ทริปเที่ยว 3 เมืองแห่งวัฒนธรรม โอซาก้า นารา และเกียวโต

calendar_month 21 ก.พ. 2014 / stylus Admin Chillpainai / visibility 42,601 / เที่ยวต่างประเทศ

มีคนกล่าวว่าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวได้ทั้งประเทศ

เกียร์กระปุกขอยืนยันคำกล่าวนี้ค่ะ

เพราะยิ่งเดินทางไปประเทศนี้ก็ยิ่งตกหลุมรัก

โดยเฉพาะเมืองเก่าอย่างเกียวโตนั้นเป็นเมืองที่งดงาม และมีเสน่ห์มาก

ล่าสุดทางบริษัท True เขาก็เลยจัดทริปชิลๆ

เที่ยว 3 เมืองแห่งวัฒนธรรม โอซาก้า นารา และเกียวโต 5 วัน 3 คืน

ในราคาสุดพิเศษ ลองมาดูกันว่าทริปนี้เขาจะพาคุณไปเที่ยวไหนบ้าง

วันแรก

- พร้อมกันที่สุวรรณภูมิเวลา 23.30 น.

วันที่สอง

- เวลา 02.55 น. ออกเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิด้วยสายการบินมาเก๊าแอร์ไลน์

- เวลา 6.35 น. ถึงสนามบินมาเก๊าเพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง

- รอเปลี่ยนเครื่องไม่นาน 11.00 น. ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นโดยสายการบินมาเก๊าแอร์ไลน์

- เวลา 15.30 น. ถึงสนามบินคันไซ นครโอซาก้า

พอมาถึงโอซาก้าทางทรูก็จะจัดรถบัสสะดวกสบายมารับ เรา วันนี้วันแรก โปรแกรมของเราก็จะชิลๆ ในเมืองโอซาก้า เน้นเดินช้อปปิ้ง ที่ย่านชินไซบาชิ ถ้าใครชอบความทันสมัยอย่างโตเกียว คุณก็จะหลงรักเมืองโอซาก้าเช่นกัน เพราะโอซาก้าถือว่าเป็นเมืองใหญ่ที่รองจากกรุงโตเกียวเท่านั้น และโอซาก้าก็ถือว่ายังเป็นคู่แข่งของโตเกียว ห้างใหญ่ๆ อย่างห้างไดมารุ ในโอซาก้าก็มี อาหารอร่อยที่โอซาก้าก็ไม่แพ้ใคร เพราะเมืองแห่งนี้เป็นเมืองหลักทางการค้ากับต่างประเทศ คนโอซาก้าก็คล้ายๆ กับคนไทยค่ะ คือจริงใจ อารมณ์ดี ฟอร์มไม่ค่อยมี และของอร่อยชื่อดังที่นี่ก็คือทาโกยากินั่นเอง ทริปนี้เขาจะให้คุณได้อิสระเลือกชิมทาโกยากิที่มีให้เลือกชิมมากมาย หลากหลายแบบ หลากหลายร้าน

- ช้อป กิน เดิน กันจนเพลินๆ ก็ถึงเวลาเข้าที่พักในตอนค่ำเพื่อพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เราจะได้ไปหาน้องกวางที่นารา และไปชมวัฒนธรรมอันเก่าแก่ที่เกียวโต

วันที่สาม

- เช้าทานอาหารที่โรงแรม

จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองนารา เมืองเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่มีประวัติศาสตร์อันน่าสนใจ เพราะเมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นเมืองหลวงถาวรแห่งแรกของญี่ปุ่น ได้รับการสถาปนาในตอนต้นศตวรรษที่ 8 เป็นเวลานานกว่า 70 ปี คือตั้งแต่ ค.ศ.710 ถึง ค.ศ.784 พระราชวงศ์อิมพีเรียลของญี่ปุ่นประทับอยู่ที่เมืองนารา แต่ เนื่องจากอิทธิพลทางศาสนาพุทธที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ตอนหลังได้มีการย้ายเมืองหลวงไปยังเกียวโต

