0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เที่ยวกระบี่ ตอนที่2 : เที่ยว อ.อ่าวลึก แบบเจาะลึก ความมหัศจรรย์จากอดีตสู่ปัจจุบัน

calendar_month 12 ก.พ. 2014 / stylus Admin Chillpainai / visibility 66,392 / รีวิวที่เที่ยว

กลับมาเจอกันอีกเเล้วนะคะ จากในสกู๊ปก่อนที่ได้พาคุณผู้อ่านไปชมความงามเมืองกระบี่

ที่ชุมชนเกาะกลาง และที่เที่ยวอื่นๆในตัวเมือง ใครที่พลาดสกู๊ปก่อน ลองกดอ่านที่นี่เลย...

เที่ยวกระบี่ ตอนที่1 : เมืองกระบี่และเกาะกลาง วิถีชุมชนเรียบง่าย เสน่ห์แห่งเมืองเขาขนาบน้ำ

 

ส่วนสกู๊ปกระบี่ตอนที่ 2 นี้ เราจะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวที่ อ.อ่าวลึก แบบเจาะลึก  

ซึ่งขอบอกเลยว่า ในบรรดาอำเภอต่างๆของจังหวัดกระบี่นี้ จะมีที่เที่ยวมากมายและ

ก็จะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันไปตามสภาพภูมิประเทศ ของแต่ละอำเภอ

 

อย่างใน อ.อ่าวลึก ก็จะโดดเด่นในเรื่องของภาพเขียนสีโบราณสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์
ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปตามจุดต่างๆรอบๆอ่าวลึก เช่นที่ ในถ้ำผีหัวโต กลุ่มภาพเขียนตามเพิงผาถ้ำกลางทะเล
รวมไปถึงถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามและยังสมบูรณ์ที่สุดก็สามารถพบได้ที่นี่เช่นเดียวกัน

ถ้างั้นอย่ารอช้า รีบตามไปเที่ยวกันดีกว่านะ.... karok_eat

 

  

 

เริ่มแรกกันที่ "ถ้ำคลัง" ถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามและมีความสมบูรณ์ที่สุดถ้ำหนึ่งในประเทศไทย
ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้จัก และถือว่าสวยงามเป็นอันดับที่สองของเอเชียอีกด้วย
ถ้ำแห่งนี้ต้องอาศัยผู้นำทางเข้าไปชม เพราะเส้นทางมีความมืด ลึก และซับซ้อนมาก

 

 

ด้านในถ้ำคลัง จะมีโถงถ้ำต่างๆ ทั้งหมด 13 ห้อง ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง
แต่สำหรับคนที่ไม่ใช่นักสำรวจถ้ำ แค่เดินไป 3 ห้องแรกก็นับว่าสวยงามเกินพอ
และควรค่ากับการได้ชมเป็นอย่างยื่งแล้วค่ะ

เข้ามาในถ้ำเพียงไม่ถึงสิบนาที ก็จะพบหินงอกหินย้อยรูปม่านน้ำตกสีขาว ระยิบระยับ
และยังคงมีน้ำจากบนภูเขาหล่นลงมาหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา

 

 

เดินต่อไปยังด้านใน จะพบหินย้อยที่มีลักษณะเป็นหินควอทซ์รูปปะการังสีขาวสะอาด  
และรวมไปถึงโถงถ้ำที่มีหินย้อยรูปหลอดกาแฟนับพันๆแท่ง ย้อยลงมาจากเพดาน งดงามมากๆค่ะ

 

   

 

กว่าธรรมชาติจะสร้างสรรค์จนกลายเป็นแท่งหินงอกหินย้อยแบบนี้ใช้เวลานับหลายร้อยปี
ถ้านักท่องเที่ยวเห็นกิ่งหินย้อย หินย้อย ที่มีน้ำหล่นลงมาแบบนี้ อย่าไปแตะต้องเด็ดขาดนะคะ
เพราะว่าจะเป็นการขัดขวางการเติบโตของเขา และด้วยเหตุที่ถ้ำคลังเข้าถึงได้ยากจึงทำให้
ถ้ำแห่งนี้ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างงดงามค่ะ

 

 

เดินถัดลึกเข้ามาอีกหน่อย จนอาจจะต้องใช้เชือกปีนป่ายกันเลย โถงถ้ำด้านในนั้นจะเป็นห้องโถง
ที่มีหินงอกหินย้อยแปลกตาขึ้น เช่น หินงอกลูกเล็กๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้น ม่านหินย้อยรูปคนกอดกัน

 

   

 

ด้านในถ้ำคลัง ไม่มีขี้ค้างคาว ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ ทั้งๆที่เข้าไปลึกๆด้านใน ก็ไม่รู้สึกอึดอัด
ส่วนห้องนี้มีพื้นของถ้ำมีลักษณะคล้ายๆกำแพงเมืองจีน

 

 

เส้นทางในถ้ำค่อนข้างจะไม่เรียบ บางจุดอาจจะต้องใช้การปีนป่าย 
ดังนั้นนักท่องเที่ยวไม่ควรใส่กระโปรง หรือรองเท้าส้นสูง เพราะอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ
ของสำคัญที่สุดก็คือไฟฉาย และควรติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าไปภายในนะคะ

 

ออกมาจากถ้ำคลัง เราเดินทางกันต่อ โดยการนั่งรถมายัง ท่าเรือบ่อท่อ
จากจุดนี้เราจะลงเรือหางยาวต่อ เพื่อไปชมความงามของ ถ้ำผีหัวโต และถ้ำลอด
ที่เที่ยวที่ถือเป็น Unseen อีกแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่
ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนั่งเรือพายคายัคไป ชมความอุดมสมบูรณ์ของป่าโกงกางทั้งสองฝั่ง
ซึ่งสามารถติดต่อได้ที่ท่าเรือ รวมไปถึงร้านอาหารที่อยู่ใกล้เคียง เช่น ร้าน บังแอน ซีฟู๊ด

 

 

มาถึงหน้า "ถ้ำผีหัวโต"  เราลงเรือแล้วเดินเท้าขึ้นบันไดไปชมความงามด้านในกัน
ถ้ำแห่งนี้อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี มีลักษณะเป็นถ้ำที่ทะลุได้สองฝั่ง
บริเวณพื้นดินพบซากเปลือกหอยจำนวนมาก จึงคาดกันว่า แต่ก่อนบริเวณนี้อาจจะเคยอยู่ใต้ทะเลมาก่อน

 

 

 

ที่เรามายังถ้ำนี้เพราะว่า ภายในห้องโถงกว้างใหญ่ในถ้ำนั้น มีภาพเขียนโบราณสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์
สันนิษฐานกันว่ามีอายุราวๆ 2,000-3,000 ปี ภาพที่ดังที่สุดและทุกคนต้องมาชมก็คือ 
ภาพคนใส่หมวกทรงสูง หรือบางคนก็บอกว่า คือภาพคนที่มีหัวเป็นสัตว์มีเขา
เขียนด้วยสีแดงทั้งตัวคล้ายมนุษย์ต่างดาว ฝังอยู่ในชั้นหินไม่หลุดร่อน
นอกจากนี้ยังมีภาพอื่นๆ เช่น ภาพนกฟินิกซ์ และปลา รวมไปถึงภาพมือคนที่ทาบเอาไว้บนเพดานถ้ำ
ซึ่งมือข้างหนึ่งมี 6 นิ้ว และอีกข้างหนึ่งมี 5 นิ้วตามปกติ เป็นต้น

 

  

 

ออกจากถ้ำผีหัวโต เราก็นั่งเรือไปต่อ ซึ่งไม่ไกลกันนั้นเป็น "ถ้ำลอด" 
มีลักษณะเป็น โพรงถ้ำที่ทะลุออกถึงกันได้สองฝั่ง สามารถพายเรือคายัคลอดเข้าไปในถ้ำได้
การพายคายัคเข้าไปเที่ยวในลากูนถ้ำลอดนี้ สามารถทำได้ตลอดทั้งช่วงน้ำขึ้นและน้ำลง
แต่สำหรับเรือหัวโทง จะลอดได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ด้านในถ้ำก็จะมีหินงอกหินย้อยเป็นระยะ

 

  

 

นั่งเรือขากลับนี้ มายังท่าเรือ เราขึ้นที่ท่าเรือของร้านอาหารกลางวันกันเลย
ร้านนี้มีชื่อว่า "บังแอน ซีฟู้ด" ร้านอาหารอร่อย จากคนพื้นถิ่นที่นี่ ใครมาเที่ยวก็ลองมาทานกันดู
ทางเดินเข้ามายังร้านอาหารต้องเดินข้ามสะพานไม้ผ่านป่าโกงกางมานิดนึงนะคะ
เมนูแนะนำ เช่นน้ำพริกกุ้งเสียบ แกงส้ม หอยตลับผัดน้ำพริกเผา มื้อนี้เราทานกันบนเรือนแพริมน้ำ
นอกจากนี้ที่ร้านยังคิดโปรแกรม พายเรือคายัคเต็มวัน รวมอาหารเที่ยง รถรับส่ง ฯลฯ 
ในราคาไม่แพงอีกด้วยค่ะ ติดต่อได้ที่ โทร. 086-278-2913

 

   

 

อิ่มท้องกันแล้ว กองทัพก็ต้องออกเดินทางกันต่อ เป้าหมายต่อไปเราจะไปต่อเรือกันที่
"ท่าเรือแหลมสัก" 
เพื่อนั่งเรือไปชมความงามรอบๆ ที่ปากอ่าวลึกค่ะ

 

 

อ่าวลึก ชื่อนี้มาจากลักษณะของอ่าวที่มีโค้งเว้าเข้าไปลึกในแผ่นดิน เป็นปากอ่าวของแม่น้ำอ่าวลึก
จะมีเกาะน้อยใหญ่รอบๆ ปากอ่าวแห่งนี้ และก็มีที่เที่ยวน่าสนใจและถือว่าเป็น Unseen อีกเช่นกัน
เช่น ถ้ำชาวเล, แหลมชาวเล, เสาหินบอนไซ, สันทรายกลางทะเล, ผาค้อม, ภาพเขียนสีโบราณ เป็นต้น


ที่เเรกที่เราพามาก็คือ  "กลุ่มภาพเขียนตามเพิงผาถ้ำกลางทะเล"  จะคล้ายๆกับที่ถ้ำผีหัวโต 
แต่รูปที่เขียนไม่เหมือนกัน ที่นี่เป็นรูปคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน และรูปคนที่ทำท่าทางต่างๆ
สันนิษฐานกันว่า จุดนี้น่าจะเคยเป็นที่พักอาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์มาเเล้ว
ที่รอบๆอ่าวลึกแห่งนี้ มีภาพเขียนเหล่านี้กระจายอยู่ตามภูเขาต่างๆในทะเลค่ะ

 

   

 

ถัดมาที่เราไปก็คือ "ผาค้อม" เพิงผาที่น่าอัศจรรย์ อยู่เหนือระดับน้ำทะเลสูงสุดไม่มากนัก
เพิงผาแห่งนี้มีความยาวราว 100 เมตร สามารถเดินติดต่อถึงกันได้ คล้ายโพรงถ้ำในภูเขาริมทะเล
เเละเนื่องจากเพดานที่ค่อนข้างต่ำ เวลาเดินต้องค้อมตัวต่ำลง หรือก้มตัวเดิน
จึงเป็นที่มาของชื่อ "ผาค้อม" นั่นเอง

 

 

สิ่งที่เรียกได้ว่า อัศจรรย์ของที่นี่ก็คือ การได้เข้าไปอยู่ใต้เพิงผา แล้วมองออกสู่ท้องทะเล
ทะลุช่องม่านหินย้อยห้อยระย้าสวยงามด้านหน้า เสมือนเป็นช่องหน้าต่างที่สวยงามยิ่งนัก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาพระอาทิตย์ขึ้น จะมองเห็นแสงอาทิตย์ลองผ่านช่องเข้ามา สวยงามมาก
บางคนก็ใช้เป็นเฟรมสำหรับถ่ายภาพได้อีกด้วยล่ะ

 

 

นอกจากนี้ ยังมีช่องทางเดินแคบๆ ที่ทะลุไปสู่ด้านหลังได้ จะพบสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่า
คือลากูนขนาดใหญ่ที่น้ำถ่ายเท ไหลวนเข้ามาได้ หากน้ำขึ้นสูง ด้านในก็จะมีสภาพคล้ายทะเลสาบสีมรกต
นับเป็นที่เที่ยวที่น้อยคนนักจะเข้าไปสัมผัส แต่เราอยากให้คุณได้รู้จักค่ะ

 

 

ถัดมาระหว่างที่เราแล่นเรือกลับ จะผ่านประภาคารเล็กๆ ตั้งอยู่กลางทะเล
เมื่อเข้าไปมองใกล้ๆ พบว่า มันคือ "สันทรายกลางทะเล" ซึ่งเมื่อน้ำลง
ก็จะเห็นเป็นเกาะเล็กๆ กลางทะเล 
มองไปมองมาคล้ายๆ  รูปแผนที่ประเทศไทยค่ะ

 

 

ทัศนียภาพสวยงามระหว่างที่เราอยู่กลางทะเลในอ่าวลึก สวยงามมากๆ
ระหว่างทางก็จะเห็นภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ รวมไปถึงวิถีชาวบ้านที่แล่นเรือออกมาทำประมง

 

 

หากใครสนใจท่องเที่ยวในอ่าวลึก-ท่าเรือแหมสัก ก็สามารถติดต่อเช้าเรือนำเที่ยวพร้อมคนนำทาง
ได้ที่ ศูนย์ข้อมูลและบริการนักท่องเที่ยว เครือข่ายท่องเที่ยวชุมชนอ่าวลึก 
โทร. 080-690-5351, 086-691-5151, 087-470-6661 หรือ www.aoluktoday.com

 

 

 

เดินทางออกจากอ่าวลึก แบบเจาะลึกกันไปแล้ว พักเหนื่อยกันสักหน่อยที่ร้านอาหารมื้อเย็นวันนี้
"ร้านเรือนไม้" ตั้งอยูใ่นตัวเมือง จ.กระบี่ ร้านแห่งนี้นอกจากตัวร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงาม โรแมนติกแล้ว
ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คือรสชาติอาหารปักษ์ใต้ที่อร่อย กลมกล่อม ถูกปากนักท่องเที่ยวมานักต่อนักแล้ว
เมนูเเนะนำได้แก่ ปลาอินทรีทอดซีอิ้ว, คั่วกลิ้งเนื้อ, น้ำพริกกุ้งเสียบ, สะตอผัดกุ้ง ค่ะ

 

    

 

 

กระบี่ เมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก ยังมีที่ท่องเที่ยวอีกมากมายที่รอให้คุณไปค้นหาhum

แล้วคุณจะค้นพบความมหัศจรรย์ของกระบี่ที่มากไปกว่าทะเลค่ะ

ตอนหน้า เราจะพาคุณไปสัมผัสที่สุดของความงามแห่งท้องทะเลอันดามัน

หมู่เกาะห้อง อ่าวไร่เลย์ และ Unseen ทะเลแหวก อย่าลืมติดตามชมกันนะคะ

 

 


 

จองที่พักกระบี่แบบออนไลน์

 

 

โคโค่ โนรี แอ็ท ซี (Coco Nori @ Sea) เมืองกระบี่

 

agoda_but.jpg booking_but.jpg


 

ศรีสุขสันต์ รีสอร์ท (Srisuksant Resort) อ่าวนาง

 

agoda_but.jpg booking_but.jpg
 

 

ไร่เลย์ เกรท วิว รีสอร์ท แอนด์ สปา (Railay Great View Resort and Spa) 

 

agoda_but.jpg booking_but.jpg
 
 

 

 

เรื่องและภาพ This road is mine

 

 



เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai