ทริปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน นอนแพกลางน้ำ ทานอาหารอร่อย

เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เดินทางไม่ไกล แต่ได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบจัดเต็มก็ต้องมาเที่ยวที่กาญจนบุรีเลยค่ะ แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะไปวางแผนเที่ยวอย่างไรดี วันนี้ชิลไปไหนได้นำทริปตัวอย่าง ทริปเที่ยวกาญจนบุรี 2 วัน 1 คืน  นอนแพกลางน้้ำ ทานอาหารอร่อย มาให้เพื่อน ๆ ได้ไปปรับใช้กัน ใครจะไปเที่ยวกาญจนบุรีก็นำตัวอย่างทริปนี้ไปใช้ได้เลย

เมื่อวางแผนการเดินทางกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ โดยทริปนี้เราจะเดินทางด้วยรถส่วนตัวออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า จุดหมายแรกที่เราจะไปนั่นก็คือ ต้นจามจุรียักษ์ ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางจากรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ต้นจามจุรียักษ์ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งที่ที่ควรมาเช็คอินเลยค่ะ เพราะต้นไม่ต้นนี้มีอายุยืนยาวกว่า 100 ปี ขนาด 10 คนโอบ ใครที่เดินทางมึงถึงรับรองเลยว่าต้องตื่นตาตื่นใจกับความใหญ่โตมโหฬารของต้นจามจุรียักษ์ต้นนี้อย่างแน่นอน ทั้งยังมีกิ่งก้านสาขาที่ปกคลุมไปทั่งทั้งบริเวณ ทำให้ร่มรื่นสุด ๆ เลยค่ะ

ใต้ต้นจามจุรีจะมีสะพานยกที่สูงจากพื้นดิน แต่ละจุดจะทอดยาวออกมา สามารถมานั่งเล่นชิล ๆ หรือจะถ่ายรูปก็สวยสุด ๆ  นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเข้ามาเยี่ยมชมฟรีอีกด้วย ห้ามพลาดเลยค่ะ

ต้นจามจุรียักษ์

ที่ตั้ง : บ้านกสิกรรม ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี (ตั้งอยู่ภายในกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 1 (กองผสมสัตว์)

เปิดทำการเวลา: วัน จ.-ศ. 08.30-16.30 น. , เสาร์-อาทิตย์ 08.30-17.00 น

GPS: https://goo.gl/maps/rcGfnpU9eZN3o1ed9

เมื่อถ่ายรูปและชมความอลังการของต้นจามจุรียักษ์กันจนจุใจแล้ว เราก็เดินทางกันต่อเลย โดยจุดหมายต่อไปที่เราจะไปนั่นก็คือ ต้องกาญ คาฟ่ คาเฟ่เปิดใหม่ในกาญจนบุรี ที่นี่เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ต้องมาเช็คอินเลยค่ะ เพราะนอกจากอาหารจะอร่อยแล้ว มุมถ่ายรูปยังเยอะมาก ๆ เริ่มมาตั้งแต่ทางเข้าคาเฟ่ที่เขาจะจักเป็นซุ้มพร้อมป้ายชื่อร้านนน่ารัก ๆ สามารถมาถ่ายเช็คอินตรงนี้ได้เลย และเมื่อเดินเข้ามาภายในร้าน จะมีสวนเล็ก ๆ ที่ปลูกดอกไม้สีสันสดใสไว้ตามทางเดิน มีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงา ทำให้เย็นสบาย ร่มรื่น และสดชื่นสุด ๆ เลยค่ะ

ภายในตัวร้านมีให้เลือกนั่งหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนอินดอร์ตากแอร์เย็น ๆ โซนเอาท์ดอร์นั่งทานอาหารริมแม่น้ำ ซึ่งโซนนี้เป็นโซนที่สามารถพาน้องหมาน้องแมวเข้ามาได้ด้วยค่ะ คนรักสัตว์ถูกใจอย่างแน่นอน โซนแพที่สามารถมานั่งทานอาหารเย็นพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน หรืออีกหนึ่งโซนที่วิวดีไม่แพ้กันนั่นก็คือโซนด้านบนที่จะตกแต่งเป็นสไตล์บาหลี มีบีนแบคที่น้ำตาล ด้านหน้ามีเปลตาข่ายที่สามารถมานั่งถ่ายรูปเก๋ ๆ หรือชมวิวแม่น้ำจากมุมสูงได้ บอกเลยว่าเป็นคาเฟ่ที่มีที่นั่งให้เลือกเยอะมากกกกก

ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มก็จัดเต็มทั้งคาวและหวาน เพราะเขามีเมนูให้เลือกเยอะมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ เบอเกอรี หรืออาหารจานเดียวอย่าง พิซซ่า สปาเกตตี สเต๊ก สลัด หรืออาหารใต้ก็มีให้เลือกทานเช่นกันค่ะ เนื่องจากเจ้าของร้านเป็นคนใต้ รับรองเลยว่าถึงอร่อยเหมือนไปทานนที่ใต้แน่นอน

ต้องกาญคาเฟ่

ที่ตั้ง : 10 ถนน ลาว ตำบล ท่ามะขาม อำเภอเมืองกาญจนบุรี กาญจนบุรี 71000

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00–23.00 น.  

ราคา : เริ่มต้น 55 บาท

โทรศัพท์ : 0898888015 

Facebook : ต้องกาญ คาเฟ่

GPS : https://goo.gl/maps/UTMCuYMdSgzeaMxn7

และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราก็เดินทางกันต่อเลยค่ะ โดยเราจะเดินทางต่อไปที่ ถ้ำกระแซ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวฮอตฮิตของกาญจนบุรี ภายในถ้ำกระแซมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ สามารถมาไหว้พระขอพรได้ค่ะ เมื่อไหว้พระเรียบร้อยแล้วเราก็เดินออกมาถ่ายรูปกันที่ทางรถไฟมรณะต่อเลย ภาพที่ได้ก็จะสวยเก๋สุด ๆ เพราะมีทางรถไฟอยู่ติดเลียบผา เห็นวิวแม่น้ำแควน้อย พร้อมต้นไม้สีเขียวชะอุ่มเรียงรายกันเป็นทิวแถว ร่มรื่นสุด ๆ เลยค่ะ

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของฝากให้ได้ลือกซื้อกัน ใครเป็นสายช้อปปิ้งสามารถมาเลือกซื้อของใช้ ของฝาก ติดไม้ติดมือกลับไปได้ค่ะ

ถ้ำกระแซ

ที่ตั้ง : ตำบลวังโพธิ์    อำเภอไทรโยค    จังหวัดกาญจนบุรี

GPS: https://goo.gl/maps/YiL1UPdA45kCXodT7

หลังจากไปตระเวนมาหลายที่ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้วค่ะ โดยมื้อนี้เราจะไปฝากท้องกันที่ ไอซ์โภชนา ร้านอาหารไทยพื้นบ้านที่ที่ตกแต่งในสไตล์ลอฟท์เท่ ๆ แถมบรรยากาศดีอีกด้วย มีโซนให้เลือกนั่งทั้งโซนห้องแอร์ และโซนด้านนอกรับลมธรรมชาติมองเห็นวิวภูเขา ด้านหน้ามีคาเฟ่เล็ก ๆ ไว้ให้บริการ

ในส่วนของเมนูก็มีให้เลือกหลากหลายมาก ๆ โดยจะเน้นเป็นอาหารพื้นบ้านซะส่วนใหญ่ค่ะ แต่เมนูเด็ดห้ามพลาดเลยก็คือปลาคังผัดฉ่า แกงคั่วเห็ดเผาะ แป๊ะซะปลาช่อน ผัดผักกูด ต้มยำไก่บ้าน และเห็ดโคนผัดน้ำมันหอย รสชาติอร่อยแถมราคายังน่ารัก ถ้าใครมาเที่ยวกาญจนบุรีแล้วไม่รู้จะฝากท้องไว้ที่ไหน ไอซ์โภชนาก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่แนะนำมาก ๆ ค่ะ

ไอซ์โภชนา

พิกัด : ถนนแสงชูโต ตรงข้ามกับน้ำตกไทรโยคน้อย ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เวลาเปิดบริการ :  ทุกวัน 10.00-21.30 น.
โทร : 083-9736576, 034-565221

GPS : https://goo.gl/maps/PAdsMLtDJDizEhZt5

หลังจากเที่ยวมาทั้งวัน ต่อไปก็ถึงเวลาเข้าที่พักกันแล้ว คืนนี้เราจะนอนกันที่ Leaf Lake Kan Resort (ลีฟ เลค กาญ รีสอร์ต) ค่ะ ที่นี่เป็นที่พักที่ได้แรงบรรดาลใจในการตกแต่งมาจากต้นขานาง ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อมาถึงเราก็มาเช็คอินกันก่อนเลยค่ะ โซนล็อบบี้จะเป็นโอเพ่นแอร์ หลังคาสูงโปร่ง ทำให้ลมโกรกโล่งสบาย ทั้งยังมองเห็นวิวที่พักที่ตั้งอยู่กลางน้ำ พร้อมวิวภูเขาที่เรียงรายกันอยู่ สามารถมานั่งชิล ถ่ายรูปสวย ๆ ดื่ม welcome drink ให้หายเหนื่อยระหว่างรอเช็คอินได้ค่ะ

วันนี้เราเลือกพักเป็น Floating jacuzzi twin ค่ะ เป็นแพที่ตั้งอยู่กลางน้ำ ภายในห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ชั้น มีเตียงคิงไซซ์ 2 เตียง และเตียงขนาด 3.5 ฟุตอีก 1 เตียง มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสามาร์ททีวี ตู้เย็น มินิบาร์ สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผม ฯลฯ นอกจานี้ภายในห้องพักยังมีโซฟาที่สามารถมาานั่งเล่น ดูทีวีเพลิน ๆ ได้ สะดวกสบายสุด ๆ ค่ะ

ด้านหน้าห้องพักมีระเบียงที่สามารถออกไปนั่งเล่นได้ และไฮไลต์ของห้องนี้ก็คืออ่างจากุชชี่ พร้อมวิวที่เห็นผืนน้ำอันกว้างใหญ่ และภูเขาสีเขียวขะอุ่ม มาพักที่นี่รับรองได้ว่าสูดโอโซนกันได้เต็มที่เลยค่ะ

และก็ถึงเวลาของอาหารเย็นแล้วค่ะ โดยเราจะทานอาหารเย็นกันที่ที่พักเลย ห้องอาหารของที่นี่จะเป็นโอเพ่นแอร์ทั้งหมด มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบอินดอร์ และเอาท์ดอร์ เมนูอาหารของที่นี่ก็มีหลากหลายเมนูทั้งยำปลาแซลมอน, ต้มยำ, กุ้งผัดพริกเกลือ, ผลไม้ และของทานเล่นอย่างเฟรนช์ฟรายส์ ไก่ทอดก็มีเช่นกันค่ะ โดยห้องอาหารเปิดตั้งแต่เวลา 07.00-21.00 น. 

เผลอแป๊บเดียวก็ถึงเช้าวันที่ 2 แล้วค่ะ ก่อนออกเดินทางเราก็ต้องเติมพลังกันก่อน มื้อเช้านี้เราจะทานอาหารกันที่ที่พักเลยค่ะ เพราะทางที่พักเขาจะจัดเป็นเซ็ตมาเสิร์ฟให้ที่ห้องเลย โดยสามารถเลือกได้ว่าจะรับเป็นอาหารไทยหรือยุโรป ซึงภายในเซ็ตจะมี American breakfast, ข้าวต้ม, โจ๊ก, นม, ครัวซองต์, นม, น้ำส้ม และอีกหลายเมนูแบบจัดเต็ม บอกเลยว่าอิ่มแน่นอนค่ะ

Leaf Lake Kan Resort (ลีฟ เลค กาญ รีสอร์ต)

ที่ตั้ง :  399, ตำบล ท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี 71250

ราคา : เริ่มต้น 4,995 บาท

โทรศัพท์ : 0949143555

Facebook : Leaf Lake Kan Resort - ลีฟ เลค กาญ รีสอร์ท

เว็บไซต์ : leaflakekans.com

GPS : https://goo.gl/maps/dhSk6eoEHrbTecEP6

ทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาต้องเดินทางต่อแล้วค่ะ โดยที่แรกที่เราจะไปในวันนี้นั่นก็คือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว มาเที่ยวกาญจนบุรีทั้งทีถ้าพลาดที่นี่ก็คงเหมือนมาไม่ถึง ที่นี่เป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน เพราะสร้างขึ้้นตั้งแต่นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยแรงงานของเชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ภายใต้การควบคุมของกองทัพญี่ปุ่น ก่อนจะถูกทิ้งระเบิดและพังทลายลงจากกองกำลังฝ่ายสัมพันธมิตร ต่อมารัฐบาลไทยได้ซื้อทางรถสายนี้มาจากประเทศอังกฤษและได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ กลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ประวัติศาสต์ที่ไม่ว่าใครที่มาเที่ยวกาญจนบุรีก็ต้องมาเช็คอิน

สะพานข้ามแม่น้ำแคว

ที่ตั้ง : ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/zN35Lm8qWzxqqoHK8

ต่อไปมาเอาใจสายบุญกันบ้างดีกว่าค่ะ โดยจุดมุ่งหมายต่อไปก็คือ วัดถ้ำเสือ วัดชื่อดังที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวกาญจนบุรีก็ต้องแวะเช็คอิน ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา มีพระพุทธรูปปางประทานพรขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนเนินเขาซึ่งตัวองค์พระประดับด้วยโมเสคสีทองทำให้ดูโดดเด่นและตระการตา พร้อมด้วยพระอุโบสถอัฏฐมุขทรงไทยประดับลวดลายสวยงาม และเจดีย์เจดีย์เกษแก้วมหาปราสาทสูง 69 เมตร นอกจากจะมาทำบุญ ไหว้พระ ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ใครที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมสวย ๆ ก็ห้ามพลาดที่นี่เช่นกันค่ะ

โดยการข้นไปสักการะนั้นมีให้เลือก 2 ทางคือ เดินขึ้นบันได 1,237 ขั้น ระยะทาง 1 กิโลเมตร หรือจะเลือกใช้บริการรถรางคนละ 10 บาทก็ได้ แต่บอกเลยว่าเมื่อขึ้นมาด้านบนแล้ว สวยงามจนหายเหนื่อยเลยค่ะ

วัดถ้ำเสือ

ที่ตั้ง : ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี

GPS: https://goo.gl/maps/qhpvrE3yGWozTTBu7

หลังจากไหว้พระขอพรกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนกลับกนรุงเทพฯ เราก็ไปเช็คอินคาเฟ่กันอีกสักหน่อยดีกว่าค่ะ โดยคาเฟ่ที่เราจะไปในวันนี้ก็คือ THE KeeRee คาเฟ่สไตล์มินิมอลที่มาาาพร้อมกับมุมถ่ายรูปสย ๆ เพียบ! ตัวร้านจะคุมโทนสีขาวดำ ตัดกับไม้เล็กน้อยเพิ่มความอบอุ่นกลมกลืนกับธรรมชาติ มีให้เลือกทั้งโซนอินดอร์ และเอาท์ดอร์ มาพร้อมกับมุมถ่ายรูปสุดฮิตอย่างมุมกระจกวงกลมที่ไม่ว่าจะถ่ายจากในร้าน หรือถ่ายจากนอกร้านก็สวยเก๋มาก ๆ ค่ะ 

ในส่วนของเมนูเขาก็มีให้เลือกครบเลยค่ะ ทั้งชา กาแฟ เบเกอรี หรือถ้าใครที่เริ่มหิวอยากทานอาหารที่จริงจังขึ้นมาหน่อย เขาก็มีอาหารจานเดียวอย่างข้าวหมูอบไข่ลาวา  สปาเกตตีผัดพริกแห้ง ข้าวหมูเทอริยากิ ข้าวยำไก่แซ่บ หรือจะเป็นของทานเล่นอย่าง เฟรนช์ฟราย, ชิกเก้นสไปซี่, ชีสบอล หรือนักเก็ตก็มีพร้อมเลยค่ะ

และแล้วก็ถึงเวลากลับกรุงเทพฯ กันแล้วค่ะ ทริปนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทริปที่เก็บครบทั้งที่กิน ที่เที่ยว แถมยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติ สูดโอโซน รีเฟรชร่างกายอีกด้วย ใครที่กำลังจะไปเที่ยวกาญจนบุรีสามารถนำทริปนี้ไปปรับใช้ได้เลยค่ะ

THE KeeRee (เดอะคีรี)

ที่ตั้ง : 205, ตำบล พังตรุ อำเภอท่าม่วง กาญจนบุรี 71110 

เวลาเปิดบริการ :  วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10:00–19:00 น. (หยุดวันอังคาร)

เสาร์อาทิตย์ เวลา 9:00–19:00 น.

ราคา : เริ่มต้น 65 บาท

โทรศัพท์ : 0895343578 

Facebook : THE KeeRee

GPS : https://goo.gl/maps/Gq5KYA7ACX6CxxERA

Tags: กาญจนบุรี ที่กินกาญจนบุรี ที่เที่ยวก่ญจนบุรี คาเฟ่กาญจนบุรี ต้นจามจุรียักษ์ ต้องกาญคาเฟ่ ถ้ำกระแซ ไอซ์โภชนา Leaf Lake Kan Resort ลีฟ เลค กาญ รีสอร์ต วัดถ้ำเสือ THE KeeRee

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้