และนอกจากจะเป็นเมืองเก่าที่น่าสนใจแล้ว สิ่งที่เรารู้จักนารา คือน้องกวาง ที่เดินกันเต็มเมือง โดยเราทริปนี้เขาจะพาเราไปหาน้องกวางที่วัดโทไดจิ เป็น 1 ใน 8 ของมรดกโลกในเมืองนารา เป็นวัดที่มีชื่อเสียงและสำคัญวัดหนึ่งในญี่ปุ่น มีอายุ 1,270 กว่าปี สิ่งสำคัญของวัดนี้คือพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ไดบุตสึ ประดิษฐานอยู่ในอาคารไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เรียกว่า ไดบุตสึเดง และรอบๆ วัดก็ยังมีน้องกวางมากมายที่เดินกันทั่ววัด ใครอยากให้อาหารกวางก็ซื้อเซมเบ้กวางมาให้คุณกวางก็ได้

- กลางวันพักรับประทานอาหารสไคล์ปิ้งย่างที่มีให้ทานอย่างจุใจ

- ตอนบ่ายจะเดินทางสู่เมืองเกียวโต

โดยที่แรกที่จะไปเยือนคือศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ ศาลของเทพเจ้าจิ้งจอกขาว ที่นี่มีเอกลักษณ์คือเสาโทริอิสีแดงที่เรียงรายเป็นอุโมงค์ยาวถึง 4,000 เมตร การเดินไปลอดไปตามอุโมงค์สีแดงขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงยอดเขา เป็นความรู้สึกที่ยากเดินบรรยายเลยค่ะ

หลังจากนั้นเราจะเดินทางสู่วัดคิโยมิสึ หรือวัดน้ำใส วัดนี้เป็นวัดที่คนไทยรู้จักดี ตั้งอยู่บนเนินเขาฮิงาชิยาม่า จุดเด่นของวัดนี้คือการสร้างอารามสูง 13 เมตร จากพื้นด้านล่าง จึงทำให้ตัวอารามลอยอยู่เหนือต้นไม้ ตัวอารามทำจากไม้ที่เอามาขัดกันโดยไม่ได้ใช้ตะปูเลยล่ะค่ะ เป็นความคล้ายคลึงกับบ้านเรือนไทยของเราในสมัยก่อนที่ไม่ใช้ตะปูเหมือนกัน ซึ่งนี่คือภูมิปัญญาของช่างไม้โบราณที่คิดคำนวณมาอย่างดี ยิ่งในฤดูซากุระ หรือใบไม้แดงวัดนี้จะเป็นจุดชมวิวที่สวยมาก

อ้อ และใครที่อยากสมหวังในความรักด้านหลังวัดน้ำใสยังมีศาลเจ้า จิชู ที่เด่นเรืองขอพรความรักมากๆ เพราะเขาจะมีหินสองก้อน ที่จะอยู่ห่างกัน แล้วถ้าเราอธิษฐานเรื่องความรักแล้วหลับตาจากหินก้อนหนึ่งไปก้อนหนึ่งได้ ก็จะสมหวังในความรัก ใครอยากขอพรก็ลองแวะไปกันได้เลย

และด้านหน้าวัดยังมีถนนสายช้อปปิ้งที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของญี่ปุ่น นั่นคือถนนมัตสึบาระ มีลักษณะเป็นเนิน และมีบ้านเก่าโบราณที่เปิดเป็นร้านขายของฝาก ร้านอาหาร ร้านขนมให้เลือกชิมมากมาย ขอบอกว่าถนนเส้นนี้เดินเพลินมากๆ และยังอาจได้เห็นเหล่าไมโกะและเกอิชา ที่จะเดินอยู่บนถนนเส้นนี้ เป็นความงามของอดีตที่ยังเดินทางมาถึงปัจจุบัน

