calendar_month 04 ม.ค. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 71,193 / ทริปตัวอย่าง
ใครอยากไปพักผ่อนริมทะเลชิลๆ ในบรรยากาศสงบเงียบ แต่ไม่อยากจ่ายแพง...เราจะพาไปแนะนำที่พักเล็กๆ ติดริมทะเลอย่าง "หมู่บ้านทางสาย" จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับประกันว่าบรรยากาศดี วิวสวยไม่แพ้รีสอร์ท แต่จ่ายแค่คนละ 700 บาทเท่านั้น จะบรรยากาศชิลขนาดไหนตามไปดูกันเลยดีกว่า
บ้านทางสาย ตั้งอยู่ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่นี่เป็นหมู่บ้านท่องเทียวชุมชน-นวัตวิถี ที่ชาวบ้านรวมกลุ่มกันทำที่พักเล็กๆ แนวโฮมสเตย์ริมทะเล เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนและสัมผัสวิถีชีวิตในท้องถิ่น
โฮมสเตย์ของหมู่บ้านทางสายตั้งอยู่ติดริมชายหาดบ้านทางสาย ไม่ไกลจากหาดบ้านกรูด สามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งรถส่วนตัว และรถไฟซึ่งมีทั้งขบวนที่ออกจากสถานีธนบุรีและหัวลำโพง (ช่วงโควิดแนะนำเช็คการเดินรถก่อนเดินทาง) หากมาทางรถไฟให้ลงที่สถานีบ้านกรูด แล้วติดต่อให้ทางชุมชนไปรับ มีค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 40 บาทต่อเที่ยว
นอกจากนี้ ยังสามารถนั่งรถตู้จากกรุงเทพฯ ไปลงที่ตัวเมืองประจวบฯ แล้วต่อรถตู้จากตัวเมืองประจวบฯ มาลงที่หน้าสถานีรถไฟบ้านกรูดได้เช่นกัน จะมีท่ารถตู้อยู่บริเวณด้านหน้าร้านวรวัฒน์มินิมาร์ทอยู่ติดกับด้านหน้าสถานีรถไฟ ค่ารถตู้กรุงเทพฯ-ประจวบฯ คนละ 220 บาท/เที่ยว และค่ารถจากตัวเมืองประจวบฯ - บ้านกรูด คนละ 80 บาท/เที่ยว สอบถามข้อมูลได้ที่ท่ารถตู้วรวัฒน์มินิมาร์ท โทร. 0810112474
จากสถานีรถไฟบ้านกรูดใช้เวลาเดินทางมาที่บ้านทางสายประมาณ 15 นาที พอลงทะเบียนด้านหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เข้าไปภายในบริเวณโฮมสเตย์บ้านทางสาย หรือใครเอารถส่วนตัวมาก็สามารถนำเข้าไปจอดด้านในใกล้ๆ กับห้องพักได้เลย
ห้องพักที่นี่เป็นสไตล์บ้านไม้ไผ่ ตั้งอยู่เรียงรายริมทะเล มีทางเดินเล็กๆ หน้าห้อง วันที่เราไปเป็นวันธรรมดาเลยมีห้องพักว่างหลายห้อง ปกติแล้วถ้าเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่นี่มักจะเต็มตลอด ต้องจองล่วงหน้า
เราจองห้องพักบ้านไม้ไผ่หลังเล็กมา ราคาคนละ 700 บาทต่อคืน เป็นแพ็คเกจที่พักแบบรวมอาหารเช้าและบุฟเฟต์ทะเลเผามื้อเย็น (ถ้าไม่เอาอาหารตอนเย็น เฉพาะห้องพักและอาหารเช้าราคาคืนละ 700 บาท) แต่ถ้าใครอยากดำน้ำดูปะการัง ที่นี่ก็มีแพ็คเกจทัวร์ดำน้ำ รวมอาหารเที่ยงและเครื่องดื่มบนเรือ พร้อมอุปกรณ์ดำน้ำให้ครบด้วย สามารถสอบถามกับทางโฮมสเตย์ได้เลย
ภายในห้องพักไม้ไผ่ที่เราพัก ตกแต่งเรียบง่าย มีที่นอน หมอน ผ้าห่มและมุ้งให้ พร้อมพัดลมอีกหนึ่งตัว ตอนแรกเราก็กลัวว่าจะร้อนหรือเปล่า แต่เอาเข้าจริงตอนกลางคืนที่นี่อากาศเย็นสบาย มีลมพัดมาคลายร้อนตลอด
ห้องน้ำของบ้านไม้ไผ่เป็นสไตล์กึ่งเอาท์ดอร์ เปิดประตูเข้าไปแล้วต้องร้องว้าววว...เพราะน่ารักมากๆ ผนังกรุด้วยวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ หลังคามุงจาก แต่มีช่องเปิดโล่งด้านบนให้เราอาบน้ำใต้ทิวสน ชมดาวตอนกลางคืนได้
