calendar_month 23 ธ.ค. 2021 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 23,979 / ทริปตัวอย่าง
อยากไปเที่ยวทะเลตรัง กินหมูย่างสุดอร่อย ขณะเดียวกันก็อยากไปเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูลด้วย จะทำได้ไหม บอกเลยว่าได้ เพราะตรังเปรียบเหมือนประตูสู่อันดามันที่สามารถเดินทางไปเที่ยวเกาะสวยๆ อื่นๆ ในทะเลอันดามันได้อีกด้วย กับทริปเที่ยวทะเลตรัง VS เที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ชมทะเลสวยแดนใต้ตะลุยกินของอร่อย 4 วัน 3 คืน จะสนุกแค่ไหนตามไปชมกันเลย
11.00 น. เดินทางจากสนามบินดอนเมืองสู่จังหวัดตรัง
เราออกจากกรุงเทพฯ สายนั่งเครื่องบินไปลงยังจังหวัดตรังค่ะ ซึ่งข้อดีของตรังคือสนามบินตรังจะอยู่ใกล้ตัวเมืองตรังนั่งรถเพียง 10 นาทีจากสนามบินตรังก็สามารถเดินทางเข้าเมืองได้แล้ว
วิธีเข้าเมืองตรัง
1. รถโดยสารประจำทาง หรือรถมินิบัสราคา 12 บาท เริ่มต้นที่ท่าอากาศยานตรัง ไปยังสถานที่สำคัญในเมืองเช่น สถานีรถไฟตรัง ไปสิ้นสุดที่สถานีขนส่งจังหวัดตรัง โดยรอบรถจะมีรองรับตั้งแต่ไฟลท์แรกไปจนถึงไฟลท์สุดท้ายที่มาลงที่ตรัง
2. รถตู้ ราคา 90 บาท สามารถกำหนดสถานที่ส่งได้ โดยรถตู้จะไปส่งถึงโรงแรมที่เราพักในเมืองตรัง
3. รถแท็กซี่มิเตอร์ 0-2 กิโลเมตรแรกราคา 40 บาท , 2-10 กิโลเมตร ราคากิโลเมตรละ 6 บาท, กิโลเมตรที่ 10 ขึ้นไป คิดกิโลเมตรละ 10 บาท
4. รถแท็กซี่หัวกบซึ่งเป็นรถประจำจังหวัดตรัง ค่าเดินทางแล้วแต่ตกลงแต่เราเคยนั่งจากเมืองตรังไปสนามบินประมาณ 100 บาท
5. เช่ารถส่วนบุคคลจากบริษัทเช่ารถ
14.00 น. จากนั้นเราเข้าเช็คอินที่ โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรังซึ่งเป็นที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ
โรงแรมเรือรัษฎา โรงแรมใจกลางเมืองตรัง ออกแบบเก๋ไก๋ด้วยการดีไซน์ตัวอาคารของโรงแรมให้เป็นเหมือนเรือสำราญขนาดใหญ่ โดยเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรังมีห้องพักให้บริการถึง 217 ห้อง พร้อมกับมีห้องจัดเลี้ยงถึง 9 ห้องรองรับได้มากกว่าพันคน
บรรยากาศภายในล้อบบี้มีความโอ่งโถง หรูหรา พร้อมกับการบริการของพนักงานต้องรับอย่างดีเยี่ยม
ห้องพักที่เรามาเช็คอินวันนี้คือห้องสุพีเรียร์ค่ะ ห้องนี้ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท/คืน ถ้ารวมอาหารเช้าด้วยจะอยู่ที่ 1,700 บาท/คืน ห้องนี้มีพื้นที่ 26 ตารางเมตร สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ ภายในห้องกว้างขวางมีระเบียงให้ออกไปรับลมชิลๆ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องครบครัน อาทิ ทีวี มินิบาร์ ฟรีเอินเตอร์เน็ตไวไฟ ไดร์เป่าผม รองเท้าสลิปเปอร์ ชุดคลุมอาบน้ำ และตู้เซฟ
ห้องน้ำเป็นแบบชาวเวอร์ และเรนชาวเวอร์ มีระบบน้ำร้อนน้ำเย็น ภายในห้องน้ำมีสบู่เหลม แชมพูสระผมให้บริการ
ส่วนสิ่งอำนวยความาสะดวกส่วนกลางภายในโรงแรมประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำเกลือ ลึก 120 เซนติเมตร พร้อมกับมีระบบจากุซซี่ และมีสระเด็กให้บริการ
นอกจากนี้ยังมีฟิตเนส สปา ที่มีบริการนวดไทย นวดเท้า นวดอะโรม่า นวดฝ่ามือราคาเริ่มต้น 150 บาทเท่านั้น
บอกเลยว่าติดใจบริการนวดของที่นี่มากๆ ค่ะ แถมก่อนนวดทางสปายังมีบริการตรวจ ATK ให้เราก่อนใช้บริการอีกด้วยค่ะ
โรงแรมเรือรัษฎา
ที่ตั้ง : ตำบล ทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จ.ตรัง
ราคา : เริ่มต้น 1,500 บาท
เบอร์ติดต่อ : 075 214 230
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/xvKuoPN7aQ6xgGWa6
