ทริปชวนแฟนไปนอนเมืองนนท์ 2 วัน 1 คืน เช็คอินโรงสีสตูดิโอ ที่พักและร้านอาหารสุดชิคแห่งเกาะเกร็ด

calendar_month 10 ธ.ค. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 70,088 / ทริปตัวอย่าง

เมื่อคุณแฟนชวนไปนอนเกาะกันไหม ไอ้เราก็กรี๊ดดีใจนี่เธอจะชวนฉันไปนอนเกาะไหนล่ะ เกาะภูเก็ต หรือเสม็ด ชายหนุ่มข้างกายรีบเบรกดังเอี๊ยดดดด มีเวลาแค่ 1 คืนแค่นี้ไปได้แค่เกาะเกร็ดน่ะเธ้ออออ อ้อหอๆ เกาะเกร็ด ก็เกาะเกร็ด จะเกาะไหนก็เกาะเหมือนกันล่ะ แอบนอยนิสๆ เพราะใจมันคิดไปถึงทะเลใต้ แต่พอคุณแฟนหยิบสมาร์ทโฟนเกมมิ่งเครื่องใหม่ Lenovo - Legion Phone Duel มาเปิดภาพที่พักในเกาะเกร็ดที่จะพาเราไปทริปนี้ให้ดู ก็รีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าแล้วตอบเซย์เยสทันใด เพราะที่พักที่เราจะไปคือ โรงสีสตูดิโอ(Rongsi Studio) ที่พักพร้อมคาเฟ่และร้านอาหารสุดชิคที่ฮอตฮิตในเมืองนนทบุรี

ทริปนี้เราไม่ได้วางแพลนอะไรเยอะ เพราะแค่อยากเปลี่ยนที่นอน เปลี่ยนบรรยากาศ สัมผัสเกาะเกร็ดในมุมที่ไม่วุ่นวาย เราเลยเลือกไปวันธรรมดา วันที่ไม่มีตลาดและถนนคนเดิน วันที่จะได้นั่งมองแม่น้ำเจ้าพระยากันเงียบๆ เพียง 2 คน ซึ่งการเดินทางไปยังเกาะเกร็ดเมื่อตัดสินใจจองที่พักเรียบร้อยแล้วทางที่พักก็แจ้งกับเราว่าสามารถเอารถไปจอดได้ที่วัดปากคลองพระอุดมซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของ โรงสีสตูดิโอ การเดินทางจิ้มหมุดนี้แล้วขับไปเลยโล้ดดด>>https://goo.gl/maps/3CBohDzWw7vHTL637

มาถึงท่าเรือปุ๊บโทรหาที่พัก ทางที่พักก็ส่งเรือมารับเราปั๊บเลยค่ะ ค่าเรือคนละ 20 บาทเท่านั้น นั่งเรือข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามายังฝั่งเกาะเกร็ดแล้วขึ้นที่ท่าเรือของโรงสีสตูดิโอได้เลยค่ะ

ทริปชวนแฟนไปนอนเมืองนนท์ 2 วัน 1 คืน เช็คอินโรงสีสตูดิโอ ที่พักและร้านอาหารสุดชิคแห่งเกาะเกร็ด

มาถึงก็เช็คอินเข้าห้องพักกันก่อนเลยซึ่งห้องพักที่เราจองเอาไว้เป็นห้องพักชั้นบนและเป็นห้องเดียวที่มีวิวแม่น้ำ ราคาห้องนี้ 3,500 บาท พร้อมอาหารเช้า พักได้ 3 คนกันเลยค่ะ มีชั้นลอยด้านบนที่จัดวางที่นอนสำหรับคนที่ 3 เอาไว้ส่วนชั้นล่างเป็นเตียงแบบดับเบิ้ลเบ้ดนอนได้ 2 คน การตกแต่งเป็นแบบมินิมอลเน้นใช้โทนสีขาวตกแต่งด้วยวัสดุจากไม้ ใช้ของตกแต่งเป็นเครื่องสานบนหัวเตียงและโคมไฟได้ฟีลความเป็นโลคัล

