calendar_month 30 เม.ย. 2022 / stylus Maprang Chillpainai / visibility 52,407 / เที่ยวต่างประเทศ
สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยว ประเทศสิงคโปร์ กันค่ะ ยอมรับเลยว่าเราตื่นเต้นมากๆ เพราะครั้งนี้เป็นทริปแรกของเราเลยนะที่ได้เดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ ตั้งแต่สถานการณ์โควิด เราใช้เวลาเดินทางกันตลอดทริปนี้ทั้งหมด 4วัน 3 คืน จะสนุกครบรสขนาดไหนไปเที่ยวพร้อมๆ กันเลยจ้า...
...สิ่งที่ต้องรู้และเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปประเทศสิงคโปร์...
-ประเทศสิงคโปร์ เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง
-ประเทศสิงคโปร์ ใช้เงินสกุล ดอลลาร์สิงคโปร์ (SGD)
ไปค่ะเรามาเตรียมตัวก่อนเดินทางเข้า ประเทศสิงคโปร์ กัน ซึ่ง ณ ตอนนี้เที่ยวง่ายไม่ต้องกักตัวแล้วด้วย แถมเวลาที่อยู่นอกอาคาร Outdoor ก็ไม่ต้องใส่หน้ากากแล้วด้วยจ้า และล่าสุดก่อนเดินทางเข้าประเทศไม่ต้องแสดงผลตรวจโควิดแล้วนะ สะดวกสุดๆ
ขั้นตอนที่ 1 : จองทริปท่องเที่ยวสิงคโปร์กับทางบริษัททัวร์ หรือใครเดินทางเองก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลยจ้า
ขั้นตอนที่ 2 : เตรียมเอกสารวัคซีนวัคซีนพาสปอร์ตที่เราได้ฉีดแล้วจากเมืองไทย คือ หมอพร้อม (เล่มเหลือง หรือ QR ก็ได้)
ขั้นตอนที่ 3 : ซื้อประกันการเดินทางที่ครอบคลุมการรักษาโรคโควิดในวงเงิน 30,000เหรียญสิงคโปร์ (สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดส ไม่ต้องบังคับให้ซื้อประกันเดินทาง)
ขั้นตอนที่ 4 : ดาวน์โหลดแอป Tracetogether ลงมือถือไว้ เพื่อเอาไว้ใช้ในการเช็คอิน/เช็คเอ้าท์ ตามสถานที่ต่างๆ เมื่ออยู่ในสิงคโปร์
ขั้นตอนที่ 5 : 3 วันก่อนการเดินทางเราต้องลงทะเบียน ตม การเดินทางเข้าประเทศและลงทะเบียนเรื่องการฉีดวัคซีนจากไทยลงในระบบให้เรียบร้อย ที่เว็บไซต์ ICA SG Arrival Card
( https://eservices.ica.gov.sg/sgarrivalcard/ ) และเพื่อความสะดวกและมั่นใจในการยื่นเอกสาร support เพื่อใช้เดินทางไปยังสิงคโปร์
ขั้นตอนที่ 6: เดินทางถึงสิงคโปร์ สามารถท่องเที่ยวได้ทันที เมื่อมาถึงค่ะไม่ต้องกักตัว
DAY 1 เที่ยวสิงคโปร์วันที่ 1
เช้าวันแรกของการเดินทาง เราพกความตื่นเต้นออกจากบ้านมาเต็มกระเป๋า หัวใจพองโต เพราะดีใจที่ได้กลับมาเดินทางท่องโลกอีกครั้ง เราเช็คอินกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ทริป นี้เราเลือกเดินทางกับทัวร์ค่ะ เพราะเน้นสบายไว้ก่อน ทีมงานนัดเจอกันล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง 3 ชั่วโมงค่ะ เพื่อจัดเตรียมเอกสาร ณ บริเวณหน้าจุดเช็คอินมีน้องทีมงานคอยต้อนรับติดแท็กกระเป๋าให้ และแจกเอกสารที่ต้องใช้ แพลนทริป ที่จะใช้ในการเดินทางครั้งนี้ให้ค่ะ โดยถ้าเราซื้อทัวร์ทางบริษัททัวร์จะเป็นคนจัดการเรื่องเอกสารให้ค่ะ ทั้งเรื่องลงทะเบียนเข้า ตม. ซื้อประกันการเดินทางต่างๆ สะดวกสบายสุดๆ
