calendar_month 12 ต.ค. 2022 / stylus Maprang Chillpainai / visibility 33,876 / เที่ยวต่างประเทศ
안 녕 하 세 요 อันยองฮาเซโย ค่ะทุกคน ทักทายเพื่อนๆ กันด้วยภาษาเกาหลีเกาใจแบบนี้ ทริปนี้จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ค่ะนอกจาก ประเทศเกาหลีใต้ การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีครั้งแรกของเราเลยนะ ไปเจอทัวร์ราคาน่ารักมา เลยจัดสักหนึ่งทริปค่ะ ส่วนโปรแกรมที่เราจะไปในทริปนี้ก็คือเที่ยวเมืองอินช็อน และกรุงโซล ค่ะ ใช้เวลาเดินทางกันทั้งหมด 5 วัน 3 คืน ค่ะ จะสนุกแคไหนเดินทางไปพร้อมๆ กันเลย...
ก่อนออกเดินทางเรามาทำความรู้จัก "ประเทศเกาหลีใต้" กันก่อนค่ะ
1.ประเทศเกาหลีใต้ หรือ สาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวมากมาย มีพื้นที่ครอบคลุมส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี ทางเหนือติดกับประเทศเกาหลีเหนือ ทางตะวันตกล้อมรอบด้วยทะเลเหลือง และมีประเทศญี่ปุ่นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้
2.สภาพอากาศของประเทศเกาหลีใต้
3.เวลาของเกาหลี : เวลาของเกาหลีใต้ จะเร็วกว่าเวลามาตรฐานสากล 9 ชั่วโมง และเร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง ค่ะ
4.สกุลเงิน : สกุลเงินของประเทศเกาหลีใต้ คือ “วอน” (Korea won: KRW) ประเภทธนบัตร ของเกาหลีใต้จะมี 3 ชนิดคือ ธนบัตร จำนวน 1,000 วอน 5,000 วอน 10,000 วอน 50,000วอน
ประเภทเหรียญ ได้แก่ 1 วอน, 10 วอน, 50 วอน ,100 วอน, 500 วอน ค่ะ
5. การใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตสำหรับนักท่องเที่ยว : ในทริปนี้เราใช้ ซิมทูไฟล์ ais ค่ะ สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิเลย รวดเร็วมาก เจ้าหน้าที่ติดตั้ง และลงทะเบียนให้เรียบร้อย และมีวิธีการเปิดซิมการ์ดให้ด้วย ในส่วนอินเทอร์เน็ต ในประเทศเกาหลี ปัจจุบันมีสัญญาณ Free WiFi ให้บริการอยู่เยอะมาก ตามถนนหนทาง โดยเฉพาะบริเวณ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม คาเฟ่ร้านกาแฟใหญ่ๆ มีสัญญาณฟรีทุกร้าน แถมยังสามารถ VDO Call ผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ กับคนที่บ้านได้สบาย หรือโรงแรม จะมี Free WiFi ไว้บริการทุกที่อยู่แล้ว แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม และสัญญาณแรงไปจนถึงในห้องนอนเลยทีเดียวค่ะ สะดวกสบายสุดๆ
6.เอกสารที่ต้องใช้ในการเดินทาง
--------------
คืนแรกของการเดินทาง หัวหน้าทัวร์นัดเจอยังจุดนัดพบที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 23.00น. เราเพื่อเวลาไปถึงสนามบินก่อนเวลานัดเพื่อจัดการเรื่องซิมการ์ดที่ต้องใช้ ทานอาหารเย็นให้เรียบร้อย พอได้เวลานัด เราก็เดินไปยังจุดนัดพบ จะมีพี่ๆหัวหน้าทัวร์ยืนต้อนรับ แจกเอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการเดินทาง และติดแท็กกระเป๋าให้ สะดวกสบายสุดๆ เลยค่ะ
ทริปนี้เราเดินทางด้วย สายการบิน Air AsiaX (Flight : XJ700 BKK-ICN) เราได้ที่นั่งโซน Quiet เป็นที่นั่งที่พิเศษ เพราะชื่อก็บอกแล้วว่าเงียบ เหมาะสำหรับ คนที่ต้องการพักผ่อน โดยจะเป็นส่วนที่แยกออกมา ระหว่าง flatbed และ ที่นั่ง standard seat โดนจะมีม่านกั้นค่ะ บริเวณเบาะที่นั่งกว้างกำลังดีปรับเอนเบาะได้สะดวกสยาย นั่งแถวละ 3 ท่าน มีบริการอาหารบนเครื่องด้วยค่ะ เราใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 5ชั่วโมง จากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติอินซ็อน ประเทศเกาหลีใต้ค่ะ
