แคมป์ปิ้งถ่ายรูปในกรุงเทพฯ คนละ 99 บาท ที่ James 500 City Camp & City Farm

เลิกงานไปกางเต็นท์กันมะ? ชิลไปไหนพาไปแคมป์ปิ้งริมน้ำที่ James 500 City Camp & City Farm จุดกางเต็นท์เปิดใหม่ในกรุงเทพฯ บรรยากาศจัดว่าเด็ด! ฮิปสเตอร์สายแคมป์ต้องมา...พิกัดอยู่ไม่ไกลแค่แถวสัมมากร  ซอยรามคำแหง 110 นี่เอง

**หมายเหตุ: เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วงนี้ ทางแคมป์จึงของดค้างคืนชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น แต่เปิดให้เข้าไปปิกนิกและแคมป์ปิ้งถ่ายรูปได้**

ตอนบ่ายบอกหัวหน้าว่าวันนี้เคลียร์งานเสร็จแล้ว ขอออกเร็วนะฮะ...จะไปกางเต็นท์! ปิดคอมฯ แพ็คของขึ้นรถ ปักหมุด Google Maps ไปที่ James 500 City Camp & City Farm ระวังอย่าปักผิดไปอีกที่หนึ่งนะ อันนั้นเป็นคาเฟ่และฟาร์มออร์แกนิค เจ้าของเดียวกันแต่อยู่คนละที่

ที่นี่เค้าเปิดเป็นทั้งลานกางเต็นท์และพื้นที่สำหรับปิกนิกริมน้ำ สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ได้ตั้งแต่บ่าย 3 โมง แต่ถ้าเอาบรรยากาศดีแดดร่มลมตกก็สัก 4 โมงเย็นเป็นต้นไปจะดีกว่า แต่เรากลัวว่าจะมาไม่ทันทำเลดีๆ เลยจอดรถด้านหน้าแคมป์ตอน 3 โมงเป๊ะ! แต่ๆๆ มีคนไวกว่าจ้าาา...ไปถึงคือมีคนกางไปแล้ว 2 เต็นท์ ยอมในความไวจริงๆ

ได้ที่ริมน้ำแล้วก็ลงมือกางเต็นท์กัน ที่นี่จะรับจำนวนจำกัดไม่เกินวันละ 5-6 เต็นท์เท่านั้น (จำนวนขึ้นอยู่กับขนาดของเต็นท์ด้วย) ด้วยพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด เพราะฉะนั้นการกางเต็นท์ที่นี่จึงเป็นแบบ first come, first serve ใครมาก่อนมีสิทธิเลือกทำเลกางก่อน และต้องจองแบบระบุวันที่จะมากางเต็นท์ล่วงหน้าเท่านั้น ขนาดเราเลือกวันธรรมดากะว่าคงมีคนไม่เยอะมาก แบบชิลๆ แต่ความจริงคือผิดคาด มีทั้งคนมาแคมป์ปิ้งและปิกนิกเพียบ!

ด้านหน้าตรงบริเวณนี้เป็นจุดลงทะเบียน จะมีน้องๆ พนักงานคอยเช็คชื่อที่จองมาก่อน แล้วแนะนำจุดกางเต็นท์ให้ ส่วนมอเตอร์ไซค์ไม่ใช่ของเรา ขอยืมเป็นพร็อบมาถ่ายรูปเฉยๆ 55

รถสวยๆ คลาสสิคที่ทางแคมป์นำมาจอดไว้ เห็นแล้วอยากได้สักคัน...

จุดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือ สามารถเอารถเข้ามาจอดข้างเต็นท์ได้ด้วย วันที่เราไปมีเต็นท์ข้างๆ เอารถโฟล์คเต่าคันสวยมาจอดใกล้ๆ เต็นท์ (แต่ต้องแจ้งทางแคมป์ล่วงหน้าก่อนเผื่อสำหรับคำนวณพื้นที่ด้วยนะ) หรือถ้าใครเป็นสายไบค์เกอร์ก็เอามาจอดด้านในได้เหมือนกัน

กฎของแคมป์ในการใช้พื้นที่ อ่านรายละเอียดและทำความเข้าใจให้ดีก่อนน้า... (ช่วงโควิด-19 ทางแคมป์งดให้กางเต็นท์ค้างคืนชั่วคราว แต่สามารถนำเต็นท์และอุปกรณ์แคมป์ปิ้งมาปิกนิกถ่ายรูปกันได้ ค่ากางเต็นท์แบบไม่ค้างคืนคิดคนละ 99 บาท จากเดิมคนละ 199 บาท)

เต็นท์เราและเต็นท์เพื่อนบ้าน ใครอยากมาแคมป์ปิ้งที่นี่...เราว่าเลือกใช้เต็นท์ขนาดเล็กถึงขนาดกลางๆ กำลังพอดี เพราะถ้าเต็นท์ใหญ่มากอาจหาที่กางบริเวณริมน้ำลำบาก

กางเต็นท์เสร็จแล้วได้เวลาชิลสักที บรรยากาศที่นี่จัดว่าดีอยู่ริมน้ำติดทะเลสาบสัมมากร ตอนเย็นสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกฝั่งตรงข้ามได้ด้วย

พอสัก 5 โมงเย็นก็เริ่มมีคนมากันเรื่อยๆ เพราะที่นี่เปิดให้คนมาปิกนิกได้ด้วย ช่วงนั้นอากาศดีมีลมหนาว...หลายคนเลยชวนเพื่อนพาครอบครัวมาปิกนิกริมน้ำ สามารถสั่งอาหาร เครื่องดื่มได้ หรือหากใครอยากนำอาหารและเครื่องดื่มมาเอง ทางแคมป์ก็คิดราคาคนละ 49 บาท สามารถเตรียมชุดปิกนิกมาปิ้งย่างทำกันเองได้ด้วย ดีอ่ะ!

น้องๆ ที่แคมป์กำลังปิ้งบาร์บีคิวกันอย่างแข็งขัน ขายดีมากกก...เราเองยังเกือบสั่งไม่ทัน นอกจากบาร์บีคิวแล้ว ยังมีเครื่องดื่มขายด้วย (ไม่มีแอลกอฮอล์) ใครขี้เกียจทำอาหารเอง ก็สามารถมาซื้อที่นี่ได้เลย สะดวกดี

เราสั่งเซ็ตบาร์บีคิวมานั่งกินริมน้ำ สามารถสั่งได้ทั้งเป็นเซ็ตหรือแยกไม้ ใครมากันหลายคนก็จัดเซ็ตใหญ่ มีให้เลือกทั้งหมูและไก่ พร้อมเตามาให้เราได้มานั่งปิ้งย่างกันเอง นอกจากนี้ ยังมีเครื่องดื่มและมาร์ชเมลโล่ในเซ็ตเป็นของหวานให้ด้วย

ตอนเย็นบรรยากาศคือดีมากกกก...เลิกงานแล้วได้มานั่งชิลแบบนี้ เปลี่ยนจากไปปาร์ตี้สังสรรค์ก็ดีเหมือนกันนะ

เครื่องดื่ม signature ของที่แคมป์ โคล่าวุ้น+เยลลี่หมี, น้ำผลไม้ประจำแคมป์ เสียดายที่อีกเมนูอย่างน้ำ 3 ส้มหมดซะก่อนเลยอดชิม

ทริปนี้ไม่ต้องทำอาหารเองให้เหนื่อย นั่งหล่อๆ รอน้องพนักงานยกมาเสิร์ฟอย่างเดียว ย่างกันสนุกเลย...

ที่แคมป์มีจุดต่อพ่วงปลั๊กไฟให้ แต่กำลังไฟไม่เยอะมาก เหมาะสำหรับการชาร์จแบตกล้องหรือโทรศัพท์มือถือมากกว่า พร้อมยังมีไฟรอบๆ บริเวณลานกางเต็นท์ แต่แนะนำว่าให้พกไฟ LED หรือตะเกียงมาเผื่อด้วยจะได้ใช้ตอนกลางคืนหน้าเต็นท์ของเราเอง

ตอนเย็นเห็นมีคนเอารถแวนมาจอดปิกนิกด้วยล่ะ บรรยากาศเหมือนไปตั้งแคมป์ต่างจังหวัด ดูอบอุ่นดีไปอีกแบบ

เราว่าที่นี่น่าจะถูกใจสายแคมป์ที่ไม่มีเวลาเดินทางไปกางเต็นท์ตั้งแคมป์ไกลๆ เลิกงานก็ขับรถมาแคมป์ปิ้งได้เลย หรือแม้แต่คนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาปิกนิกกับครอบครัวในกรุงเทพฯ ก็ราคาค่าเข้าไม่แพง ยิ่งถ้าใครอยากลองชิมลางบรรยากาศการแคมป์ปิ้ง ว่าจะนอนเต็นท์ได้รึเปล่า ลองมาซ้อมกางเต็นท์ที่นี่ไปพลางๆ ก่อนได้

พอหลัง 3 ทุ่มแล้ว คนที่มาปิกนิกก็ทยอยกลับ เหลือแต่เราชาวแคมป์ บรรยากาศกลับคืนสู่ความสงบเงียบ เราเลยออกมาเก็บภาพชิลๆ ตอนกลางคืนกันซะหน่อย

ถ้าอากาศหนาวๆ ได้นั่งล้อมวงผิงไฟตรงนี้คงดี...แต่กรุงเทพฯ คืนนี้แค่เย็นๆ ประมาณ 20-21 องศา พอตอนใกล้ๆ ฟ้าสางช่วงเช้ามืดอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 17-18 องศา ไม่หนาวมากแต่ก็นับว่าชิลแล้วสำหรับเราผู้ที่ไม่มีเวลาขึ้นเขาไปกางเต็นท์บนดอย

สองหนุ่มหอบคอมฯ มานั่งทำงานริมน้ำกันต่อด้วย ขยันสุดๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้งานไม่เสร็จโดนบอสดุ (หยอกๆ)

กู๊ดไนท์...ได้เวลาดับตะเกียงเข้านอนกันแล้วจ้า

เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ปกตินี่ยังไม่ลุกจากที่นอนเลยจ้า... แต่เอาเข้าจริงเราก็ยังตื่นช้ากว่าคนอื่น พี่เต็นท์ข้างๆ ตื่นมาชงกาแฟเรียบร้อยแล้ว

อากาศดีๆ แบบนี้ ได้กาแฟหอมๆ ไปจิบริมน้ำสักแก้ว ฟินนนน...

ส่วนมื้อเช้าเราฉีกทุกกฎของการตั้งแคมป์ ด้วยการโทรสั่ง Grab เลยจ้า! 555 ข้อดีของการมาแคมป์ปิ้งในเมืองใจกลางกรุงเทพฯ แบบนี้ คือมีทุกสิ่งอย่าง หิวตอนดึกก็ขับรถไปเซเว่นในหมู่บ้าน ขนาดร้านชายสี่หมี่เกี๊ยวยังมีขาย สะดวกสบายสุดๆ

ถ้าใครชอบบรรยากาศสไตล์นี้ เลิกงานเย็นนี้ลองมากางเต็นท์ที่นี่กันดูได้ ค่าใช้จ่ายเบาๆ แค่คนละ 99 บาท ได้บรรยากาศการแคมป์ปิ้งแบบฮิปๆ ริมน้ำ หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานที่นี่ดูก็ชิลดีเหมือนกันนะ!

James 500 City Camp & City Farm

ที่ตั้ง: ซอยสัมมากร 1 (รามคำแหง 110) สะพานสูง กรุงเทพฯ
เปิด: ทุกวัน 15.00 - 22.00 น. (ช่วงนี้ปิด 21.00 น.)
ค่ากางเต็นท์คนละ 199 บาท, กางเต็นท์แบบไม่ค้างคืนคนละ 99 บาท, ปิกนิกคนละ 49 บาท (นำอาหารและเครื่องดื่มมาเองได้)
โทร. 0645954494
Facebook: James500 City Camp & City Farm
Line ID: @James500Organic
พิกัด Google Maps: https://goo.gl/maps/o6C8FciGYwxCoJPv7

Tags: กรุงเทพ ที่เที่ยวกรุงเทพ ลานกางเต็นท์ แคมป์ปิ้ง James 500 City Camp & City Farm เจมส์500 ซิตี้แคมป์แอนด์ซิตี้ฟาร์ม ปิกนิก ปิคนิคในกรุงเทพ จุดกางเต็นท์ริมน้ำ

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้