0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปเที่ยว ฮอกไกโด-ซัปโปโร่ บินตรง...สัมผัสหิมะ พักสกีรีสอร์ท

calendar_month 18 ก.พ. 2014 / stylus Admin Chillpainai / visibility 26,672 / เที่ยวต่างประเทศ

แม้ช่วงนี้เมืองไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว
 
แต่จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ก็ยังคงอยู่ในฤดูหนาวเย็น
 
ช่วงนี้เป็นช่วงที่มีกิจกรรมหน้าหนาวให้ทำเยอะมาก ทั้ง การเล่นสกี
 
การสัมผัสหิมะสีขาวที่จะปกคลุมให้ทั้งเมืองกลายเป็นสีขาวโพลนเหมือนเมืองในเทพนิยาย
 
 ช่วงเวลาดีๆ แบบนี้ทางบริษัททรู จึงได้จัดทริปสนุกๆ โดยใช้ชื่อว่า
 
เพลินกับทรู บินตรง...สัมผัสหิมะ พักสกีรีสอร์ท กับทริปเที่ยว ฮอกไกโด-ซัปโปโร่ 6 วัน 4 คืน
 
มาดูกันสิว่าทริปนี้จะมันส์แค่ไหน
 
karok_eat
 
วันแรก
 
- 21.00 น. นัดพบกันที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D โดยครั้งนี้เราจะบินโดยสายการบินไทย บินตรงสะดวกสบาย
 
- 23.45 น. เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิสู่สนามบินนิวชิโตเสะ
 
 
 
วันที่สอง
 
               8.30 น. ถึงสนามบินนิวชิโตเสะ หลังจากผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เราจะได้นั่งรถบัสสุดสะดวกสบายเพื่อมุ่งสู่ทะเลสาบโทยะ ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติชิโคทสึ-โทยะ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของฮอกไกโด เมื่อมาถึงที่นี่สิ่งแรกที่พลาดไม่ได้คือการนั่งกระเช้าไฟฟ้าอุสุซังโรปเวย์เพื่อเดินทางขึ้นสู่ยอดภูเขาไฟอุสุ วึ่งเป็นภูเขาไฟที่มีการระเบิดมามาแล้ว 4 ครั้งในรอบ 100 ปี  และล่าสุดได้ปะทุขึ้นในปี ค.ศ.2000 
 
 
“อุสุซังโรปเวย์ น่าขึ้นมากๆ”
 
                สิ่งที่พิเศษสุดของอุสุซังโรปเวย์นั้นคือคุณจะพบกับภูเขาไฟลูกใหม่คือโชวะชินซังที่เกิดจากแผ่นดินไหว ซึ่งแต่เดิมพื้นที่ตรงนี้เป็นที่ทุ่งข้าวสาลี พอเกิดแผ่นดินไหวจึงดันพื้นที่ตรงนี้ให้กลายเป็นภูเขาความสูง 290 เมตร ประมาณปีค.ศ 1943 และ 1945 และชื่อของภูเขาแห่งนี้ก็ตั้งจากชื่อปีของญี่ปุ่นที่เกิดภูเขาไฟแห่งนี้ซึ่งอยู่ในปีโชวะ จึงเรียกภูเขาแห่งนี้ว่า โชวะชินซัง หรือภูเขาไฟใหม่โชวะ
 
 
“ความสวยงามของภูเขาไฟโชวะชินซังยามหิมะปกคลุม”
 
และเมื่อลงจากโรปเวย์ คุณก็จะได้สัมผัสความน่ารักของน้องหมีสีน้ำตาลที่ Show-shinzan Bear Ranch ซึ่งเป็นฟาร์มหมีที่ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟโชวะ ซึ่งที่นี่เป็นสถานที่อนุรักษ์หมีสีน้ำตาลที่จะพบได้เพียงที่เกาะฮอกไกโด เกาะซาคาริม และหมู่เกาะคูรินประเทศรัสเซียเท่านั้น
 
จากนั้นก็มาชมความงามของทะเลสาบโทยะ ซึ่งเป็นทะเลสาบที่สวยงามมากๆ เลยค่ะ เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีลักษณะกลม ตรงกลางทะเลสาบจะมีเกาะโผล่ขึ้นมา และที่นี่ยังเคยเป็นที่ประชุมสุดยอดผู้นำโลกหรือ G8 มาแล้วในปี 2551 แค่ได้เดินเล่น สัมผัสวิวรอบทะเลสาบก็ฟินแล้วล่ะค่ะ
 

“บรรยากาศของทะเลสาบสวยงามเกินคำบรรยาย”