ได้เวลาออกเดินทางกันแล้วจ้า ทริปนี้ เราเดินทางด้วยสายการบิน Singapore Airlines ทุกคนเอาจริงๆนะคือเราประทับใจมาก พนักงานต้อนรับบริการดีมากตั้งแต่ก่อนเข้าห้องโดยสารหน้าประตูทางเข้าทางสายการบินจะมี ชุด SIA Care Kit แจกให้เราก่อนออกเดินทาง ซึ่งในซองจะมีทิชชู่เปียกแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ผ้าเช็ดมือ และหูฟังให้ สำหรับใครที่อยากดูหนังฟังเพลงบนเครื่องบิน ในส่วนของที่นั่งกว้างขวาง และ นั่งสบายมากเลยค่ะ และสะอาดมากค่ะ
ออกเดินทางได้สักพัก พนักงานต้อนรับเริ่มทยอยเสริฟอาหารให้ ในส่วนของอาหารนั้น วันนี้เราเลือกเมนูไก่ ทานแล้วอารมณ์เหมือนทานข้าวแกงกระหรี่ไก่ มีความหอมเครื่องเทศอร่อยดีค่ะ เสริฟพร้อมโยเกิร์ต น้ำผลไม้ แถมเค้ามีการออกแบบ บรรจุในภาชนะกระดาษที่ย่อยสลายได้ด้วย และได้รับการรับรองโดย Forest Stewardship Council (FSC) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสุดๆ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์บนเครื่องบินได้ เช่น ไวน์ ค็อกเทล เบียร์ น้ำอัดลม น้ำผลไม้ กาแฟและชาหลากหลายประเภทเลย
ใช้เวลาเดินทางกันประมาณ 2 ชั่วโมง เราก็มาถึงประเทศสิงคโปร์ กันแล้วค่ะ นี่เป็นการมาเยือนประเทศสิงคโปร์ ในรอบ 5 ปีค่ะ ครั้งนี้เราได้มีโอกาสได้นั่งริมหน้าต่าง สิ่งแรกที่เห็นคือ ตะลึงกับภาพเรือบรรทุกสินค้าหลายร้อยหลายพันลำจอดเรียงรายกันอยู่ในน่านน้ำของประเทศสิงคโปร์เป็นภาพที่สวยงามสุดๆ
เครื่องบินค่อยๆ บินลดระดับลง จากท้องทะเล สู่ พื้นแผ่นดินและแล้วเราก็เดินทางมาถึง "สวัสดีสิงคโปร์"
สิงคโปร์ ประเทศบนเกาะเล็กๆ แต่มากด้วยความเจริญทางเศรษฐกิจ ที่รวบรวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความทันสมัยได้อย่างลงตัว ถึงแม้สิงคโปร์จะมีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างจำกัด แต่ที่นี่กลับมีแหล่งท่องเที่ยวสวยๆ มากมายไว้คอยให้ผู้คนจากทุกสารทิศได้ไปเที่ยวและพักผ่อนกัน และด้วยความสวยงามอลังการของสถานที่ท่องเที่ยวจึงไม่แปลกใจเลยล่ะค่ะ ที่สิงค์โปร์จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตที่ผู้คนต่างแวะเวียนมาพักผ่อนตลอดทั้งปีอย่างไม่ขาดสายจากทั่วทุกมุมโลก
ตลอดการเดินทางในทริปนี้เราใช้บริการรถบัสค่ะ เป็นรถของทางทัวร์เลย มีพี่ไกด์คอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆให้ฟัง ตลอดทริป แอร์เย็นสบายสุดๆ
ประเดิมความอลังการงานสร้างของสิงคโปร์ ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่เราไปเยือนในทริปนี้ ที่ GARDEN BY THE BAY สวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ ตั้งอยู่ริมอ่าวมารีน่า สร้างขึ้นบนแผ่นดินที่ถมขึ้นมาจากน้ำทะเล ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 101 เฮกเตอร์ ได้มีการรวบรวมพันธุ์พืชนานาชนิดไว้จัดแสดง เรียกได้ว่าเป็นปอดกลางเมืองสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะสิงคโปร์ด้วยค่ะ
ภายใน GARDEN BY THE BAY แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Bay Center Garden, Bay East Garden และ Bay South Garden ซึ่งโซนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักจะรวมกันอยู่บริเวณ Bay South Garden ส่วนที่เหลืออีก 2 โซนจะเป็นเหมือนที่ออกกำลังกายของชาวสิงคโปร์
Highlight ในโซน Bay South คือ เรือนต้นไม้ Conservatory Complex โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ Flower Dome จัดแสดงพรรณไม้เขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน และ Cloud Forest จำลองป่าและน้ำตกที่ประกอบไปด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้น
นอกจากนี้ยังมีทางเดินลอยฟ้า OCBC Skyway เชื่อมต่อกับ Super tree สวนแนวตั้งที่มีรูปทรงเป็นต้นไม้ซึ่งมีความสูงเท่าอาคาร 9 ถึง 16 ชั้นคู่ที่มีความสูงเข้าด้วยกัน มีไว้สำหรับให้ผู้ที่มาเยือนสามารถมองเห็นสวนจากมุมสูงขึ้น 50 เมตร บนยอดของ Super tree สามารถเห็นทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวและสวนโดยรอบ
Flower Dome จัดแสดงพรรณไม้เขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน
Cloud Forest จำลองป่าและน้ำตกที่ประกอบไปด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้น
เดินทางไปต่อกันที่ National Gallery Singapore (หอศิลป์แห่งชาติสิงคโปร์) พิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและใหม่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่ของสิงคโปร์และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ตั้งอยู่ ณ สถานที่สำคัญอันเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่สวยงามน่าทึ่งของสิงคโปร์ มีการจัดแสดงผลงานศิลปะของสิงคโปร์และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างกว้างขวางหอศิลป์แห่งนี้จัดแสดงผลงานศิลปะมากกว่า 9,000 ชิ้น เดินเพลินมากค่ะ
ก่อนเดินทางกลับที่พัก เราแวะไปชิลกันที่ร้าน Smoke & Mirrors ร้านอาหารและบาร์ ที่มีวิวที่สุดปังอีกหนึ่งแห่งของประเทศสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ค่ะ ร้านตั้งอยู่ชั้นบนสุดของ National Gallery Singapore มองเห็นวิวแบบ 180 องศา สามารถมองเห็นวิวของ ESPLANDE , theater on the bay , SINGAPORE FLYER , ArtScience Museum, โรงแรม MARINA BAY SANDS, ตึกสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากมาย สวยงามสุดๆ สำหรับอาหารจะเน้นเป็นพวกสแน็ค อาหารที่ทานง่าย แต่จะเน้นไปทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค็อกเทล ม็อกเทล หรือใครอยากจะจิบไวน์ชิลๆ ชมบรรยากาศเค้าก็มีบริการค่ะ ร้านเปิดบริการตั้งแต่ประมาณ 18.00-01.00น. ค่ะ ใครที่มาเดินเสพงานศิลป์ที่พิพิธภัณฑ์แล้ว อย่าลืมแวะมาดื่มชิลๆ ชมวิวสวยๆ กันได้ค่ะ โดยเฉพาะใครที่ชอบถ่ายรูปคือห้ามพลาด
หลังทานอาหารเย็นชมบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนของประเทศสิงคโปร์กับเสร็จ ได้เวลาเดินทางเข้าที่พักแล้วค่ะ
