calendar_month 26 พ.ค. 2022 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 17,618 /
เมื่อทะเลเรียกหาก็ถึงเวลาเดินทางไปยังเกาะกูดกันค่ะ เกาะสวยน้ำใสในจังหวัดตราด ที่ความงามของท้องทะเลที่นี่สวยไม่แพ้ทะเลใต้กันเลยค่ะ ซึ่งครั้งนี้เราขอพาเพื่อนๆ ไปเช็คอินที่พักสวยริมทะเลเกาะกูด ทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด (Tolani Resort Koh Kood) ที่พักน้องใหม่ที่หลายคนอาจจะคุ้นเคย เพราะที่นี่รีแบรนด์มาจากอะเวย์ เกาะกูดเดิม พร้อมกับโฉมใหม่ในสไตล์การตกแต่งแบบโพลีนีเชียนที่สวย ชิคกว่าเดิม วันนี้ชิลไปไหนจะพาไปนอนชิลริมทะเลทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด จะสวยแค่ไหนตามไปชมกันได้เลยค่ะ
ทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด (Tolani Resort Koh Kood) ตั้งอยู่ในชายหาดส่วนตัวที่เรียกว่าหาดทูลานี เป็นมุมที่เราขอยกให้ว่าสวยสุดๆ เพราะใกล้ชายหาดคลองเจ้าซึ่งเป็นชายหาดสุดฮิต และยังใกล้คลองเจ้าที่ปกคลุมไปด้วยป่าชายเลน ซึ่งเชื่อมต่อไปยังน้ำตกคลองเจ้าโดยสามารถพายเรือคายัคไปได้ ที่นี่จึงเป็นที่พักที่ได้บรรยากาศทั้งคลองและทะเลในที่เดียว
เราเคยมาพักตอนเป็นแบรนด์เดิมที่ตอนนั้นก็ชอบอยู่แล้ว แต่พอรีแบรนด์ใหม่กลายเป็น ทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด (Tolani Resort Koh Kood) ก็ยิ่งประทับใจมากขึ้น ด้วยสไตล์การตกแต่งที่เขาเหมือนยกชนเผ่าโพลีนีเชียนมาไว้ที่เกาะกูด ที่นี่จึงมีความเก๋ ความดิบ แต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบหรู ตั้งแต่ทางเข้าล็อบบี้ของที่พักที่ตกแต่งด้วยลวดลายสไตล์โพลีนีเชียนสีดำสุดเท่ บนผื้นผนังสีไข่ไก่
บรรยากาศรอบที่พักปกคลุมไปด้วยทิวมะพร้าว ตัดกับสนามหญ้าสีเขียวและหาดทรายสีขาวที่ทอดตัวยาว ซึ่งถ้าเวลาน้ำลงเราจะสามารถเดินไปยังหาดคลองเจ้าได้เลยค่ะ พร้อมกันนั้นยังมีสะพานไม้ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ เป็นมุมที่ถ่ายรูปออกมาสวยปังมากๆ เพราะเบื้องหน้าของเราคือน้ำทะเลสีฟ้ใสที่กำลังระยิบระยับเมื่อต้องแสงตะวัน นอกจากนี้ยังมีมุมเปลตาข่าย ชิงช้า ให้เราได้แอคท่าจึ้งๆ กันอีกด้วย
