calendar_month 17 มิ.ย. 2022 / stylus Admin Chillpainai / visibility 41,241 /
ได้เวลาพาร่างกายไปชาร์จแบตแล้ววว! หน้าฝนแบบนี้คงจะหนีไม่พ้นเขาค้อ ภูทับเบิก สถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ปะทะหมอกเย็น ๆ ชมวิวสวย ๆ ซึ่งวันนี้ชิลไปไหนก็ได้จัดทริป 3 วัน 2 คืน เที่ยวเขาค้อ ภูทับเบิก นั่งชิล รับอากาศเย็น ชมทะเลหมอก มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกัน จะพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ไปชมกันเลยยย
หลังจากวางแผนกันเรียบร้อยก็ถึงเวลาเดินทางแล้วค่ะ ทริปนี้เราเดินทางโดยรถส่วนตัว ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า และไปเช็คอิน Jolly Cafe เป็นที่แรก คาเฟ่นี้เป็นคาเฟ่กึ่งร้านอาหารที่ตกแต่งแบบฟาร์มสไตล์ยุโรป มีอาคารหลักตรงกลางที่ดีไซน์เป็นสไตล์โรงนาสีขาว ใครที่มาคาเฟ่ตอนกลางคืน ไฟในตัวอาคารจะส่องสว่าง ถ่ายรูปสวยสุด ๆ ไปเลยค่ะ
ที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ ถูกใจสายถ่ายรูปแน่นอนค่ะ
เมนูเด็ดของที่นี่ต้องนี่เลยค่ะ Smoke Ribs with Rosemary ซี่โครงหมูรมควันอบโรสแมรี่ที่ใช้ระยะเวลารวมควันถึง 6 ชั่วโมง ทำให้ซี่โครงเนื้อนุ่ม อร่อยมากกกกกก
ส่วนเมนูของหวานที่ห้ามพลาดเลยนั่นก็คือ Scones Tea Set ค่ะ สโคน 2 ชิ้นสอดไส้ครีมและราสเบอร์รี เสิร์ฟมาพร้อมกับชาที่สามารถเลือกได้ ซึ่งวันนี้เราเลือกทานเป็นชาผลไม้ค่ะ บอกเลยว่าเข้ากันสุด ๆ แนะนำเลย
Jolly Cafe
ที่ตั้ง : 105 หมู่ 2 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ - ศุกร์ 10.30 - 20.00 น. วันเสาร์ - อาทิตย์ 10.30 - 20.00 น.
โทรศัพท์ : 095 196 2285
Facebook : Jolly Cafe
GPS : https://goo.gl/maps/LhCzWrGMiEwD5WaZA
หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วเราก็เดินทางต่อไปเช็คอินที่พักกันเลยค่ะ โดยที่พักที่เราจะนอนกันในคืนนี้ก็คือ คีรีปุระ รีสอร์ท (Kiri Pura Resort) รีสอร์ทสไตล์ฮอบบิทสุดน่ารักที่ตกแต่งโดยเน้นวัสดุไม้ โทนสีน้ำตาลเทากลมกลืนกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ทั้งยังรายล้อมไปด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ ทำให้ได้รับอากาศเย็น ๆ ตลอดทั้งปี มาพร้อมกับลานระเบียงด้านหน้าห้องพัก ใครที่อยากทานอาหาร จิบชา หรือนั่งอ่านหนังสือพร้อมกับชมวิวสวย ๆ บอกเลยว่าเหมาะมากค่ะ
ภายในรีสอร์ทมีรูปปั้นน่ารัก ๆ และสวนดอกไม้สีสันสดใสไว้สำหรับถ่ายรูปด้วยค่ะ
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปภายในรีสอร์ทกันจนจุใจแล้วก็ถึงเวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ มาเขาค้อทั้งที เจออากาศเย็น ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าเราก็ต้องทานหมูกระทะกันค่ะ ทานไปชมวิวไป บอกเลยว่าฟินสุด ๆ
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องอาหารและคาเฟ่ที่สามารถมานั่งทานอาหาร นั่งชิล พร้อมชมวิวธรรมชาติได้ โดยร้านอาหารจะตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณที่พัก เปิดเวลา 17.00 - 21.00 น. มีเมนูให้เลือกมากมาย ทั้งต้มแซ่บกระดูกหมู ไก่ทอดซีอิ๊ว ลาบปลาตะเพียน ผัดยอดฝักแม้วเห็ดหอม อร่อยไม่แพ้หมูกระทะเลย
เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปไวเสมอ เผลอแป๊บเดียวก็มาถึงวันที่ 2 ของทริปแล้วค่ะ เช้านี้เรายังอยู่กันที่คีรีปุระ รีสอร์ทเหมือนเดิมค่ะ โดยเราจะทานอาหารเช้ากันที่นี่เลย อาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบอะลาคาร์ท ซึ่งมีเมนูให้เลือกเยอะมากค่ะ ทั้งอาหารไทย อเมริกันเบรคฟาสต์ และยังมีเครื่องดื่มอย่าง นม และน้ำผลไม้แบบจัดเต็ม
คีรีปุระ รีสอร์ท (Kiri Pura Resort)
ที่ตั้ง : 53 หมู่ 7 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
โทรศัพท์ : 064 978 6563
ราคา : เริ่มต้น 2,900 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงโปรดตรวจสอบกับทางที่พักอีกครั้ง)
Facebook : Kiri Pura Resort เขาค้อ
GPS : https://goo.gl/maps/nMHByGUjkFUYVRwd6
ทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาเช็คเอาท์แล้วค่ะ อิ่มท้องแล้วก็อิ่มบุญกันต่อเลย เพราะจุดหมายที่เราจะเดินทางต่อไปนั่นก็คือ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว โดยตัววัดอยู่ห่างจากคีรีปุระ รีสอร์ทเพียง 500 เมตรเท่านั้นค่ะ ที่นี่ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของ จ.เพชรบูรณ์ที่ชาวพุทธนิยมมาสักการะบูชากัน
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วนอกจากจะมีมหาวิหาร พระพุทธเจ้า 5 พระองค์แล้ว ยังมีเจดีย์สีทองอร่ามตา ประดับประดาด้วยลูกแก้วและกระเบื้องเครื่องเบญจรงค์อันงดงามท่ามกลางหมอกจาง ๆ กลางหุบเขา บอกเลยว่าสวยงามมาก ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองจริง ๆ ค่ะ
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
ที่ตั้ง : 95 ม.7 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
โทรศัพท์ : 063 359 1554
GPS : https://goo.gl/maps/Kn8zfaMNaN3m57fUA
หลังจากไหว้พระทำบุญกันเรียบร้อย เราก็เดินทางต่อมาที่ The Montanas Khaokho เลยค่ะ ที่นี่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดย่อม มีสถาปัตยกรรมของสเปนที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ตกแต่งด้วยผนังอิฐที่ให้บรรยากาศคล้ายกับเมืองซานตาบาร์บาร่า ในรัฐแคลิฟอร์เนีย บริเวณโซนเคาน์เตอร์มีการปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ให้ความรู้สึกร่มรื่น สบายตาสบายใจ
และแน่นอนว่ามื้อกลางวันนี้เราจะมาฝากท้องกันที่ The Montanas Khaokho ค่ะ ที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชั่น คัดสรรวัตถุดิบที่สดใหม่อย่างพิถีพิถัน อีกทั้งยังมีเมนูให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลาซานญ่าซอสไก่ สปาเก็ตตี้ฟรุตตี้ดีแมร์ สเต๊กหมูคุโรบูตะ สเต๊กหมูพอร์คชอป ขาหมูเยอรมัน หรือใครเป็นสายอาหารไทย ที่นี่เขาก็มีชุดเซ็ตให้ได้เลือกทานเช่นกัน ใครชอบสไตล์ไหนก็จัดเลยค่ะ
หลังจากทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว เราก็มาเดินย่อยพร้อมถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อย ที่นี่เขามีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก ทั้งหอคอยสูงที่มองเห็นวิวเขาค้อแบบ 360 องศา กลาสเฮาส์ขนาดกะทัดรัดที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้และไม้ประดับสีเขียวชะอุ่ม บอกเลยว่าถ่ายรูปออกมาแล้วเหมือนอยู่ต่างประเทศเลยล่ะ
สำหรับใครที่อยากนั่งชิล ที่นี่เขาก็มี Cafe Monte (คาเฟ่มอนเต้) ไว้สำหรับจิบชายามบ่าย ทานขนมอร่อย ๆ หรือใครอยากนั่งอ่านหนังสือเพลิน ๆ ที่นี่ก็ตอบโจทย์เช่นกันค่ะ
ก่อนที่เราจะไปยังจุดหมายต่อไป ก็ไม่ลืมที่จะซื้อของฝากไปฝากเพื่อน ๆ กันค่ะ โดยเรามาซื้อของฝากกันที่ The Souvenir Shop ภายในร้านมีสินค้าให้เลือกมากมายทั้งจากคนในชุมชนอย่างมะขามหวาน กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าสาน และยังมีหมวกและเสื้อผ้าสวย ๆ ให้เลือกแบบจัดเต็มเลย
The Montanas Khaokho
ที่ตั้ง : 158 หมู่ที่ 3 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เวลาเปิดปิด : Cafe Monte และ The Souvenir Shop ตั้งแต่ 09:00 - 19:00 น. ส่วนร้าน Barbara Steakhouse เปิดตั้งแต่ 10:00 - 21:00 น.
โทรศัพท์ : 056 786 443
Facebook : The Montanas Khaokho
GPS : https://g.page/TheMontanasKhaokho?share
ถึงเวลาต้องเดินทางต่อแล้วค่ะ จุดหมายต่อไปที่เราจะไปก็คือภูทับเบิก แต่ก่อนที่เราจะขึ้นไปถึงด้านบน ระหว่างทางเราก็ขอแวะคาเฟ่สักหน่อย โดยเรามาแวะกันที่ อาหยง Coffee ค่ะ คาเฟ่นี้เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางขึ้นภูทับเบิก เครื่องดื่มราคาหลักสิบที่มาพร้อมกับวิวสวย ๆ ป่าสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า ปกคลุมด้วยหมอกสีขาว ใครที่อยากมานั่งดื่มกาแฟชิล ๆ รับอากาศเย็น ๆ ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
ที่นี่เขามีเมนูให้เลือกมากมายทั้งอาหาร ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ราคาเริ่มต้นที่ 65 บาทค่ะ
อาหยง Coffee
ที่ตั้ง : 317 หมู่ 8 บ้านเนิน อำเภอ หล่มเก่า เพชรบูรณ์ 67120
เวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.00 - 18.00 น.