จองที่พักโรงแรมเรือรัษฎา จ.ตรัง ออนไลน์ได้ที่นี่
18.00 น. ทานอาหารเย็นที่ร้าน Sand Whitings Restaurant & Bar
เราพักผ่อนใช้เวลาภายในโรงแรมจนถึงเวลาเย็นก็ถึงเวลาไปทานอาหารที่ร้าน Sand Whitings Restaurant & Bar ร้านหาไม่ยากค่ะ เพราะ อยู่ตรงข้าม โรบินสันตรัง ติดกับ Hop inn ตรังตัวร้านดีไซน์ให้ฟีลเหมือนอยู่ใต้ท้องทะเลลึกโดยใช้สีน้ำเงินเข้มเหมือนสีน้ำทะเล เป็นร้านนั่งชิลยามค่ำคืนที่มีวงดนตรีแจ๊สมาบรรเลงเพลงเพราะๆ ให้ฟังอีกด้วย
ตัวร้านจะมี 2 ชั้นค่ะ บริเวณชั้น 2 จะมีดนตรีสดให้ฟัง ส่วนอาหารบอกเลยว่าอร่อยมากกกก ก.ไก่ล้านตัวกันเลยทีเดียวแถมราคายังไม่แรงอีกด้วย ซึ่งร้านนี้เจ้าของร้านเดียวกับร้านปูม้าปาร์ตี้ ซีฟู้ด ซึ่งชื่อร้าน Sand Whitings นั้นนำมาจากชื่อภาษาอังกฤษของปลาทรายซึ่งเป็นเมนูขายดีของร้าน ปูม้าปาร์ตี้ ซีฟู้ด นั่นเอง
เมนูที่เราสั่งมาในวันนี้มีมากมายเลยค่ะ อาทิ ซีซาร์สลัดซอสจากปลากุเลาเค็ม ปลาทรายซาชิมิ กุ้งลายเสือเทอร์มิดอร์ แกงไก่บ้านกับกะลามะพร้าว
ปลาทายทอดทรงเครื่อง สเต๊กปลาเก๋า สปาเก็ตตี้ซอสปลากุเลาเค็ม และเป็ดรวน บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนูค่ะ โดยเฉพาะเมนูจากปลาทรายที่นำไปทำเป็นซาชิมิอร่อยสุดๆ ใครมาตรังเราขอแนะนำร้านนี้เลยค่ะ ดีงามสุดๆ
Sand Whitings Restaurant & Bar
ที่ตั้ง : ร้านอยู่ตรงข้าม โรบินสันตรัง ติดกับ Hop inn ตรัง
เปิดบริการ : 16.00 - 23.30 น.
เบอร์ติดต่อ : 065 653 2365
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/szFL8peR9hVZxa4J9
7.00 น. ทานอาหารเช้าที่ที่พัก
พักผ่อนเอาแรงจากเมื่อคืนกันอย่างเต็มที่เช้านี้เราตื่นแต่เช้ามาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของโรงแรม ซึ่งเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้ง อเมริกันเบรคฟาสต์ อาหารไทย สลัด หรือใครอยากทานอาหารใต้อย่างข้าวยำ หรือขนมจีนน้ำยาใต้ที่นี่ก็มีบริการค่ะคอนเฟิร์มว่าอร่อยมากๆ
7.30 น. เดินทางไปยังร้านอาหารเลตรัง 1 ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือปากเมงเพื่อเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ
เช้านี้เราจะไปทัวร์ดำน้ำที่เกาะหลีเป๊ะกันค่ะ โดยเราซื้อทัวร์ของทาง Love Andaman เอาไว้แบบวันเดย์ทริปราคา 2099/คน ซึ่งเราใช้บริการรถตู้รับส่งจากที่พักไปยังเท่าเรือปากเมงจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มคนละ 200 บาทค่ะ แต่ถ้าพักอยู่แถวๆ ท่าเรือปากเมงจะมีรถตู้ไปรับ-ส่งฟรีค่ะ
ไม่นานรถตู้ของ Love Andaman ไปยังร้านอาหารเลตรัง 1 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือปากเมง ซึ่งที่นี่เป็นจุดเช็คอินของทาง Love Andaman ก่อนที่จะไปทัวร์เกาะต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีจากที่พักก็มาถึงแล้วค่ะ
ใครที่ยังไม่ได้ทานอะไรมาสามารถมาทานที่นี่ได้เลย โดยมีให้บริการ ขนม อาหารว่าง ข้าวต้ม ชากาแฟ น้ำดื่มพร้อมเลยล่ะค่ะ
ก่อนจะออกเดินทางทางทีมไกด์ของ Love Andaman ได้มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับทริปในครั้งนี้ค่ะ ซึ่งเราจะใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือปากเมงไปยังเกาะหลีเป๊ะประมาณ 1.40 ชั่วโมง และพี่ๆ ไกด์ยังให้ข้อมูลด้วยว่าเกาะหลีเป๊ะนั้นเป็นเกาะที่รอดพันจากการฟอกขาวของปะการัง ดังนั้นการเที่ยวที่ดีคือการเที่ยวที่ไม่ทำลายเขา โดยเราจะไม่แตะ ไม่เก็บซากปะการัง เปลือกหอยซึ่งเปลือกหอยบางชนิดเป็นบ้านของสัตว์เช่น ปูเสฉวน ซึ่งนอกจากจะได้ความสนุกในเรื่องการท่องเที่ยวแล้วทาง Love Andaman ยังให้ความรู้ในเรื่องการท่องเที่ยวที่ถูกต้องให้เราอีกด้วยประทับใจสุดๆ ค่ะ
8.30 น. ออกเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะด้วยเรือสปีดโบ๊ท
เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะกันเลยค่ะ โดยทริปนี้เราจะนั่งเรือสปีดโบ๊ทไป ภายในเรือจะมีห้องน้ำให้บริการด้วยนะคะ แต่ถ้าใครไม่อยากเข้าห้องน้ำในเรือแนะนำว่าทำธุระให้เสร็จก่อนลงเรือค่ะ เพราะระยะเวลานั่งค่อนข้างนาน
ระหว่างนั่งเรือทางไกด์ก็บริการแจกน้ำ แจกขนมให้เราด้วยค่ะ หรือใครเมาเรือสามารถแจ้งพี่ไกด์ได้เลย เขามีบริการยาแก้เมาเรือพร้อม นั่งเรือหลับๆ ตื่นๆ มาสักพัก พอลืมตาขึ้นมาทะเลหลีเป๊ะก็อยู่ตรงหน้าบอกเลยว่าสวยงามประทับใจมากๆ ทะเลสีฟ้าใสราวกับกระจกกับหาดทรายสีขาวทำให้เราอยากลงไปแหวกว่ายกันแล้วค่ะ
โดยจุดที่เรือมาจอดวันนี้จะอยู่บริเวณร้าน Zodiac Bar บาร์สไตล์โจรสลัดที่ตั้งอยู่ภายใน Zodiac See Sun Resort เป็นจุดที่สวยมากๆ อีกแห่งหนึ่งของเกาะหลีเป๊ะ เพราะตัวหาดจะเป็นปลายแหลมที่ยื่นไปในทะเล และเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมากๆ อีกด้วยค่ะ
เราเคยมาบาร์นี้ตอนกลางคืนแล้ว บรรยากาศสวยงามประทับใจ พอมาตอนกลางวันก็สวยไปอีกแบบ แม้แดดจะร้อน แต่ทะเลสวยๆ ของหลีเป๊ะก็ทำให้เราอยากจะออกไปเริงร่าท้าแดด ใครอยากลงเล่นน้ำก็ลงไปแหวกว่ายได้เลย หรือจะอยากจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก็สั่งได้เลยค่ะ (ในส่วนเครื่องดื่มจะต้องจ่ายเองนะคะ)
เราสั่งเป็นม็อกเทลรสเปรี้ยว หวาน เย็นมาทาน ราคา 250 บาทค่ะ (แอบแรง T_T) หรือใครที่ไม่สั่งอะไรมาทานก็ได้ เดินถ่ายรูปสวยๆ ได้เต็มที่เลยค่า
ใคร CF บิกินี่ตัวเก่งเอาไว้บอกเลยว่ามาใช้กับทริปนี้ได้กันอย่างเต็มที่ ได้ภาพสวยกลับบ้านไปแบบเมมเต็มกันเลยทีเดียว
เราถ่ายรูปกันจนหนำใจใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็เดินทางไปดำน้ำยังร่องน้ำจาบัง ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่ขึ้นชื่อของเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งจุดนี้จะมีปาการังอ่อนสีสันสวยงามให้เราได้ชม บอกเลยว่าน้ำตรงจุดนี้แรงมากๆ แต่ไม่ต้องกังวลค่ะเพราะมีเชือกให้เราได้เกาะ และมีทีมไกด์ของ Love Andaman คอยดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา
ตื่นตาไปกับปาการังสวยๆ ประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็เดินทางต่อไปยังเกาะราวี ซึ่งเป็นจุดที่เราจะทานข้าวกลางวันกันค่ะ
อาหารของเราในวันนี้ทาง Love Andaman จัดข้าวกล่องมาให้ ซึ่งเขาใช้กล่องข้าวพลาสติกที่นำไปล้างทำความสะอาดได้ เป็นการช่วยลดขยะไปได้อีกด้วย ส่วนกับข้าวคอนเฟิร์มเลยว่าเป็นทัวร์ที่กับข้าวอร่อยมากๆ ยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจเลย
นอกจากนี้ยังมีเค้กที่เป็นที่โจทย์ขานว่าเค้ก Love Andaman อร่อยมากๆ เราได้ชิมแล้วบอกเลยว่าอันเดียวไม่พอ ต้องขอเพิ่มทั้ง เค้กมะพร้าวที่ยกให้เป็นเดอะเบสท์ เค้กชาไทย เค้กช็อกโกแลตเนื้อนุ่มแทบจะละลายในปาก นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มทั้งน้ำผลไม้ น้ำอัดลม ขนมเติมได้ไม่อั้นกันเลยทีเดียว
อิ่มกันแล้วก็ถึงเวลาเดินทางไปยังเกาะหินงามค่ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเกาะที่เราชอบมากๆ เมื่อมาเที่ยวหลีเป๊ะ โดยจุดเด่นของเกาะนี้คือบริเวณหน้าหาดจะมีหินสีดำขลับรูปร่างกลมมนอยู่เต็มหาดเลยค่ะ