เราเช็คอินกันที่ โอเอเซีย รีสอร์ท เซ็นโตซ่า บาย ฟาร์ อีสต์ ฮอสพิทาลิตี้ (Oasia Resort Sentosa by Far East Hospitality) ที่พักหรูเอาใจคนรักสุขภาพ เปิดใหม่ใจกลาง เกาะเซนโตซ่า ที่พักตกแต่งในรูปแบบที่เน้นให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ตามแนนคิดของรีสอร์ทที่อยากให้ผู้ที่มาพักรู้สึกผ่อนคลาย โดยภายในใช้สีเอิร์ทโทน ดูสบายตา มีการประดับต้นไม้บริเวณทางเดิน ล็อบบี้ และสระว่ายน้ำ เพื่อนให้เราได้รู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ส่วนภายนอกยังคงรักษาเสน่ห์ของอาคารแบบเก่าที่มีกลิ่นอายของโคโลเนียลไว้
ห้องพักของเราคือ ห้องสวีท (Suite) ค่ะ ห้องกว้างมากค่ะ ขนาด 61 ตารางเมตร เลยทีเดียว ห้องแบ่งโซนชัดเจนมี หนึ่งห้องนอน หนึ่งห้องน้ำ และหนึ่งห้องนั่งเล่น ค่ะ ภายในห้องตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นเรียบหรู เน้นโชว์วัสดุที่ทำจากไม้ ทำให้รู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ภายในห้องยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทีวี ตู้เย็น โต๊ะทำงาน มินิบาร์เครื่องชงกาแฟแคปซูลอีกด้วย
แต่สำหรับใครที่ชอบพักแบบเน้นวิวสวยๆ แนะนำ ห้อง จูเนียร์ สวีท (Junior Suite) ค่ะ วิวสวยสุดๆ
นอกจากนี้ที่พักยังตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น Universal Studios Singapore, พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ S.E.A. Aquarium, มาดามทุสโซ สิงคโปร์, อิมเมจส์ ออฟ สิงคโปร์ อยู่ใกล้ชายหาด เช่น Palawan Beach, Siloso Beach และ Tanjong Beach และใกล้สถานีรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือรถประจำทางที่ใกล้ที่สุดคือ Imbiah ห่างจากที่พักเพียง 80 เมตรเองค่ะ เรียกได้ว่าเดินทางสะดวกสบายสุดๆ
Day 2 เที่ยวสิงคโปร์วันที่ 2
สวัสดีเช้าวันที่สองค่ะ เช้านี้เราตื่นแต่เช้าลงมาทานอาหารเช้าในที่พักกันค่ะ เราทานอาหารกันที่ห้องอาหาร BEDROCK ORIGIN อาหารเช้าเป็นแบบ A La Carte ค่ะมีหลากหลายเมนูให้เลือกทานส่วนมากจะเป็นเมนูที่เน้นสุขภาพ ทานอาหารเช้ากันเสร็จได้เวลาไปเที่ยวกันแล้วค่ะ
ในช่วงเช้าและบ่ายของวันนี้เราเที่ยวกันใน เกาะ Sentosa ค่ะ เกาะเซ็นโตซ่า เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตอนใต้ของประเทสสิงคโปร์ ชื่อ “Sentosa” (เซ็นโตซ่า) แปลว่า “สันติภาพและความสงบสุข” ในปัจจุบันเป็นเกาะที่ตั้งของรีสอร์ท โรงแรมหรูหรา และสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ มากมาย ที่แรกที่เราจะไปคือนั่งเคเบิ้ลคาร์ชมวิวของเกาะและเพื่อที่จะไปเที่ยวสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์ ที่ SKY Helix Sentosa
จุดเช็คอินแรกของวัน SKY Helix Sentosa สถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิวแห่งใหม่ล่าสุดของสิงคโปร์ ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซ่า สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ความสูงประมาณ 35 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 12 ชั้นเลยค่ะ ด้านบนมองเห็นวิวเกาะเซ็นโตซ่าทั้งเกาะ และ เกาะต่างๆ ของประเทศสิงคโปร์ สวยงาม และหวาดเสียวสุดๆ ส่วนบัตรขึ้น SKY Helix สามารถนำไปแลกเครื่องดื่มได้ 1 อย่าง หรือใครอยากจะแลกเป็นของที่ระลึกกลับบ้านก็ได้ค่ะ