อาหารเช้าวันนี้ เป็นข้าวหนียวไก่ย่างน้ำจิ้มแจ่วแซ่บๆค่ะ
Day 1 : เที่ยวเมืองอินซ็อน เมืองสุดคิวท์ที่ได้ได้มีแค่สนามบิน
"อันยองฮาเซโย" สวัสดีเช้าวันแรกในเกาหลีใต้ค่ะ ในที่สุดเราก็เดินทางถึงประเทศเกาหลีใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ก็ถึง สนามบินนานาชาติอินชอน สนามบินแห่งนี้ถือเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ และได้มีการถูกการจัดอันดับให้เป็นสนามบินที่สะอาด และ เป็นสนามบินนานาชาติที่ดีที่สุดอีกหนึ่งแห่งของโลกอีกด้วยค่ะ
จุดแรกเราจะต้องเดินผ่านบริเวณ จุดตรวจ Q-CODE ค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจอยู่โดยแถวจะแบ่งเป็นฝั่งคนที่มี Q-CODE แล้ว ส่วนอีกแถวจะเป็นคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนมาต้องลงทะเบียนให้เสร็จก่อนถึงจะผ่านจุดนี้ไปได้ค่ะ แนะนำให้ลงทะเบียนออนไลน์ไปเลยค่ะจะได้ไม่เสียเวลา ส่วนของเรานั้นทางทัวร์ได้จัดการให้เรียบร้อยแล้วค่ะ จากนั้นนั่งรถไฟภายในสนามบินไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองค่ะ
หลังจากผ่าน ตม. เรียบร้อยทางทัวร์ให้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย จากนั้นมีการแนะนำไกด์ท้องถิ่น รวมถึงพี่สตาฟชาวเกาหลี ที่จะคอยดูแลเราตลอดทริปเลยค่ะ แล้วก็เดินไปขึ้นรถด้านหน้าสนามบินกัน บรรยากาศที่ประเทศเกาหลีใต้วันนี้ดีสุดๆ ไปเลยค่ะ อากาศเย็นสบายมีแสดงแดดอ่อนๆ ไม่ร้อนเลย มันดีต่อใจจัง อยากเที่ยวแล้ว
รถที่เราใช้เดินทางตลอดทริปนี้ก็คือรถคันนี้เลยค่ะ เป็นรถบัส 45 ที่นั่ง สมาชิกในทริปนี้มีทั้งหมด 25 คนนั่งได้สบายๆ เลย
จุดหมายแรกของเราในวันนี้ "เมืองอินช็อน" เมืองสุดคิ้วท์ที่ไม่ได้มีแค่สนามบิน
อินช็อน (เกาหลี: 인천, Incheon) เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศเกาหลีใต้ รองจากกรุงโซล และ ปูซาน อินซ็อนตั้งอยู่ในจังหวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของเกาหลีใต้ และนอกจากจะเป็นที่ตั้งของสนามบินแล้ว เมืองอินซ็อนยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม และน่ารักให้เราไปเช็คอินกันหลายที่อีกด้วย ไปตะลุยเที่ยวเมืองอินช็อนกันเลย...
ที่แรกไปชิลกันที่ อินชอนไชน่าทาวน์ (Incheon Chinatown, 인천 차이나타운) เที่ยวชมบรรยากาศชุมชนของชาวจีนที่อาศัยอยู่ในประเทศเกาหลีใต้ และ ชมสถานที่ต้นกำเนิดเมนู จาจังมยอน หรือ บะหมี่ดำยอดฮิตของคนเกาหลี ที่ต้องมีในทุกซีรีส์เกือบทุกเรื่องนั่นเอง
ไปจัดกันเลยค่ะ ร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ในย่ายนี้จะมีเมนู “จาจังมยอน” หรือ “จาจังเมียน” ขายอยู่ในทุกร้านใครชอบร้านไหนก็เลือกได้เลยจ้า ในวันนี้เราจัดกันที่ร้านนี้ค่ะ ร้านอยู่ตรงหัวมุมตึกใกล้กับโรงละคร ทุกคนอร่อยมากเลย บะหมี่เส้นเหนียวชามยักษ์ เสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงสุดเลิฟอย่างหัวไชเท้าดองสูตรเฉพาะของทางร้านมันเลิศมาก