จากนั้นเราจะเดินทางกลับมายังโอซาก้า มาช้อปปิ้งที่ย่านโดทนโบริ ที่มีจุดเด่นคือป้ายไฟปูยักษ์และป้ายกูลิโกะ ที่เป็นสัญลักษณ์ของย่านนี้ Glico Running Man ที่นี่เราสามารถเลือกทานอาหารและช้อปปิ้งกันได้ตามอัธยาศัย หลังจากนั้นก็เดินทางกลับที่พักพักผ่อน

วันที่ 4

- หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว

วันนี้ทริปนี้เขาจะปล่อยให้เราเที่ยวได้ตามอัธยาศัย ซึ่งที่เที่ยวในโอซาก้าก็มีมากมายทั้ง Osaka Aquarium เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น หรือจะเป็น Universal Studios ธีมพาร์คชื่อดังที่ภายในมีเครื่องเล่นมากมาย ยิ่งใครที่ชอบหนังฮอลลีวู้ด มาที่นี่เหมือนคุณได้เข้าไปอยู่ในหนังจริงๆ เช่นการล่องเรือผจญภัยไปกับไดโนเสาร์ในเรื่อง “จูราสสิค พาร์ค” หรือนั่งเรือไปสัมผัสความระทึกของฉลามในเรื่อง “จอว์” ซึ่งถ้าใครต้องการไปทางทริปเขาก็มีบริการค่าตั๋วเข้า Universal Studios คนละ 1,900 บาท/ท่าน (ไม่รวมค่าเดินทางไป-กลับ Universal Studios) ส่วนอาหารเที่ยงและอาหารค่ำวันนี้เราจะได้เลือกทานตามอัธยาศัย จนค่ำๆ ก็เดินทางกลับยังที่พัก

วันที่ห้า

- หลังจากทานอาหารเช้า

เราก็เตรียมตัวเช็คเอาท์จากที่พักแล้วเดินทางไปเที่ยวที่ปราสาทโอซาก้า ซึ่งเป็นปราสาทที่สวยงามและมีประวัติที่น่าสนใจ ปราสาทแห่งนี้สร้างเมื่อปี ค.ศ. 1583 โดย Toyotomi Hideyoshi ไดเมียวคนสำคัญ ที่ได้สร้างส่วนหอคอยของปราสาทโอซาก้า แต่ตอนหลังได้ถูกทำลายลง ต่อมาได้รับการบูรณะใหม่โดยโชกุน Tokugawa Hidetadaแต่ตอนหลังก้ถูกฟ้าผ่าเสียหาย ทำให้ปราสาทโอซาก้าไม่มีส่วนหอคอย จนมาถึงปี 1931 ก็ได้มีการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้ง จนทำให้วันนี้ปราสาทโอวาก้ากลายเป็นปราสาทที่สวยงาม มีความสูง 55 เมตร มีทั้งหมด 8 ชั้น และสามารถมองเห็นวิวอันสวยงามของเมืองโอซาก้าจากชั้นบนสุด

ชมปราสาทจนเพลินก็ถึงเวลาจะไปช้อปปิดท้ายทริปที่ห้างอิออนพลาซ่า ที่มีของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้า ร้าน 100 เยน ให้ได้เลือกช้อปมากมาย และทานอาหารกลางวันตามอัธยาศัย

- จากนั้นเราจะเดินทางสู่สนามบินคันไซและเดินทางสู่มาก๊า โดยสายการบินมาเก๊าแอร์ไลน์

- 19.55 น. ถึงมาเก๊าเพื่อแวะเปลลี่ยนเครื่อง

- 23.10 น.เดินทางสู่กรุงเทพฯ ด้วยสายการบินมาเก๊าแอร์ไลน์

- 01.10 น. ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ

สนใจทริปญี่ปุ่นติดต่อ

064 975 0777 : K. กี้
064 975 0888 : K. เจี๊ยบ
064 975 0999 : K. มุก
LINE ID : @Chillpainai https://chill.travel/LineChillpainai