จากนั้นตอนเที่ยวเราจะแวะรับประทานอาหารกัน และเดินทางสู่จิโกคุดานิ  หรือที่เรียกว่าหุบผานรก แหมชื่อน่ากลัวแต่จริงๆ แล้วสวยงามมากๆ เลยค่ะ จิโกคุดานิ นั้น ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองโนโบริเบทสึ ซึ่งเป็นเมืองออนเซนชื่อดังของฮอกไกโด และสาเหตุที่เรียกว่าหุบผานรกนั้น เพราะหุบผาแห่งนี้เกิดจากภูเขาไฟ เลยทำให้เกิดโคลนเดือดและน้ำพุร้อน ใครอยากมาสัมผัสนรกที่สวยงามเกิดบรรยายก็มากันได้เลย

"หุบผานรกที่สวยงามมากๆ"

 
เที่ยวมาทั้งวันก็ถึงเวลาพักผ่อนในโรงแรม ซึ่งที่นี่คุณก็จะได้สัมผัสการแช่ออนเซ็นแบบญี่ปุ่น และทานอาหารที่โรงแรม และพักผ่อน
 
เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการแช่ออนเซ็น
1. ออนเซ็นในญี่ปุ่นเขาจะแบ่งเป็นบ่อรวมชาย บ่อรวมหญิง และบ่อรวมที่มีทั้งชายและหญิง และบ่อแบบส่วนตัว จะเลือกลงบ่อไหนๆ ก็เลือกกันให้ดีนะจ๊ะ เดี๋ยวแจ็คพ็อตไปเจอรวมทั้งชายและหญิงจะเขินจนเดินออกมาไม่ทัน
2. คนญี่ปุ่นเวลาเข้าไปแช่ออนเซ็นเขาจะไม่ใส่อะไรเลย คือถอดหมดโดยถอดเสื้อผ้าไว้ในตะกร้าหรือล็อกเกอร์ ส่วนผ้าขนหนูเล็กๆ (มาก) เอาไว้ปกปิดของสงวนเท่านั้น
3. อาบน้ำก่อนลงแช่ โดยเขาจะมีก๊อกน้ำ มีเก้าอี้เล็กๆ ให้นั่งอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย เพราะเขาห้ามไปขัด ไปถู ในบ่อเด็ดขาด
4. จากนั้นก็ลงไปแช่ในบ่อ ไม่ควรแช่นานเกินไปนะคะ ระหว่างที่แช่นวดตามร่างกายไปด้วยเพื่อให้เลือกลมไหลเวียนได้ดีขึ้น
 
 
วันที่สาม
 
หลังจากทานอาหารเช้าที่โรงแรมกันแล้ว ก็เช็คเอาท์และถึงเวลาเดินทางสู่เมืองโอตารุ เมืองน่ารักและโรแมนติกเป็นเมืองท่าเล็กๆ ที่งดงาม และมีสถาปัตยกรรมที่ผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว ที่นี่คุณจะได้เดินเลียบเลาะไปบนคลองโอตารุที่ขนาบไปกับตึกโกดังสุดคลาสสิค ที่มีความยาว 1,140 เมตร
 
 
“คลองโอตารุยามค่ำคืนสวยงามมากๆ “
 
จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังถนน Sakaimachi Street ซึ่งเป็นถนนที่เต็มไปด้วยพิพิธภัณฑ์ ร้านน่ารัก ให้เลือกชมมากมาย เป็นถนนที่เดินแล้วเพลินมากๆ โดยที่แรกที่เราจมาแวะนั้นคือที่ Kitaichi Museum of Venetian Art  ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วที่มีชื่อเสียงของเมืองโอตารุ ที่นี่มีสาธิตการทำแก้วและยังมีสินค้าเครื่องแก้วที่น่ารัก และดึงดูดเงินกระเป๋าของเรามากๆ 
 
 
"Kitaichi Museum of Venetian Art"
 
และไฮไลต์บนถนนซาคิมาจิก็คือพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Music Box Museum ซึ่งเป็นตึกโบราณทรงยุโรป ภายในมีเครื่องแก้วมากมายให้เลือกชม เรียกได้ว่าเดินชม เดินฟังเสียงเพราะๆ ของกล่องดนตรีกันเพลินมากๆ 
 
 
"กล่องดนตรีน่ารักละลานตา"
 
ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังมีนาฬิกาไอน้ำโบราณสไตล์อังกฤษ ซึ่งจะพ่นควันและมีเสียงดนตรีทุกๆ 15 นาที 
 
 
“นักท่องเที่ยวต่างยืนรอเวลาที่นาฬิกาไอน้ำจะส่งเสียงดนตรีและพ่นควัน”
 
จากนั้นก็มานั่งชิลดื่มกาแฟที่ร้าน Gin no Kane โดยในทริปนี้เขาให้คุณดื่มกาแฟฟรี และยังให้แก้วน่ารักกลับไปได้คนละแก้วอีกด้วย พอตอนเที่ยงก็แวะทานอาหารที่ภัตตาคารชื่อดัง
 
