calendar_month 16 พ.ย. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 87,613 / ทริปตัวอย่าง
ลำปาง...เมืองน่ารักน่าเที่ยว นอกจากจะเป็นเมืองรถม้า ชามตราไก่ขึ้นชื่อ พร้อมวัดสวยสุดอลังการ และสถานที่ท่องเที่ยวอย่างแหล่งน้ำพุร้อนแล้ว ลำปางยังมีที่เที่ยวอันซีนสวยๆ อีกมากที่รอให้เราไปเยือน หนึ่งในนั้นคือ “อำเภอแม่เมาะ” อำเภอเล็กๆ ที่จัดเต็มความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูหนาว ทริปนี้เราจะพาไปขับรถเที่ยวแม่เมาะ ลัดเลาะลำปาง 3 วัน 2 คืน จะสวยน่าเที่ยวขนาดไหน ตามไปเที่ยวแม่เมาะพร้อมกันเลยดีกว่า!
วันที่ 1
จุดหมายแรกของเราอยู่ที่ “สวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา” จุดชมวิวและจุดถ่ายภาพของ กฟผ.แม่เมาะ ที่เกิดจากการฟื้นฟูบริเวณที่เคยเป็นพื้นที่ทิ้งดินจากการทำเหมืองจนกลายเป็นภูเขาเทียมที่สลับซับซ้อน โดยบริเวณยอดสูงสุดได้เนรมิตให้กลายเป็นสวนสวยและจุดชมวิวแลนด์มาร์คสำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวแม่เมาะ จ.ลำปาง
จุดแรกที่เราแวะคือบริเวณทุ่งดอกไม้ที่ตั้งอยู่ทางเข้าด้านหน้าของสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งจัดเป็นมุมถ่ายรูปอย่างสวยงามท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งดอกคอสมอส ดอกดาวกระจาย
และปีนี้พิเศษมีไฮไลท์อย่างทุ่งดอกซีโลเซีย (ดอกสร้อยไก่) สีสันสดใส ทั้งแดง เหลือง ส้ม ฯลฯ ให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปท่ามกลางสายหมอกในตอนเช้ากันอีกด้วย
ไฮไลท์ที่นี่คือ ทุ่งดอกบัวตองขนาดใหญ่ที่จะผลิดอกสีเหลืองบานสะพรั่งไปทั่วทั้งหุบเขาในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคมของทุกปี ซึ่งปีนี้ทุ่งดอกบัวตองที่แม่เมาะก็เริ่มทยอยผลิบานตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. ให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามกันแล้ว
เราสามารถครีเอทหามุมถ่ายรูปใหม่ๆ กันได้เต็มที่ ขนาดต้นบัวตองที่ยังไม่บานด้านหลังแบบนี้ยังถ่ายรูปออกมาฮิปได้ไม่แพ้กัน ลองจินตนาการว่าถ้าหากดอกบัวตองบานสะพรั่งเต็มที่จะถ่ายรูปออกมาปังขนาดไหน
ถ่ายรูปกับทุ่งดอกไม้และทุ่งดอกบัวตองกันจุใจแล้ว เราเข้าไปเที่ยวด้านในสวนเฉลิมพระเกียรติฯ กันต่อ บอกเลยว่ามีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายจุด ทั้งสวนนก สวนสมุนไพร ฯลฯ และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ และนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจกันอีกหลายมุม
แต่ไฮไลท์ต้องยกให้กับทางเดินสกายวอล์กบริเวณศาลาเฉลิมพระเกียรติฯ ที่เป็นสะพานทางเดินที่ยื่นออกไปให้เราชมหมอก ทุ่งดอกบัวตองและวิวภูเขาที่ล้อมรอบของบริเวณเหมืองแม่เมาะได้แบบพาโนรามา บริเวณด้านขวามือยังสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ใกล้ๆ ได้อีกด้วย
หรือหากใครอยากชมวิวจากมุมสูง แนะนำเดินขึ้นไปชมวิวด้านบนที่หอคอยชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นวิวภูเขาล้อมรอบได้แบบ 360 องศา โดยเฉพาะหากใครมาช่วงตอนเย็น ยังมีโอกาสจะได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆ กันอีกด้วย
จากสวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เราขับรถลัดเลาะลงมาเที่ยวกันต่อที่ “สวนพฤกษชาติแม่เมาะ” อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ใครมาเที่ยวแม่เมาะไม่ควรพลาด ที่นี่เกิดจากฝีมือการเนรมิตของ กฟผ.แม่เมาะให้เป็นสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือ การเล่นสไลเดอร์ลงเนินสุดฟินที่หากใครมีโอกาสมาเที่ยวแม่เมาะทั้งทีแล้ว ต้องแวะมาเล่นสไลเดอร์ลื่นปรื๊ดกันที่ “ลานสไลเดอร์” ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลาชมวิวภายในสวนพฤกษชาติ ภายในบริเวณ กฟผ. แม่เมาะกันสักครั้ง
สำหรับวิธีการเล่นก็ไม่ยาก มีแค่แผ่นรองอันเดียวก็สนุกหวาดเสียวได้แล้ว โดยเราสามารถไปยืมแผ่นรองสไลด์จากทางศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมาใช้เล่นสไลเดอร์ลงเนินได้เลย (แต่ช่วงโควิด-19 งดให้บริการชั่วคราว) หรืออาจเตรียมแผ่นรองมาเองจากบ้านเลยก็ได้ ใครจะประยุกต์ใช้แผ่นลังกระดาษหนาๆ หน่อยแทนก็ได้เหมือนกัน พื้นเป็นหญ้านุ่มๆ ไม่อันตราย เล่นสนุกกันได้ทั้งเด็กๆ และผู้ใหญ่เลยล่ะ สำหรับสวนพฤกษชาติเปิดตั้งแต่ 08.00-18.00 ทุกวัน
ภายในสวนพฤกษชาติแม่เมาะยังเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟมาตรฐานที่มีการจัดแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม รวมทั้งยังมีร้านอาหารและคาเฟ่เปิดให้บริการด้วย ได้เวลามื้อเที่ยงพอดี พวกเราเลยตัดสินใจทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน “At Mine Coffee” คาเฟ่และร้านกาแฟบรรยากาศดี ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสนามกอล์ฟ กฟผ.แม่เมาะ นั่นเอง
ตัวคาเฟ่ตั้งอยู่ติดกับร้านอาหารชื่อว่ายุพินเทอร์โบ ซึ่งเป็นร้านอาหารเก่าแก่ชื่อดังของที่นี่ โดยหลังจากสองคู่รักหนุ่มสาวอย่างคุณปริมและคุณเอิร์ธ ที่มีประสบการณ์ด้านเชฟและการโรงแรมตัดสินใจกลับมาบ้านเกิดที่ลำปาง ทั้งคู่ก็มาเปิดคาเฟ่เล็กๆ แห่งนี้ในบริเวณเดียวกันกับร้านอาหารของครอบครัว ตัวร้านมีทั้งโซนห้องกระจกติดแอร์และโซนเอาท์ดอร์ด้านนอกให้นั่งชิลๆ
คอนเซ็ปต์ของ “At Mine Coffee” คือเป็นคาเฟ่และร้านกาแฟบรรยากาศอบอุ่นเหมือนมาบ้านเพื่อน ทำให้มีลูกค้าประจำที่ทำงานใน กฟผ.แม่เมาะ และนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเช็คอินไม่ขาดสาย ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือเมนูเครื่องดื่มอย่างกาแฟสดที่เจ้าของร้านตั้งใจและคัดสรรเมล็ดกาแฟนำเข้าชั้นดีอย่าง "blanc" จากจากโรงคั่วเมลเบิร์น ออสเตรเลีย และยังมีเมล็ดกาแฟในเมืองไทยและลาวที่นำมาเบลนด์จนเป็นสูตรของที่ร้านเองเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า หรือใครติดใจรสชาติอยากจะซื้อกลับบ้านก็มีเมล็ดกาแฟ Exclusive Blend แบรนด์ของร้าน At Mine จำหน่ายอีกด้วย
นอกจากเมนูเครื่องดื่มอย่างกาแฟแล้ว ที่ร้าน At Mine Coffee ยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ ให้เลือกสั่ง ทั้งชาเขียว, นม, สมูทตี้, โซดา ฯลฯ บางวันยังมีเค้กและเบเกอรี่สูตรโฮมเมดอบใหม่ๆ ฝีมือคุณปริม โดยเฉพาะเมนูขายดีอย่างครัวซองต์ที่การันตีความอร่อยฟินจนต้องสั่งจองล่วงหน้า หรือถ้าหากใครอยากได้เมนูที่หนักท้องกว่านั้น ก็สามารถสั่งอาหารจากร้านยุพินเทอร์โบที่อยู่ติดกันมาทานได้เลย
สำหรับเมนูอาหารที่นี่ เน้นเสิร์ฟเมนูอาหารไทย โดยมีให้เลือกทั้งแบบอาหารจานเดียวง่ายๆ และเมนูเซ็ตเป็นชุด เมนูแนะนำต้องลอง อาทิ เมนูต้มยำปลาคัง ปลากะพงทอดน้ำปลา ผัดกะเพราหมู ไก่ทอดงา ฯลฯ บอกเลยว่าอร่อยทุกเมนูจริงๆ แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย ใครมาเที่ยวแม่เมาะ มองหาคาเฟ่และร้านอาหารเหมาะๆ ไว้ฝากท้องเวลาหิว แถมยังมีกาแฟหอมๆ ให้นั่งจิบชิลๆ ชมวิวสีเขียวร่มรื่นของสนามกอล์ฟแบบนี้ แวะมาเช็คอินกันได้เลยที่ร้าน At Mine Coffee กันได้เลย
At Mine Coffee
ที่ตั้ง: ร้านอาหารยุพินเทอร์โบ (คลับเฮาส์เก่า) สนามกอล์ฟ กฟผ. แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
เปิด : จ.-ศ. 07.45-16.15 น. , ส.-อ. 08.00-16.30 น.
โทร. 097-9494839
พิกัด : https://goo.gl/maps/CDpTJ1DiZMZm7MSi9
อิ่มอร่อยกับมื้อเที่ยงกันแล้ว ตอนบ่ายเราไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษาฯ (เหมืองแม่เมาะ) ที่นอกจากจะเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับด้านพลังงานแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่เราจะได้มาชมจุดกำเนิดเหมืองแม่เมาะและวิวัฒนาการของการทำเหมืองถ่านหินกันฟรีๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ทันสมัย ติดแอร์เย็นฉ่ำ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวชม โดยเปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) โดยจะเปิดให้เข้าชมวันละ 4 รอบ ได้แก่ รอบเวลา 09.00 น., 10.30 น., 13.00 น. และ 14.30 น.
ภายในพิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษาฯ แบ่งออกเป็น 2 อาคารที่เชื่อมต่อกัน รวมทั้งหมด 7 โซน เราเริ่มชมกันจากโซนแรกซึ่งเป็นโซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.7 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณที่พระองค์ท่านได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สงวนแหล่งถ่านลิกไนต์ ณ อำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง และที่อื่นๆ ในประเทศไว้ให้รัฐดำเนินกิจการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ
ไปต่อกันที่โซนที่ 2 กับโซนจักรวาล โลก และถ่านหิน ที่จะมีนิทรรศการให้เราชมจุดกำเนิดของจักรวาล โลกและถ่านหินแล้ว ยังมีภาพยนตร์แบบเคลื่อนไหวให้ชมกันเต็มตา
