calendar_month 13 ส.ค. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 35,977 / สถานที่ยอดนิยม
ถ้าพูดถึงจังหวัดในภาคอีสานที่เต็มไปด้วยสถานที่สุด unseen ขึ้นชื่ออันดับต้นๆ ของประเทศที่มีความโดดเด่นไม่แพ้จังหวัดไหนเห็นทีจะหนีไม่พ้น 'บึงกาฬ' เมืองรองน้องใหม่สุดเขตแดนสยามฝั่งอีสานที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ที่เที่ยวทางธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ที่ทำให้เราตื่นเต้นจนอยากไปสัมผัสและทำความรู้จักด้วยตัวเอง ส่วนทริปนี้จะไปพาเช็คอินที่ไหนกันบ้าง ตามมาเลย!
ถ้ำนาคา
(อุทยานแห่งชาติภูลังกา)
เริ่มต้นกันที่ ถ้ำนาคา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา มีพื้นที่ครอบคลุม 2 จังหวัดคือ จ.นครพนม และ จ.บึงกาฬ อุทยานฯ แห่งนี้ มีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ คือถ้ำนาคาแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา ไฮไลท์ของที่นี่จะอยู่ที่รูปทรงของหินที่มีรูปร่างเหมือนงูยักษ์หรือที่เรียกกันว่าเศียรพญานาค ผนังถ้ำมีลักษณะเป็นเกล็ดงูขนาดใหญ่ นอนขดตัวอยู่ปากถ้ำอยู่บนหน้าผาสูง ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติและความเชื่อทางพระพุทธศาสนาที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับพญานาคที่ผูกโยงกับแม่น้ำโขงเข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเองค่ะ
สำหรับการเดินขึ้นถ้ำนาคานั้นจะใช้เวลาไปกลับประมาณ 4-5 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละบุคคล) ระยะทางทั้งหมดประมาณ 2 กม. ส่วนทางเดินจะเป็นดินสลับกับบันไดเหล็ก โดยบันไดแบ่งออกเป็นตอนสั้นๆ ประมาณ 20 ตอน รวม 400 กว่าขั้น ในช่วงแรกเป็นการเดินลุยป่าเข้าไปมองทางไหนก็สีเขียวสบายตาไปหมด แต่บางจุดที่เป็นโขดหินและทางชันอาจจะต้องใช้เชือกไต่ขึ้นและลงนะคะ โดยจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานฯ คอยดูแลอยู่ด้วย
เดินขึ้นมาเรื่อยๆ จุดแรกคือ ถ้ำนาคา เป็นซอกหินเล่นระดับลงไปด้านล่าง ปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียว ดูสวยงาม ผนังมีลวดลายคล้ายเกร็ดงูขนาดใหญ่นอนขดตัวตามความเชื่อของชาวบ้านและความเชื่อของแต่ละบุคคล
จากนั้นก็เดินเท้าต่อไปยัง เจดีย์ของหลวงปู่เสาร์ เป็นทางเดินดินสลับกับลานหินกว้างๆ ระยะทางไม่ยาวมาก แต่ก็เล่นเอาหอบเหมือนกัน มีสะพานข้ามหินให้เดินต่อไปยังประดิษฐานเจดีย์ชัยมงคลบูรพาจารย์ สถานที่บรรจุทันตธาตุหลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล และรูปหล่อเหมือนหลวงปู่เสาร์ สร้างโดยหลวงปู่วัง ฐิติสาโร
จากจุดเจดีย์ของหลวงปู่เสาร์ เราเดินกลับมายัง เจดีย์หลวงปู่วัง และเดินขึ้นบันไดมาประมาณ 100 เมตร จะพบกับเจดีย์สีเหลืองทองอร่ามที่ประดิษฐานอยู่บนเนินหินริมหน้าผาบนเขาภูลังกา (ความสูงประมาณ 545 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ภายในเจดีย์บรรจุพระธาตุของหลวงปู่วัง ฐิติสาโร เกจิชื่อดังแห่งภูลังกา จากถ้ำนาคาสามารถเดินต่อมาที่จุดนี้ได้เพียง 900 เมตรเท่านั้น
เดินต่อมาอีกไม่นานเราก็มาถึง ถ้ำหลวงปู่วัง สถานที่ปฏิบัติธรรมบนยอดเขา บรรยากาศเงียบสงบเหมาะสำหรับการมานั่งสมาธิ ปฎิบัติธรรม ว่ากันว่าผู้คนมักจะขึ้นมากราบไหว้ขอพรเพราะภายในประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อว่าว่าบริเวณนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างนาคพิภพอีกด้วย
ไปต่ออีกนิดเราก็จะพบกับจุดไฮไลท์ เศียรพญานาค (เศียรที่ 1) ก้อนหินรูปทรงคล้ายเศียรพญานาค มีลวดลายของเกล็ดพญานาคบนพื้นผิวของหิน เชื่อกันว่าเป็นพญานาคที่ถูกสาปเป็นหินตามตำนานเรื่องเล่า จุดนี้ห้ามเอามือไปสัมผัสนะคะ แต่สามารถกราบไหว้ตามความเชื่อความศรัทธาเรื่องพญานาคและถ่ายรูปได้
จากจุดเศียรพญานาค (เศียรที่ 1) เราเดินลุยป่าทางลาดชันที่ตามมาด้วยความยากในการเดินเพราะต้องใช้เชือกและเดินข้ามสะพานขอนไม้กันไปอีกสักพักก็พบกับ เศียรพญานาค (เศียรที่ 3) ลักษณะคล้ายกับเศียรก่อนหน้า มีความสวยงามลงตัวตามธรรมชาติ จนไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงกลายเป็นสถานที่ unseen ของบึงกาฬที่ใครๆ ก็อยากมากันสักครั้งในชีวิต!
ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา
ที่ตั้ง : ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/WS2N6G7RCjJ5D1b67
น้ำตกตาดวิมานทิพย์
(อุทยานแห่งชาติภูลังกา)
ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูลังกา อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ มีธรรมชาติที่หลากหลายและน่าสนใจอีกเยอะมากกก อีกที่ที่เราพลาดไม่ได้นั่นคือ น้ำตกวิมานทิพย์ ซึ่งอยู่ในเส้นทางเส้นทางศึกษาธรรมชาติถ้ำนาคา-น้ำตกตาดวิมานทิพย์ ทางเดียวกับถ้ำนาคา เป็นน้ำตกหินทรายขนาดใหญ่มี 8 ชั้น ชั้นที่ 1-2 จะไหลเป็นชั้นต่อเนื่องกัน ส่วนชั้นที่ 3 มีความสูงถึง 40 เมตร ไหลเป็นสายตกลงมาจากหน้าผาในแนวดิ่ง และชั้น 4-7 มีความสูงราว 6 เมตร ส่วนชั้นที่ 8 เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากร่องเขาเล็กๆ ผ่านหน้าผาในแนวดิ่ง สวยงามมาก ซึ่งช่วงเวลาที่นิยมมาเที่ยวน้ำตกคือหน้าฝนค่ะ เพราะเป็นช่วงที่น้ำเยอะและทำให้เราเห็นความงามของที่นี่ชัดเจน
น้ำตกวิมานทิพย์ อุทยานแห่งชาติภูลังกา
ที่ตั้ง : ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/WS2N6G7RCjJ5D1b67
น้ำตกกินรี
(อุทยานแห่งชาติภูลังกา)
ความสวยงามในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติภูลังกายังไม่หมดเท่านี้ ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวเมืองรองแดนอีสานอย่างบึงกาฬเราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ มาเที่ยว น้ำตกกินรี กันสักครั้ง เพราะมีความสวยงาม จำนวนชั้นไม่สูงมาก บรรยากาศโดยรอบถูกโอบล้อมไปด้วยป่าไม้ที่มีความชุ่มชื้น มองไปทางไหนก็จะพบแต่ความสดชื่นสบายตาเหมาะกับนักท่องเที่ยวสายลุยที่ชื่นชอบการผจญภัยหน่อยๆ เพราะต้องเดินเท้าขึ้นไปบริเวณทางขึ้นน้ำตก ระหว่างทางต้องระมัดระวังทุกฝีก้าวเพราะมีความชันบ้างเล็กน้อย บางช่วงเราต้องจับเชือกหรือกิ่งไม้ปีนเอง บางช่วงมีขั้นบันไดอยู่บ้างค่ะ แต่รับรองว่าเดินไปถึงด้านบนแล้วหายเหนื่อยแน่นอน
เดินมาได้สักพัก สิ่งแรกที่ธรรมชาติส่งมาทักทายเราก็คือลานหินมีธารน้ำไหลผ่าน น้ำตื้น เด็กๆ เล่นได้ มีลานหินกว้างให้นั่งเล่นพักผ่อน ส่วนชั้นต่อมาลักษณะคล้ายกับชั้นแรก แต่ต้องระมัดระวังหน่อยนะ ชั้นนี้หินมีตะไคร่เกาะเยอะกว่า ทางค่อนข้างลื่น ไม่ต้องใจร้อนเดินช้าๆ แต่ชัวร์ดีกว่าค่ะ
ไปต่ออีกนิดก็จะถึงน้ำตกกินรีชั้นที่ 3 น้ำตกสวยกลางป่าใหญ่ที่มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความสดชื่นของธรรมชาติ เจอกับผาหินสูงและสายน้ำตรงหน้าบอกเลยว่าหายเหนื่อย! แค่เห็นก็ชุ่มฉ่ำแล้ว ไม่ต้องคิดเยอะ เดินลุยลงไปแช่น้ำให้สายน้ำที่ไหลลงมากระทบร่างกายเย็นฉ่ำสะใจกันไปเลย
เกือบลืมบอกไปว่าถ้าเดินเท้าต่อขึ้นไปอีกประมาณหนึ่ง ระหว่างทางน้ำตกกินรีชั้นที่ 3 และ 4 จะมี หินโลมา หินที่วางสลับซับซ้อนรูปทรงคล้ายกับหัวโลมาหลายๆ ตัว หันหน้าเข้าหากันอยู่ตรงกลาง เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปน่ารักๆ ใครมีแพลนมาเที่ยวบึงกาฬบอกเลยห้ามพลาด แนะนำว่าให้มาหน้าฝนเพราะเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะและสวยที่สุด!
น้ำตกกินรี อุทยานแห่งชาติภูลังกา
ที่ตั้ง : 105 ม.5 ต.โพธิ์หมากแข้ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น.
โทรศัพท์ : 0968261613
GPS : https://goo.gl/maps/1DUM3mmBRo5QgzAW8
หินสามวาฬ
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของบึงกาฬ หินสามวาฬ หนึ่งในจุดท่องเที่ยวของภูสิงห์ ไฮไลท์จะอยู่ที่ก้อนหินทรายขนาดใหญ่ยักษ์ รูปร่างคล้ายวาฬ 3 ตัวพ่อแม่ลูก กำลังว่ายน้ำอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียว ถ้าใครนำรถส่วนตัวเป็นกระบะ 4x4 สามารถนำรถของตัวเองขึ้นไปได้เลย เพราะทางค่อนข้างสมบุกสมบัน แต่ถ้าไม่มีก็สามารถใช้บริการจากเจ้าหน้าที่ราคาคันละ 500 บาท นั่งได้หลายคนทีเดียว
ใช้เวลาสักพักก็มาถึงจุดไฮไลท์อย่างหินสามวาฬด้านบนแล้วค่ะ บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก วิวสวยมองเห็นผืนป่าสีเขียวสุดลูกหูลูกตา และมองเห็นแม่น้ำโขงที่อยู่ระหว่างไทยกับลาวด้วย แนะนำว่าให้ไปตอนเช้าๆ เพราะจะได้ไม่ร้อนมาก แล้วยังได้เจอหมอกอีกด้วย ส่วนใครจะไปเที่ยวหน้าฝนต้องระมัดระวังลื่นกันหน่อยนะคะ เพราะจากความสูง 320 เมตรค่อนข้างหวาดเสียวอยู่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นๆ อย่างหินหัวช้างที่เหมือนกับหัวช้างจริงๆ และจุดประตูภูสิงห์ ที่มีหินสองก้อนอยู่ใกล้กัน เว้นช่องตรงกลางเป็นเหมือนช่องประตู นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเยอะเลยนะคะ เห็นก้อนหินรูปร่างแปลกตาแบบนี้ ก็อดประทับใจในธรรมชาติสวยๆ แบบนี้ไม่ได้จริงๆ
หินสามวาฬ
ที่ตั้ง : ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 05.00 - 17.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/kui33N1287JYxZ6J9
วัดป่าเมืองเหือง
มาถึงบึงกาฬทั้งที เราก็ไม่พลาดที่จะแวะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระพุทธนาคนิมิตต์หนึ่งเดียวในจังหวัดที่ วัดป่าเมืองเหือง หรือวัดศรีบุญเรือง เป็นวัดโบราณเล็กๆ อยู่ติดแม่น้ำโขงใน ต.ชัยพร อ.เมือง จ.บึงกาฬ โดยวันนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อครั้งขอมเรืองอำนาจสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 8 ต่อมาราวปี พ.ศ. 2100 ได้รับการพระราชทานวิสุงคามสีมา บูรณะใหม่อีกครั้ง มีลานธรรม มีกุฏิหลังเล็กรองรับผู้มาปฏิธรรม
สำหรับไฮไลท์จะอยู่ที่องค์พระพุทธนาคนิมิตต์ (หน้าทอง) พระพุทธรูปประจำวัดที่ประดิษฐานริมแม่น้ำโขงหันหน้าออกไปริมแม่น้ำโขงใครมากราบไหว้ขอพร มักสมหวัง สมปรารถนา และบางช่วงที่น้ำไม่เชี่ยวเราสามารถลงเรือไปนมัสการศาลปู่พญานาคศรีสุทโธและทัวร์แก่งสะดอก (ก้อนธาตุ) กลางแม่น้ำโขง ข้างล่างแก่งสะดอกจะมีถ้ำ ช่วงหน้าแล้งน้ำลด แก่งจะสวยงามมากสามารถเดินเที่ยวได้ด้วยค่ะ แต่เสียดายช่วงที่เราไปน้ำขึ้นเยอะ เลยไม่สามารถลงไปได้
นอกจากนี้ยังมีโบสถ์งดงามมีรูปปั้นพญานาครอบโบสถ์ หน้าโบสถ์จะมีปู่ศรีสุทโธ ย่าปทุมมาให้ญาติโยมได้กราบไหว้ขอพรอีกด้วยล่ะค่ะ นับว่าเป็นสถานที่อีกแห่งของจังหวัดบึงกาฬที่น่ามาสัมผัสความศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำโขงจริงๆ
วัดป่าเมืองเหือง
ที่ตั้ง : ต.ชัยพร อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 18.00 น.
โทรศัพท์ : 0980761801
GPS : https://goo.gl/maps/BSVjn4ySpRJoG33i7
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
ปิดท้ายกันที่ พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ โดยที่นี่เกิดขึ้นจากความตั้งใจของคุณขาบ สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดัง ที่นำเรือนอีสานโบราณของครอบครัวอายุกว่า 70 ปี มาสร้างให้เป็นพิพิธภัณฑ์เชื่อมโยงศิลปะเข้ากับวิถีชุมชนอย่างยั่งยืน จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้แบบดั้งเดิมของชาวอีสานไว้จุดต่างๆ ในบ้านเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชุมชนของครอบครัวอีสานในอดีต ซึ่งมีค่าเข้าชมคนละ 50 บาท
ด้านนอกเรือนไม้โบราณหลังเก่ามีชาวบ้านในชุมชนนำอาชีพเสริม อาทิ งานจักสาน งานผ้าทอ งานหัตถกรรม มาวางจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม และยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นบริการจัดสำรับทานอาหาร ทำพิธีบายศรีให้นักท่องเที่ยว Workshop ทำขนมเปิดพื้นที่ให้เด็กๆ ในชุมชนได้มาช่วยกันวาดภาพระบายสีตามจินตนาการ ซึ่งหัวใจของที่นี่คือการเชื่อมโยงวิถีเกษตรกรรมและหัตถกรรมของชุมชนให้ผู้คนได้มีรายได้เกื้อกูลกันผ่านการซื้อขายสินค้าเกษตรของชุมชนมีเงินหมุนเวียนเข้ามาสู่หมู่บ้านนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีตลาดชุมชนพอเพียง ตั้งอยู่ในสวนยางพาราตรงข้ามกับพิพิธภัณฑ์ ประดับด้วยโคมไฟสุ่มไก่ มีแคร่ไม้ให้นั่งพักผ่อน ขนาบข้างด้วยภาพวาดกำแพงสังกะสีผืนยาว โดยทุกวันเสาร์จะมีสินค้าเป็นอาหารและพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านมาวางจำหน่ายอีกด้วย
และไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือการเดินชมสตรีทอาร์ท ภาพวาดเขียนสีพญานาค หนึ่งเดียวในโลกที่ชุมชนทำร่วมกับนักศึกษา คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อสร้างชิ้นงานศิลปะตามตรอกซอกซอยรอบหมู่บ้านในโครงการวาดบ้าน แปลงเมือง ซึ่งเราสามารถเดินชมภาพวาดพญานาคชิคๆ บนผนังบ้านตลอดทางได้อย่างเพลิดเพลิน
พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
ที่ตั้ง : 9 ม.7 หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 08.00 - 18.00 น.
โทรศัพท์ : 0862297626
GPS : https://goo.gl/maps/YpZc3iwxe2Ksertw5
เที่ยวบึงกาฬพักที่ไหนดี?
ที่พักในพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
มาเที่ยวเมืองรองแดนอีสานสุดว้าวอย่างบึงกาฬ ก็ต้องมาเช็คอินที่นี่เลย ที่พักในพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต นอกจากเปิดให้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชุมชนของครอบครัวอีสานในอดีต เดินชมสตรีทอาร์ทชิคๆ คูลๆ แล้วทางพิพิพิธภัณฑ์ยังบริการห้องพักราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย โดยใส่ใจในการออกแบบอย่างพิถีพิถัน แต่ละห้องมีกิมมิกต่างกัน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีห้องน้ำ มุมนั่งเล่นและโต๊ะทำงาน มุมแต่งตัว ตอบโจทย์นักเดินทางทั้งรูปแบบคู่รัก เพื่อนพ้อง และครอบครัว ซึ่งก็ให้ความรู้สึกเหมือนเดินทางกลับมาพักผ่อนที่บ้านของตัวเองเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเหมาะเป็นจุดหมายของการพักผ่อนสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกตัวจากความวุ่นวายภายนอกจริงๆ
ที่พักในพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต
ที่ตั้ง : 9 ม.7 หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
โทรศัพท์ : 0862297626
ราคา : เริ่มต้น 1,000 บาท
GPS : https://goo.gl/maps/YpZc3iwxe2Ksertw5
บ้านพักริมดอยรีสอร์ท
ที่พักต่อไปของเรา บ้านพักริมดอยรีสอร์ท เป็นที่พักสุดชิลราคาสบายกระเป๋าใน อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง บรรยากาศดีสุดๆ ภายในรีสอร์ทร่มรื่น เงียบสงบ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ผู้เข้าพักสามารถนั่งมองพระอาทิตย์ตกลับขอบแม่น้ำโขงได้ ซึ่งเป็นภาพที่หาชมได้ยากจริงๆ ค่ะ ในส่วนของห้องพักก็สะอาดสะอ้าน มีเตียงนอนนุ่มๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่สำคัญราคาสบายกระเป๋า จะมากับเพื่อน หรือมากับครอบครัว ก็เลือกห้องพักตามแบบที่ชอบได้เลย รับรองว่าจะประทับใจกลับไปแน่นอนค่ะ
บ้านพักริมดอยรีสอร์ท
ที่ตั้ง : ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ
โทรศัพท์ : 0819543762
ราคา : เริ่มต้น 500 บาท
GPS : https://goo.gl/maps/2uQQQ5hTfXJ6uxt18
เที่ยวบึงกาฬกินอะไรดี?
ธาราแลนด์ ไคสี
เริ่มต้นกันที่ ธาราแลนด์ ไคสี คาเฟ่กึ่งร้านอาหารริมแม่น้ำโขงที่วิวดีงามสุดๆ เพราะว่าตั้งอยู่ในจุดที่วิวสวยงามหลักล้าน ตัวร้านออกแบบตกแต่งอย่างเรียบง่าย รอบล้อมไปด้วยต้นไม้ สวนดอกไม้นานาพรรณ มีโซนที่นั่งให้เลือกมากมายทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ อีกทั้งยังมีมุมถ่ายรูปเพียบ เมนูที่ร้านจะเน้นเป็นอาหารไทยและสไตล์ฟิวชันสูตรเด็ด เมนูแนะนำพลาดไม่ได้ เช่น ผัดฉ่าปลาคัง, สเต็ก, พิชซ่า, สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด และอีกมากมาย รวมไปจนถึงเครื่องดื่มหลากหลายเมนู รับรองเลยว่าใครมาที่นี่ก็ได้รูปปังๆ พร้อมๆ กับได้ลิ้มรสความอร่อยทั้งเมนูคาวหวานกลับไปอย่างแน่นอน
ธาราแลนด์ ไคสี
ที่ตั้ง : ถ.ชยางกูร ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น.
โทรศัพท์ : 0984689989
GPS : https://goo.gl/maps/uoVe9uTPuBRz7UdM9
กว้างคูณยาว คาเฟ่
มาต่อกันที่ กว้างคูณยาว คาเฟ่ บอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก ตัวร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นดูทันสมัยตั้งอยู่กลางสวนสวยและน้ำตกจำลองล้อมด้วยธรรมชาติ พร้อมกับมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายมุมทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ ใครอยากมานั่งจิบเครื่องดื่มที่พร้อมรังสรรค์เมนูทั้งร้อนและเย็น พร้อมลิ้มรสอาหารว่างและขนมโฮมเมดสูตรเฉพาะของทางร้านชิลๆ หรือจะมานั่งทำงานก็ยังได้ สำหรับเมนูแนะนำก็คือ โกโก้มาเนีย, นมลั๊ลลา, ฮันนี่โทสต์ และบิงซูแตงโม ส่วนใครที่ชอบถ่ายรูปก็บอกเลยว่าที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เพียบ!
กว้างคูณยาว คาเฟ่
ที่ตั้ง : 220 ม.2 อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 19.00 น.
โทรศัพท์ : 0624953366
GPS : https://goo.gl/maps/43tKyJPaLkpnpABy7
เรียกว่าที่เที่ยว ที่พัก ที่กิน ที่เราคัดมาฝากทั้งหมดนี้ล้วนแต่ตอบโจทย์คนที่ชอบลุยอินธรรมชาติสวยๆ สุด unseen และคนที่ชอบเที่ยวชิลๆ เสพงานศิลป์ นั่งชิล จิบกาแฟและชอบถ่ายรูป ใครอยากมาสัมผัสฟีลลิ่งแบบนี้ก็ลองตามมาเช็คอินกันได้เลย รับรองว่าทุกโลเคชันของ บึงกาฬ เมืองรองสุดเขตแดนสยามฝั่งอีสานจะทำให้ทุกคนร้องว้าวและโดนใจแน่นอน!
Tags: บึงกาฬ ที่เที่ยวบึงกาฬ เที่ยวบึงกาฬ ที่พักบึงกาฬ ที่กินบึงกาฬ ร้านอาหารบึงกาฬ การเดินทางบึงกาฬ ร้านอร่อยบึงกาฬ คาเฟ่บึงกาฬ โรงแรมบึงกาฬ รีสอร์ทบึงกาฬ อุทยานแห่งชาติภูลังกา ถ้ำนาคา เจดีย์หลวงปู่วัง ถ้ำหลวงปู่วัง เศียรพญานาค น้ำตกตาดวิมานทิพย์ น้ำตกกินรี หินโลมา วัดป่าเมืองเหือง วัดศรีบุญเรือง พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต หมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ ที่พักในพิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต บ้านพักริมดอยรีสอร์ท ธาราแลนด์ ไคสี กว้างคูณยาว คาเฟ่ เมืองรองต้องลอง GOLOCALTHAILAND amazingไทยเท่ อยู่บ้านรอเดี๋ยวได้เที่ยวแน่
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 พ.ย. 2024 | 1,035 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 22 พ.ย. 2024 | 147 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 05 พ.ย. 2024 | 5,983 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 07 พ.ย. 2024 | 2,914 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 15 พ.ย. 2024 | 494 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 01 พ.ย. 2024 | 937 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่เที่ยว | 08 พ.ย. 2024 | 1,741 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 27 ต.ค. 2024 | 3,216 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 15 พ.ย. 2024 | 302 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน | 03 พ.ย. 2024 | 1,103 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่พัก | 30 ต.ค. 2024 | 1,313 อ่าน