 
พอตอนบ่ายก็เดินทางสู่ Kiroro Ski Resort รีสอร์ทที่มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทั้งสกี สโนว์บอร์ด, นั่งเลือนหิมะ ซึ่งใครที่กลัวว่าจะเล่นไม่เป็นไม่ต้องกลัวเลยค่ะ เพราะที่นี่เขามีครูฝึกที่เชี่ยวชาญคอยสอนเรา นอกจากนี้ที่นี่เขาก็ยังมีออนเซ็นให้ได้ลงแช่อีกด้วย จากนั้นก็รับประทานอาหารภายในโรงแรม และพักผ่อนกันให้เต็มที่ 
 
 
"Kiroro Ski Resort"
 
 
วันที่สี่
 
รับประทานอาหารที่โรงแรมและเช็คเอาท์เพื่อเดินทางสู่เมืองซัปโปโร โดยที่แรกที่เราจะเดินทางไปนั้นคือ Ishiya Chocolate Factory หรือโรงงานช็อคโกแลตอิชิยะ ที่นี่ทำให้ผู้ใหญ่หลายคนกลายเป็นเด็ก เพราะเหมือนเป็นความฝันในวัยเด็กเป็นจริง 
 
 
ที่นี่ถือว่าเป็นโรงงานที่น่ารักที่สุด ที่ให้คุณได้ชมกระบวนการทำช็อกโกแลต  ประวัติการทำช็อกโกแลต และได้ลองทำขนม ชิโรอิ โคอิบิตะ ซึ่งเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของที่นี่
 
 
 
ต่อจากนั้นเดินทางไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ศาลเจ้าฮอกไกโด ซึ่งเป็นศาลเจ้าชินโต ที่มีความสำคัญต่อคนฮอกไกโดมากๆ
 
เดินทางต่อไป ยัง Former Hokkaido Government Office Building ( Red Brick Office) หรือตึกรัฐบาลเก่าสุดคลาสสิคของซัปโปโร เป็นอาคารสไตล์นีโอบาร๊อคอเมริกาที่สร้างด้วยอิฐสีแดงทั้งหลัง โดยลอกแบบมาจากอาคารทำเนียบรัฐบาลแห่งรัฐแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา  ตึกแดงหลังนี้ใช้เป็นที่ทำการรัฐบาลฮอกไกโดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2429 และใช้ต่อเนื่องยาวมานานถึง 80 ปี ก่อนที่จะย้ายไปที่ทำการหลังใหม่
 
 
"Former Hokkaido Government Office Building ( Red Brick Office)"
 
จากนั้นเดินทางมาชม Clock Tower หรือหอนาฬิกา ตั้งอยู่ใกล้สวนโอโดริ  ซึ่งมีความเก่าแก่มาก สร้างขึ้นในปี ค.ศ .1878 รวมเวลาก็ 136 ปี จนได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองซัปโปโร และเป็นนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรง ในยามที่หิมะตกปกคลุมตึกแห่งนี้ให้เหมือนภาพวาดเลยล่ะค่ะ
 
 
"Clock Tower ยามค่ำคืนสวยงามราวเทพนิยาย"
 
จากหอนาฬิกาเราจะเดินทางมาสัมผัสครัวของคนซัปโปโร ที่ตลาดนิโจ ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างในปี ค.ศ.1904 หรือ 110 ปี มาแล้ว ที่นี่คุณจะได้พบสินค้าของสดมากมาย ทั้ง ปลาของญี่ปุ่น ปูฮอกไกโด หอยเชลล์ และร้านอาหาร ร้านซูชิที่รอคอยให้คุณได้เข้ามาเลือกชิม
 
 
"ตลาดนิโจ"
 
เที่ยงรับประทานอาหารกลางวันในภัตตาคาร หลังจากนั้นก็ถึงเวลาช้อปที่ย่านทานุกิโคจิ ที่มีสินค้าให้เลือกซื้อมากมายมาย ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้อง และของฝาก
 

 
"ย่านทานุกิโคจิ "
 
ในตอนค่ำเดินทางสู่ที่ที่พักในซัปโปโร พักผ่อนทำธุระส่วนตัว และมาทานบุฟเฟ่ต์ ปู และอาหารทะเลขึ้นชื่อของฮอกไกโด
 
 
 
วันที่ห้า 
 
ตอนเช้ารับประทานอาหารโรงแรม และหลังจากนั้นก็ถึงเวลาของขาช้อป โดยทริปนี้เขาจะพาไปช้อปที่ตึก JR Tower ซึ่งอยู่ตรงสถานีซัปโปโร  ที่มีร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้า และกล้องมากมาย
 
 
- รับประทานอาหารเที่ยงตามอัธยาศัย
 
 
- ช้อปปิ้งกันต่อจนถึงเย็นและทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย และกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม
 
วันที่หก
 
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมและเช็คเอาท์ เดินทางสู่สนามบินนิวชิโตเสะ ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ ด้วยสายการบินไทย TG671 และถึงกรุงเทพเวลา 15.45 น.
 
 
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-2530-7887
 
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่เลย  http://trueyou.co.th/privilege/3078708 
 
 
เรื่องโดย เกียร์กระปุก
 
 
 

 

 

 

 


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai