เที่ยวนครพนม ลัดเลาะเมืองรองแห่งความสุขริมฝั่งโขง สัมผัสชีวิตช้าๆ 3 วัน 2 คืน

หนึ่งในจังหวัดเมืองรองแดนอีสานที่ดูน่ารักและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของวันวานสุดคลาสสิกนั้นต้องขอยกให้กับ 'นครพนม' เมืองเล็กๆ สุดเขตชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจ อีกทั้งยังบรรยากาศดี มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ให้เชยชม ที่สำคัญยังมีปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองอย่างพระธาตุพนมให้เราได้สักการะเป็นสิริมงคล เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่เหมาะแก่การเที่ยวและพักผ่อนสุดๆ คราวนี้เราเลยเก็บกระเป๋าออกเดินทางหลีกหนีความวุ่นวายจากการท่องเที่ยวตามกระแสหลักด้วยการวางแพลนใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ 3 วัน 2 คืน กันที่นี่ ซึ่งบอกเลยว่าจะทำให้ทุกคนประทับใจไปกับโลเคชันสุดชิลริมโขงแห่งนี้อย่างแน่นอน!

DAY 1

ทริปนี้เราออกเดินทางกันตั้งแต่ค่ำคืน ขับรถมาเรื่อยๆ ยามบ่ายแก่ๆ ก็มาถึงตัวเมืองนครพนม พร้อมเข้าเช็คอินยังที่พักคืนแรกของเรา Landmark Nakhon Phanom Hotel (โรงแรมแลนด์มาร์คนครพนม) ที่ได้ (SHA) Amazing Thailand Safety and Health Administration มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว โดดเด่นด้วยสไตล์การออกแบบที่พักที่ไม่เหมือนใครภายในมีคาเฟ่ในตัว มีที่จอดรถส่วนตัว มีจักรยานให้ยืมปั่นฟรี อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างลานพญาศรีสัตตนาคราชด้วยล่ะ

นอกจากโลเคชันดีงามแล้ว ทางที่พักยังให้ความสำคัญการันตีเรื่องความสะอาดแน่นอน โดยก่อนจะเช็คอินเข้าพักเราก็ทำการวัดไข้และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ตามมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ของโรงแรมกันก่อนค่ะ

เช็คอินเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าพักกันแล้วค่ะ สำหรับห้องพักที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 5 ไทป์ด้วยกันคือ Landmark River-view Suite, Khong River-view Suite, Superior King / Twin, Deluxe King และ Standard King ภายในแต่ละห้องพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่าย สร้างความรู้สึกอบอุ่นทั้งจากวัสดุและจากธรรมชาติรอบๆ ตัว

และเมื่อไฮไลท์ของที่นี่คือโลเคชันใจกลางเมืองนครพนมที่อยู่ติดกับแลนด์มาร์คสำคัญอย่างพญาศรีสัตตนาคราช เราจึงจองห้อง Khong River-view Suite ชั้น 2 ที่มองเห็นวิวแม่น้ำโขงชัดเจน ภายในถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นสัดส่วน มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน จัดวางเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ ประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงามยิ่งให้ความรู้สึกร่วมสมัยภายใต้บรรยากาศสบายๆ สุดส่วนตัว 

ไฮไลท์ของห้องนี้จะอยู่ที่ชานระเบียงด้านนอกเลยค่ะ เพราะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงและพญาศรีสัตตนาคราชได้อย่างชัดเจน ซึ่งเราสามารถออกไปชมทัศนียภาพและสีสันสดใสของท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปตามช่วงเวลาแบบชิลๆ 

พอเจอห้องสวยๆ เตียงนุ่มๆ ก็อยากจะทิ้งตัวนอนเหลือเกิน แต่ยังนอนไม่ได้!! เพราะเราต้องเปลี่ยนชุดสวยเดินข้ามถนนไปชมบรรยากาศริมโขงและแลนด์มาร์คยอดฮิตนครพนมอย่างพญาศรีสัตตนาคราช เพื่อสักการะองค์พญานาคทองเหลืองขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน มี 7 เศียร ลำตัวเดียวสามารถพ่นน้ำได้ โดยประดิษฐานอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บนลานศรีสัตตนาคราช มองเห็นวิวถนนคนเดินริมแม่น้ำโขงที่อยู่ตรงข้ามโรงแรมที่เราพักค่ำคืนนี้ ซึ่งผู้คนมักจะแวะเวียนมากราบไหว้ขอพรกันอย่างเหนียวแน่นเพราะเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้บรรยากาศค่อนข้างคึกคักสุดๆ

ลานพญาศรีสัตตนาคราช

ที่ตั้ง : ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

GPS : https://goo.gl/maps/jDxBsJPbjLpN2cLd9 

เผลอแป๊ปเดียวจะหมดวันแล้ว เดินเล่นชมบรรยากาศริมโขงจนหนำใจเราก็กลับมายังที่พัก ฝากท้องมื้อเย็นกันที่ Cafe' Le Landmark (คาเฟ่ เลอ แลนด์มาร์ค) คาเฟ่ในตัวที่พักที่บรรยากาศดีงาม มองเห็นวิวลานพญาศรีสัตตนาคราช ภายในตกแต่งอย่างเรียบง่าย โดดเด่นด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันสบายตา ประดับประดาด้วยโคมไฟจากเครื่องจักสาน รวมถึงมีโซนที่นั่งชิลๆ ให้เลือกหลายมุมเช่นกัน มื้อนี้เราสั่งสปาเกตตี้ไส้กรอกพริกแห้งที่ผัดมาแบบแห้งๆ พร้อมส่วนผสมของกระเทียมและไส้กรอก ก่อนจะเพิ่มสีสันด้วยใบโหระพา ปิดท้ายด้วยทอดมันกุ้งสำหรับจานนี้ถูกใจคนรักของทอดแน่นอน

Cafe' Le Landmark

ที่ตั้ง : 2/1-3 ถ.นิตโย ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 0910068246

GPS : https://g.page/cafelelandmark?share

DAY 2

หลับสบายตื่นมาพร้อมรับวันใหม่ อาบน้ำแต่งตัว เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็ได้เวลาทานอาหารเช้าเพิ่มพลังก่อนลุยตามแพลนวันนี้ โดยทาง Landmark Nakhon Phanom Hotel (โรงแรมแลนด์มาร์คนครพนม) จะเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มแบบเป็นชุด มีทั้งไข่กระทะ ก๋วยจั๊บญวน เครื่องดื่มและผลไม้ตามฤดูกาล ส่วนเวลาบริการก็ตามสากลทั่วไปเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ 07.00 - 10.00 น.

Landmark Nakhon Phanom Hotel (โรงแรมแลนด์มาร์คนครพนม)

ที่ตั้ง : 2/1-3 ถ.นิตโย ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

โทรศัพท์ : 0917403001

ราคา : เริ่มต้น 1,100 บาท

GPS : https://g.page/cafelelandmark?share

เช็คเอ้าท์เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางต่อไปยังสถานที่สำคัญของเมืองรองน่าเที่ยวอย่างนครพนมกับวัดพระธาตุพนมวรมาหาวิหารเพื่อสักการะพระธาตุพนม ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนอีสานเป็นสถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุพนม  ซึ่งเป็นเจดีย์บรรจุพระอุรังคธาตุหรือกระดูกส่วนหัวอกของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำของเกิดปีวอกและคนเกิดวันอาทิตย์ โดยผู้คนส่วนใหญ่มักมาขอพรให้พระธาตุประจำวันคุ้มครอง แต่ถ้าเราไม่ได้เกิดตรงตามวันของพระธาตุก็สามารถเดินทางมากราบไหว้เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิต รวมถึงชมความสง่างามขององค์พระธาตุได้นะคะ บอกเลยว่าถ้ามานครพนมแล้วไม่มาที่วัดนี้ถือว่าพลาดมาก

วัดพระธาตุพนมวรมาหาวิหาร

ที่ตั้ง : 183 13 ถ.ชยางกูร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม 

เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 06.00 - 20.00 น.