โซนที่ 3 “จากผืนน้ำและแผ่นดิน” โซนที่บอกเล่าเรื่องราวของผืนดินและสายน้ำที่นำมาสู่ของขวัญอย่างซากฟอสซิลต่างๆ ที่กลายเป็นแหล่งพลังงานบนโลก ไฮไลท์ของโซนนี้คือนอกจากจะมีการจัดแสดงซากฟอสซิลในยุคดึกดำบรรพ์ให้ชมแล้ว ยังมีการจัดไลท์ติ้งแสงไฟและฉายภาพเคลื่อนไหว จำลองบรรยากาศให้เรารู้สึกว่าอยู่โลกใต้ท้องทะเลกันจริงๆ
โซนที่ 4 “พลังงานขับเคลื่อนไทย” โซนนี้เป็นนิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวพัฒนาการและความเปลี่ยนแปลงของเหมืองแม่เมาะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยจัดเป็นเหมืองถ่านหินลิกไนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังมีจุดชมวิวในอาคาร (Indoor Observation Deck) ให้เราชมวิวของพื้นที่เหมืองแม่เมาะผ่านกระจกใสบานใหญ่อีกด้วย
ห้องนี้จัดแสดงเทคโนโลยีถ่านหินสะอาดที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะผลิตใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยมีแผนผังจำลองของโรงไฟฟ้าแม่เมาะนำมาย่อส่วนจัดแสดงให้ชมภายใต้ช่องกระจกใส ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปชมหรือถ่ายรูปบนพื้นกระจกได้เลย
โซนที่ 5 “มุ่งสู่อนาคต” นิทรรศการที่รวมองค์ความรู้การใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้า ทั้งโรงไฟฟ้าพลังน้ำ, โรงไฟฟ้าพลังงานร้อนร่วม ฯลฯ ไปจนถึงการประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้านต่างๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน
โซนที่ 6 “จุดเปลี่ยนโลกและวิทยาศาสตร์พื้นฐาน” สำหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่เป็นจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนและเปลี่ยนแปลงโลกในด้านต่างๆ
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ในการมาเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษาฯ (เหมืองแม่เมาะ) คือ การชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ 4 มิติ ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวของการทำเหมือง การผลิตไฟฟ้า ของ กฟผ. แม่เมาะ ซึ่งจุดเด่นคือระบบเทคโนโลยีแบบ 4D ที่นอกจากเราจะได้สวมแว่น 3 มิติในการรับชม ยังมีทั้งลมและเก้าอี้ชมภาพยนตร์จะสามารถเคลื่อนไหวไปตามเนื้อเรื่อง ช่วยเพิ่มอรรถรสในการดูหนังได้อย่างดี
ปิดท้ายด้วย โซนที่ 7 “แม่เมาะ ชุมชนที่อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน” นิทรรศการที่บอกเล่าเรื่องราวของเหมืองแม่เมาะกับชุมชนที่อยู่โดยรอบ ซึ่งทาง กฟผ. เหมืองแม่เมาะได้มีการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามที่ EIA กำหนด โดยได้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพเหมืองเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนและสถานที่ท่องเที่ยวมากมายในปัจจุบัน