โทรศัพท์ : 096 860 8782
Facebook : อาหยง Coffee ภูทับเบิก
GPS : https://goo.gl/maps/h2EZNDJDS5d61ogy9
จากนั้นก็เดินทางกันต่อเลยค่ะ ต่อไปเราจะเดินทางขึ้นไปที่ภูทับเบิกแล้ววว ใครที่เมารถง่ายแนะนำให้เตรียมยาแก้เมารถเผื่อมาด้วยนะคะ
และแล้วก็เดินทางมาถึงที่พักที่เราจะนอนกันในคืนนี้แล้วค่ะ ในทริปนี้เราไปพักที่ หลงเขาแคมป์ ภูทับเบิก ค่ะ ที่พักที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบบ้านพักและแบบโดม โดยทริปนี้เราเลือกพักแบบโดมค่ะ โดมสีขาวที่มาพร้อมห้องน้ำส่วนตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ด้านหน้าโดมเป็นพลาสติกใส สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติสีเขียวได้แบบจุใจ และยังมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกได้จากบนเตียงนอนอีกด้วย
ที่หลงเขาแคมป์ ภูทับเบิกอยู่ไม่ไกลจากผาหัวสิงห์ สามารถเดินชิล ๆ ไปได้เลยค่ะ แถมวิวจากที่พักยังมองเห็นวิวผาหัวสิงห์และวิวภูทับเบิกด้วย
มื้อเย็นวันนี้เราเลือกสั่งหมูกระทะมาทานที่บ้านพักกันค่ะ โดยครั้งนี้เราจองพร้อมที่พักราคาชุดละ 400 บาท ใครอยากมาทานหมูกระทะ รับลมเย็น ๆ มองวิวสวย ๆ แบบเต็มตา แนะนำที่นี่เลยค่ะ
หลงเขาแคมป์ ภูทับเบิก
ที่ตั้ง : 372 ตำบล บ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า เพชรบูรณ์ 67120
ราคา : เริ่มต้น 1,400บาท
ราคาเตียงเสริม : 400 บาท
เบอร์ติดต่อ : 080 029 8381
Facebook : หลงเขาแคมป์ ภูทับเบิก
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/RJLKpfyEpo1FgrAn7
มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้แล้วค่ะ เช้านี้เราทานอาหารเช้ากันที่บ้านพักเลย โดยมื้อนี้เราทานเป็นข้าวต้ม และมาถึงบ้านเกิดกะหล่ำปลีทั้งที ก็ต้องมาทานกะหล่ำปลีผัดน้ำปลาค่ะ ข้าวต้มร้อน ๆ ทานคู่กับกะหล่ำปลีสด ๆ จากไร่ เป็นการเริ่มต้นวันที่ฟินสุด ๆ เลยค่ะ
ก่อนที่เราจะเดินทางกลับ ข้าง ๆ ทางลงภูทับเบิกเขาก็มีร้านขายของฝากไว้ให้เลือกซื้อมากมายเลยค่ะ ทั้งอะโวคาโด ลูกไหน เมลอน กะหล่ำปลี มันญี่ปุ่น ต้นหอมญี่ปุ่น แถมแม่ค้าที่นี่ก็น่ารักมาก ๆ วันนี้เลยได้ของฝากเต็มไม้เต็มมือเลยค่ะ
ใครที่ไม่รู้จะซื้ออะไรแนะนำอะโวคาโดกับเมลอนเลยค่ะ หอม หวาน อร่อยมากกกกก
ปิดทริป เที่ยวเขาค้อ ภูทับเบิก 3 วัน 2 คืน กันแบบเต็มอิ่ม การได้พาร่างกายมาสัมผัสธรรมชาติ รับอากาศเย็น ๆ ช่วยให้ร่างกายเราสดชื่นขึ้นเยอะเลยค่ะ ใครที่อยากมาพักผ่อน ให้ธรรมชาติบำบัดแบบเราก็สามารถนำทริปนี้ไปปรับใช้ได้เลย หวังว่าธรรมชาติจะช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับทุกคนได้นะคะ
บทความแนะนำ:
- 20 ที่พักภูทับเบิก ชมหมอกฟิน ๆ กินหมูกระทะ อัปเดตใหม่ 2022
- 11 จุดจอดรถนอนเขาค้อ พักผ่อนชิล ๆ กับวิวธรรมชาติ
- ไร่กาแฟจ่านรินทร์ เขาค้อ เรียนรู้การปลูกพืชผสมผสาน ชิมกาแฟสดๆ จากไร่