10 จุดเช็คอินที่เที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย อัปเดตใหม่ 2022

ซาลามัต ดาตัง... มาเลเซียเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบเต็มรูปแบบแล้วนะรู้ยังงงง! ไม่ต้องกรอกเอกสารให้ยุ่งยากอีกต่อไป ไปเที่ยวมาเลเซียทั้งทีก็ต้องไปเยือนปีนังกันซักหน่อยนะคะ เพราะที่นี่เขามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่รอให้เราไปเช็คอิน และวันนี้ชิลไปไหนจะมานำเสนอ 10 จุดเช็คอินที่เที่ยวปีนัง ประเทศมาเลเซีย อัปเดตใหม่ 2022 จะมีที่ไหนบ้างตามมาดูกันเลยค่ะ

การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวปีนัง มาเลเซีย

1) พาสปอร์ตที่มีอายุใช้งานคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน

2) วัคซีนพาสปอร์ต 

ถ้าหากมีการฉีดวัคซีนครบ 2โดสอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไม่ต้องตรวจโควิด19 ทั้งก่อนเดินทางและเมื่อเดินทางถึงประเทศมาเลเซีย 

3) ไม่ต้องมีประกันโควิด

4) แลกเงิน 

ที่มาเลเซียใช้สกุลเงินเป็นริงกิตค่ะ 1ริงกิต =  8.02 บาทไทย **อัพเดตล่าสุดเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2565

5) ภาษา

ประชาชนทั่วไปส่วนใหญ่ที่ปีนังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ค่ะ สื่อสารกันได้สบายๆ

6) เสื้อผ้าชุดแต่งกาย

สามารถแต่งตัวได้ตามสบายเลยค่ะ สภาพอากาศที่ปีนังคล้ายบ้านเราอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 28-34 องศาเซลเซียส  ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีก็จะทำให้เราเดินเที่ยวเล่นได้สบาย

7) เวลาที่มาเลเซียจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมงค่ะ

8) ซิม

สามารถซื้อซิมสำหรับใช้ต่างประเทศของค่ายมือถือในเมืองไทยได้หรือสามารถไปซื้อที่โน่นได้ค่ะ ที่สนามบินจะมีเคาน์เตอร์ให้บริการอยู่

1. Escape Penang

ที่เที่ยวปีนัง มาเลเซีย

สวนสนุกที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ให้ความร่มรื่นย์แบบสุดๆ โดยจะแบ่งเป็น 2โซนหลัก ก็คือ โซน Adventure และ โซนสวนน้ำค่ะ สำหรับโซน Adventure จะเต็มไปด้วยเครื่องเล่นผาดโผนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ปีนผาจำลอง โหนสลิง ไต่เชือกบนที่สูง และเครื่องเล่นอีกมากมายที่มีทั้งความหวาดเสียวตื่นเต้นท้าทายสุดๆ เหมาะกับการมาหาประสบการณ์ใหม่ๆและใช้เวลากับเพื่อนหรือครอบครัว มากๆ 

สำหรับใครที่อยากจะไปดับคลายความร้อนแล้วเติมความสดชื่นให้กับตัวเอง ที่ Escape Penang มีโซนสวนน้ำให้เพื่อนๆได้ไปเล่นคลายร้อนกันอีกด้วยค่ะ ซึ่งที่โซนนี้มีเครื่องเล่นสุดไฮไลท์ ที่ได้รับการบันทึกจาก Guinness World Records ว่าเป็น สไลเดอร์น้ำชนิดล่องในห่วงยางที่ยาวที่สุดในโลก! มีความยาวถึง 1,111 เมตร ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่าใครๆก็คงชอบการได้หย่อนตัวลงในท่อสไลด์แล้วปล่อยใจไปกับช่วงเวลาที่ได้ดิ่งลงสระน้ำมันคงเป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นและโล่งมากๆ 

และใครที่อยากจะไปเล่นสไลด์เดอร์ที่ยาวที่สุด ที่นี่เขาจะมีบริการกระเช้าลอยฟ้าไปส่งที่จุดเริ่มต้นของสไลด์เดอร์ด้วยค่ะ ไม่ต้องเดินให้เมื่อยเลย นอกจากนี้ที่นี่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่เราสามารถเช่าได้ ไม่ว่าจะเป็น ตู้ล็อกเกอร์สำหรับเก็บของ รองเท้าผ้าใบ ผ้าเช็ดตัว ชุดว่ายน้ำสำหรับมุสลิม และถ้าหากใครที่อยากจะมีฟีลลิ่ง กลางเต๊นท์ ดีดกีต้าร์ ปิ้งบาบีคิว ที่นี่เขาก็มีโซนสำหรับคนที่อยากนอนกางเต๊นท์อย่าง Basecamp อีกด้วยค่ะ

ราคาเริ่มต้น:  111 ริงกิด หรือประมาณ 890 บาท (สำหรับอายุ4-12ปี) และ 167 ริงกิด หรือประมาณ 1,340 บาท (สำหรับอายุ 13-60 ปี) **แต่ถ้ามีการซื้อล่วงหน้าราคาก็จะถูกลงไปอีกนะคะ

พิกัด: 828, Jalan Teluk Bahang, Teluk Bahang, 11050 Tanjung Bungah, Pulau Pinang, มาเลเซีย

เวลาทำการ: 10:00 - 18:00 น. *หยุดทุกวันจันทร์

เพื่อนๆคนไหนที่ที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.escape.my/

2. Entopia By Penang Butterfly Farm

ที่เที่ยวปีนัง มาเลเซีย

ที่นี่เป็นเขตรักษาพันธุ์ผีเสื้อและแมลงเขตร้อนแห่งแรกของโลก ถือว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพาเด็กๆมาเรียนรู้และลองค้นคว้าเกี่ยวกับธรรมชาติจริงๆค่ะ เพราะที่นี่เขามี สัตว์มากกว่า 150 สายพันธ์ุ และพืชพรรณมากกว่า 200 สายพันธ์ุที่จะคอยถูกจัดแสดงในนิทรรศการทั้งหมดของ Entopia ค่ะ เมื่อได้เข้ามาเยือนที่ Entopia จะถูกแบ่งเหมือนเป็น 2 โลก นั่นก็คือ The Natureland สวนกลางแจ้ง และ The Cocoon แหล่งค้นคว้าและทดลองที่อยู่ภายในอาคาร 

The Natureland เป็นสวนจำลองที่มีชีวิต มีทั้งน้ำตก บ่อน้ำ ถ้ำ ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในป่าจริงๆ เป็นพื้นที่ที่จะทำให้เราได้เห็นระบบนิเวศของสัตว์ต่างๆที่ใช้ร่วมกันอย่างลงตัว เมื่อเข้ามาจะได้พบเจอกับสัตว์หลากหลายชนิดที่มีตั้งแต่สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และเราจะถูกรอบล้อมไปด้วยผีเสื้อที่กำลังสยายปีกสีสันสวยงามนับหมื่นตัวที่มีมากกว่า 60 สายพันธุ์บินไปมาเกาะตามต้นไม้ต่างๆด้วยค่ะ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นสวนผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของมาเลเซียอีกด้วย และถ้าได้เข้ามาในนี้ก็อย่าพลาดที่จะไปเดินชมบนระเบียงชั้นลอยของสวนด้วยนะคะ เพราะเราจะได้เห็นวิวสวยๆอีกมุมจากโซนนี้ด้วยค่ะ

สำหรับ The Cocoon จะเป็นอาคาร 2 ชั้น ที่ด้านในจะมีนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆคอยจัดอยู่เสมอ เพื่อให้เราได้ไปศึกษาและสำรวจโลกของสัตว์ต่างๆด้วยตัวเองค่ะ และเวลาที่เราได้เข้ามาศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆเรายังจะได้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติที่สนุกสนานภายในโซนนี้อีกด้วยนะคะ สำหรับใครที่อยากพาเด็กๆมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเบื่อเลยค่ะ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอาหารทั้งอาหารเอเชียและอาหารตะวันตกให้เราได้เลือกรับประทาน และถ้าหากใครที่อยากจะได้ของที่ระลึกกลับไป ที่นี่ก็มีร้านขายของที่ระลึกที่มีของหลายอย่างอีกด้วยค่ะ  

ราคาเริ่มต้น:  69 ริงกิต หรือประมาณ 553 บาท (สำหรับอายุ13 ปีขึ้นไป) และ 49 ริงกิต หรือประมาณ 393 บาท (สำหรับ อายุ 4-12 ปี และ อายุมากกว่า 60 ปีค่ะ) 

พิกัด: No.830, Jalan Teluk Bahang, Teluk Bahang, 11050 Tanjung Bungah, Pulau Pinang, มาเลเซีย

เวลาทำการ: 19:00 - 18:00 น.

เพื่อนๆคนไหนที่ที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.entopia.com/ 

3. The Habitat Penang Hill

ที่เที่ยวปีนัง มาเลเซีย

สำหรับใครที่ชื่นชอบการเดินชมธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์ ก็คงต้องเป็นที่ The Habitat Penang Hill เพราะเราสามารถชมวิวธรรมชาติได้ถึง 360 องศาเลยค่ะ ที่นี่เป็นป่าดิบชื้น หรือ ป่าฝนเขตร้อน ที่มีอายุยาวนานมาถึง130ล้านปี ซึ่งถือว่ามีอายุมากกว่าป่าอเมซอนเลยนะคะ และยังมีระบบนิเวศเขตร้อนที่มีความหลากหลายมากที่สุดในโลกอีกด้วยค่ะ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและนกนานาชนิดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนับไม่ถ้วน

สำหรับใครที่คิดว่าที่นี่จะมีแค่สะพานให้เราเดินชมวิวบอกได้เลยนะคะว่าคิดผิดเเล้วค่ะ เพราะที่นี่เขายังมีกิจกรรมต่างๆให้เราทำเยอะมากๆค่ะ ไม่ว่าจะเดินสำรวจป่าโดยเราสามารถมีวิทยากรคอยให้ความรู้ตลอดทางที่เราเดินก็ได้ค่ะ และยังมีกิจกรรมสุดผาดโผนอย่าง 'ซิปไลน์' ให้เราได้หลั่งอะดรีนาลีนออกมาอย่างเต็มที่ หรือจะเดินเล่นชิลๆสูดอากาศบริสุทธิ์บนสะพานสูงเหนือต้นไม้ยักษ์ที่ทำให้เรามองเห็นวิวรอบๆที่เต็มไปด้วยความเขียวขจีของป่าไม้พร้อมกับสูดกลิ่นธรรมชาติที่ไม่มีมลพิษอีกด้วยค่ะ

ถ้าหากเราไปในช่วงเช้าหน่อยเราก็จะได้พบกับหมอกที่ปกคลุมผืนป่าเต็มไปหมด เสียงสัตว์ต่างๆที่ส่งเสียงท่ามกลางความเงียบ สายรักธรรมชาติต้องมาให้ได้สักครั้งจริงๆค่ะ สำหรับป่าฝนที่นี่ เขามีการดูรักษาแลระบบนิเวศที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของสัตว์อีกด้วยนะคะ เพราะเขาจะคอยควบคุมสภาพอากาศ การรีไซเคิลน้ำและสารอาหาร การฟอกอากาศ การเก็บคาร์บอน และความเสถียรของดินเพื่อไม่ให้ป่าผืนนี้เสื่อมลงค่ะ

ราคาเริ่มต้น: 60 ริงกิต หรือประมาณ 484 บาท (สำหรับอายุ 13 ปีขึ้นไป) และ 40 ริงกิต หรือประมาณ 323 บาท (สำหรับ อายุ 4-12 ปี)

พิกัด: Jalan Stesen, Bukit Bendera Air Itam, 11500 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย

เวลาทำการ: 9:00 - 18:00 น. 

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://thehabitat.my/index.php

4. Tech Dome Penang

ที่เที่ยวปีนัง มาเลเซีย

ที่ Tech Dome Penang เป็นเหมือนศูนย์กลางสำหรับการเรียนรู้เทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนความคิด สำหรับการเอาไปพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และความสามารถทางเทคโนโลยีในประเทศมาเลเซียค่ะ ตัวอาคารของที่นี่มีความเก๋มากเพราะมีลักษณะเป็นโดม ตั้งอยู่ที่ geodesic ของ KOMTAR ติดกับ George Town UNESCO World Heritage Site ในปีนัง ที่นี่จะทำให้คนที่ได้เข้ามาเยือนรู้สึกตื่นเต้นกับโลกของเทคโนโลยีและเราจะได้รู้ถึงวิธีการทำงานของสิ่งต่างๆผ่านการจัดแสดงงานระดับโลกในแกลเลอรี่ เหมาะสำหรับคนที่สนใจเรื่องของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์มากๆค่ะ เพราะเราจะได้เรียนรู้ทักษะที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในอนาคตที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง

และที่นี่ก็มีเครื่องเล่นที่มีความสนุกเร้าใจรอเราอยู่ด้วย ‘Tech-Dome’ คือสไลด์แนวตั้งขนาดยักษ์ที่แรกของโลก เครื่องเล่นที่เป็นเสมือนจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ใครๆก็อยากลอง สำหรับใครที่ใจไม่ถึงที่นี่ยังมีเครื่องเล่นต่างๆที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ให้เราได้ลองกันอีกด้วยค่ะ ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีการอธิบายถึงกระบวนการการทำงานของเทคโนโลยีต่างๆจนทำให้เราได้รับความรู้ไปพลางๆ

ที่นี่จะมีอีเว้นท์คอยจัดอยู่ตลอดค่ะ ทำให้แต่ละช่วงที่เราไปอาจจะมีนิทรรศการหรืองานแสดงต่างๆที่ไม่ซ้ำกันเลย ถือว่าได้ประสบการ์ณแปลกใหม่ที่ไม่ได้เหมือนการมาท่องเที่ยวที่น่าเบื่อจำเจ

ราคาเริ่มต้น: 28 ริงกิต หรือประมาณ  225 บาท (สำหรับอายุ 13 ปีขึ้นไป) และ 16 ริงกิต หรือประมาณ 128.32 บาท (สำหรับ อายุ 5-12 ปี)

พิกัด: Geodesic Dome, KOMTAR, Jln Penang, 10000 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย

เวลาทำการ: 10:00 - 19:00 น. *หยุดทุกวันอังคาร

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.techdomepenang.org/

5. The Gravityz

ที่เที่ยวปีนัง มาเลเซีย

สำหรับใครที่ชอบกิจกรรมสุดผาดโผนพิสูจน์ขีดจำกัดของตัวเองพลาดไม่ได้เลยกับ The Gravityz มาถึงปีนังทั้งทีต้องลองขึ้นไปชมวิวมุมสูงของปีนังให้ได้สักครั้งค่ะ แต่การชมวิวที่ The Gravityz ไม่ได้ธรรมดาเหมือนการขึ้นไปบนตึกแล้วมองลงมาเท่านั้น เพราะเราจะเดินออกไปด้านนอกตึกบนชั้น 65 ของตึก KOMTAR ที่บอกได้เลยว่าใครใจไม่ถึงนี่ไม่มีทางได้เห็นวิวสวยๆแน่นอนค่ะ

การเล่นทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นความท้าทาย 6 ระดับ ตั้งแต่ Confidence Path เป็นการเริ่มสร้างความมั่นใจโดยเริ่มเดินตามทางและหันตัวไปทางด้านนอกตึก, High Bench เป็นการนั่งพักให้เราได้รู้สึกผ่อนคลายไปกับวิวที่อยู่ด้านหน้า , A Great Bridge เป็นการเดินข้ามสะพานที่แยกออกมาจากตัวตึกที่ไม่มีราวกั้น ทำให้เพิ่มความหวาดเสียวมากขึ้น, X-Point จุด X เป็นจุดที่จะได้นั่งพักชมวิวกับเพื่อนๆหลังจากเจอความท้าทายมาก่อนหน้านี้, Z-Wire เป็นจุดที่คล้ายๆกับการเล่นซิปไลน์แต่ถ้าเล่นกันบนชั้น 65 แบบนี้ก็หวาดเสียวน่าดูเลยนะคะ และระดับสุดท้าย G-Rocky ที่จะนำทั้งร่างกายของผู้กล้ามานอนระนาบไปกับชั้นพื้นของตึกสูง เรียกได้ว่าท้าทายกันถึงทุกขั้วอณูของร่างกายกันทีเดียวค่ะ

ถ้าหากใครที่กำลังกังวลเรื่องความปลอดภัย ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะเพราะอุปกรณ์ของที่นี่เขาได้มีการยอมรับจากหลายองกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น IAAPA,ACCT,Saferoller และอีกมากมายที่มาการันตีว่าเราจะสามารถสนุกสุดเหวี่ยงไร้ข้อกังวล และนอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเราอยู่ไม่ห่างอีกด้วยค่ะ

ข้อจำกัดของผู้เข้าร่วม

1. ต้องมีส่วนสูงเกิน 100 ซม.

2. ต้องมีส่วนน้ำหนักไม่เกิน 100 กก.

3. ผู้เข้าร่วมควรมีอายุมากกว่า 18 ปี

ราคาเริ่มต้น: 149 ริงกิตค่ะ หรือประมาณ 1,195 บาท 

พิกัด: Level 65, The Top Penang, No. 1, Komtar, Jln Penang, 10000 George Town, มาเลเซีย

เวลาทำการ: 11:00 - 14:00 น. , 15:00 - 19:00 น. *หยุดทุกวันอังคาร

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.thegravityz.com/home

6. The Top's Rainbow Skywalk

ที่เที่ยวปีนัง มาเลเซีย

พักจากความตื่นเต้นแล้วมาเดินชิลๆบนทางเดินกระจกที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนลอยได้ ที่ The Top's Rainbow Skywalk ทัศนียภาพมุมสูงที่สามารถมองวิว แบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะดูภูเขา ทะเล หรือ วิวเมือง ได้ฟีลเหมือนสวรรค์ขนาดย่อมที่ระยิบระยับเป็นประกายจากแสงขอบฟ้าแห่งเมือง George Town และที่นี่ยังเป็นทางเดินลอยฟ้าแบบโค้งแห่งแรกของโลกและมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 816 ฟุต อีกด้วยค่ะ

ถ้าหากใครที่กลัวว่ากระจกจะปลอดภัยไหมก็ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะพื้นเหยียบทำจากกระจกขนาดหนาเป็นพิเศษที่แม้จะดูแล้วหวาดเสียวแต่ก็รับรองถึงความปลอดภัยได้โดยไม่ต้องกังวลเลยค่ะ และนอกจากนี้ที่นี่ยังมีร้านอารทาปาสและค็อกเทลบาร์ สำหรับใครที่อยากนั่งรับประทานอาหารและชมวิวไปพลางๆอีกด้วยค่ะ

เมื่อได้มองลงมาให้ความรู้สึกเหมือนเราเป็นนกที่โบยบินแล้วมองลงมายังไงอย่างงั้นเลยค่ะ หลังคาของบ้านเรือนที่มีสีไร่เรี่ยกัน รถที่วิ่งผ่านไปมา วิวทะเลสุดลูกหูลูกตา ทำให้เราสามารถยืนอยู่ตรงนี้แล้วมองแบบเพลินๆไม่เบื่อเลยค่ะ

ราคาเริ่มต้น: 68 ริงกิต หรือประมาณ 545 บาท (สำหรับผู้ใหญ่) และ 48 ริงกิต หรือประมาณ 385 บาท (สำหรับ เด็กและคนชรา)

พิกัด: Level 68, The Top Penang, No. 1, Komtar, Jln Penang, 10000 George Town, มาเลเซีย

เวลาทำการ: อาทิตย์ -พฤหัสบดี 11:00 - 22:00 น. / ศุกร์-เสาร์ 11:00 - 23:00 น./ วันหยุดนักขัตฤกษ์มาเลเซีย 10:00 - 22:00 น.

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://thetop.com.my/

7. Penang Hill

ถ้าหากใครที่รู้สึกเหนื่อยล้ากับชีวิตในเมืองที่วุ่นวาย อยากจะหันกลับมาซบอกธรรมชาติก็ต้องมาที่ Penang Hill เลยค่ะ การนั่งรถไฟเงียบๆท่ามกลางธรรมชาติก็เป็นทางเลือกที่ดีในการชาร์จพลังงานให้ตัวเอง ที่นี่เขาขึ้นชื่อในเรื่องของความงามทางธรรมชาติ เเละเรายังสามารถเลือกสรรค์ว่าจะปีนเขาเพื่อขึ้นไปหรือจะนั่งรถไฟที่ตั้งบนทางที่ชันที่สุดในโลกก็ได้ค่ะ

ปีนังฮิลล์เป็นจุดชมวิวยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยว ที่ไม่ว่าใครมาที่ปีนังก็จะต้องมาเช็คอินที่นี่ค่ะ ด้วยทัศนียภาพที่มีความสูงห่างจากระดับน้ำทะเลถึง 860 เมตร ทำให้เราสามารถมองเห็นแทบทั้งหมดของเกาะปีนัง และไฮไลท์ที่สุดสำหรับการขึ้นมาที่ปีนังฮิลล์ก็คงต้องเป็นการขึ้นรถไฟขึ้นมาค่ะ ซึ่งความพิเศษก็คือเป็นการนั่งรถไฟขึ้นเขาที่มีความชันมากๆและระหว่างทางก็จะมีต้นไม้สีเขียวชะอุ่มเต็มไปหมด 

เมื่อได้ขึ้นมาถึงข้างบนแล้วเราจะเจอจุดต่างๆที่ทำให้เรารู้สึกเพลิดเพลินมากๆค่ะ ไม่ว่าจะเป็นทางเดินสกายวอล์คที่ทำให้เราสามารถมองเห็นวิวเมืองด้านล่างผ่านแมกไม้ลงไป สวนดอกไม้หลากสีสันสดใส นอกจากนี้ยังมีกล้องส่องทางไกลไว้ให้เราส่องบ้านเมืองของเขาอีกด้วยค่ะ สำหรับใครที่ขึ้นมาแล้วกลัวจะหิว ที่นี่ก็ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่รองรับไว้ให้เรามานั่งรับประทานกันอีกด้วย

ราคาเริ่มต้น: 30 ริงกิต หรือประมาณ 240 บาท (สำหรับอายุ 13-59 ปี) และ 15 ริงกิต หรือประมาณ 120 บาท (สำหรับอายุ 4-12 ปี)

พิกัด: 11500 Bukit Bendera, ปูลัวปีนัง มาเลเซีย

เวลาทำการ: 6:30 - 22:00 น.

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://www.penanghill.gov.my/index.php/en/

8. George Town

มาที่ปีนังสิ่งนึงที่เราจะนึกถึงเป็นอย่างแรกๆก็คงเป็น ผลงานสตรีทอาร์ตตามถนนของเมืองจอร์จทาวน์เมืองหลวงแห่งรัฐปีนังที่ได้รับการเลือกให้เป็นมรดกโลกโดยองค์กร UNESCO เพราะที่นี่มีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่สนใจศึกษาวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมในยุคอาณานิคมจนถึงช่วงก่อนประวัติศาสตร์ค่ะ และการที่เกาะปีนังแห่งนี้อุดมไปด้วยนานาพรรณธรรมชาติอย่างป่าฝนที่มีอายุถึง 130 ล้านปี เลยไม่เป็นที่น่าแปลกใจว่าทำไมถึงดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในการศึกษาประวัติศาสตร์ และทั้งนักท่องเที่ยวผู้แสวงหาธรรมชาติที่สมบูรณ์ได้อย่างอยู่หมัด

อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเกี่ยวกับเมืองจอร์จทาวน์ก็คงต้องเป็นเรื่องของสถาปัตยกรรมค่ะ เพราะอาคารพาณิชย์ที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยการผสมผสานระหว่างชิโน-โปรตุกีส สลับกับ จีน-ตะวันตก ที่ตั้งอยู่ติดๆกัน ตามถนนสายต่างๆ บางหลังมีการทาสีสันให้สดใส บางหลังยังคงสภาพแบบเดิมไว้อยู่ให้ความรู้สึกขลัง ทำให้ถนนในจอร์จทาวน์มีเสน่ห์มากๆค่ะ

การมาเยือนที่จอร์จทาวน์ของเหล่านักท่องเที่ยวก็คงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอยากมาชมสตรีทอาร์ตตามถนนเส้นสายต่างๆของที่นี่ สำหรับใครที่ชอบหามุมสวยๆถ่ายรูปคงมองข้ามที่นี่ไม่ได้จริงๆค่ะ เพราะนอกจากจะมีสตรีทอาร์ตเก๋ๆแล้วก็ยังมีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ วัด ให้เพื่อนๆได้ไปเยี่ยมชมอีกด้วย และใครอยากเที่ยวชมเมืองแบบได้ฟีลมากขึ้นไปอีก ก็ลองนั่งรถจักรยานสามล้อของที่ปีนังชมเมืองก็ได้ค่ะ

9. Pinang Peranakan Mansion

คฤหาสน์เปรานากัน ถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองจอร์จทาวน์ ปีนัง ในสมัยก่อนเคยเป็นที่พำนักและสำนักงานของ “กัปปิตัน ชุง เค็ง ควี่”( Kapitan Cina Chung Keng Kwee) ผู้นำคนงานเหมืองชาวจีนและองค์การลับไห่ซานในช่วงปี 1867 ซึ่งต่อมากลายเป็นผู้มีอิทธิพลทั้งทางด้านทางการเมืองและการควบคุมการผูกขาดการค้าก่อนที่บ้านหลังนี้จะถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน

เมื่อเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์ ปีกซ้ายด้านล่างของตัวตึกจะเป็นห้องโถงรับแขกที่มีเครื่องเรือนไม้แกะสลักประดับมุกงดงาม ส่วนด้านขวาจะเป็นห้องรับประทานอาหารค่ำหลัก สำหรับเลี้ยงรับรองแขก นอกจากนี้ ยังมีห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น และห้องโถง ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่สะท้อนวิถีชีวิตอันมั่งคั่งของ“บาบ๋า” (กลุ่มลูกครึ่งมลายู-จีนที่มีวัฒนธรรมผสมผสาน) ซึ่งเป็นกลุ่มคหบดีผู้ร่ำรวยของปีนังในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา 

ด้านบนสามารถมองลงมาเห็นโถงด้านล่างที่อลังการมากค่ะ และจะมีห้องเจ้าสาว ที่มีเตียงแกะสลักเป็นลวดลายละเอียดสวยงาม นอกจากนี้ก็ยังมีรูปของเจ้าของบ้านติดอยู่ตามกำแพง มีตู้ตั้งโชว์ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน

ราคาเริ่มต้น: 20 ริงกิต หรือประมาณ 160 บาท

พิกัด: 29, Church St, Georgetown, 10200 George Town, Penang, มาเลเซีย

เวลาทำการ: 9.30-17.00 น. 