นอกจากนิทรรศการภายในอาคารแล้ว ยังมีนิทรรศการกลางแจ้ง อย่างลานแสดงเครื่องจักรที่ใช้ในการทำเหมืองต่างๆ ให้ชม ใครมาแล้วต้องไม่พลาดถ่ายรูปกับเจ้า “ทีเร็กซ์” รถขนถ่านหินลิกไนต์ยักษ์ที่เคยใช้ในการขุดเจาะและขนถ่านหินที่ได้จากเหมืองแม่เมาะเป็นที่ระลึกกันสักหน่อย
จากนั้น เราไปเช็คอินเข้าที่พักกันที่ Ann’s Farm ที่พักน่ารักสไตล์ฟาร์มสเตย์สุดคิวท์ บรรยากาศเหมือนอยู่ในฟาร์มที่ต่างประเทศเลยทีเดียว ไฮไลท์คือมีบ้านพักสไตล์กังหันลมแบบยุโรปตั้งอยู่โดดเด่นบนเนินเขา และยังมีห้องพักแบบอื่นๆ ให้เลือกทั้งสไตล์โมเดิร์น บ้านการ์ตูนสีสันสดใส กระโจมริมน้ำ หรือห้องพักสไตล์ตู้คอนเทนเนอร์เท่ๆ
เช็คอินเก็บของเข้าห้องพักเสร็จไปสำรวจบริเวณที่พักกันต่อ นอกจากเป็นที่พักแล้วที่นี่ยังเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ฟาร์ม ที่นักท่องเที่ยวสามารถซื้อบัตรแล้วนั่งสุดคลาสสิคเที่ยวชมฟาร์มได้อีกด้วย
ภายในฟาร์มมีสัตว์ที่เลี้ยงไว้มากมาย ทั้งแพะ, แกะ, ม้า, ม้าแคระ, กวาง, กระต่าย หรือเจ้าวัลลาบีขี้อาย, เป็ดแมนดาริน, เป็ดมาลลาร์ด ไปจนถึงหมูจิ๋ว เราสามารถให้อาหารและถ่ายรูปเล่นกับน้องๆ ได้ หรือใครอยากขี่ ATV เที่ยวชมฟาร์มเองก็จัดไป ทางที่พักมีบริการให้เช่าขี่เที่ยวด้วยเหมือนกัน
นอกจากเป็นที่พักและที่เที่ยวสไตล์ฟาร์มแล้ว ภายใน Ann’s Farm ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่เสิร์ฟเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย อาทิ กาแฟสด,ช็อกโกแลต,ชา,อิตาเลียนโซดา และเมนูสมูทตี้อย่าง “มิกซ์เบอร์รี่ปั่น” ส่วนเมนูอาหารที่นี่จะเน้นเป็นเมนูอาหารจานเดียวอย่าง สเต็กที่มีให้เลือกทั้ง สเต็กเนื้อริบอาย, พอร์คช็อพ, ปลาแซลมอน เมนูสปาเก็ตตี้จขี้เมาทะเล, ผัดโขมอบชีส ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีเมนูของกินเล่นเรียกน้ำย่อย เมนูยำ, ส้มตำให้เลือกอิ่มอร่อยกันอีกด้วย
ตอนเย็นเราขับรถไปถ่ายรูปกับซุ้มไฟประดับสวยๆ ที่งานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษาอีกครั้ง
ภายในงานทาง กฟผ. แม่เมาะได้เนรมิตพื้นที่ภายในบริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ให้กลายเป็นงานเทศกาลประดับไฟสุดตระการตา ด้วยแสงไฟที่งดงามประดับตามต้นไม้และมุมต่างๆ ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
นอกจากซุ้มไฟประดับสวยๆ แล้ว ยังมีน้ำพุเต้นระบำที่สามารถเปลี่ยนสีไปได้เรื่อยๆ และอุโมงค์ต้นไม้ที่ประดับไฟสวยๆ ให้เราเดินลอดผ่าน พร้อมมุมถ่ายรูปคู่กับหอคอยชมวิวและสะพานทางเดินสกายวอล์กที่ประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงามในตอนกลางคืน
ใครอยากมาถ่ายรูปกับไฟประดับสวยๆ แบบนี้ ทาง กฟผ. แม่เมาะจะจัดงานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย.นี้ ยาวไปจนถึงสิ้นปี เตรียมกล้องและชุดสวยๆ มาถ่ายรูปคู่กับทุ่งดอกไม้และงานประดับไฟกันได้เลย!