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องนี้จะประกอบไปด้วยทีวี เครื่องปรับอากาศ มินิบาร์ สัญญาณอินเตอร์เน็ตไวไฟ และโทรศัพท์ภายในที่พัก

ด้านบนชั้นลอยจัดวางที่นอนสำหรับ 1 ที่เอาไว้ มีหน้าต่างๆ เล็กๆ เหมือนห้องใต้หลังคาที่สามารถชมวิวชิลๆ ด้านนอกได้ด้วย

ห้องน้ำเป็นแบบชาวเวอร์ และเรนชาวเวอร์มีเครื่องทำน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม สบู่เหลว แชมพูสระผม และครีมนวดผมมีบริการอย่างเพียบพร้อม

ยังไม่ทันจะเก็บของเข้าห้องเรียบร้อยคุณแฟนก็รีบหยิบ Lenovo - Legion Phone Duel ขึ้นมาเล่นอย่างเร็วไว ที่นางเพิ่งไปถอยมาใหม่ล่าสุดแถมโชว์ความเก๋ตั้งแต่แพ็คเกจจิ้งที่ดีไซน์ได้ล้ำเกินเบอร์ ด้วยกล่องสีดำสุดเท่และตัวอักษร LEGION สีน้ำเงินบนกล่อง คุณแฟนบอกกับเราว่าเดี๋ยวดูนะตอนเปิดกล่องออกมามีเซอร์ไพรส์ เราก็รีบตั้งใจดูซึ่งตอนเปิดกล่องออกมาได้ฟีลโรบ็อทกำลังแปลงร่างพร้อมมีเสียงซาวด์ที่ดังออกมาในจังหวะเปิดกล่องทันที!!! เรานี่งงเป็นไก่ตาแตก เฮ้ยยย มีเสียงด้วยเหรอ คุณแฟนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ถูกใจสายเกมมิ่งอย่างเขาเลยล่ะค่ะ ส่วนอุปกรณ์ในกล่องมีทั้งอะแดปเตอร์ฟาสท์ชาร์จ 90 วัตต์ พอร์ตเป็นแบบ USB Type-C 2 พอร์ต ที่สามารถเสียบพร้อมกัน 2 พอร์ต เปลี่ยนเป็นเทอร์โบชาร์จโดยสามารถชาร์จให้เต็มภายใน 30 นาที และชาร์จ 50% ภายใน 10 นาทีเท่านั้น...OMG!! สายชาร์จ เคสใส สายแปลง USB Type-C to 3.5mm. พร้อมกันนั้นตัวเครื่องก็ติดฟิล์มมาให้เรียบร้อย เรียกว่าอุปกรณ์ต่างๆ เขาอัดแน่นมาให้เต็มกล่องกันเลยค่ะ รุ่นของเราเป็นตัวท็อปสุดค่ะ Ram 16 GB, ROM สูงสุด 512GB UFS 3.1 แบตเตอรี่ 2500mAh แบบคู่ซึ่งรวมเป็น 5000mAh

ด้านหลังเครื่องมีไฟสุดเท่ ที่จะเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงิน เวลาเข้าแอปพลิเคชันทั่วไปและจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเวลาเข้าเกมส์เท่สุดๆ ไปเลย

พอเห็นเราทำท่าสนใจคุณแฟนก็รีบโชว์ Lenovo - Legion Phone Duel ให้เราได้ชมใหญ่เลยค่ะ นางเล่าว่าสมาร์ทโฟนเกมมิ่งเครื่องนี้มีอินเทอร์เฟซแนวนอนที่ละเอียดครั้งแรกของโลกเลยนะ ข้อนี้เหล่าเกมมิ่งจะรู้ดีเพราะถ้าระหว่างเล่นเกมอยู่จะเข้าใช้งานแอปอื่นๆ ในสมาร์ทโฟนก็ไม่ต้องหมุนกลับเป็นแนวตั้ง สามารถใช้ในโหมดแนวนอนได้อย่างต่อเนื่อง เริ่ดดดด

เล่าฟีเจอร์ต่างๆ ที่เอาใจสายเกมมิ่งไปแล้ว สายเซลฟี่อย่างเราก็ขอกรี๊ดดด ดังๆ กับกล้องถ่ายรูปที่สวยเกินเบอร์มากๆ ค่ะ บอกเลยว่าสาวๆ ต้องชอบแน่นอน เพราะเพียงใช้โหมดกล้อง ไม่ต้องผ่านแอปถ่ายรูป หรือแอปแต่งรูปให้วุ่นวายหน้าก็เนียนใสเหมือนผ่านมาสัก 10 แอป แถมถ่ายในที่มืดได้ดี กล้องหลังคู่ความละเอียดสูง 64 MP และกล้องมุมกว้าง 16 MP

หน้าเนียนเว่อร์วังอลังการมากๆ ค่ะ นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่เชียร์ให้คุณแฟนซื้อเครื่องนี้

ส่วนโหมดเซลฟี่กล้องหน้าก็เท่เกินใครเพราะจะมีป๊อปอัพกล้องออกมาด้านข้าง กล้องหน้าความละเอียด 20 MP และสามารถเปิดใช้ได้ในเวลาเพียง 0.5 วินาทีเท่านั้น ไม่เพียงเท่านี้ยังมีโหมดกล้องคู่ที่สามารถใช้กล้องหน้าและกล้องหลังได้ในคราวเดียวกัน สำหรับสายไลฟ์สตรีมรับรองว่าถูกใจแน่นอน

ถ่ายรูปกันจนหนำใจก็ชวนคุณแฟนไปเดินสำรวจภายในโรงสีสตูดิโอแห่งนี้ ซึ่งจะแบ่งโซน ทั้งโซนที่พัก โซนร้านอาหาร และโซนคาเฟ่ พร้อมกันนั้นยังมีการเก็บเครื่องสีข้าวโบราณ ซึ่งในอดีตที่นี่เคยเป็นโรงสีเก่าแก่อายุร้อยกว่าปี ตัวเครื่องสีข้าวนั้นทำจากไม้และใช้ระบบไอน้ำในการทำงาน เพื่อนๆ สามารถมาเดินชมและสอบถามเรื่องราวประวัติต่างๆ ของโรงสีแห่งนี้ได้เลยค่ะ พี่ๆ เจ้าหน้าที่นี่น่ารักและให้ข้อมูลได้ดีมาก

จากนั้นเราสองคนก็ขอไปนั่งชิลทานขนมและเครื่องดื่มสุดอร่อยที่ร้าน milli cafe ที่อยู่ภายในโรงสีสตูดิโอ ตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี่ผสมผสานกับอินดัสเตรียล เน้นใช้กระจกใสได้อารมณ์ความเป็นกลาสเฮาส์ เก๋ไก๋น่านั่งมากๆ

โต๊ะเก้าอี้เน้นใช้วัสดุจากไม้ ใส่ความวินเทจด้วยป้ายชื่อโรงสี สะท้อนคอนเซ็ปต์ของร้านที่ให้ภาพความเป็นโรงสีเก่าแก่ได้อย่างดีทีเดียวค่ะ

ส่วนเครื่องดื่มที่เราสั่งมาทานในวันนี้ได้แก่ โยเกิร์ตมะม่วง(140 บาท) เครื่องดื่มที่ช่วยคลายร้อนรสหวานเย็นชื่นใจใส่เนื้อมะม่วงมาให้แบบเยอะมากๆ ส่วนคุณแฟนสั่ง Butterfly Coffee Cube (120 บาท) ตัวนี้จะเสิร์ฟมาเป็นแก้วที่ด้านในใส่น้ำแข็งกาแฟท็อปด้วยฟองนม เสิร์ฟพร้อมกับนมอัญชัน เวลาดื่มก็เทนมลงไปในแก้ว รสชาติขมนิดๆ หวานนม นัวๆ