มาดูห้องพักกันค่ะ ห้องพักที่นี่มีให้เลือก 5 แบบ ได้แก่ Beachfront Villa, Hilltop Duplex Bungalow, Seaview Bangalow, Seaview Villa และ Beachfront Pool Villa รองรับได้ 2 คนต่อห้องแต่สามารถเสริมเพิ่มได้ซึ่งห้องที่เราพาไปชมกันในวันนี้มีสองแบบค่ะ เริ่มต้นที่แบบแรกซึ่งเป็นห้องตัวท็อปที่สุดของรีสอร์ทนั่นก็คือ Beachfront Pool Villa พูลวิลล่าสุดหรูริมทะเล สำหรับ 2 คน (สามารถเสริมได้สูงสุด 2 คน) การตกแต่งเน้นใช้วัสดุธรรมชาติให้โทนสีสบายตา จากห้องพักสามารถชมวิวทะเลได้เลยแบบไม่มีอะไรกั้น เป็นห้องแถวแรกที่ติดกับทะเลที่สุด ด้านหน้าห้องมีเปลให้นั่งชมวิวทะเล ส่วนภายในห้องกว้างขวาง จัดวางเตียงแบบดับเบิ้ลเบ้ดสองเตียง ซึ่งปกติห้องนี้พักได้สองคนค่ะ แต่สามารถเสริมเพิ่มได้อีกสองรวมเป็นสี่คนนอนได้สบายๆ มีทีวีแบบสมาร์ททีวีที่ต่อเน็ตฟลิกซ์ได้ มีเครื่องชงกาแฟแบบแคปซูลพร้อมแคปซูลกาแฟ รสนุ่ม หอมละมุน มีเครื่องทำน้ำร้อน ไดร์เป่าผม ตู้เย็น ร่ม และรองเท้าใส่ในห้อง ส่วนในห้องน้ำจะแยกโซนห้องสุขา พร้อมกระจกแต่งหน้าและอ่างล้างหน้าถึงสองอ่าง อีกโซนจะแยกเป็นโซนชาวเวอร์พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น และมีช่องแสงธรรมชาติโดยการเปิดเพดานโล่งทำให้ระหว่างอาบน้ำเราจะพบกับความงดงามของท้องฟ้าและต้นไม้ด้านนอก จากห้องอาบน้ำมีประตูที่เปิดไปสู่เทอร์เรซนั่งเล่นด้านนอกที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำพร้อมระบบจากุซซี่สามารถแช่น้ำไป ชมวิวทะเลสวยๆ ตรงหน้าได้เลย
อีกห้องหนึ่งที่เราจะพามาชมกับ Seaview Villa ซึ่งจะอยู่แถวบนถัดจากแถวของ Beachfront Pool Villa ขึ้นไปหนึ่งแถวค่ะ จึงให้เราสามารถชมวิวทะเลได้แบบมุมสูงโดยไม่มีอะไรมาบดบังวิว แต่ชั้นนี้จะไม่แนะนำสำหรับผู้สูงอายุนะคะเพราะต้องเดินบันไดขึ้นไป
ภายในห้องตกแต่งได้สวยเท่ไม่แพ้กัน มีแเปลตาข่ายให้นอนชิลชมวิวทะเล
ซึ่งการจองห้องพักของที่นี่จะมีทั้งแบบราคาห้องพักพร้อมอาหารเช้า หรือจะจองเป็นแพ็กเกจ 3 วัน 2 คืน สิ่งที่รวมในแพ็คเกจนี้ก็จะประกอบไปด้วย อาฟเตอร์นูนที 1 เซ็ตเลือกเสิร์ฟวันไหนก็ได้ ซึ่งในเซ็ตจะมีเค้กช็อคโกแลตที่อร่อยจนอยากตะโกน แครมบูเล่รสหวาน มัน แซนด์วิช กุ้งชุบแป้งทอด ผลไม้สด และเครื่องดื่มที่เลือกได้คนละ 1 แก้วมีทั้งแบบร้อนและเย็น ส่วนอาหารกลางวันจะได้รับ 2 มื้อ โดยเขาจะให้เราเลือกเมนูสำหรับแชร์ริ่งได้ 1 จาน เมนูจานหลักคนละ 1 จาน และเมนูขนมหวานคนละ 1 จาน ซึ่งขอบอกว่าแต่ละจานมันใหญ่บิ๊กเบิ้มจนต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว
ในส่วนมื้อเย็นสำหรับแพ็คเกจนี้จะได้ 1 มื้อค่ะ ซึ่งอาหารจะเป็นสไตล์ The Polynesian Grills เสิร์ฟมาเป็นคอร์ส เริ่มจากเมนูขนมปังสับปะรด เนื้อนุ่ม หอมอร่อยทานกับเนยที่ผสมเนื้อสับปะรดไปด้วย ต่อด้วยเมนูเชฟสลัดจานใหญ่ มาจุกกันต่อกับ Pans Pacific Mixed Appetizers ที่มีทั้งเกี๊ยวซ่า ปีกไก่อบปราปริก้า ยากิโวบะผัดซอสแปซิฟิก และบล็อกโคลี่ผัดเนยที่เสิร์ฟทั้งหมดนี้มิกซ์กันมาในจานใหญ่ จานต่อไปกับข้าวอบสับปะรดที่อร่อยมากๆ ผัดแบบแห้งๆ กำลังดีรสชาติกลมกล่อม และไฮไลท์คือ The Skewers ที่เชฟจะนำมาหั่นให้เราที่โต๊ะ มีทั้ง กุ้งลายเสือหมักซอส 48 ชั่วโมง สเต็กเนื้อหมักซอสสไตล์ฝรั่ง สเต็กไก่หมักเครื่องเทศสไตล์อินเดีย สเต็กหมูหมักซอสสไตล์เอเชีย และไส้กรอกลูกวัวเครื่องเทศ ซึ่งอร่อยดีงามทุกชิ้นกันเลยค่ะ แต่ส่วนตัวขอกดหัวใจให้สเต็กเนื้อที่หมักมานุ่มอร่อยไม่ต้องจิ้มซอสก็เริ่ดดดดและปิดท้ายกับ พุดดิ้งสับปะรด เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา รสหวาน หอม อร่อย ซึ่งทุกจานเติมได้ไม่อั้นตลอด 2 ชั่วโมงกันเลย
ในส่วนเมนูอาหารเช้าก็หลากหลายมากๆ ค่ะ ทั้งโซนอาหารไทย ข้าวต้ม สเตชั่นไข่ ไส้กรอก แฮม เบค่อน ขนมปัง ครัวซ็อง สลัด ชีส โยเกิร์ต ผลไม้ แพนเค้ก ซีเรียล นม น้ำผลไม้ และกาแฟ ที่มีให้เลือกทานตลอดไม่มีพร่อง ปิดท้ายกับกิจกรรมภายในที่พักที่มีทั้งสระว่ายน้ำส่วนกลาง แพเดิลบอดร์ด เรือคายัค สกิมบอร์ด ที่สามารถใช้บริการฟรีได้หมดเลยค่ะ
ถ้าให้สรุปเหตุผลที่ต้องมาทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด (Tolani Resort Koh Kood) ภายใน 3 คำเราก็จะบอกว่า วิว การบริการ และอาหาร คือสิ่งที่ทำให้เราหลงรักที่นี่ และถ้ามีโอกาสกลับมาเกาะกูดอีกเมื่อไรก็ต้องกลับมาที่นี่ให้ได้อีกแน่นอนค่ะ
ทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด (Tolani Resort Koh Kood)
ที่ตั้ง : 43/8 หมู่2 บ้านคลองเจ้า ตำบลเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด
ราคา : เริ่มต้น 5,885 บาท รวมอาหารเช้า (ราคาอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลา)
ราคาเตียงเสริม : 1,530 บาท พร้อมอาหารเช้า
เบอร์ติดต่อ : 081 835 4517
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/Y9p58qwfSpsaEg9L7
เว็บไซต์ : https://www.tolanihotels.com/tolani-resort-koh-kood
จองที่พักทูลานี รีสอร์ท เกาะกูด (Tolani Resort Koh Kood) ออนไลน์ที่นี่
บทความแนะนำ:
- ทริปเที่ยวเกาะกูด 3 วัน 2 คืน งบคนละ 5000 บาท เที่ยวเกาะกูดฉบับสาวโสดลางานไปโดดน้ำ
- 10 จุดเช็คอิน “เกาะกูด เกาะหมาก” ทริปเดียวเที่ยว 2 เกาะ