เก็บของแล้วออกไปเดินเล่นสำรวจรอบๆ บริเวณที่พักกัน อย่างที่บอกว่าโฮมสเตย์บ้านทางสายเกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านในชุมชนที่ช่วยกันทำที่พักเล็กๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าจะไม่หรูหราแต่ชาวบ้านทุกคนที่นี่ก็น่ารักและต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่นมากๆ
นอกจากบ้านไม้ไผ่หลังเล็กแล้ว ยังมีบ้านไม้ไผ่หลังใหญ่สำหรับใครที่มาพักผ่อนกับครอบครัวหรือแก๊งค์เพื่อนกลุ่มใหญ่ ภายในมี 3 เตียง และห้องน้ำ 2 ห้อง สามารถพักได้ 6 คน ราคาคืนละ 2,100 บาท (รวมอาหารเช้า) จุดเด่นของบ้านหลังใหญ่นี้คือจะตั้งอยู่ด้านหน้าติดทะเลเลยค่ะ นอนฟังเสียงคลื่นชิลๆ ได้ทั้งวัน
ส่วนใครที่กลัวว่าจะร้อน ที่โฮมสเตย์บ้านทางสายก็ยังมีห้องแอร์ไว้ให้บริการ ในราคาคืนละ 1,200 บาท (พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า) หรือแพ็คเกจคนละ 950 บาท/คน/คืน รวมอาหารเช้า ที่พัก และบุฟเฟต์ทะเลมื้อเย็น
ภายในห้องพักค่อนข้างใหม่ ผนังทาสีฟ้าสดใส มีเตียงนอน, ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งให้ พร้อมห้องน้ำในตัวห้องพักสะดวกสบาย
นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีที่พักแบบเต็นท์ให้นอนชิลริมทะเล ราคาคนละ 200 บาท (ไม่มีอาหารเช้า) หรือแพ็คเกจคนละ 550 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าและบุฟเฟต์ทะเลมื้อเย็น โดยเต็นท์ที่นี่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้พร้อม ทั้งผ้าห่ม, หมอน, ที่รองนอน นอกจากนี้ ยังมีบริการสายไฟพ่วง และพัดลมให้เช่า ใครอยากซื้อของสดมาปิ้งย่างริมทะเลเอง ก็มีบริการให้เช่าเตาปิ้งย่างและถ่านอีกด้วย
ออกไปเดินเล่นริมชายหาดกันบ้าง ชายหาดบ้านทางสายค่อนข้างสงบ ไม่พลุกพล่านเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเหมือนชายหาดอื่นๆ เหมาะกับการมาพักผ่อนริมทะเลชิลๆ และยังสามารถมองเห็นวิวพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาไกลๆ ได้อีกด้วย
มีเก้าอี้ผ้าใบชายหาดให้นั่งเล่นรับลมทะเลชิลๆ กันด้วย สังเกตดูบนชายหาดแทบไม่มีเศษขยะเลย ชาวบ้านที่นี่ช่วยกันดูแลรักษาความสะอาดกันอย่างดีมาก ใครมาเที่ยวที่นี่ก็ช่วยกันทิ้งขยะลงถังกันด้วยน้า
อีกมุมที่เราชอบที่นี่คือ ชิงช้าที่แขวนอยู่ใต้ทิวสนที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาร่มรื่นบนชายหาด มานั่งเล่น ไกวชิงช้าฟังเสียงคลื่นชิลๆ ตรงบริเวณนี้
ชายหาดที่นี่ทอดตัวเป็นแนวยาว สามารถลงเล่นน้ำได้ ถึงแม้หาดทรายจะไม่ได้ขาวมากนัก แต่น้ำทะเลก็ใสน่าเล่น ขนาดเราถ่ายตอนเย็นในวันที่ไม่ค่อยมีแดด น้ำทะเลยังสวยใสขนาดนี้...วันที่อากาศดีจะสวยขนาดไหน
ด้านหน้าที่พักยังมีร้านอาหารพื้นบ้านและบริการนวดแผนไทย ใครสนใจไปลองใช้บริการอุดหนุนพี่ๆ ชาวบ้านในชุมชนกันได้
ตอนเย็นทางที่พักพาเรานั่งรถสกายแล็ปพ่วงข้างไปทานอาหารกับที่ร้านปรียาหมูกระทะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักแค่ประมาณ 1.4 กม. เท่านั้น
ที่นี่เค้ามีบุฟเฟต์ทั้งหมูและทะเลแบบอิ่มไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา ถ้าเราซื้อแพ็คเกจรวมอาหารเย็นกับทางที่พัก จะมีน้องๆ พามาส่งถึงที่และคอยบริการปิ้งย่างให้เสร็จสรรพ ไม่ต้องย่างปูย่างกุ้งเอง เรียกว่าดูแลดีมากๆ