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ http://www.pinangperanakanmansion.com.my/

10. Hin Bus Depot Art Centre 

ศูนย์รวมงานศิลปะที่ดัดแปลงจากอดีตสถานีรถบัสบนถนน Jalan Gurdwara ในย่านจอร์จทาวน์ของตัวเมืองปีนัง ตัวตึกที่สร้างในยุค 1940s เป็นอาคารสไตล์ Art Deco ที่จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายรูปแบบ ทั้งอาร์ตแกลเลอรี่ และงานศิลปะกลางแจ้ง รวมทั้งผลงานภาพวาดสตรีทอาร์ทของ Ernest Zacharevic ที่นี่ก็คงจะเป็นอีกที่นึงสำหรับใครที่ชอบเสพงานอาร์ต หรือมาหามุมเก๋ๆถ่ายรูป

ภายใน Hin Bus Depot Art Centre ยังมีคาเฟ่ใต้ร่มไม้ใหญ่ ให้ความรู้สึกร่มรื่นย์ และเหมือนกับเราได้หลีกหนีออกมาจากบ้านเมืองที่วุ่นวาย จิบกาแฟชมงานศิลปะไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเร่งรีบอะไร คงทำให้เราได้รู้สึกผ่อนคลายสุดๆเลยค่ะ

ที่นี่จะมีการเปลี่ยนผลงานศิลปะอยู่ทุกเดือน ให้คนที่รักในงานศิลปะแวะเวียนมาบ่อยๆค่ะ และนอกจากนี้ยังมีนิทรรศการต่างๆคอยมาจัดที่นี่ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมด้วยค่ะ และที่นี่ไม่ได้มีแค่ผลงานรูปวาดเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีทั้ง เวิร์คช้อป ดนตรี ภาพยนต์ การแสดงต่างๆอีกด้วยค่ะถือได้ว่าเป็นเวทีสำหรับคนที่อยากออกมาสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะทุกแขนง

ราคาเริ่มต้น: ไม่มีค่าใช้จ่าย

พิกัด: 31A, Jalan Gurdwara, 10300 George Town, Pulau Pinang, มาเลเซีย

เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ 12:00 – 20.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 11.00 - 21:00 น.

เพื่อนๆคนไหนที่สนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://hinbusdepot.com/index.html

ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน ไทยสไมล์ค่ะ และช่วงนี้ทางไทยสไมล์และเคทีซี ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่สนใจไปเที่ยวปีนัง ซึ่งจะได้รับ

1) ตั๋วเครื่องบินไทยสไมล์ ไป-กลับ กรุงเทพ-ปีนัง ในราคาเริ่มต้นเพียง 6,965 บาท โดยสามารถเดินทางได้ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2565 – 29 ตุลาคม 2565

2) เมื่อซื้อตั๋วเครื่องบินเส้นทางปีนังเป็นคู่รับส่วนลดเพิ่มทันที 1,000 บาท

3)สมาชิกสามารถนำคะแนน KTC FOREVER ทุกๆ 1,000 คะแนน แลกรับส่วนลด 130 บาท ในการจองตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และบัตรเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 – 31 ตุลาคม 2565

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ KTC WORLD Travel Service (บริการตลอด 24 ชั่วโมง) โทรศัพท์ 02 123 5050 ไลน์ @KTCWORLD หรือเว็บไซต์: www.ktc.co.th/ktcworld

Tags: มาเลเซีย ปูลัวปีนัง ปีนัง จอร์จทาวน์ ปีนังฮิลล์ เอสเคปปีนัง เอนโทเปีย บาย ปีนังบัตเตอร์ฟลาย ฟาร์ม เทคโดม ปีนัง เดอะท็อปเรนโบว์สกายวอล์ค Escape Penang Entopia By Penang Butterfly Farm The Habitat Penang Hill Tech Dome Penang The Gravityz Pinang Peranakan Mansion The Top's Rainbow Skywalk George Town Penang Hill Hin Bus Depot Art Centre เที่ยวมาเลเซีย เที่ยวปีนัง ที่เที่ยวปีนัง

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้