จากนั้นเรานั่งเคเบิ้ลคาร์กลับมายังบริเวณ Universal Studios Singapore เพื่อนที่จะมาเที่ยวที่ S.E.A.Aquariumกันค่ะ
S.E.A.Aquarium พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ตั้งอยู่บริเวณ Resorts World Sentosa ในพื้นที่ใกล้ๆ กับ Universal Studios มีการจัดแสดง อาณาจักรโลกใต้ท้องทะเลที่สวยงามอลังการ และเต็มไปด้วยสัตว์น้ำกว่า 100,000 ตัวจาก 1,000 กว่าสายพันธุ์
Open Ocean จุดนี้ถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของ S.E.A Aquarium เมื่อเดินเข้าไปที่โซนนี้แล้วรู้สึกได้เหมือนกับเรากำลังเดินเล่นอยู่ในใต้ท้องทะเลลึก และต้องตะลึงกับ แกลอรี่ของมหาสมุทร เราได้มองผ่านกระจกบานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความยาวของกระจกถือเป็น 2 เท่าของจอภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และมีความหนาถึง 70 เซนติเมตร เราจะตื่นตะลึงไปกับทัศนียภาพอันงดงามใต้ท้องทะเล และได้ทำความรู้จักกับสัตว์น้ำที่มากมายกว่า 50,000 ตัวเลยค่ะ
และ ถ้าเรามองเข้าไปยังบานกระจก อีกฝั่งที่อยู่ตรงข้ามของแท้งค์น้ำขนาดยักษ์นี้ จะเป็นหน้าต่างของห้อง Ocean Suite ห้องพักสุดหรูในโรงแรม Equarius Hotel หนึ่งในที่พักเครือรีสอร์ท เวิล์ด เซนโตซ่า ซึ่งห้อง Ocean Suite นี้ มีเพียง 11 ห้องเท่านนั้น แต่ละห้องมีจะมี 2 ชั้น ชั้นบนเป็นห้องนั่งเล่นเหนือน้ำ มีระเบียงและอ่างจากุซซี่กลางแจ้ง ส่วนชั้นล่างเป็นห้องนอน มีผนังด้านหนึ่งเป็นบานอะครีลิกขนาดใหญ่เผยให้เห็นฝูงปลาในอะควอเรียม เป็นอีกหนึ่งที่พักในฝันของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว
อีกหนึ่งไฮไลท์ ของ S.E.A Aquarium ก็คือ Shark Seas อุโมงค์ของฉลามที่รวมฉลามไว้ กว่า 12 สายพันธุ์ เช่นฉลามครีบดำ ฉลามไม้ไผ่ ฉลามครีบเทา ฉลามหัวค้อน ฉลามพยาบาล นอกจากความน่าตื่นเต้นแล้วคุณจะได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของฉลามเพราะมันคือผู้ล่าแห่งท้องทะเลที่จะทำให้เกิดความสมดุลทางนิเวศวิทยาอีกด้วยค่ะ
หลังจากเดินเล่นชมความงามของใต้ท้องทะเลกันเสร็จ เราไปทานอาหารกลางวันกันที่ ร้าน Putien อีกหนึ่งร้านอาหารขึ้นชื่อของประเทศสิงคโปร์ตั้งอยู่ใน โซน Resorts World Sentosa เสริฟอาหารสไตล์จีนฮกเกี๊ยน ที่มีต้นกำเนิดมาจากมณฑลฝูเจี้ยนของประเทศจีน อีกทั้งยังการันตรีความอร่อยด้วยรางวัล Michelin Star อีกด้วย แอบกระซิบค่ะว่าอร่อยทุกเมนูเลย
เดินย่อยกันอีกหน่อยแล้วไปเที่ยวต่อกันที่ Trickeye Museum (พิพิธภัณฑ์ภาพลวงตา)
และ Headrock VR ( เกมโลกเสมือนจริง) ทั้งสองกิจกรรมนี้ตั้งอยู่ในอาคารเดียวกันค่ะ
Trickeye Museum พิพิธภัณฑ์ภาพลวงตา นั้น จะมีบรรยากาศคล้ายๆ กับ ที่ Art In Paradise Pattaya บ้านเราค่ะ โดยจะมีภาพวาดสามมิติให้ถ่ายรูปเล่น หรือใครอยากถ่ายเป็นวีดีโอก็สามารถโหลดApp มาเล่นได้เลยจ้า จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำวีธีให้ค่ะ