มื้อนี้เราไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ เลยตักกันมาแค่พอทาน แต่ถ้าใครชอบบุฟเฟต์ปิ้งย่างน่าจะฟิน เพราะมีซีฟู้ดให้เลือกทั้งปูม้าสดๆ กุ้ง หอยเชลล์ ปลาหมึก ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีซูชิ, ของกินเล่นอย่างปอเปี๊ยะทอด, ยำ และส้มตำให้ตำกันเอง และของหวานอย่างไอติมและผลไม้ตบท้ายอีกด้วย
ตอนเช้าเราตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำกิจกรรมใส่บาตรริมชายหาดด้านหน้าที่พัก ทางโฮมสเตย์มีบริการจัดชุดใส่บาตรให้ ราคาชุดละ 50-100 บาท
จากนั้นก็ไปทานอาหารเช้า ทางที่พักมีข้าวต้มทะเล กาแฟและขนมไทยอย่างข้าวเหนียวสังขยาให้ด้วย
อิ่มแล้วอาบน้ำเปลี่ยนชุด เราเช่ามอเตอร์ไซค์กับทางที่พักเพื่อขับไปเที่ยวพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงภายในพื้นที่ของวัดทางสาย ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักไปประมาณ 2 กม.
ด้วยจุดเด่นที่ตั้งอยู่บนยอดเขา เราจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทะเลและเวิ้งอ่าวที่อยู่โดยรอบได้จากมุมสูง
หลังจากจอดรถ จุดแรกที่เราเข้าไปชมคือ พระพุทธกิติสิริชัย (หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อใหญ่) พระพุทธรูปขนาดใหญ่ ปางสมาธิ ศิลปะแบบคันธาระของอินเดีย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ทางคณะสงฆ์วัดทางสายร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้นถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
องค์พระพุทธรูปหันพระพักตร์ออกสู่ทะเล เคียงคู่โดดเด่นกับพระมหาเจดีย์ภักดีประกาศที่อยู่เหนือขึ้นไปบนยอดเขาด้านบน
จากนั้นเดินขึ้นบันไดไปด้านบนกันต่อ ไฮไลท์ที่นี่คือ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ พระมหาเจดีย์เก้ายอดที่ก่อสร้างอย่างวิจิตรตระการตา จนได้ชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 สิ่งมหัศจรรย์ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของประชาชนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่รัชกาลที่ 9 ทรงครองราชย์ครบ 50 ปี
พระมหาธาตุเจดีย์มีทั้งหมด 5 ชั้น บริเวณลานประทักษิณด้านนอก มีบันไดเชื่อมสู่ชั้นที่ 2 และเป็นที่ตั้งของหอกลอง หอระฆัง และศาลารายอีก 4 หลัง
นอกจากทิวทัศน์ที่งดงามด้านนอกแล้ว ภายในพระมหาเจดีย์นั้นก็ช่างสวยงามตระการตาควรค่าแก่การมาชมสักครั้งในชีวิต
ทางเข้าภายในวิหารชั้นที่ 3 เป็นซุ้มทำด้วยไม้สักทองแกะสลัก บริเวณใจกลางเป็นแท่นประดิษฐานพระพุทธรูปปางอิริยาบถสี่ จำนวน 4 องค์
ชั้นที่ 4 เป็นอุโบสถซึ่งประดิษฐาน "พระพุทธลีลากาญจนวบพิตร" พระประธานที่จัดสร้างโดยจำลองแบบมาจากพระพุทธรูปปางลีลาสมัยกรุงสุโขทัยซึ่งมีอายุกว่า 800 ปี ที่มีความงดงาม อ่อนช้อย ส่วนชั้น 5 เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุภายในบุษบกไม้สักแกะสลักปิดทองตั้งอยู่บนฐานทรงสูง ทำด้วยหินอ่อนมีมุขยื่นทั้งสี่ด้าน ใจกลางประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ปางประจำพระชนมวารของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