วันที่ 2
สายวันรุ่งขึ้น เราวาร์ปจากลำปางไปอเมริกา เอ๊ย...ขับรถไปเที่ยว “แคลิฟอร์เนีย ลำปาง” (California Lampang) ถนนสวยที่ให้อารมณ์เหมือน Route 66 California ที่เห็นเหล่าเซเล็บและบล็อกเกอร์หลายคนนิยมมาถ่ายรูปเช็คอินกันที่นี่ลงโซเชียลและ IG กันอยู่บ่อยๆ ทริปนี้เราเลยอยากลองไปตามรอยกันสักหน่อย
แต่ขับรถมาตามพิกัดใน Google Maps สักพัก ไม่ยักกะเจอถนนหน้าตาแบบที่เห็นในรีวิว ต้องขับรถวนหาอยู่สักพักจนเจอถนนเส้นที่น่าจะถ่ายรูปออกมาคล้ายๆ แคลิฟอร์เนีย (รึเปล่า?55) พอลองหาข้อมูลดูถึงได้รู้ว่า จริงๆ แล้วถนนเส้นนี้เป็นเป็นถนนที่ตัดใหม่เมื่อประมาณช่วงปีที่แล้ว เพื่อรองรับชุมชนของชาวบ้านที่จะอพยพมาอาศัยอยู่กันบริเวณนี้ ทำให้จากเดิมที่เป็นถนนโล่งๆ ตอนนี้เริ่มมีความเจริญและสาธารณูปโภคอย่างเสาไฟและสายไฟฟ้าเข้ามา แถมตอนที่เราไปนั้นยังมีฝนหลงฤดูตกลงมาจากที่โลเคชั่นเดิมดูแห้งคล้ายทะเลทราย พอมีหญ้าเขียวๆ ขึ้นสูงทำให้ดูแตกต่างไปจากภาพถนนที่เคยเห็นในรีวิวอื่นๆ
แต่ถ้าตัดเรื่องนี้ออกไป เราว่าถนนนี้ก็ยังสวยน่ามาขับรถเที่ยวเหมือนกัน เพราะเป็นถนนเส้นเล็กๆ ที่ตัดผ่านทุ่งหญ้าและมีภูเขาเป็นแบคกราวด์ แม้จะเริ่มมีความเจริญเข้ามา แต่ยังไม่มีชาวบ้านมาอยู่อาศัย ทำให้ถนนโล่งและมีรถผ่านเส้นทางนี้น้อยมากกก... เราสามารถลงไปยืนหรือแม้แต่นั่งถ่ายรูปกลางถนนกันได้ชิลๆ หรือใครจะเอาเซิร์ฟสเก็ตมาไถเล่นกันก็มีเนินสวยๆ ให้เลือกเพียบ!
แคลิฟอร์เนีย ลำปาง
ที่ตั้ง : บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
พิกัด : https://goo.gl/maps/4v5LUvfgXgrRD45N6
ถ่ายรูปกับถนนสวยๆ กันจนเม็มฯ เต็ม เราขับรถกลับลงมาทางตัวเมืองแม่เมาะ แล้วแวะทานอาหารกลางวันที่ร้านส้มตำรสเจ็บ ข้าวซอยเจ๊ติ๊ก ร้านอร่อยชื่อดังประจำเมืองแม่เมาะ
ร้านนี้ไม่ได้มีดีแค่ส้มตำเท่านั้น แต่ยังมีเมนูข้าวซอยให้เลือกอิ่มอร่อย ทั้งเมนูข้าวซอยหมู ข้าวซอยไก่ หรือข้าวซอยเนื้อ ทีเด็ดอยู่ที่น้ำแกงเข้มข้นด้วยเครื่องแกงที่ทางร้านลงมือทำเอง คลุกเข้าเข้ากับเส้นข้าวซอยได้อย่างกลมกล่อมลงตัว ไม่น่าแปลกใจที่ร้านนี้กลายเป็นร้านขวัญใจคนพื้นที่ มีลูกค้ามาอุดหนุนแน่นร้านตลอด จนถึงกับต้องโทรสั่งล่วงหน้ากันเลยทีเดียว บางวันเปิดขายไม่ถึงบ่ายสองโมงก็หมดแล้ว ส่วนเมนูส้มตำที่ร้านจานเด็ดต้องยกให้กับ ตำลาวสาวเหนือและตำโขยงที่คล้ายเมนูตำป่า แต่ไม่ได้ใส่ผักเยอะเท่า เส้นมะละกอคลุกเคล้ามากับขนมจีนและยังใส่เครื่องแบบจัดเต็มทั้งกากหมู ปูนา กุ้งแห้งตัวโต และถั่วลิงสงคั่วหอมๆ กรุบกรอบ แถมวันนี้เรายังโชคดีได้กินเมนูพิเศษอย่างตำมะขามอ่อนใส่น้ำปู๋ ที่จะมีให้กินเฉพาะช่วงฤดูกาลเท่านั้น บอกเลยว่าแซ่บจัดจ้านสมคำร่ำลือเลยจริงๆ
ที่สำคัญ เช็คบิลออกมาแล้วราคาสบายกระเป๋ามากๆ ทั้งโต๊ะไม่ถึง 300 บาท ใครมาเที่ยวแม่เมาะแล้วมองหาร้านอาหารอร่อยราคาเบาๆ ปักหมุดมาเช็คอินที่ร้านเจ๊ติ๊กกันได้เลย!