หลังจากอิ่มท้องแล้ว พี่ไกด์พาเราเดินเล่นกันต่อชมบรรยากาศน่ารักๆ สองข้างทางของย่าน อินชอนไชน่าทาวน์ มีมุมน่ารักให้ถ่ายรูปเล่นมากมาย รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในย่านนี้ไม่ว่าจะเป็น พิพิธภัณฑ์จาจังมยอน โรงละคร คลับเจมูลโพ อุทยานจายู ขนมอร่อยๆ รวมไปถึง หมู่บ้านเทพนิยายซงโวลดง ที่เรากำลังจะเดินไปถึงอีกด้วย
เดินต่อมาเรื่อยๆ จนถึง หมู่บ้านเทพนิยายซงโวลดง ทงฮวามาอึล (Songwol-dong Fairy Tale Village, 송월동 동화마을) อีกหนึ่งจุดเช็คอินถ่ายรูปสวยๆในย่านนี้ เดินเข้าไปแล้วเหมือนเราหลุดไปในเมืองแห่งเทพนิยายเลยค่ะ สองข้างทางเต็มไปด้วยภาพวาดฝาผนัง และภาพวาดขนาดใหญ่ของเทพนิยายดังของโลก ไม่ว่าจะ สโนว์ไวท์ ซินเดอเรลล่า และเนิยายปรัมปราของเกาหลีอีกด้วย
หมู่บ้านเทพนิยายแห่งซงวอลดง (Songwol-dong Fairy Tale Village)
ถ่ายรูปกันจุใจแล้ว เดินทางต่ออีกนิดไปเช็คอินกันที่ Wolmi Theme Park สวนสนุกวอมิโดล(Wolmi Theme Park, 월미테마파크) เป็นสวนสนุกขนาดมินิสุดน่ารัก ตั้งอยู่บนเกาะโวลมีโด เมืองอินชอน สวนสนุกแห่งนี้มีเครื่องเล่นมากมาย ที่เหมาะสำหรับครอบครัวทุกเพศทุกวัย เช่น High Shoot Shoot, Tagada Disco, เรือไวกิ้ง, ชิงช้าสวรรค์, สนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ภายในอาคาร รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับกิจกรรมทางน้ำและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ นอกจากนี้สวนสนุกยังเป็นสถานยอดนิยมในการถ่ายทำของหลายรายการวาไรตี้ทีวี ได้แก่ We Got Married, Two Days and One Night, Running Man และอื่นๆ อีกด้วย
Wolmi Theme Park สวนสนุกวอมิโดล
แต่ใดๆแล้ว เราก็ไปสะดุดรักที่พักใจ กับร้านขายต็อกและอูโด้งสุดน่ารักของคุณลุงคุณป้า ที่ตั้งอยู่หน้าสวนสนุกมากเลยค่ะ ติ่งซีรี่ส์อย่าเราอ่ะโน๊ะเห็นแล้วกระโดดเข้าใส่เลยค่ะ ได้สัมผัสบรรยากาศแบบในซีรีส์สักครั้ง คือการได้ทานต็อกอร่อยๆ พร้อมซดน้ำซุปอูโด้งร้อนๆ ท่ามกลางอากาศ 16 องศา ชิลๆ ริมทาง มันดีมากเลยทุกคนเหมือนได้หลุดไปอยู่ในซีรี่ส์เกาหลีเรื่องโปรดสักเรื่องเลยทีเดียว
แดดร่มลมตกเราก็ยังไม่หยุดเที่ยวกันค่ะ เดินทางกันต่อไปที่ Songdo Central Park (송도 센트럴파크) สวนสาธารณะสีเขียวใจกลางย่านธุรกิจของเมืองอินช็อน เป็นสวนสาธารณะที่ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างจากเซนทรัลพาร์คในมหานครนิวยอร์ก ของประเทศสหรัฐอเมริกาเลยจ้า สวนแห่งนี้เปรียบเสมือนโอเอซิสธรรมชาติในเมือง ที่ถูกรายล้อมไปด้วย ตึกสูง อาคารที่ทันสมัย บรรยากาศดีมากๆ เลยค่ะ ยิ่งช่วงนี้ใบไม้กำลังเริ่มเปลี่ยนสีแล้วด้วย เป็นสถานที่พักผ่อนที่ชิลสุดๆ
เดินทางต่อไปยังย่าน Gimpo จังหวัดคยองกีโด, Gyeonggi-do เราจะไปทานมื้อเย็นกันที่นั่น กับอาหารขึ้นชื่อของเกาหลีอย่าง บุลโกกิ Bulgogi (불고기) มีความหมายว่า เนื้อย่างเกาหลี ที่นำมาขลุกขลิกกับซุปบุลโกกิกะทะร้อน จะเรียกว่าเป็นสุกี้กึ่งน้ำกึ่งแห้งก็ได้ เป็นหนึ่งในอาหารเกาหลีที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ทั้งยังเป็นอาหารยอดนิยมในประเทศเกาหลีใต้ที่สามารถพบเจอได้ตามร้านอาหารทั่วไป ทานคู่กับเครื่องเคียงอย่างกิมจิ ยำสาหร่าย หัวไชเท้าดอง มันเข้ากันได้ดี แต่ถ้าจะให้เพิ่มความฟินไปอีกก็แนะนำให้เทกิมจิลงไปในกะทะเลยค่ะ อร่อยแบบตะโกนเลยนะ
อิ่มท้องกันแล้วเดินทางเข้าที่พักกันที่ L'ART HOTEL ที่พักสุดชิลย่าน Gimpo ใจกลางจังหวัดคยองกีโด, Gyeonggi-do จังหวัดที่อยู่ใกล้กับกรุงโซล ใช้เวลาเดินทางจากใจกลางกรุงโซลเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น เราจะพักที่นี่กันสองคืนค่ะ ที่พักเป็นตึกสูง 12 ชั้น บรรยากาศภายนอกเดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนเช้านะจ๊ะ เพราะมาถึงก็ฟ้ามืดแล้ว รีวิวห้องไปก่อนละกัน ภายในที่พักตกแต่งเรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์น บริเวณที่พักสะอาดมาก ภายในห้องพักกว้างขวาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตู้เย็น กาน้ำร้อนชุดชากาแฟ ตู้เซฟ มีฮีตเตอร์ให้สำหรับในช่วงฤดูหนาว มีแอร์เย็นฉ่ำให้สำหรับช่วงฤดูร้อน ห้องน้ำแยกโซนเปียกโซนแห้ง แถมน้ำก็แรงซะใจสุดๆ ไปเลยจ้า
เก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อย มาเกาหลีทั้งทีต้องใช้เวลาให้คุ้มคืนนี้ยังไม่จบง่ายๆ เราไปเดินเล่นท้าลมหนาวสำรวจบริเวณพื้นที่รอบๆ ที่พักกันซะหน่อย ใกล้ๆที่พักมีร้านรวงเปิดบริการมากมายทั้ง มินิมาร์ท ร้านขายผลไม้ ร้านขายของฝาก บาร์เล็กๆ ฟิลล์แบบต่างจังหวัดบ้านเรา
สุดท้ายเราก็ไปจบทริปวันนี้ที่ ร้าน bhc chicken ร้านไก่ทอดกับเบียร์ อีกหนึ่งเจ้าชื่อดังของเกาหลีค่ะ จบวันได้สวยงาม และคลุ้มสุดๆ ไปเลย สำหรับวันแรกในประเทศเกาหลีใต้
Day2 : เที่ยวกรุงโซล ช้อปเครื่องสำอางแบรนด์ดัง ตะลุยเที่ยวสวนสนุก Lotte World เช็คอินชมบรรยากาศวัยรุ่นเกาหลีที่ย่านฮงแด
อันยองฮาเซโย ทักทายกันเช้าวันที่สองของทริป ตื่นกันแต่เช้าทานอาหารเช้าในที่พักกันแต่เช้าค่ะ อาหารเช้าในที่พักจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์สไตล์เกาหลีเกาใจ มีเมนูหลากหลายออกไปทางเพื่อสุขภาพ มีเมนูผัก ไข่ ซุป ขนมปัง สลัด ที่ขาดไม่ได้คือสาหร่าย และกิมจิค่ะ เลือกทานกันได้อย่างจุใจไปเลยค่ะมีพนักงานเติมตลอด
พร้อมแล้วเดินทางเข้ากรุงโซล (Seoul)กันค่ะ
จุดแรกที่ไปของวันนี้เราแวะไปที่ ศูนย์สมุนไพร Hogaenamu Herb สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการกำจัดสารพิษภายในร่างกาย บำรุงตับ ซึ่งจะมีขายแค่ในประเทศเกาหลีใต้เท่านั้น
ไปต่อกันที่ สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World) เป็นสวนสนุกที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ มีขนาดใหญ่โต ภายในจะแบ่งเป็นสองโซนใหญ่ๆคือ Lotte World Adventure และ Magic Island นอกจากนี้ยังมีโลกใต้ดิน “Underland” อยู่ใต้ Lotte World Adventure ซึ่งเป็นสวนสนุกธีมนิทานพื้นบ้านเกาหลี ในทริปนี้เราไปเที่ยวกันสองส่วนค่ะคือ Lotte World Adventure และ Magic Island ราคาตั๋วจะรวมอยู่ในราคาทัวร์ที่เราซื้อมาแล้วค่ะ และตั๋วจะรวมเครื่องเล่นเกือบทุกอย่างแล้วค่ะ โดยในสวนสนุกแห่งนี้จะมีเครื่องเล่นรวมๆกันแล้ว 50 กว่าชนิดเลยค่ะ
Lotte World Adventure สวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ เป็นสวนสนุกที่จะไปเที่ยววันไหนของปีก็ได้ เล่นสนุกได้ทุกสภาพอากาศ ภายในสวนสนุกแบ่งเป็นโซนต่างๆ ตามสไตล์ ของประเทศที่มีความแตกต่างหลากหลาย มีร้านอาหาร ของฝาก มากมาย ตอนกลางวันจะมีขบวนพาเหรดการ์ตูนดังระดับโลกสลับสับเปลี่ยนกันไปตลอดทั้งปีอีกด้วย
แต่ถ้าใครชอบความตื่นเต้น แนะนำให้ไปขึ้นโรลเลอร์โคสเตอร์สุดหวาดเสียว ส่วนที่อยู่ out door ที่ Magic Island ค่ะ ส่วนใครที่อยากเล่นแบบเหวี่ยงเบาๆ เขย่าน้อยๆ ก็อาจนั่งชิลๆ อยู่บนม้าหมุนหรือเครื่องเล่นอื่นๆ หลายชนิดที่นุ่มนวลกว่า ส่วนเครื่องเล่นหวาดเสียว 2 ชนิดที่ใครๆ ก็ไม่อยากพลาดก็คือ World Monorail และ Hot Air Balloon Ride เพราะขึ้นไปแล้วมองเห็นสวนสนุกทั้งสองแห่งในมุมสูงชัดเจน เรียกได้ว่าไปทีเดียวได้สองบรรยากาศไปเลยคุ้มสุดๆ นอกจากนี้ยังมีห้าง Lotte World Mall แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของโซล และ ไฮไลต์เด็ดอย่าง Lotte World Tower ตึกที่สูง 555 เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศ ยังตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันอีกด้วยจ้า แนะนำสำหรับใครที่มีเวลาก็สามารถแวะมาเดินเที่ยวกันต่อได้จ้า
เช็คอินชมบรรยากาศวัยรุ่นเกาหลีที่ "ย่านฮงแด"
ย่านฮงแด เป็นแหล่งช๊อปปิ้งสำหรับวัยรุ่นที่ไม่ควรพลาด ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮงอิก หลังจากนั้นจึงได้รับการตั้งชื่อ มีชื่อเสียงในด้านศิลปะในเมืองและวัฒนธรรมดนตรีอินดี้ร้านค้าในท้องถิ่นคลับและความบันเทิง และยังถือเป็นย่านวัฒนธรรมของเกาหลี เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่รวบรวมทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้ง กิจกรรมสนุกๆมากมายเอาไว้ในที่เดียวกัน
ประเดิมด้วยร้านอร่อยประจำย่านฮงแดที่พี่ไกด์บอกไว้ว่าห้ามพลาดกับร้านขนม พุงออ-ปัง (ขนมปลา) และ เค-รัน-ปัง (ขนมปังไข่เกาหลี) ร้อนๆ ก่อนเดินสำรวจย่ายฮงแดกันค่ะ ทางหัวหน้าทัวร์ปล่อยให้เราเดินเล่นกันเองในย่านนี้ให้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงเลยค่ะ
คาเฟ่ ร้านดูดวง ร้านขายของมากมาย เดินเล่นเพลินสุดๆ
ไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟ ก็ห้ามพลาดนะจ๊ะ ยาวมากกกก อร่อยด้วย พ่อค้าก็หล่อ!!
อีกฝั่งของถนน มีลานกิจกรรม สำหรับบรรดาวัยรุ่นเกาหลีได้มาแสดงความสามารถกันตรงนี้จ้า ทั้งร้อง เล่น เต้น ก็มีน้องๆน่ารักมาโชว์ความสามารถกันค่ะ
ถึงเวลานัดเจอกับสมาชิกในทริปเย็นนี้เราจะไปจบทริปกันด้วยมื้อเย็นสุดแสนอร่อยกันที่ ร้าน Doi Jee Sang Hoi ไปสัมผัสบรรยากาศการกินหมูย่างเกาหลีแท้ๆกันค่ะ ร้านตั้งอยู่ในย่างฮงแดเลย ความหมายของชื่อร้านก็ประมาณว่า ตลาดของหมู น่ารักเชียวค่ะน่ารักเหมือนเจ้าของร้านและพนักงานในร้านเลย อิอิ นอกเรื่องไปนิด กลับมาที่การร้านตกแต่งของร้านค่ะ ร้านตกแต่งด้วยโทนสีแดงเห็นชัดมาแต่ไกล ทางเข้าร้านจะมีหัวใจสีเหลืองดวงใหญ่ตั้งเด่นสังเกตุง่ายค่ะ ส่วนป้ายหน้าร้านก็มีน้องหมูสองตัวยืนต้อนรับด้วยจ้า ในร้านก็แบ่งเป็นโต๊ะ เราทานกันเป็นแบบบุฟเฟ่ต์เติมได้ไม่อั้นจ้า จะมีทั้งหมู และ เนื้อ ที่จะนำไปปิ้งอย่างทานกับผักสดและเครื่องเคียงเท่านั้น อร่อยมากมื้อนี้แฮ๊ปปี้สุดๆ ใครไปเที่ยวแถวฮงแดก็แวะไปทานกันได้นะจ๊ะ
Day 3 : พิพิธภัณฑ์สาหร่าย กินชาบูสไตล์เกาหลี ใส่ชุดฮันบกเที่ยวพระราชวังเคียงบ็อค ถนนคนเดินเมียงดง ชมบรรยากาศยามค่ำคืนกรุงโซลสุดโรแมนติดที่ N Seoul Tower
อันยองฮาเซโยค่ะ สวัสดีเช้าวันที่สามในเกาหลีใต้ค่ะ วันนี้เราตื่นกันแต่เช้าเหมือนเคย ทานอาหารเช้าในที่พัก เช็คเอาท์ ยกกระเป๋าเตรียมเดินทางไปเที่ยวกันต่อเลยค่ะ ในช่วงเช้าของวันนี้เอาใจสายสุขภาพกันหน่อย ไปเยี่ยมชม ศูนย์โสมรัฐบาล และ ร้านสมุนไพรRed Pine ที่ทำผลิตภัณฑ์จากน้ำมันสน ที่มีสรรพคุณบำรุงร่างกายค่ะ
จากนั้นไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์สาหร่าย ที่นี่เพลิดเพลินมากค่ะ เพราะเราจะได้ชมขั้นตอนการทำสาหร่ายเกาหลีและได้มีการทดลองทำคัมบับกันด้วยจ้า สนุกสนานสุดๆ
มื้อกลางวันที่ ร้าน Gwang leung bool gogi วันนี้เราจะไป กินชาบูสไตล์เกาหลี กันค่ะ
เดินย่อยกันที่ คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon) หรือ คลองชองเกชอน อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวกันค่ะ คลองนี้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณตั้งแต่ยุคของราชวงศ์โชชอน มีอายุมากกว่า 600 ปี ยาวประมาณ 11 กิโลเมตร ไหลผ่านกลางกรุงโซล ปัจจุบันได้มีการจัดทำขึ้นใหม่ให้มีภูมิทัศน์ที่สวยงาม และกลายเป็นแหล่งเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางเมืองที่วุ่นวาย เหนือคลองจะมีสะพานทั้งหมด 20 สะพานที่ออกแบบมาด้วยคอนเซ็บที่แตกต่างกันในช่วงเวลากลางคืนนั้นจะมีการเปิดไฟประดับตามทางเดินอย่างสวยงาม สามารถเดินเล่นเลียบคลองแห่งนี้ได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนเรานั้นมีเวลาไม่เยอะเลยขอเดินเล่นแถวบริเวณน้ำตกพอค่ะ ใครที่อยากดื่มกาแฟแถวนี้ก็มีคาเฟ่หลายร้านนะคะไปชิมกาแฟเกาหลีกันได้จ้า
ไปกันที่โปรแกรมหลักของวันนี้ มาเกาหลีครั้งแรกห้ามพลาดที่จะใส่ชุดฮันบกถ่ายรูปคู่กับพระราชวังค่ะ ก่อนอื่นขอตัวไปแปลงโฉมตัวเองให้เป็นพระมเหสี สมัยราชวงโชซอนตามรอยซีรี่ส์ดังสักเรื่อง กันก่อนค่ะ ราคาชุดจะไม่รวมในทัวร์นะคะ ราคาชุดจะมีตั้งแต่ 8,000-15,000 วอนค่ะ ใครอยากแต่งชุดแบบนี้ก็แจ้งหัวหน้าทัวร์ได้เลยค่ะ ถ้าใครไปเที่ยวเองร้านชุดจะมีให้เลือกเช่ามากมายหน้าพระราชวังเลยค่ะ พอไปถึงร้านเลือกได้เลยค่ะว่าอยากจะแต่งแบบไหน มีทั้งชุด ผม เครื่องประดับ
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” สัญญลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล เพราะเป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ และเก่าแก่ที่สุดในกรุงโซล สร้างขึ้นสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน การเดินท่องเที่ยวภายในบริเวณพระราชวัง จะทำให้ได้ซึมซับและรู้จัก วัฒนธรรม วิถีชีวิตของชาวเกาหลีมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายในบริเวณแห่งนี้ ยังมีพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แห่งความภาคภูมิใจของคนเกาหลีค่ะ วันนี้เรามีเวลาไม่มากเพราะฝนตก เลยเก็บภาพได้บริเวณด้านหน้าและบริเวณท้องพระโรงมาฝากค่ะ เลือกมุกกันได้เลยค่ะ
เอาใจขาช้อปกันบ้างสำหรับใครที่อยากซื้อของแบรนด์เนม ทางทัวร์จะพาเราไปช้อปกันที่ SHINSEGAE DUTY FREE ค่ะ มีทุกแบรนด์ให้หาอะไรให้สอบถามพี่ไกด์และหัวหน้าทัวร์ได้เลยจ้า ส่วนเราไม่ได้ช้อปเลยขอพี่หัวหน้าทัวร์รออยู่แถวหน้าตึกถ่ายรูปเล่นรอค่ะ สวยมากเลย
วิวจากตรงนี้มองเห็น N Seoul Tower ไกลๆ ด้วยค่ะ
เดินกันต่อไปที่ถนนคนเดินเมียงดง จากบริเวณ SHINSEGAE DUTY FREE เราเดินตัดลงที่ทางรถไฟใต้ดินเพื่อข้ามถนนไปที่ถนนคนเดินเมียงดง เราจะผ่านร้านคุณป้าปากแดง ใครที่อยากซื้อของถูกเครื่องสำอาง บอกป้าร้านป้ามีทุกอย่าง ทั้งลด ทั้งแถม คุณป้าใจดีมากเลยค่ะ
ถนนคนเดินเมียงดง หรือ มยองดง (Myeong-dong) เป็นย่านช้อปปิ้งที่ฮิต และ คักคักที่สุดที่นึงของกรุงโซลเลยค่ะ ปัจจุบันกลับมาเปิดได้ประมาณ 40% แล้วค่ะ มีครบครันทั้งสินค้าแบรนด์เนม เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ร้านอาหาร จุดช้อป รวมไปถึงร้านค้าแผงลอยที่ได้รสชาติแบบคนเกาหลีแท้ๆ ให้เราได้สัมผัสบรรยากาศถนนคนเดินของคนเกาหลีกันจ้า
เราก็ไม่พลาดที่จะไปเดินชิมของกินตามรถเข็นข้างทางจำพวกต็อกบกกิ ออมุก ทวิกิม โมจิ หรือของทอดอย่างเฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอด มันหวาน เพลิดเพลินสุดๆ เลยค่ะ
ถึงเวลานัดพบ มื้อเย็นวันนี้ทางทัวร์พาเราจะไปทาน "จิมดัก" หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของเกาหลี และยังเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถูกปากคนไทยอีกด้วยค่ะ อารมย์จะคล้ายๆไก่พะโล้บ้านเราแต่จะมีรสชาติซอสที่เข้มข้น มีความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศที่เข้าถึงเนื้อไก่ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยสุดๆเลยค่ะ
ไฮไลท์ของทริปนี้ยังไม่จบแค่นี้ค่ะ หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อย จุดหมายสุดท้ายของค่ำคืนสุดท้ายในเกาหลี เราจะไปชมวิวบรรยากาศกรุงโซลยามค่ำคืน ที่ โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ (N Seoul Tower) กันค่ะ แต่ในทริปนี้เพื่อความได้อรรถรสของการมาเที่ยวเกาหลีที่แท้ทู พี่ไกด์เลยพาเรานั่งรถบัสขึ้นไปเที่ยวบนยอดเขานัมซังกันค่ะ ตื่นเต้นสุดๆเลยค่ะ
โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ (N Seoul Tower) หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโซล ตั้งอยู่บนยอดเขานัมซัง มีความสูง 236 เมตร เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่เราสามารถชมวิวบรรยากาศกรุงโซลได้แบบ พาโนราม่า ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และนับว่าเป็นหนึ่งในทาวเวอร์ที่ให้วิวสวยที่สุดในเอเชีย ซึ่งโซลทาวเวอร์ ได้รับการ renovate ใหม่อีกครั้งและมีชื่อใหม่ว่า N Seoul Tower โดย N ที่เพิ่มขึ้นมานั้นย่อมาจาก new look หรือ รูปแบบใหม่ โดยมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาการต่างๆ ทั้งการให้แสงไฟที่หลากหลายและสวยงามขึ้น
และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเที่ยว N Seoul Tower นั่นก็คือ สถานที่คล้องกุญแจชื่อดัง Love Key Ceremony ที่มีความเชื่อว่าคู่รักที่มาคล้องกุญแจที่จะมีความรักที่ยืนยาวไปตลอดกาล โดยที่จะเขียนข้อความหรือชื่อของคู่รักไว้บนแม่กุญแจ แล้วนำไปคล้องไว้กับราวเหล็กบริเวณฐานของ N Seoul Tower วันที่เราไปดึกแล้วค่ะใกล้เวลาปิดทำการแล้ว เลยแอบเก็บบรรยากาศมาได้นิดหน่อย แต่ช่วงเวลานั้นคือคือสุดท้ายในเกาหลีที่ประทับใจมากเลยค่ะ วิวสวย ได้สัมผัสกับสายลมหนาวที่พัดมาทักทาย โรแมนติกสุดๆ ด้านบนยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และมุมให้ถ่ายรูปสวยๆอีกมากมายเลย รอบหน้าต้องไปซ้ำซะแล้วค่ะ
ถ่ายรูปกับ Love Key Ceremony กันเสร็จแล้วก็เดินกลับมาที่ป้ายรถบัสค่ะ และชมวิวกันอีก เอาจริงๆสวยทุกมุมเลยค่ะ
จากนั้นเราเดินทางกลับไปยังเมืองอินช็อนเข้าที่พักกันค่ะ ที่พักของเราในคืนสุดท้ายที่เกาหลีมีชื่อว่า BENIKEA The Biss Hotel ที่พักสไตล์โมเดิร์น ใจกลางเมืองอินซ็อน ไม่ไกลจากทะเล บรรยากาศโปร่งสบาย สะอาด ภายในห้องพักกว้าง ห้องน้ำในตัว สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองอินซ็อนด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น สวนสนุก Wolmi Theme Park และหมู่บ้านอินชอนเทพนิยาย
อันนี้นอกเหนือจากในโปรแกรมทริปนะคะ หลังจากเก็บของเข้าที่พักกันแล้ว ยังไม่อยากบอกลาเกาหลีค่ะ พี่ๆในทริปชวนไปต่อกันที่ร้านอาหารทะเลใกล้ๆที่พัก อยู่ไม่ไกลจากทะเล ในร้านจะฟิลล์แบบในซีรีส์เลย ปิ้งย่างอาหารทะเลสดๆ กินกันในเต้นท์แดง กินซาซิมิ ดื่มโซจู ท้าลมหนาวริมทะเลอินซ็อน อะไรประมาณนี้ค่ะ
Day 4 : เดินทางกลับ
เช้านี้ ได้เวลาบอกลาประเทศเกาหลีใต้กันแล้วจ้า เราตื่นกันแต่เช้ารับประทานอาหารเช้าในที่พัก แล้วเก็บกระเป๋ากลับบ้านกันค่ะ ก่อนกลับเราแวะ ละลายเงินวอน ซื้อของฝากกันที่ร้าน Supper Market แหล่งรวมของฝากมากมาย ทั้งขนม ของกิน ของใช้ ใครที่ยังช้อปไม่หนำใจก็ละลายเงินวอนให้หมดที่นี่ได้เลยจ้า
จากนั้นเดินทางมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติอินซ็อน พี่ๆในทริปที่ซื้อของกันแล้วได้ TAX REFUND ทางพี่หัวหน้าทัวร์ก็จะเพื่อเวลาไว้และพาไปแลกค่ะ ส่วนใครที่ยังช้อปไม่ซะใน ในสนามบินก็มีสินค้าแบรนด์ต่างๆ ร้านค้าของฝากบริการด้วยค่ะ เดินเล่นชิลๆกันได้เลย จากนั้นเราเช็คอินและเตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยกันได้เลยจ้า
จบการเดิน 5 วัน 3 คืน ทริปนี้เป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่ประทับใจสุดๆ เพื่อนๆพี่ๆทุกคนในทริปที่ร่วมเดินทางไปกับเรา สนุกสนาน น่ารักมากค่ะ ได้เพื่อนใหม่ และมิตรภาพที่สวยงามกลับบ้านเต็มกระเป๋าเลย พี่ไกด์ พี่หัวหน้าทัวร์ ก็ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวทุกที่ที่เราไปก็สวยงามมีเอกลักษณ์สุดๆ ผู้คนน่ารัก อาหารอร่อย ทริปนี้ถือเป็นเที่ยวเกาหลีใต้ครั้งแรกที่ประทับใจสุดๆ และเราจะกลับไปอีกนะ เกาหลีเกาใจที่รัก อันยอง..
"เพราะชีวิตคือการเดินทาง"
บทความแนะนำ:
ดูโปรแกรมทัวร์เกาหลีใต้ได้ที่นี่
Tags: เกาหลี SongdoCentralPark ประเทศเกาหลีใต้ อันยองฮาเซโย K-ETA สนามบินนานาชาติอินชอน อินซ็อน โซล อินชอนไชน่าทาวน์ IncheonChinatown Incheon หมู่บ้านเทพนิยายซงโวลดงทงฮวามาอึล Songwol-dong Fairy Tale Village Wolmi Theme Park สวนสนุกวอมิโดล Songdo Central Park
เที่ยวต่างประเทศ | 21 พ.ย. 2024 | 1,807 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 12 พ.ย. 2024 | 698 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,211 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 1,466 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 1,500 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 2,271 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 3,226 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 6,319 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 3,812 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 1,104 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 4,123 อ่าน