หลังจากเที่ยวชมพระมหาเจดีย์และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองประจวบฯ อย่างเต็มอิ่ม เราก็แว๊นมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวกันต่อปิดท้ายที่หาดบ้านกรูดที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 4 กม. ใช้เวลาแค่ประมาณ 10 นาที ก็ได้มาพบกับทะเลสวยๆ แบบนี้
เพราะมีเวลาจำกัด เราจึงไม่ได้ลงเล่นน้ำ ได้แต่ถ่ายรูปป้ายหาดบ้านกรูดเป็นที่ระลึก ก่อนจะรีบกลับไปเก็บของเช็คเอาท์แล้วให้ที่พักขับรถไปส่งเราขึ้นรถตู้กลับกรุงเทพฯ
สรุปทริปนี้เราใช้งบค่าที่พักและอาหาร (ไม่รวมค่าเดินทาง) กันไปคนละ 700 บาท ได้นอนโฮมสเตย์ริมทะเล 1 คืนพร้อมอาหาร 2 มื้อ ถ้ารวมค่าเดินทางด้วยรถไฟขามา, ค่ารถตู้กลับกรุงเทพฯ, ค่ารถรับ-ส่งจากที่พัก และค่าเช่ามอเตอร์ไซค์แล้วก็ตกคนละประมาณ 1,269 บาท แต่ถ้าอยากประหยัดกว่านี้ ก็เลือกเดินทางด้วยรถไฟแทนรถตู้ แล้วเลือกที่พักอย่างเดียวแบบไม่รวมอาหารบุฟเฟต์ทะเลตอนเย็น หารค่าที่พักกันตกกันแค่คนละ 350 บาทเท่านั้นเอง เรียกว่าโฮมสเตย์บ้านทางสายเป็นที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านจริงๆ
ที่ตั้ง: บ้านทางสาย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์
ราคาแพ็คเกจ : เริ่มต้นคนละ 700 บาท (รวมที่พัก 1 คืน พร้อมอาหารเช้าและบุฟเฟต์อาหารทะเลเผามื้อเย็น หากรวมกิจกรรมดำน้ำเริ่มต้นคนละ 1,099 บาท)
ราคาห้องพัก: บ้านไม้ไผ่ (ห้องพัดลม) คืนละ 700 บาท รวมอาหารเช้า, ห้องแอร์คืนละ 1,200 บาท รวมอาหารเช้า, บ้านไม้ไผ่ใหญ่ติดทะเล 2,100 บาท พักได้ 6 คน พร้อมอาหารเช้า, เต็นท์ของชุมชนคนละ 200 บาท (ไม่มีอาหารเช้า), นำเต็นท์มาเองคนละ 150 บาท (กรณีพักเต็นท์เพิ่มอาหารเช้าคิดคนละ 50 บาท)
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0923940556
FB: ท่องเทียวชุมชน-นวัตวิถี" บ้านทางสาย
พิกัด: https://goo.gl/maps/tDSdYv7kSkqjhBrL7
บทความแนะนำ:
15 ที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ อัพเดทใหม่ 2021 : https://www.chillpainai.com/scoop/12767/
ทริปหนีร้อนไปนอนเกาะทะลุ @ประจวบคีรีขันธ์ 2 วัน 1 คืน : https://www.chillpainai.com/scoop/12396
Tags: ประจวบคีรีขันธ์ เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ บ้านทางสาย โฮมสเตย์ริมทะเล ที่พักริมทะเล ที่พักประจวบ
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 129 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 378 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 603 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 156 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 617 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,011 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,057 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,459 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ต.ค. 2024 | 1,007 อ่าน
สถานที่ยอดนิยม ที่กิน ทริปตัวอย่าง | 11 ก.ย. 2024 | 2,425 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 05 ส.ค. 2024 | 2,193 อ่าน