ส่วนโซนของ HeadRock VR อันนี้เราตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเล่นมาก่อนค่ะ เราจะได้สัมผัสกับ ความสนุกในเกมโลกเสมือนจริง สนุกสนานและหวาดเสียวมาก และ HeadRock VR ของ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในสวนสนุก VR ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
หลังจากจัดกิจกรรมแน่นๆ มาทั้งวัน เย็นนี้เราฝากท้องกันที่ ร้าน ข้าวมันไก่บุญตงกี่ BOON TONG KEE ครั้งนี้เราทานกันที่สาขา Ang Mo Kio Outlet ซึ่งเป็นสาขาใหม่ล่าสุดของทางร้านค่ะ บุญตงกี่ เป็นร้านอาหารจีนสไตล์สิงคโปร์ชื่อดังอีกร้านของสิงคโปร์ ทีเด็ดก็อยู่ที่ “ข้าวมันไก่” แหละค่ะ เพราะทานร้านใช้ไก่คัดพิเศษ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ดบริการและเปิดมายาวนาน บอกเลยว่าอร่อยสมคำร่ำลือ ไก่เนื้อแน่นๆ ฉ่ำๆ ทานคู่กับข้าวมันหอมๆ ซดกับน้ำซุบร้อนๆ ฟินมากค่ะ และนอกจากข้าวมันไก่แล้วยังมีเมนูอื่นให้เลือกทานอีกมากมาย
หลังจากอิ่มท้อง กิจกรรมสุดท้ายของวันนี้ คือ Singapore River Bumboat Cruise ล่องเรือชมแม่น้ำสิงคโปร์ ชมวิวทิวทัศน์ที่ทันสมัยของสถานที่ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ริมสองฝั่งของแม่น้ำสิงคโปร์ และอ่าวมารีน่า ในระหว่างที่เรานั่งเรือ บนเรือจะมีการบรรยายถึงประวัติศาสตร์อันน่าสนใจของ Raffles Landing site มุ่งสู่อาคารสมัยใหม่ที่เป็นสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต นั่นคือ Marina Bay Sands และเรื่องราวที่สำคัญของลำน้ำสายนี้ที่มอบชีวิตให้เมืองสิงคโปร์ ทำให้เราได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่สุดคลาสสิกเลยค่ะ
ส่วนเส้นทางที่ล่องเรือนั้นครอบคลุมย่านพื้นที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของสิงคโปร์ เช่น Clarke Quay (ท่าเรือคลาร์ก คีย์), Boat Quay (ท่าเรือโบ๊ทคีย์) และ Marina Bay (อ่าวมารีน่า) ได้ถ่ายรูปกับวิวสวยๆ สองข้างทาง รวมไปถึงสัญญาลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์อย่าง เมอร์ไลอ้อน, สะพานเกลียว หรือ Helix Bridge ฯลฯ
Day 3 เที่ยวสิงคโปร์วันที่ 3
เช้านี้ขอย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง กับจุดเช็คอินแรกของวัน ที่ River Wonders หรือในชื่อเดิมคือ River Safari สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในธีมแม่น้ำ ที่ตั้งอยู่ในเมือง Mandai ตั้งอยู่ทางภาคเหนือสุดของประเทศสิงคโปร์ และเป็นส่วนหนึ่งของเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า Mandai บนพื้นที่ 12 เฮกตาร์ และตั้งอยู่ระหว่างสวนสัตว์สิงคโปร์ และไนท์ซาฟารีสิงคโปร์
River Safari เป็นเหมือนอีกโซนหนึ่งที่แยกออกมาจากสวนสัตว์สิงคโปร์ ที่ต้องเสียค่าเข้าต่างหาก ภายในจะแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ นำเสนอพันธุ์สัตว์ตามลุ่มน้ำที่สำคัญๆ ของโลก เช่น ลุ่มน้ำอะเมซอน ลุ่มน้ำโขง ฯลฯ และยังมีโดมที่ให้เดินเข้าไปชมสัตว์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดโดยไม่มีกรงหรือกระจกขวางกั้น เช่น โดมหมีแพนด้า โดมนกและลิง ไปชมหมีแพนด้ากันใกล้ๆ โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าเพิ่มเติมอีก
เจียเจีย และ เล่อเล่อ สองแพนด้าแม่ลูกจอมซนน่า วันนี้ออกมาโชว์ตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย น่ารักมากเลยค่ะ
Amazon River Quest จะเป็นเรืออัตโนมัติแล่นไปตามทางลำน้ำเล็กๆ แบบในสวนสนุก จำลองสวนสัตว์ในเขตลุ่มน้ำอะเมซอน
เที่ยวสวนสัตว์กันแบบจุใจแล้ว ท้องก็เริ่มหิว มื้อนี้พี่ไกด์พาเราไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน True Blue Cuisine ร้านอาหารเล็กๆ แต่น่ารักที่ตั้งอยู่ในเขตของพิพิธภัณฑ์เปอรานากันค่ะ และแน่นนอนค่ะมาถึงที่นี่ เราก็ต้องมาทานอาหารเปอรานากัน แบบดั่งเดิมกัน ใน บรรยากาศบ้านเก่ามีโถงโล่งๆ กลางบ้าน ตกแต่งในสไตล์เปอรานากันดั่งเดิม ฟิลล์จะคล้ายๆ กับร้านอาหารในย่านเมืองเก่าของจังหวัดภูเก็ตบ้านเราเลยค่ะ
ทานอาหารนั่งย่อยกันเสร็จเรียบร้อย ช่วงบ่ายของวันนี้จะเป็นช่วงวันอิสระค่ะ เราเลยคุยกับเพื่อนในทริปตัดสินใจไปเที่ยวกันที่ ArtScience Museum หนึ่งในสถานที่ๆ อยากไปอีกหนึ่งแห่งของประเทศสิงคโปร์
ArtScience Museum พิพิธภัณฑ์รูปร่างแปลกตานี้ ตั้งอยู่ริมอ่าวมารีน่า แท้จริงแล้วรูปร่างของตึกนี้ตั้งใจให้เหมือนกับดอกบัวที่เปรียบเสมือน "มือ" ของสิงคโปร์ที่มี 10 นิ้ว (สั้น-ยาวไม่เท่ากันด้วยนะ) มีห้องจัดแสดงงานกว่า 21 ห้อง โดยแต่ละนิ้วจะมีช่องรับแสงจากธรรมชาติที่ส่องให้เห็นผลงานศิลปะและพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมมากมาย ครอบคลุมตั้งแต่ศิลปะและวิทยาศาสตร์ สื่อและเทคโนโลยี รวมไปถึงการออกแบบและสถาปัตยกรรม โดยจะผลัดหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากศิลปินทั่วโลก
ครั้งนี้เรามีเวลาน้อยเลยเลือกชมแค่ส่วนของ 'FUTURE WORLD'
เป็นโซนที่รวมผลงานแบบอินเตอร์แอคทีฟสุดไฮเทคที่เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย เสียค่าเข้าคนละ 21 SGD. ค่ะ
ถ่ายรูปกันจุใจแล้ว เราแวะไปจิบกาแฟชิลๆ และ Shopping กันที่โรงแรม Marina Bay Sands โรงแรมที่เรียกได้ว่ามีทุกอย่างครบจบในที่เดียวเลยค่ะ ไม่ว่าจะห้องพัก ร้านอาหาร ร้านค้า ไปจนถึงคาสิโน เราเดินShopping กันเรียบร้อยก็ชวนเพื่อนๆ ขึ้นไปชมวิวที่ Sands SkyPark Observation Deck บนชั้น 57 ของตึก จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวได้ทั้งอ่าวสิงคโปร์เลยค่ะ หรือถ้าใครมีโอกาสเข้าพักที่นี่ก็ห้ามพลาดไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำที่สูงที่สุดในโลกซึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมด้วยนะ ส่วนตอนกลางคืนก็มีการแสดงแสงสี Wonder Full-Light & Water ให้ชมด้วยใครไปเที่ยวห้ามพลาดเลยนะคะ
การแสดงแสงสี Wonder Full-Light & Water
Day4 เที่ยวสิงคโปร์วันที่ 4
สายๆ ของวันสุดท้ายหลังเช็คเอาส์ออกจากที่พักพวกเรามุ่งหน้าสู่ ร้าน Song Fa ร้านบักกุดเต๋ต้นตำรับที่เปิดมานานกว่า 50 ปีชื่อดังของสิงคโปร์ ที่ต้องมากินสักครั้ง แถมยังการันตีความอร่อยด้วยมิชลิน ไกด์อีกด้วย ในวันนี้พวกเราทานกันที่สาขา The Centrepoint ค่ะ เพราะสะดวกในการเดินทาง รสชาติอร่อยเหมือนกับสาขาต้นตำหรับเลยค่ะ ใครไปเที่ยวสิงคโปร์อย่าลืมมาทานกันนะคะ หรือถ้าใครอยากทานทางร้านมีสาขาในไทยด้วย ตั้งอยู่ที่สยามพารากอนค่ะ
จากนั้นเดินทางสู่ Changi Airport เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ไฟลท์บินกลับของพวกเราคือ Singapore Airlines SQ714 เวลา 17:30น. ตอนนี้ทางสนามบินชางงีสามารถทำ early check-in ผ่าน Fast and Seamless Travel (FAST) ซึ่งปัจจุบันสายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส และสายการบินพันธมิตรอื่นๆหลายสายก็สามารถทำได้ ผู้เดินทางสามารถเช็คอินและโหลดกระเป๋าได้อยากสะดวกสบายผ่านตู้อัตโนมัติ ทำให้เราสามารถไปเดินเล่นกันต่อที่ Jewel หรือเข้าไปช้อปปิ้งใน duty free ได้อย่างจุใจ
มีเวลาเหลือเราไปเดินเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้า Jewel Changi Airport เดินเล่น Shopping มีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด คือ ความอลังการของ HSBC Rain Vortex น้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งมีความสูงถึง 40 เมตร ถือเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามอย่างมาก ตั้งอยู่ในกลางศูนย์การค้า Jewel เลยค่ะ ใครที่ไปช่วงตอนกลางคืนจะมีการจัดแสดงแสงและเสียงอันน่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ พวกเราเดินเล่นอยู่ในห้างกันพักใหญ่ พอใกล้ถึงเวลาก็เดินกลับไปเข้า ตม. ที่สนามบินและเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ
ทริปนี้เรียกได้ว่าเราได้ตะลุยเที่ยวประเทศสิงคโปร์ กันอย่าสวยงาม สนุกทุกที่ ครบทุกสไตล์ จริงๆ แถมได้เที่ยวจนวินาทีสุดท้ายด้วย เพลิดเพลินมาก สิงคโปร์เป็นประเทศที่ทันสมัย ชิค คลูสุดๆ ถ่ายรูปได้ทุกมุม และแฝงไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายเชื้อชาติที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบ Shopping และชอบถ่ายรูป บอกเลยว่าสิงคโปร์น่าจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจะตอบโจทย์การเดินทางของเพื่อนๆ ได้ค่ะ "เพราะชีวิตคือการเดินทาง"
ใครที่อยากไปเที่ยวสิงคโปร์สามารถดูโปรแกรมทัวร์ได้เลยค่ะ https://chillpainai.com/tour-singapore
โทรสอบถามทัวร์เพิ่มเติมได้ที่ :
บทความแนะนำ:
Tags: สิงคโปร์ ที่เที่ยวสิงคโปร์ ทัวร์สิงคโปร์ เมอร์ไลอ้อน Garden by the bay
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 508 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 11 ต.ค. 2024 | 740 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 24 ก.ย. 2024 | 650 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ย. 2024 | 1,194 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 30 ก.ค. 2024 | 1,897 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 19 ก.ค. 2024 | 4,164 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 16 ก.ค. 2024 | 2,032 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 18 เม.ย. 2024 | 3,511 อ่าน
เที่ยวต่างประเทศ | 21 ก.พ. 2024 | 5,431 อ่าน