ร้านเจ๊ติ๊ก
ที่ตั้ง : บ้านเมาะหลวง ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
เปิด : 09.00-15.00 น.
โทร. 084-8077400
พิกัด : https://goo.gl/maps/kgRsWXpRc4F2a2Yi9
ตอนบ่ายเราไปเที่ยวกันต่อที่ผาหอบ ที่เที่ยวอันซีนเมืองแม่เมาะ ซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของกระแสน้ำและสายลมจนกลายมาเป็นหน้าผาสูงชันตระหง่าน มีแม่น้ำไหลผ่านพาดกลาง ซึ่งการจะเดินทางไปยังผาหอบนั้นเราต้องเดินไต่ลงไปตามสันเขาประมาณ 300 เมตร จากนั้นต้องล่องแพหรือพายคายัคเข้าไปด้านในต่ออีกที
วันที่เราไปกระแสน้ำยังแรงเนื่องจากวันก่อนหน้านั้นมีฝนตกหนักลงมาพอดี ทำให้สีน้ำไม่ค่อยใสเท่าวันปกติเท่าใดนัก แต่เรากลับรู้สึกว่าเป็นความสวยงามของธรรมชาติแบบดิบๆ แถมบรรยากาศยังสงบเงียบมากๆ มีเพียงภูเขา สายน้ำ และพวกเราที่เป็นนักท่องเที่ยวเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น
ใช้เวลาพายเรือคายัคเข้าไปไม่ไกลเราก็เจอกับถ้ำรูปหัวใจ ซึ่งหากมองจากปากถ้ำจะดูเหมือนหัวใจสองดวงอิงกัน หากเดินเข้าไปสำรวจภายในถ้ำจะมองเห็นลักษณะเป็นรูปหัวใจดวงเดียว ดูสวยแปลกตาไปอีกแบบ
การจะมาเที่ยวผาหอบนั้นจำเป็นต้องมีไกด์นำทาง ซึ่งพวกเราก็ติดต่อ “พี่ดง” หนุ่มแม่เมาะที่เป็นผู้บุกเบิกการท่องเที่ยวในชุมชนแห่งนี้ขึ้นมาคนแรก และเป็นไกด์คอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในชุมชนบ้านแม่เกี๋ยงและหมู่บ้านใกล้เคียงในตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
นอกจากนี้ ยังเปิดเป็นร้านกาแฟและที่พักสไตล์แคมป์ปิ้งเล็กๆ ชื่อว่า “ตูบฮ่อมดอย” ซึ่งพวกเราก็ได้มีโอกาสแวะไปชิมกาแฟ พร้อมกับชมวิวภูเขาสวยๆ หลักล้านแบบพาโนรามา หรือหากใครติดใจบรรยากาศก็สามารถค้างคืนที่นี่ได้เลยเช่นกัน ที่พักมีเต็นท์และเครื่องนอนให้เช่า หรือใครเป็นสายแคมป์ปิ้งจะเตรียมเต็นท์มาเองเลยก็ได้
ตูบฮ่อมดอย
ที่ตั้ง : บ.แม่เกี๋ยง ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
ค่ากางเต็นท์ (เตรียมเต็นท์มาเอง) คนละ 150 บาท, เช่าเต็นท์คนละ 300 บาท
คาเฟ่เปิด : 09.00-17.00 น.
สนใจท่องเที่ยวผาหอบ ติดต่อพี่ดง โทร. 088 769 8387
พิกัด : https://goo.gl/maps/fosJHCja5DLKEN3L6
วันที่ 3
วันสุดท้ายของการเที่ยวแม่เมาะ ลำปาง เราตื่นแต่เช้ามาทานอาหารและถ่ายรูปซึมซับบรรยากาศในที่พักให้เต็มอิ่ม ก่อนจะออกเดินทางไปเที่ยวกันต่อ
หลังจากเช็คเอาท์ เราแวะไปเที่ยว "แผ่นดินหวิด" ที่เที่ยวสุด Unseen ของแม่เมาะ ที่นี่เกิดจากสายน้ำกัดเซาะเป็นร่องลึกและหน้าผาสูงชัน จึงเป็นที่มาของชื่อแผ่นดินหวิด ซึ่งเป็นภาษาพื้นเมืองภาคเหนือนั่นเอง
จุดเด่นของที่นี่คือ ลักษณะภูมิประเทศที่แปลกตา ด้วยแก่งหินที่ถูกกัดเซาะจนกลายเป็นรูปทรงต่างๆ บางอันดูคล้ายพระธาตุ เจดีย์ หรือคล้ายรูปสัตว์ต่างๆ ตามแต่มุมมองและจินตนาการของผู้ชม นอกจากนี้ ยังมีหินที่เกิดจากลาวาภูเขาไฟในอดีตได้หลากเข้าท่วมพื้นที่บริเวณนี้ เมื่อลาวาภูเขาไฟเย็นตัวลงได้แข็งตัวจนกลายเป็นหินและหน้าผารูปทรงต่างๆ
เราสามารถมาชมแผ่นดินหวิดและไหว้พระธาตุที่นี่ได้ เนื่องจากบริเวณแผ่นดินหวิดตั้งอยู่ภายในสถานปฏิบัติธรรมและพื้นที่ป่าชุมชนที่บรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่น
แผ่นดินหวิด
ที่ตั้ง : บ้านปงชัย ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
พิกัด : https://goo.gl/maps/Cjb7tjGmdX1Kvr6V8
ปิดท้ายก่อนเดินทางกลับด้วยการไปไหว้พระที่วัดรัตนคูหา (ถ้ำผากล้วย) วัดสวยที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาล้อมรอบได้แบบพาโนรามา
จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือบันไดพญานาค พระนาคปรก 9 เศียรและพระอุโบสถที่งดงามศิลปะแบบพม่า ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปและมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอย่างงดงาม
ด้านข้างของพระอุโบสถ ยังมีไฮไลท์อย่าง “พระพุทธชยันตีเมตตาทันใจโลกนาถ” พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ให้ผู้ที่มาเที่ยวชมได้ไหว้พระสักการะทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล
นอกจากจะเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวตัวอำเภอแม่เมาะได้โดยรอบแล้ว จากบริเวณวัดรัตนคูหา (ถ้ำผากล้วย) ยังสามารถมองเห็นวิวโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้อีกด้วย ถ้ามาตอนเช้าเราจะได้ลุ้นชมทะเลหมอกสวยๆ หากมาตอนเย็นก็จะได้ชมท้องฟ้าเปลี่ยนสีหลังพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามไปอีกแบบ
วัดรัตนคูหา (ถ้ำผากล้วย)
ที่ตั้ง : ถนนท้องถิ่น ลป. 2025 (บ้านปงชัย) ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
พิกัด : https://goo.gl/maps/1Koj7mVxwX5t5ZCEA
เรียกว่าทริปนี้ เป็นทริปเที่ยวแม่เมาะ 3 วัน 2 คืนที่เราได้ใช้เวลาขับรถเที่ยวแม่เมาะได้อย่างเต็มอิ่มจริงๆ นอกจากจะได้ฟินกับธรรมชาติสวยๆ และที่เที่ยวสุด Unseen แล้ว เรายังได้ซอกแซกกินอาหารอร่อยๆ พื้นเมือง และได้พักผ่อนในที่พักสวยๆ พร้อมกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำมากมาย ใครมีแพลนมาเที่ยวลำปาง ลองหาโอกาสมาเยือนแม่เมาะกันสักครั้ง แล้วจะตกหลุมรักอำเภอเล็กๆ แห่งนี้กันแน่นอน!
Tags: ลำปาง เที่ยวลำปาง แม่เมาะ เที่ยวแม่เมาะ เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ ทุ่งดอกบัวตอง กฟผ. เหมืองแม่เมาะ
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 107 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 298 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 398 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 528 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 733 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,046 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 482 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 911 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,243 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,405 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,765 อ่าน