หินสวยงามเหมือนดังงานศิลปะ เรียงรายอยู่เต็มหาด ซึ่งเชื่อว่าถ้าใครเก็บหินนี้ไปจะพบกับโชคร้ายจนต้องเดินทางกลับมาคืนกันเลยทีเดียว ส่วนเราแม้จะไม่มีความเชื่อแบบนี้เราก็ไม่เคยมีความคิดจะเก็บของขวัญจากธรรมขาติเหล่านี้กลับบ้านแน่นอนค่ะ แค่ได้มาชม มาเก็บภาพความประทับใจก็เพียงพอแล้ว อ้อ เขาไม่อนุญาตให้เรียงหินด้วยนะคะ เพราะอาจจะทำให้น้องตกลงมาแตก เพราะกว่าเขาจะกลมมนแบบนี้ใช้เวลาหลายปีกันเลยทีเดียว
จากนั้นก็เดินทางไปดำน้ำจุดสุดท้ายบริเวณหลังเกาะหินงามค่ะ บอกเลยว่าเป็นจุดที่เราชอบมากๆ น้ำใส ปะการังบริเวณนี้สวยงามประทับใจมากๆ
และความโชคดีของเราคือได้เจอปลาสิงโตที่มาเป็นครอบครัว พ่อ แม่ ลูกเลย สวยงามมากๆ แต่อย่าเผลอไปโดนน้องเข้านะคะเพราะน้องเขามีพิษ ถ้าโดนเข็มตรงปลายครีบของน้องเขาจะปวดมากๆ และอาจจะทำให้เป็นอัมพาตชั่วคราว ซึ่งด้วยนิสัยของน้องเขาก็จะว่ายไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำร้ายใครอยู่แล้วค่ะ เราก็ขอชมความสวยงามของน้องอยู่ห่างๆ กันนะคะ
เต็มอิ่มกับทะเลหลีเป๊ะแล้วก็ถึงเวลาเดินทางกลับมายังท่าเรือปากเมงค่ะ ใครสนใจทริปนี้สามารถดูรายละเอียดที่นี่ได้เลยค่ะ
19.00 น. ทานอาหารค่ำที่ร้าน Chef's Grill Factory
นั่งเรือกลับมาถึงท่าเรือปากเมงก็เย็นย่ำแล้ว ท้องเริ่มร้องเราเลยไปทานอาหารเย็นกันที่ร้าน Chef's Grill Factory เป็นร้านสไตล์ไฟน์ไดน์นิ่งที่นำวัตถุดิบของจังหวัดตรังมาทำเป็นเมนูฟิวชั่นสุดอร่อยได้อย่างลงตัว
มื้อนี้เราจัดมาเป็นคอร์ส ราคา 1,800 บาทสำหรับ 2 คน ในเมนูจะประกอบไปด้วย สลัดกุ้งลายเสือค๊อกเทลมะนาวศรีทองดำ ที่เขาใช้กุ้งลายเสือขนาด 15 ตัวกิโล จาก อ.กันตัง มาย่าง ทานคู่กับผักสลัดอินทรีย์ 100% แบบปลูกลงดิน เสิร์ฟด้วยน้ำสลัดเทาร์ซันไอร์แลนที่ใช้ทั้งผิวมะนาวและน้ำมะนาวศรีทองดำ ซึ่งเป็นมะนาวขึ้นชื่อในจังหวัดตรังทานได้ทั้งเปลือก บอกเลยว่าเมนนูนี้มีคะแนนเต็ม 10 เราให้เกิน เพราะอร่อยฟินมากๆ
ต่อด้วย ยำหอยแครงยักษ์ธรรมชาติที่เสิร์ฟมาในฝาหอยสุดอลัง ซึ่งเขาใช้หอยแครงขนาดเท่ากำมือ ซึ่งเป็นหอยแครงธรรมชาติ ที่หาได้จากเกาะลิบง นำมาลวกให้สุกพอประมาณและยำตามสูตรของเช้ามุสลิมที่เกาะลิบงโดยจะใส่มะพร้าวคั่วลงไปด้วย หอยแครงหวานอร่อยทานกับน้ำยำดีงามสุดๆ
แซลม่อนมะม่วงน้ำดอกไม้ซัลซ่า เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยใช้แซลมอนสดเกรดซาชิมิ มาย่างให้หนังกรอบ แต่คงซึ่งความชุ่มฉ่ำเอาไว้ภายใน ทานคู่กับมะม่วงน้ำดอกไม้ซัลซ่า และมะนาวศรีทองดำ เข้ากันได้ดีอย่างคาดไม่ถึง
ปิดท้ายกับซาชิมิปลาเกาะมุก ซึ่งทางร้านจะใช้ปลาที่หาได้ตามฤดูกาลนั้นๆ ของเกาะมุก เป็นปลาที่ไม่มีขายตามท้องตลาด ชาวบ้านจะนำมาบริโภคกันภายในครัวเรือน เนื่องจากไม่สามารถหาได้ในปริมาณมากพอที่จะส่งตลาด และที่สำคัญรสชาติดีมาก จะเป็นปลาที่ได้จากเรือประมงเล็กเท่านั้น หาได้วันต่อวัน จึงสดแล้วไม่มีสารเคมีเจือปนแน่นอน ซึ่งวันนี้เป็นปลาตาหวานค่ะ น้องตาหวานสมชื่อจริงเสิร์ฟมาสองแบบคือแบบซาชิมิ และแบบเบิร์นไฟอร่อยทั้งคู่เลย
ทานอาหารอร่อยไปพร้อมกับเครื่องดื่มเย็นๆ น้ำอัญชันมะนาวศรีทองดำแช่น้ำผึ้ง เป็นการเอามะนาวศรีทองดำมาสไลด์ทั้งเปลือก แช่ในน้ำผึ้งป่า นำมาทานคู่กับน้ำอัญชัน หวานเย็นชื่นใจมากๆ
Chef's Grill Factory
ที่ตั้ง : ถ. วังตอ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
เปิดบริการ : จันทร์ - วันศุกร์ เวลา 16.00 - 22.00 น. / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 11.00 - 22.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 080 515 6365
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/CUZfxMUyKQUaF76k9
7.00 น.ทานอาหารเช้าที่ที่พัก
เช้าวันต่อมาเราตื่นมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของที่พักเช่นเคยค่ะ เช้านี้เรามีทริปไปสำรวจทะเลตรัง กับทาง Love Andaman เช่นเคย ซึ่งเราจองวันเดย์ทริป 4 เกาะทะเลตรัง ราคาคนละ 1,299 บาทเอาไว้
พอทานอาหารเสร็จรถตู้ของทาง Love Andaman ก็มารับเราที่ที่พัก เพื่อเดินทางไปยัง ร้านอาหารเลตรัง 1 ที่ท่าเรือปากเมง เพื่อเตรียมตัวไปเที่ยวทริป 4 เกาะทะเลตรัง
8.00 น. เดินทางไปยังร้านอาหารเลตรัง 1 ท่าเรือ Love Andaman จ.ตรัง
พอมาถึงปุ๊บก็ทานขนมของว่าง พร้อมกับฟังบรรยายเรื่องทริปตรังในครั้งนี้จากทีมไกด์ทีมเดิมที่น่ารักและเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดทริป
9.30 น. ออกเดินทางไปทัวร์ 4 เกาะทะเลตรังด้วยเรือสปีดโบ๊ท
ซึ่งทริปนี้จะใช้เวลาเดินทางไม่นานเท่าเมื่อวานค่ะ จากท่าเราปากเมงไปยังจุดหมายแรกคือถ้ำมรกตอีกหนึ่งอันซีนเมืองตรังใช้เวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น
เรือมาจอดบริเวณปากถ้ำ ซึ่งการเข้าถ้ำเราต้องลอยคอเรียงเป็นแถวตอนลึกเกาะหลังเพื่อนเข้าไปเป็นแถว เพราะข้างในมืดมากๆ อาจจะทำให้พลัดหลงกัน
บริเวณปากถ้ำฝูงปลาเยอะมากๆ พอเข้าไปตอนแรกนั้นจะมืดมากๆ ค่ะ แต่ไม่เหงาเลยเพราะมีเสียงพี่ๆ ไกด์คอยให้ความสนุกสนาน พอใกล้ถึงทางออกจะพบกับแสงสีเขียวซึ่งเป็นแสงของพระอาทิตย์ที่สะท้อนกับผืนน้ำ เกิดเป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่ราวกับแสงของมรกต
สุดปลายทางเราจะพบกับชายหาดเล็กๆ ซึ่งเหมือนป็นห้องลับกลางทะเลอันดามัน พอมองขึ้นไปด้านบนจะพบกับปากปล่องของถ้ำที่เป็นช่องธรรมชาติให้แสงลอดผ่านต้นไม้ลงมา เป็นสถานที่ที่มาเมื่อไรก็ประทับใจทุกครั้ง
จากนั้นเดินทางต่อไปยังเกาะกระดาน ซึ่งเป็นเกาะสวยของจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นเกาะที่มีชายหาดยาวมากๆ ประมาณ 2 กิโลเมตรกันเลยทีเดียว มีปะการังน้ำตื่นให้เราได้แหวกว่าย หรือจะพายเรือคายัคชมปะการังจากบนเรือก็ได้เลยค่ะ
น้ำทะลของเกาะกระดานใสแจ๋วมากๆ ใครอยากพายเรือ หรือเล่นซัพบอร์ดทางทัวร์มีให้บริการฟรีอีกด้วยค่ะ
จากนั้นเวลาประมาณเที่ยวก็ถึงเวลาทานข้าว มื้อนี้ทางทัวร์จัดเมนูบุฟเฟ่ต์ ทั้งไก้ทอด กุ้งนึ่ง แกงส้ม ปลาทอด และเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์อิ่มอร่อยมากๆ พร้อมเค้กอร่อย และเครื่องดื่มมากมายอีกเช่นเคย
อิ่มแล้วก็ถึงเวลาไปดำน้ำที่สุดท้ายที่บริเวณเกาะเชือก จุดนี้จะมีปะการังจาน กัลปังหา ให้เราได้ชมมากมายเลยล่ะคะ ส่วนใครที่ฟรีไดร์เก่งๆ จะมีจุดที่เป็นถ้ำใต้น้ำให้เราได้ลองดำลงไปลอดกันอีกด้วย
รายละเอียดทริปท่องทะเลตรัง 4 เกาะ
17.30 น. ทานอาหารเย็นที่ร้าน Dugong Village
กลับมาถึงท่าเรือตอนเย็นท้องก็เริ่มร้องแล้วค่ะ มื้อนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้านอาหารภายใน Dugong Village ที่พักเปิดใหม่สุดน่ารักใกล้กับท่าเรือปากเมง
มื้อนี้เราสั่งชุดยากินิขุชาบู ราคาเริ่มต้น ชุดละ 399 บาทเท่านั้น บอกเลยว่าอร่อยมากๆ โดยเฉพาะน้ำจิ้มชาบูของเขาเขารสชาตินัว กลมกล่อม ร่อยจังฮู้สุดๆ นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารจานเดียวให้สั่งมาทานอีกด้วย
Dugong Village
ที่ตั้ง : 98 หมู่ที่ 5 ถ. หาดปากเมง -ฉางหลาง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
เปิดบริการ : 7.30 - 21.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 099 370 3889
พิกัด GPS : https://g.page/dugong-village?share
7.00 น. ไปกินติ่มซำหมูย่างตรังที่ร้านพงษ์โอชา 2
เช้าวันสุดท้ายเราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก แล้วเช่ารถเพื่อเที่ยวตระเวนในที่เที่ยวของเมืองตรังค่ะ เช้านี้เราไม่ได้ทานข้าวเช้าที่โรงแรม แต่เลือกไปทานอาหารเช้าแบบคนตรังที่ร้านพงษ์โอชา 2 กับเมนูติ่มซำและหมูย่างเมืองตรังอันลือลั่นที่ใครมาตรังก็ต้องห้ามพลาดมาทาน
ติ่มซำที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาทเท่านั้น จะเดินไปเลือกเองที่หน้าร้านหรือจะสั่งกับพนังานก็ได้ค่ะ เมนูติ่มซำของที่นี่มีให้เลือกเยอะมากๆ น่ากินทุกเมนูกันเลย
ไฮไลท์ของที่นี่ก็นี่เลยหมูย่างตรังที่หนังกรอบ ด้านในนุ่มมีรสหวานนำ ทานกับอิ่วจาก้วย ซึ่งหน้าตาเหมือนปาท่องโก๋แต่คนตรังเรียกว่า อิ่วจาก้วย ส่วนก้อนแป้งสีขาวๆ สีน้ำตาลคนตรังจะเรียกว่าปักถ่งโก๋ค่ะ และห้ามพลาดสั่งบะกุ๊ดเต๋มาทานด้วยนะ ของร้านนี้เครื่องเยอะ น้ำซุปหอมอร่อย หมูนุ่มมากๆ มื้อนี้บอกเลยว่าฟินจริงอะไรจริงค่ะ
ร้านพงษ์โอชา 2
ที่ตั้ง : ถนน เพลินพิทักษ์ ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
เปิดบริการ : 6.00-11.30 น.
เบอร์ติดต่อ : 075 217 789
พิกัด GPS :
9.00 น. เดินทางไปยังวนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง
จากนั้นเราเดินทางไปสำรวจที่เที่ยวต่างๆ ในจังหวัดตรัง เริ่มต้นด้วยวนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง แหล่งท่องเที่ยวของเมืองตรัง และยังเป็นจุดพักผ่อนของคนท้องถิ่นในอำเภอกันตังที่นิยมมาแช่น้ำพุร้อนกันตอนเช้าๆ ทุกวัน เราจะเห็นทั้งเด็กๆ หนุ่มสาว และคนสูงอายุขับรถมาจอดด้านหน้า แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งในบ่อกันเป็นประจำ
ทำเลที่ตั้งอยู่ในอำเภอกันตัง จากตัวเมืองตรังใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาทีค่ะ ซึ่งบ่อน้ำร้อนที่นี่จะมีทั้งหมด 3 บ่อ แต่บ่อที่สามารถแช่ตัวได้มี 2 บ่อค่ะ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 40 องศาค่ะ สามารถแช่เท้าและแช่ตัวได้ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีห้องอาบน้ำและห้องแช่น้ำร้อนให้บริการอีกด้วยค่ะ
วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง
ที่ตั้ง : ตำบล บ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง
เบอร์ติดต่อ : 08-6470–4425, 08-9724–6247
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/iwKkZatxmBav1ofh6
10.00 น. เดินทางไปเช็คอินที่สถานีรถไฟกันตัง
จากนั้นเดินทางต่อไปยังสถานีรถไฟกันตั้ง สถานีรถไฟสุดคลาสิค อายุเก่าแก่กว่า 106 ปี ซึ่งได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรังโดยกรมศิลปากร และถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 6 ตัวสถานีเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาทาสีเหลืองมัสตาดตัดกับสีน้ำตาล มีลวดลายไม้ฉลุประดับดูงดงามทรงคุณค่า และยังถือเป็นสถานีปลายทางของทางรถไฟสายชุมทางทุ่งสง–กันตัง สถานีสุดท้ายของทางรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามันอีกด้วย
บริเวณติดกับสถานีมีร้านกาแฟสีเหลืองมัสตาร์ดชื่อสถานีรักค่ะ ภายในร้านออกแบบแบบเรโทร มีโซฟาแบบวินเทจ รวมถึงมีเทปเพลงที่เด็ก 90 จะต้องรู้จักให้เราได้ย้อนวันวาน ลองสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ และขนมสุดอร่อยมาทานพร้อมกับซึมซับบรรยากาศแบบย้อนวันวานก็เป็นอะไรที่ดีต่อใจมากๆ ค่ะ
น้ำมะม่วงเบาอีกหนึ้งเมนูเด็ดของร้าน หวาน อมเปรี้ยม อร่อยชื่นใจ
สถานีรถไฟกันตัง
ที่ตั้ง : ถนนหน้าค่าย ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/7oQaM6Td62hhEv7y7
11.00 น. เล่าขานเรื่องราวเมืองกันตังที่ โรงแรมศิริชัย ณ กันตัง
ไปชมเรื่องราวเมืองกันตังผ่านโรงแรมเก่าแก่ของเมืองกันตัง นั่นก็คือโรงแรมศิริชัย ที่ตอนนี้เขาได้ทายาทรุ่นใหม่มารีโนเวทให้มีความชิคเก๋ แต่ยังคงเสน่ห์ของเมืองกันตังได้อย่างเหนียวแน่น
โรงแรมศิริชัยก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2510 ค่ะ อายุอานามก็ประมาณ 50 กว่าปี โดยทางเจ้าของโรงแรมเล่าว่าสมัยก่อนคนต่างจังหวัดจากกระบี่ ภูเก็ต พังงา จะมานั่งเรือที่เมืองกันตังแห่งนี้ ซึ่งที่นี่เป็นหลักฐานถึงเมืองกันตังในอดีตที่เคยเฟื่องฟู เพราะเคยเป็นเมืองท่าสำคัญอีกแห่งหนึ่งของมหาสมุทรอินเดีย
ตัวที่พักยังเก็บโครงสร้างเก่าของตัวอาคารเอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งเคาน์เตอร์เช็คอินแบบเก่า มีการเก็บพื้น และบันไดเดิมเอาไว้ ใส่ความเก๋ของการดีไซน์ให้เป็นเหมือนท่าเรือต่างประเทศ นำโครงเหล็กมากัดสนิมให้ดูมีความคลาสสิค ส่วนภายในห้องพักจะตกแต่งแบบสไตล์มินิมอลน่าพักมากๆ ค่ะ
ห้องพักทุกห้องของที่นี่มีห้องน้ำในตัวค่ะ ห้องพักราคาถูกมากๆ เริ่มต้นที่ 650 บาทเท่านั้น
พร้อมกันนั้นยังมีมุมถ่ายรูปเช็คอินมากมายเลยค่ะ
ด้านล่างทำเป็นคาเฟ่ที่เน้นเสิร์ฟ ชา กาแฟ ทานคู่กับขนมพื้นถิ่น
ขนมหน้าตาน่ากินมากมาย ค่ะ อย่างขนมโกปังเกด ขนมพื้นถิ่นของเมืองตรังที่หน้าตาและรสชาติคล้ายขนมผิง หรือจะเป็นขนมกวยบูลู่ หรือขนมไข่ ทายกับชาร้อนๆ อร่อยสุดๆ
ขนมสี่ขา ขนมที่หน้าตาคล้ายปาท่องโก๋ แต่โรยด้วยน้ำตาลเป็นขนมที่หาทานยากและอร่อยมากๆ ใครแวะมาโรงแรมศิริชัย ณ กันตังก็ลองแวะมาทานกันนะคะ
โรงแรมศิริชัย ณ กันตัง
ที่ตั้ง : ถนน สถลสถานพิทักษ์ ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง
เบอร์ติดต่อ : 083 812 4192
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/YN6qvGSNjsxpKm996
จองที่พักโรงแรมศิริชัย ณ กันตัง จ.ตรัง ออนไลน์ได้ที่นี่
12.00 น. ทานอาหารกลางวันที่ร้านหลิงเฉิน Ling Chen Cafe
จากนั้นเดินทางไปทานอาหารกลางวันที่ร้านหลิงเฉิน ตก ร้านคาเฟ่ชื่อดังในอำเภอกันตัง เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดเมื่อมาจังหวัดตรังกันเลยค่ะ
ต้วรัานมาในสไตล์จีนฮ่อง ได้อารมณ์ความวินเทจ เหมือนหลุดไปในหนังเรื่อง In The Mood For Love ของหว่อง กา ไว กันเลยล่ะค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นมุมโคมไฟสไตล์จีน พร้อมกับผนังร้านเก่าซึ่งเป็นห้องแถวสไตล์จีนโบราณ ประตูทางเข้ารูปทรงกลมสีแดง ก็ทำให้ทุกมุมของที่นี่คือแบร็กราวด์แม็คกาซีนสุดเก๋ที่ถ่ายออกมาอย่างไรก็สวย
ชั้น 2 ยังมีการจัดตกแต่งสุดเก๋ โดยใช้เหล่าต้นไม้แห้ง ดอกไม้แห้ง จัดวางให้เป็นอีกหนึ่งมุมที่สวยฮิปเหมาะกับการมาถ่ายรูปมากๆ
ไม่เพียงการตกแต่งร้านที่โดดเด่นเมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มของที่นี่ก็อร่อยมากเช่นกันค่ะ ใครที่อยากทานอาหารจีนอร่อยๆ แนะนำเมนูหมี่ผัดฮ่องกง พร้อมกุ้งตัวโตๆ แม้หน้าตาจะดูจืดแต่บอกเลยว่าอร่อยรสชาติกลมกล่อมมาก และเกี๊ยวกุ้งราดซอสเซี่ยงไฮ้ เกี๊ยวกุ้งชิ้นใหญ่ราดมาด้วยซอสสุดอร่อย นอกจากนี้ยังมีเมนูอร่อยให้ลองไปทานอีกมากมายอาทิ กระเพาะปลาน้ำแดงยำแมงกระพรุนน้ำมันงา รวมถึงเค้กสุดอร่อย ซึ่งวัตถุดิบต่างๆ ในร้านเน้นที่มาจากท้องถิ่น เพื่ออุดหนุนสินค้าในชุมชนให้ชุมบนอยู่รอดไปพร้อมๆ กับร้าน
ร้านหลิงเฉิน Ling Chen Cafe
ที่ตั้ง : ถ.หน้าค่าย อ.กันตัง จ.ตรัง( อยู่ตรงตึกเก่าของชุมชนหล่าโป หน้าศาลเจ้า ใกล้สถานีรถไฟกันตัง )
เปิดบริการ : 10.00 - 20:00 น.
เบอร์ติดต่อ : 064 949 5369
พิกัด GPS : https://maps.app.goo.gl/gYCt5fssGWAWRxf57
14.00 น. ไหว้ขอพรเอาฤกษ์เอาชัยที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม
จากนั้นเดินทางไปสักการะขอพรศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าเก่าแก่อายุร่วม 200 ปี ที่เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจคนไทยเชื้อสายจีนในกันตัง ให้เดินทางมาสักการะ ขอพร ขอโชค ขอลาภจากท่านอย่างไม่ขาดสาย
ซึ่งศาลเจ้าแม่ทับทิม (เก่งจิวโฮยก้วน) สร้างโดยชาวจีนไหหลำที่อพยพจากเมืองจีนมาประเทศไทย ตัวศาลเจ้าจะมีลักษณะเหมือนบ้านคนจีน ที่จะมีลานกลางบ้านที่ชั้นบนบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาตร์ของอำเภอกันตัง ในส่วนชั้น 1 เมื่อมองเข้าไปเราก็จะพบกับองค์เจ้าแม่ทับทิม(ม่าจ้อโป๋)ที่อัญเชิญมาจากเมืองจีน ซึ่งแกะสลักจากไม้สวยงดงามมาก ให้เราได้ไปสักการะขอพรท่าน ว่ากันว่า ถ้าตั้งจิตอธิฐาน แล้วมองตรงไปยังที่ใบหน้าของท่าน ถ้ารู้สึกว่าท่านกระพริบตาก็แปลว่าท่านรับรู้ในสิ่งที่เราตั้งใจ
การแสดงรำต้อนรับจากคุณแม่ คุณป้าที่วันนี้แต่งตัวมาในชุดบาบ๋าย่าหยา สวยงามมากๆ
ใครอยากรู้เรื่องราวเมืองกันตัง รวมถึงขนมโบราณต่างๆ แม่ๆ ชาวกันตังพร้อมจะเล่าให้ลูกๆ จากต่างแดนอย่างเราฟังค่ะ แถมชี้ชวนชิมขนมโบราณพร้อมจิบชาหอมอร่อย
ศาลเจ้าแม่ทับทิม
ที่ตั้ง : ถนนรัษฎา ต.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง
เบอร์ติดต่อ :
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/tQ8HCndbXc247rVR6
16.00 น. ทานอาหารเย็นก่อนกลับที่ร้านอาหารมันตรา
ปิดท้ายทริปนี้เราแวะมาทานอาหารอร่อยของเมืองตรังก่อนกลับกันที่ร้านมันตราตั้งอยู่ในตัวเมืองตรัง ตัวร้านออกแบบเป็นตัวอาคารสีขาว ด้านในมีภาพฝาหนังสุดเก๋บอกเล่าเรื่องราวของเมืองตรัง
เมนูแนะนำของร้านนี้ อาทิ หมี่หนำหลอ อาหารประจำถิ่นของจังหวัดตรัง หน้าตาจะคล้ายๆ โกซีหมี่แต่ะจะไม่ใส่หน่อไม้และต้นหอม รสชาติกลมกล่อมเส้นนุ่มอร่อยมากๆ และที่เราชอบมากๆ ของร้านนี้คือกระเพาะปลาผัดแห้ง ที่นำกระเพราปลาไปผัดแบบแห้งๆ รสชาติกลมกล่อมเลิฟมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ดที่เราอยากแนะนำให้ลิ้มลองอาทิ เป็ดอบบ๊วยกอ ปลากะพงสองใจ และกุ้งราดซอสมะขาม รับรองว่าอร่อยทุกเมนู เป็นอีกหนึ่งร้านอร่อยตรังที่ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง
ร้านอาหารมันตรา
ที่ตั้ง : ถนนห้วยยอด 19 ตำบลนาตาล่วง อำเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง
เปิดบริการ : 11.30 - 22.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 075 214 999
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/UokZFAafJxs7qsh27
18.00 น. เดินทางมายังสนามบินกระบี่
ปิดทริปเที่ยวตรัง VS เกาะหลีเป๊ะ 4 วัน 3 คืนไปด้วยความฟิน ทั้งทะเลสวย ที่เที่ยวทางธรรมชาติ ที่เที่ยวทางวัฒนธรรม รวมถึงทริปนี้เราได้กินอาหารอร่อยเมืองตรังที่ขึ้นชื่อมากมาเลยค่ะ ใครอยากลองมาเที่ยวตรังก็จดลิสต์ทริปนี้เอาไว้ แล้วลองนำไปปรับใช้กันได้เลยค่ะ รับรองว่าจะตกหลุมรักเมืองตรังจนอยากกลับมาทุกปีเหมือนกับเรา
Tags: ตรัง หลีเป๊ะ สตูล เที่ยวตรัง เที่ยวหลีเป๊ะ
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 166 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 263 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 399 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 601 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 866 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 372 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 815 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,173 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,245 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,655 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 1,131 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,583 อ่าน