โทรศัพท์ : 0945435888

GPS : https://goo.gl/maps/PaN1nhVKWCg9ggvs7

ไหว้พระ ชมความงดงามของวัดพระธาตุพนมวรมาหาวิหารกันไปแล้ว เราก็มูฟออนไปยังจุดหมายต่อไปคือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดโลกของปลาแม่น้ำโขง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม หรือที่หลายคนเรียกว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดหนองญาติ สถานที่จัดแสดงพันธุ์ปลาลุ่มแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนม เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำสำคัญผ่านหลายสายทั้ง แม่น้ำโขง ลำน้ำก่ำ แม่น้ำสงคราม จึงมีสัตว์น้ำมากมายหลายชนิดรวมทั้งสัตว์น้ำชนิดที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ จึงจัดตั้งสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อรวบรวมพันธุ์สัตว์น้ำที่อยู่ในแม่น้ำโขง มาจัดแสดงให้นักเรียนและนักท่องเที่ยวรวมถึงผู้ที่สนใจได้เข้าชมและศึกษาหาความรู้นั่นเองค่ะ

ภายในมีจุดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับปลาแม่น้ำโขงทั้งพันธุ์ปลาน้ำจืดของลุ่มแม่น้ำโขง พันธุ์ปลาแม่น้ำโขงทั่วไป และชนิดที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งไฮไลท์จะอยู่ที่อุโมงค์ลอดใต้ตู้ปลาที่เราสามารถเดินชมการเคลื่อนไหวของปลาได้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีห้องโสตทัศนศึกษาสำหรับฉายวิดีทัศน์ที่ทันสมัยขนาด 50 ที่นั่ง และสถานที่จำหน่ายของที่ระลึกอีกด้วย

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดโลกของปลาแม่น้ำโขง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม

ที่ตั้ง : ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

เวลาเปิดบริการ : 08.30 - 16.30 น.

โทรศัพท์ :  042511535

ราคา : ค่าเข้าชมคนละ 30 บาท

GPS : https://goo.gl/maps/f4yPGXxuo3XZDtfh7

ดื่มด่ำกับฝูงปลาหลายสายพันธุ์กันจนจุใจแล้ว ก็ได้เวลาขับรถกลับเข้าเมืองโดยมุ่งหน้าไปยัง เตี๋ยวเต็มโต๊ะ ณ นครพนม ร้านก๋วยเตี๋ยว อาหารอีสานและอาหารตามสั่งชื่อดังของนครพนม เราจึงไม่พลาดที่จะปักหมุดไปชิมความอร่อยกันที่นี่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นตาแซ่บมากกกก รสชาติแบบคนอีสานแท้ๆ มีเมนูให้เลือกหลากหลาย เรียกว่ามาร้านนี้นอกจากจะได้ชิมอาหารที่รสชาติถึงเครื่องแล้ว บรรยากาศภายในร้านยังให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนวันวานแบบวินเทจด้วยล่ะ

เตี๋ยวเต็มโต๊ะ ณ นครพนม

ที่ตั้ง : 482 ถ.สุนทรวิจิตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม

เวลาเปิดบริการ : 10.00 - 0.00 น.

โทรศัพท์ : 0876969979

GPS : https://goo.gl/maps/geXDMaqq6rbRvmXe6 

อิ่มอร่อยกับมื้อเที่ยงแล้ว เราก็ขอแวะไปเดินเล่นย่านหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ สัญลักษณ์อีกหนึ่งแห่งของนครพนมที่สร้างโดยชาวเวียดนามที่อาศัยลี้ภัยอยู่ในนครพนม เพื่อเป็นที่ระลึกถึงไมตรีจิตของคนไทยเมื่อปี พ.ศ.2503 เมื่อเดินทะลุผ่านตรอกซอกซอยภายในย่านนี้นอกจากจะยังคงเห็นร่องรอยในอดีตผ่านผนังอิฐและอาคารเก่าแก่ รวมถึงสตรีทอาร์ทที่ถูกวาดขึ้นสร้างสรรค์ไว้ตามตรอกซอกซอยก็ช่วยสร้างสีสันให้ย่านหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์คึกคักและดูน่าค้นหามากขึ้น

หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์

ที่ตั้ง : ถ.สุนทรวิจิตร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม

GPS : https://goo.gl/maps/uTFFMRn6BXBwMSgi6 

และไปต่อกันที่ สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) อีกหนึ่งสะพานที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาวที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศได้เป็นอย่างดี โดยบริเวณสะพานสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำโขงที่กั้นกลางระหว่างสองประเทศพร้อมกับภูเขาหินปูนที่เรียงรายสลับซับซ้อนสวยงามจากฝั่งประเทศลาวด้วย สามารถมาถ่ายรูปสวยๆ ต่อได้ที่นี่ หรือหากใครอยากเดินทางไปเที่ยวประเทศลาวต่อก็มาที่จุดผ่านแดนที่นี่ได้เลย

สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน)

ที่ตั้ง : ทางหลวงจังหวัด นครพนม-มุกดาหาร ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม

GPS : https://goo.gl/maps/g7QohwkqSvEx3BxXA

ถ่ายรูปสวยๆ ลงโซเชียลกันไปแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยัง Siri regent Hotel Nakhonphanom (โรงแรมสิริ รีเจ้นท์ นครพนม) ที่พักสไตล์โมเดิร์นสุดชิคเพียบพร้อมไปด้วยความสะดวกสบายสุดๆ ตั้งอยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง มีสระว่ายน้ำ ที่สำคัญยังมาพร้อมสัญลักษณ์ SHA (Amazing Thailand Safety and Health Administration) มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่าที่นี่เป็นไง ก็ตามมาเช็คอินพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ 

เดินลากกระเป๋าเข้ามาก็จะเจอพนักงานยิ้มแย้มต้อนรับแบบอบอุ่นเลยค่ะ ซึ่งโซนล็อบบี้ที่นี่ก็ดูโอ่อ่าด้วยการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพรารี แบ่งโซนรับรองแขกไว้หลากหลายมุม พร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งเครื่องวัดอุณหภูมิคัดกรองแขกที่เข้าพักและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้ตั้งแต่ตอนเช็คอิน

เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาไปดูห้องพักกันแล้วค่ะ โดยห้องพักของที่นี่จะตกแต่งสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่าย และมีให้เลือกพักด้วยกัน 3 แบบคือ ห้อง Deluxe, Superior และ Grand River Front  สำหรับห้องที่เราพักจะเป็นแบบ Grand River Front ห้องพักขนาดใหญ่ของโรงแรม ภายในดูกว้างขวางและมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เปิดประตูเข้ามาจะเจอเตียงนอนและมุมพักผ่อน ซึ่งโอบล้อมด้วยกระจกใสทำให้มองเห็นวิวแม่น้ำได้เต็มสายตา ซึ่งแน่นอนว่ามาพร้อมระเบียงให้ออกไปรับลมด้านนอกด้วย

ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน นอกจากจะมีห้องอาบน้ำแบบฝักบัวแล้ว ยังมีอ่างอาบน้ำที่ผนังฝั่งหนึ่งกรุกระจกใสให้มองเห็นบรรยากาศในห้องเพิ่มความเซ็กซี่เล็กๆ ขณะอาบน้ำได้ แต่ถ้าใครเขินอยากเป็นส่วนตัวก็สามารถรูดมูลี่ลงมาปิดได้ด้วย

ต่อไปเรามาดูส่วนกลางของ Siri regent Hotel Nakhonphanom (โรงแรมสิริ รีเจ้นท์ นครพนม) กันดีกว่าค่ะ มีสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าที่ขนานไปกับแม่น้ำโขงแล้วยังมีคาเฟ่ในตัวให้ผู้เข้าพักได้เลือกใช้เติมความสุขระหว่างที่พักผ่อนที่นี่อีกด้วยนะ 

ระหว่างที่เล่นน้ำและถ่ายรูปกันอย่างเพลิดเพลิน ท้องเราก็เริ่มส่งเสียงร้องให้รู้ว่าหิวแล้วนะ เราเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวและกดลิฟท์ลงมาที่ชั้น 1 ขับรถออกไปยังแพลนสุดท้ายของวันนี้คือล่องเรือสำราญ ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถชื่นชมบรรยากาศความงดงามของ 2 ฝั่งแม่น้ำโขงได้แบบเต็มสายตา โดยวันนี้เราจองเรือสําราญแม่โขงพาราไดซ์ครูซไว้ ซึ่งเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ที่บริการมื้อเย็นพาสัมผัสกับบรรยากาศทิวทัศน์ 2 ฝั่งโขง ไทย-ลาว พร้อมด้วยดนตรี ระหว่างล่องเรือ ซึ่งใช้เวลาล่องเรือประมาณ 2 ชั่วโมง (เรือออก 18.00 น. เข้าฝั่งไม่เกิน 20.00 น.) โดยท่าเรือสำราญแม่โขงพาราไดซ์ครูซนั้นจะอยู่ห่างจากองค์พญาศรีสัตตนาคราช 500 เมตร ตั้งอยู่บริเวณบันไดพญานาค ตรงข้ามวัดโอกาสค่ะ 

สำหรับมื้อนี้เราสั่งเมนูขึ้นชื่ออย่างผัดฉ่าปลาน้ำโขงรสชาติเผ็ดจัดจ้าน อร่อยฟินแบบเต็มๆ คำเลยล่ะ ตามมาด้วยปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ปลาสดใหม่ที่ทางร้านนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนสุกเหลือง ส่วนเนื้อด้านในมีความนุ่มน่าลิ้มลอง ราดด้วยกระเทียม ทานเปล่าๆ ก็อร่อย หรือจะทานคู่กับยำหมูยอนครพนม รสชาติจัดจ้านแบบไทยๆ ที่เสิร์ฟมาคู่กันก็อร่อยไปอีกแบบ ต่อด้วยเนื้อโคขุนผัดน้ำมันหอย เมนูเด็ดที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อมาผัดน้ำมันคลุกเคล้ากับน้ำมันหอยจนได้รสชาติที่หวานเค็มกำลังดี จานนี้ถือว่าอร่อยตามมาตรฐานของเรือเลยค่ะ ปิดท้ายที่เมนูต้มๆ รสชาติจี๊ดมาซดให้คล่องคอ ต้มยำปลาคังน้ำใส เมนูนี้จะเสิร์ฟในหม้อไฟสามารถแบ่งทานกันได้ 2-3 คนเลยทีเดียว ให้รสเปรี้ยวอมหวานแบบกลมกล่อม จะซดเปล่าๆ ก็อร่อย จะทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากันดีอย่างลงตัวเลยล่ะ อ่อ! เกือบลืมบอกไปว่าถ้าไม่ได้มาดินเนอร์ ก็สามารถมาล่องเรือได้นะคะ โดยจะมีค่าล่องเรือ 200 บาท เท่ากันกับคนที่มาดินเนอร์บนเรือ ซึ่งที่นี่เขาคิดค่าอาหารและเครื่องดื่มตามเมนูเลยค่ะ

เรือสําราญแม่โขงพาราไดซ์ครูซ

ที่ตั้ง : ถ.ชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครพนม

โทรศัพท์ : 0854962456 หรือ 0839858456

เวลาเปิดบริการ : เปิดล่องเฉพาะวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 18.00 - 20.00 น.

ราคา : ค่าล่องเรือคนละ 200 บาท

GPS : https://goo.gl/maps/imLDL9tbMdy2rtGp9 

DAY 3

เช้าวันใหม่เรารีบตื่นแต่เช้าตรู่มาพร้อมบรรยากาศอันสดใส ซึ่งเป็นวันสุดท้ายแล้ว อาบน้ำแต่งตัว เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็ได้เช็คเอ้าท์และทานมื้อเช้าแบบราชา ห้องอาหารของ Siri regent Hotel Nakhonphanom (โรงแรมสิริ รีเจ้นท์ นครพนม) จะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ บอกเลยว่าอาหารมีมากมายให้เราได้เลือกทาน บอกเลยว่าฟินสุดๆ ค่ะ

Siri regent Hotel Nakhonphanom (โรงแรมสิริ รีเจ้นท์ นครพนม)

ที่ตั้ง : 37 ถ.นครพนม-ธาตุพนม ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

โทรศัพท์ : 042511666

ราคา : เริ่มต้น 990 บาท

GPS : https://goo.gl/maps/qmZ9pwAmXMN9acc19

เช็คเอ้าท์เรียบร้อย เราก็ขอไปสัมผัสประสบการณ์ในบรรยากาศสุดคลาสสิกต่อที่ พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) อาคารสไตล์โคโลเนียลแบบตะวันตก 2 ชั้น ที่ทรงคุณค่าท่ามกลางกลิ่นอายอันแสนอบอุ่นราวกับได้มาเยือนบ้านเก่า ซึ่งได้รับอิทธิพลในรูปแบบการก่อสร้างจากฝรั่งเศสช่วงสมัยสงครามอินโดจีน ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานและถูกจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ประจำจังหวัดนครพนม ใครอยากรู้เรื่องราวทุกความเป็นมาของนครพนมเมืองรองแห่งความสุขริมโขงก็สามารถมาค้นหาได้ที่นี่เลยค่ะ

ภายในจัดนิทรรศการที่น่าสนใจไว้ทั้งหมด 10 ห้อง อาทิ ห้องพื้นเมืองนคร ตำนานอุรังคธาตุที่บอกความเป็นมาของเมืองศรีโคตบูรก่อนจะกลายมาเป็นจังหวัดนครพนมในปัจจุบัน, ห้องเจ้าเมืองเรืองนาม รวบรวมภาพของผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมทั้งหมด, ห้องวัฒนธรรมหลากหลาย, ห้องเมื่อครั้งยังเสด็จฯ และห้องคืนประทับแรมของรัชกาลที่ 9 และพระพันปีหลวง เมื่อครั้งที่ทั้งสองพระองค์ได้เสด็จฯ เมืองนครพนมและเข้าประทับแรมที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม, ห้องพสกนิกรแซ่ซ้อง, ห้องพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว, ห้องเปิดบันทึกท่านสง่า และห้องนิทรรศการหมุนเวียนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจของนครพนมนั่นเองค่ะ

พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า)

ที่ตั้ง : ถ.อภิบาลบัญชา ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

โทรศัพท์ : 042511574

เวลาเปิดบริการ : วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 09.00 น. - 17.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/Ttr8nAdu76yhbvWU8

จากนั้นก็ไป Hopping ต่อที่ร้าน 76 A The Space (76 เอ เดอะ สเปซ) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) ที่นี่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของเครื่องดื่มที่มีให้เลือกลิ้มลองแบบจุใจแล้ว การออกแบบและตกแต่งร้านที่รีโนเวทตึกเก่าสไตล์โคโลเนียลมาทำใหม่แต่ยังคงโครงสร้างเดิมไว้แทบทั้งหมด เพื่อให้ได้กลิ่นอายคลาสสิกย้อนยุคแบบฮิปๆ ด้านในวางเคาท์เตอร์บาร์ไว้ชิดมุมขวา ก่อนจะแบ่งที่นั่งหลากหลายมุม รวมถึงมีห้องห้องส่วนตัวเล็กๆ และมีบันไดเก๋ๆ เชื่อมต่อไปยังพื้นที่ชั้นลอย หรือถ้าใครอยากมู้ดฮิปๆ แนะนำมุมด้านข้างที่นั่งเอาท์ดอร์สามารถมองออกไปเป็นวิวแม่น้ำโขงด้านนอกเลยจ้า รับรองถ่ายรูปออกมาสวยเท่มีคนไลค์รัวๆ แน่นอน

76 A The Space (76 เอ เดอะ สเปซ)

ที่ตั้ง : 11 ถ.สุนทรวิจิตร ต.หนองแสง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

โทรศัพท์ : 0935489248

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 07.00 น. - 18.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/gDkrp2Cvs8zvcaNH7

เกือบลืมบอกไป! ถ้ามาจิบกาแฟที่ 76 A The Space (76 เอ เดอะ สเปซ) อย่าลืมแวะไปปั่นจักรยานเล่นชิลๆ ที่ อุโมงค์นาคราช อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่สำคัญของที่นี่เพราะอยู่ไม่ไกลจากตัวคาเฟ่ ซึ่งที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางจักรยานริมแม่น้ำโขงที่ยาวกว่า 70 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่อุโมงค์นาคราชนั้นมีระยะทางประมาณ 307 เมตร เป็นอุโมงค์เหล็ก มีผนังกั้นปลอดภัย สามารถเช่าจักรยานมาปั่นชมทัศนียภาพที่สวยงามของลำน้ำโขงแบบพาโนรามาและชมทิวเขาฉากงามของฝั่งประเทศลาวไปพร้อมๆ กัน หรือใครจะปั่นจักรยานทอดยาวไปยังลานพญาศรีสัตตนาคราชเลยก็ยังได้ค่ะ

อุโมงค์นาคราช

ที่ตั้ง : โรงกรองน้ำประปา การประปานครพนม ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม 

GPS : https://goo.gl/maps/6BSneAVjbqTEL4gw6

เติมพลังจนร่างกายสดชื่นก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ เป็นอันจบทริปค่ะ จะบอกว่าการมาเที่ยวนครพนมเมืองรองแห่งความสุข 3 วัน 2 คืน ของเราครั้งนี้เป็นอะไรที่ครบรสมากๆ นอกจากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ ดื่มด่ำธรรมชาติ พักโรงแรมแสนสบายที่มาพร้อมสัญลักษณ์ (SHA) Amazing Thailand Safety and Health Administration มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยวแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของผู้คนริมโขงอย่างใกล้ชิด แถมยังเต็มไปด้วยแลนด์มาร์คดีๆ ให้ตามไปเช็คอินกันได้ง่ายๆ อีกด้วย รับรองว่าถ้าเพื่อนๆ มาเที่ยวพักผ่อนเมืองรองแดนอีสานแห่งนี้จะ 'หลงรักนครพนม' แบบไม่รู้ตัวจริงๆ ค่ะ

Tags: นครพนม เมืองนครพนม ที่เที่ยวนครพนม เที่ยวนครพนม ที่พักนครพนม ที่กินนครพนม ร้านอาหารนครพนม การเดินทางนครพนม ร้านอร่อยนครพนม คาเฟ่นครพนม โรงแรมนครพนม รีสอร์ทนครพนม Landmark Nakhon Phanom Hotel โรงแรมแลนด์มาร์คนครพนม พญาศรีสัตตนาคราช ลานพญาศรีสัตตนาคราช Cafe' Le Landmark คาเฟ่ เลอ แลนด์มาร์ค วัดพระธาตุพนมวรมาหาวิหาร พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดโลกของปลาแม่น้ำโขง ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษานครพนม พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำจืดหนองญาติ เตี๋ยวเต็มโต๊ะ ณ นครพนม หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ สะพานมิตรภาพ 3 (นครพนม-คำม่วน) Siri regent Hotel Nakhonphanom โรงแรมสิริ รีเจ้นท์ นครพนม เรือสําราญแม่โขงพาราไดซ์ครูซ พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม (หลังเก่า) 76 A The Space 76 เอ เดอะ สเปซ อุโมงค์นาคราช SHA เมืองรองต้องลอง GOLOCALTHAILAND amazingไทยเท่ อยู่บ้านรอเดี๋ยวได้เที่ยวแน่

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้