถแลกได้ตามร้านแลกเงินทั่วไปและในสนามบิน หรือแนะนำอีกวิธีคือสมัครบัตรพวก Travel Card ค่ะที่สามารถแลกเงินเก็บเอาไว้ในบัตร และนำบัตรซึ่งเป็นบัตรเดบิตไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มได้เลยสะดวกมากๆ
ประกันเดินทาง
อีกสิ่งหนึ่งที่พลาดไม่ได้คือประกันการเดินทาง เผื่อไว้บาดเจ็บฉุกเฉิน ต้องเข้าโรงพยาบาล กระเป๋าหาย ไฟล์ทดีเลย์ ก็นับว่ามีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ แอดแนะนำตัวนี้เลยจาก TQM เลือกโปรโมชั่นที่สนใจได้เลยนะคะ ดูรายละเอียด https://chill.travel/3G3I42S
23.00 น. ทางทัวร์นัดเราที่สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเตรียมนั่งเครื่องบินไปยังสนามบินนิวชิโตเสะ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด
02.05 น. ก็เตรียมตัวเดินทางกันแล้วค่ะโดยครั้งนี้เรานั่งสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เพื่อเดินทางไปยังฮอกไกโดค่ะ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงเราก็มาถึงสนามบินนิวชิโตเสะ กันแล้วค่ะ มาถึงก็ร้องว้าวกับภาพขาวโพลนของหิมะที่ปกคลุมไปทั่วเมือง ราาวกับภาพสีขาวดำกันเลยค่ะ ตื่นตาตื่นใจมากๆ
จากนั้นทางทัวร์ก็พาเราไปทานอาหาร ซึ่งเป็น อาหารมื้อที่ 1 ตามโปรแกรม
เมื่อทานอาหารเสร็จเราก็มุ่งหน้าไปยังเมืองฮาโกดาเตะโดยรถโค้ชค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงก็มาถึงเมืองฮาโกดาเตะอีกหนึ่งเมืองสุดโรแมนติกของเกาะฮอกไกโด โดยที่แรกที่เรามาเช็คอินก็คือ โกดังอิฐแดงริมน้ำ (Red Brick Warehouses) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำของอ่าวฮาโกดาเตะ ในอดีตเคยเป็นคลังสินค้าขายปลาในยุคเอโดะ ปัจจุบันทำเป็นร้านขายสินค้า ร้านอาหาร พร้อมบรรยากาศในสไตล์ตะวันตก
จากนั้นก็เดินทางขึ้นกระเช้าไปชมวิวกลางคืน ที่ภูเขาฮาโกดาเตะ (Mount Hakodate) สูง 334 เมตร โดยเป็นจุดชมวิวที่สวยติดอันดับของญี่ปุ่นกันเลยค่ะ พอเราขึ้นไปเราจะได้พบกับเมืองฮาโกดาเตะที่ขนาบด้วยทะเลทั้งสองด้าน ยิ่งในยามเย็นเมื่อพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าแสงไฟจากเมืองจะส่องแสงระยิบระยับสวยงามจับใจมากๆ
จากนั้นก็ถึงเวลาเดินทางไปยังที่พักค่ะ ซึ่งคืนนี้เราพักที่ Hakodate Kokusai Hotel ทำเลดีใกล้อ่าวฮาโกดาเตะ และยังไม่ไกลจากสถานีรถไฟ
ห้องพักกว้างขวางมากๆ ค่ะ สะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย
จากนั้นเมื่อเช็คอินเข้าที่พักแล้วเราก็ได้ทานอาหารเย็นซึ่งเป็น อาหารมื้อที่ 2 ในโปรแกรมทัวร์ค่ะก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องพัก พักผ่อนเตรียมเอาแรงไปเที่ยววันพรุ่งนี้ต่อ
ตอนเช้าทานอาหารเช้าที่โรงแรมซึ่งเป็น อาหารมื้อที่ 3 ในโปรแกรมทัวร์ค่ะ มื้อเช้านี้เป็นเมนูบุฟเฟ่ต์ที่จัดเต็มมากๆ อิ่มอร่อย เติมพลังก่อนไปเที่ยวกันต่อ
หลังจากทานอาหารเสร็จทางทัวร์พารเราไปเดิน ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) ที่เปิดทุกวันตั้งแต่ตี 5 ถึงเที่ยงตรง เมนูที่ห้ามพลาดคือ Uni-Ikura Domburi (ข้าวเสิร์ฟพร้อมหอยเม่นทะเลและไข่ปลาแซลม่อน) ใครอยากทานก็สามารถทานได้แบบอิสระกันเลยค่ะ
จากนั้นเราเดินทางต่อไปยัง ท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ หรือ ย่านเมืองเก่าโมโตมาชิ (Motomachi District) ซึ่งเป็นท่าเรือแรกที่เปิดให้มีการค้าขายกับต่างประเทศในปี 1854 ซึ่งทำให้อาคารต่างๆ ของที่นี่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก เหมาะกับการมาเดินเล่นถ่ายรูปกับบรรดาตึกสวยๆ กันค่ะ
จุดนี้เป็นมุมที่สามารถมองเห็นถนนที่ทอดตัวไปยังทะเลเบื้องหน้า เป็นจุดที่ถ่ายรูปออกมากได้สวยงามมากๆ
ที่ต่อไปคือ ป้อมโกเรียวคาคุ (Fort Goryokaku) หรือป้อมดาว 5 แฉก สร้างขึ้นในสมัยเอโดะเพื่อป้องกันเมืองฮาโกดาเตะจากการคุกคามจักรวรรดินิยม ปัจจุบันเปิดเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งการจะขึ้นไปชมป้องรูปดาวจะต้องขึ้นโกเรียวคาคุทาวเวอร์ขึ้นไปชมวิวดานบนค่ะ
จากนั้นทานอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นอาหารมื้อที่ 4 ก่อนจะเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองซัปโปโร โดยจุดแรกเมื่อเดินทางถึงซัปโปโรทางทัวร์พาเรามาเเดินเล่นช้อปปิ้งที่ ถนนช้อปปิ้งทานุกิโคจิ (Tanukikoji Shopping Street) ซึ่งเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมือง มีร้านเสื้อผ้า ร้านสินเครื่องสำอาง ร้านอาหารให้เลือกซื้อเลือกช้อปมากมายเลยค่ะ แถมไม่ต้องกลัวฝนหรือกลัวหิมะเพราะมีหลังคาคลุมเดินช้อปสบายมากๆ ในส่วนอาหารเย็นทางทัวร์ให้เราเลือกทานอิสระโดยสามารถเลือกร้านอาหารที่ย่านนี้ได้เลย
Photo by zhao chen on Unsplash
สำหรับที่พักคืนนี้เราพักกันที่ Sapporo Tokyu REI Hotel ซึ่งเป็นที่พักทำเลดีมากๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโรใกล้กับสถานี Susukino ย่านช้อปปิ้งสุดฮอตใครยังไม่ง่วงก็สามารถไปเดินเล่นกันได้เลย
เช้าวันที่ 4 เราทานอาหารเช้าที่โรงแรม ซึ่งเป็นอาหารมื้อที่ 5 ตามโปรแกรมทัวร์ค่ะ ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวในสถานที่ต่อไป ซึ่งหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เดินทางไปต่อยังเมืองโอตารุ เมืองสุดน่ารักที่เป็นเมืองท่าสำคัญของซัปโปโรค่ะ โดยที่แรกที่เรามาเที่ยวนั้นก็คือ คลองโอตารุ (Otaru Canal) มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ขนาบกับโกดังอิฐเก่าแก่ที่ได้มีการปรับปรุงเป็นร้านอาหารหารมากมาย
ในช่วงหิมะตกแบบนี้คลองโอตารุจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวหนามากๆ ค่ะ ยิ่งถ้ามาในช่วงที่จัดงาน The Otaru Snow Light Path Festival จะมีการปั้นหิมะให้เป็นรูปโคมไฟและจุดเทียนด้านในสวยงามโรแมนติกมากๆ สำหรับงาน The Otaru Snow Light Path Festival ในปี 2023 จะจัดขึ้นในวันที่ 11-18 กุมภาพันธ์ 2565 ค่ะ ใครที่ไปเที่ยวโอตารุช่วงนั้นก็ลองไปเที่ยวกันได้เลย
จากนั้นก็เดินทางต่อไปยัง ถนนซาไกมาจิ (Sakaimachi Dori Shopping Street) ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองโอตารุ ขนาบข้างด้วยอาคารสไตล์ตะวันตก จากนั้นทางทัวร์จะเราไปชมโรงเป่าแก้วคิตาอิชิ (Kitaichi Glass Otaru) โดยเราสามารถเลือกซื้อแกวสวยๆ ไปเป็นของฝากได้ด้วย
ร้านค้าต่างๆ บนถนนซาไกมาจิ ที่ตกแต่งได้น่ารัก อยากเดินเข้าทุกร้านเลยค่ะ
มีการปั้นตุ๊กตาหิมะให้เราได้แชะภาพกันด้วย
จากนั้นก็ไปชม พิพิทธภัณฑ์กล่องดนตรี (Music Box Museum) ซึ่งเราสามารถเลือกซื้อกล่องดนตรีน่ารักๆ ได้ด้วย ไฮไลท์คือบริเวณหน้าตัวอาคารจะมี นาฬิกาไอน้ำ (Steam Clock) ซึ่งปัจจุบันมีเพียง 2 เรือนในโลกคือที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา กับที่เมืองโอตารุแห่งนี้ นาฬิกาจะเล่นเพลงและปล่อยไอน้ำออกมาทุกๆ 15 นาที เป็นจุดแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวมักจะเฝ้ารอตรงนาฬิกาแห่งนี้
สำหรับอาหารกลางวันจะเป็น อาหารมื้อที่ 6 ตามโปรแกรมทัวร์ค่ะ จากนั้นก็เดินทางมุ่งหน้าไปยัง เมืองฟุราโน่ (Furano) โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง โดยเมืองนี้ถ้ามาในช่วงฤดูร้อนจะเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้สวยงามมากๆ ส่วนในช่วงฤดูหนาวก็มีไฮไลท์คือสกีรีสอร์ทมากมายที่เราสามรถมาเล่นได้ค่ะ โดยทางทัวร์พาเราเดินทางไปเล่นสกีที่ สโนวแลนด์ ฟุราโนะ สกีรีสอร์ท (Waku-Waku Family Snow Land) ลานสกีขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ภายในโรงแรม Shin Furano Prince Hotel ซึ่งค่าทัวร์จะไม่รวมค่าเล่นกิจกรรมต่างๆ ค่าเช่าชุดและอุปกรณ์สกีภายในลานสกีนะคะ ใครอยากเล่นสามารถติดต่อกับทางไกด์เพื่อจ่ายเงินเพิ่มได้เลย
ที่ต่อไปกับ หมู่บ้านเทพนิยาย นิงเกิ้ลเทอเรส (Ningle Terrace) ซึ่งอยู่ภายในโรงแรม Shin Furano Prince Hotel ซึ่งเขาจะทำเป็นบ้านไม้พร้อมกับทางเดินที่ตั้งอยู่ภายในป่าสนเหมือนหมู่บ้านในเทพนิยายเลยค่ะ ภายในบ้านแต่ละหลังจะเป็นร้านค้า ร้านขายของฝาก ร้านกาแฟให้เลือกช้อปกัน
จากเมืองฟูราโน่เดินทางต่อไปยังเมืองอาซาฮิคาว่า (Asahikawa) ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของจังหวัดฮอกไกโด ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งพอถึงเมืองอาซาฮิคาว่า ทางทัวร์ก็พาเราไปช้อปที่ AEON Asahikawa Ekimae ใครอยากช้อปปิ้งสินค้า ของฝากก็ซื้อที่นี่ได้เลย จากนั้นทางทัวร์ก็ให้เราได้เลือกทานอาหารเย็นกันอย่างอิสระในห้างแห่งนี้
ช้อปปิ้งกันจนหนำใจแล้วเราก็ไปเช็คอินที่ Hotel Crescent Asahikawa ที่พักใจกลางเมืองอาซาฮิคาว่าพักผ่อนก่อนเดินทางไปเที่ยวต่อในวันพรุ่งนี้
เช้าวันนี้เราทานอาหารเชื้อมื้อที่ 7 ตามโปรแกรมทัวร์ แล้วเดินทางต่อไปยัง สวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) สวนสัตว์ชื่อดังของเกาะฮอกไกโด โดยมีไฮไลทคือขบวนพาเหรดเพนกวินสุดน่ารักที่ให้ชมวันละ 2 รอบ คือ 11.00 น. และ 14.30 น.
ซึ่งไม่เพียงแค่น้องเพนกวินยังมีสัตว์สุดน่ารักมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้องสิงโตทะเล หมีขั้วโลก หมาป่าและสัตว์ให้ชมอีกมากมาย
ในตอนเที่ยงทางทัวร์พาเราไปทานอาหารกลางวันอย่างอิสระที่ หมู่บ้านราเมนอาซาฮิคาวะ (Asahikawa Ramen Village) โดยมีร้านราเมนชื่อดังให้เลือกทานถึง 8 ร้านค่ะ
จากนั้นก็เดินทางกลับมายังเมืองซัปโปโรโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง สถานที่แรกเมื่อเดินทางมาถึงซัปโปโร คือการมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่ ศาลาว่าการเมืองฮอกไกโดหลังเก่า (ด้านนอก)(Former Hokkaido Government Office) เป็นอาคารสีแดงอิฐ สร้างในปี 1888 ด้านบนของหลังคามีสัญลักษณ์ดาวห้าแฉก ธงรูปดาวเจ็ดแฉกปรากฎอยู่โดยเราสามารถ่ายรูปบริเวณด้านนอกได้ค่ะ
ต่อด้วย หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร (Sapporo Clock Tower หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sapporo Tokeidai) ซึ่งเป็นหอนาฬิกาโบราณมีลักษณะเป็นอาคารไม้ที่มีหลังคาสีแดงและผนังสีขาวถูกออกแบบและบริจาคให้โดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1878 ในหน้าหนาวตัวหลังคาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะบรรยากาศโรแมนติกมากๆ
เดินทางต่อไปยัง สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใจกลางเมือง บริเวณปลายสุดของสวนเป็นที่ตั้งซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (TV Tower) ที่เราสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ค่ะ แต่ทัวร์นี้จะไม่รวมค่าขึ้นหอคอยนะคะ ใครอยากขึ้นไปสามารถติดต่อกับทางทัวร์ได้เลย ซึ่งวิวด้านบนจะเห็นเมืองซัปโปโรสวยงามมากๆ ยิ่งถ้ามาในช่วงที่เขาประดับไฟในงาน Sapporo White Illumination โดยปีนี้จะมีการประดับไฟที่สวนสาธารณะโอโดริ วันที่ 22 พฤศจิกายน - 25 ธันวาคม 2565 ใครที่มาเที่ยวช่วงนี้ก็ลองขึ้นไปชมกันค่ะสวยงามโรแมนติกสุดๆ
จากนั้นทางทัวร์พาเราไปทานอาหารมื้อค่ะ มื้อที่ 8 ซึ่งเป็นมื้อไฮไลท์คือเมนูชาบูกับขาปูยักษ์ เตรียมบอกลาค่ำคืนสุดท้ายในซัปโปโรกันอย่างเต็มอิ่ม
จากนั้นก็เดินทางไปพักกันที่ Smile Hotel Premium – Sapporo Susukino ที่พักใจกลางเมืองในย่าน Susukino ใครอยากเดินเล่น ช้อปปิ้งส่งท้ายก็จัดกันได้เต็มที่
เช้าวันสุดท้ายเราทานอหารเช้าที่โรงแรม ซึ่งเป็น มื้อที่ 9 ก่อนจะเดินทางไปไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าฮอกไกโด (Hokkaido Shrine) ซึ่งเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโต และเป็นศาลเจ้าที่สำคัญของฮอกไกโด จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังสนามบินเพื่อเตรียมเดินทางกลับเมืองไทยด้วยสายการบินแอร์เอเชียตอนเวลา 11.55 น. และเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 17.50 น.
โทรสอบถามทัวร์ญี่ปุ่นเพิ่มเติมได้ที่ :
064 975 0777 : K. กี้
064 975 0888 : K. เจี๊ยบ
064 975 0999 : K. มุก
LINE ID : @Chillpainai https://chill.travel/LineChillpainai
บทความแนะนำ:
- วิธีกรอกใบตม.ญี่ปุ่นออนไลน์ Visit Japan อย่างละเอียดทุกขั้นตอน
- ทริปเที่ยวญี่ปุ่น 7 วัน 6 คืน เที่ยวญี่ปุ่นล่าสุดหลังจากเปิดประเทศ
Tags: ญี่ปุ่น เที่ยวต่างแดน ฮอกไกโด ฮกไกโด เที่ยวญี่ปุ่น ที่เที่ยวญี่ปุ่น ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวฮอกไกโด ที่เที่ยวฮอกไกโด ทัวร์ฮอกไกโด เที่ยวฮกไกโด ที่เที่ยวฮกไกโด ทัวร์ฮกไกโด ชิลไปไหน chullpainai ชิลทราเวล chilltravel ฮาโกดาเตะ อาซาฮิคาว่า เที่ยวฮาโกดาเตะ ที่เที่ยวฮาโกดาเตะ ทัวร์ฮาโกดาเตะ เที่ยวอาซาฮิคาว่า ที่เที่ยวอาซาฮิคาว่า ทัวร์อาซาฮิคาว่า Hakkaido asahikawa hakodate เที่ยวต่างประเทศ ทัวร์ต่างประเทศ แพ็คเกจทัวร์ ทัวร์ราคาประหยัด
เที่ยวต่างประเทศ | 21 พ.ย. 2024 | 2,159 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 996 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 26 ต.ค. 2024 | 1,127 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,420 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,607 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 1,859 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 2,608 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 3,553 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 6,869 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 4,506 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 1,167 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 4,454 อ่าน