ส่วนขนมเราสั่งบาน็อฟฟี่ (130 บาท) เข้มข้นด้วยช็อกโกแลต กรุบๆ ด้วยแคร็กเกอร์ช็อกโกแลตด้านล่าง ตัวครีมด้านบนก็อร่อยมากๆ ค่ะ หวานมัน ฟินสุดๆ ไปเลย

หลังจากทานขนมเสร็จเราก็ขึ้นมากลิ้งนอนเล่นบนเตียง ส่วนคุณแฟนไปใช้มุมหน้าห้องนั่งเล่นเกมส์เพลินเขาเลยล่ะค่ะ คุณแฟนบอกว่าเล่นมาตั้งนานแบตก็ยังอึดแถมเครื่องไม่ร้อนอีกด้วย นี่ถ้าอยู่บ้านก็จะต่อออกจอทีวีด้วย USB Type-C และยังสามารถใช้งานผ่านคีย์บอร์ดหรือเมาส์ได้อีกด้วย

ด้วยหน้าจอ 144hz ทำให้การเล่นเกมดูสมจริง ภาพคมชัดสุดๆ

เวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนเย็นท้องเริ่มร้องเลยชวนคุณแฟนไปนั่งทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารของโรงสีสตูดิโอค่ะ บอกเลยว่าบรรยากาศยามเย็นของที่นี่โรแมนติกสุดๆ มีลมเย็นจากแม่น้ำพัดเข้ามาทักทาย แสงไฟในร้านเริ่มส่องประกายทำให้โรงสีแห่งนี้สวยงามยิ่งขึ้น

มุมที่นั่งก็มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นมุมเปลตาข่ายสำหรับนั่งชิลและถ่ายรูปริมน้ำ โซนคาเฟ่ห้องแอร์ และโซนร้านอาหารแบบโอเพนแอร์

เมนูที่เราทานในวันนี้ค่ะ เริ่มต้นด้วยยำเห็ดเข็มทองทอดภูเขาไฟ (ราคา 260 บาท) เสิร์ฟมาแบบภูเขาไฟ ตัวเห็ดเข็มทองกรอบ น้ำยำรสชาติครบรส เปรี้ยว หวาน เผ็ด ในน้ำยำจะมีกุ้งแห้ง หมึกสด และหอยเชลล์ให้เคี้ยวด้วย กินเพลินมากๆ

ต่อด้วยแกงส้มยอดมะพร้าวไข่ปลาริวกิว (ราคา 390 บาท) รสชาติเปรี้ยวนำ ไม่เผ็ดมาก คนไม่ทานเผ็ดก็ทานได้ ตัวยอดมะพร้าวอ่อนกรุบกรอบ ไข่ปลาริวกิวรสไม่คาว และให้มาเยอะมากๆ ค่ะ อร่อยสุดๆ

ปิดท้ายด้วยใบเหลียงผัดไข่ (ราคา 190 บาท) รสชาติกลมกล่อมทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะทานเล่นๆ ก็เพลินสุดๆ

ก่อนจะกินก็ขอทำพิธีกรรมถ่ายรูปกับอาหารกันก่อนค่ะ บอกเลยว่าทริปนี้รูปเยอะมากๆ เพราะภาพที่ออกมาสวยโดนใจเลยอยากให้คุณแฟนถ่ายให้ตลอดเวลา

บรรยากาศยามเย็นของโรงสีสตูดิโอซึ่งช่วงนี้เขาประดับไฟและต้นคริสต์มาสเข้ากับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองปลายปีแบบนี้มากๆ เลยค่ะ

ทริปเที่ยวเกาะสั้นๆ 2 วัน 1 คืน ซึ่งถึงแม้ไม่ได้ไปเกาะในทะเล แต่ด้วยวิวสวยๆ ของโรงสีสตูดิโอ อาหารสุดอร่อย และที่สำคัญทริปนี้มีคนข้างๆ ที่จ่ายให้ตลอดทั้งทริปแลกกับการมาเป็นเพื่อนเปลี่ยนบรรยากาศให้คุณแฟนมาพักผ่อนจากเรื่องเครียดๆ ได้มานั่งเล่นเกม ถ่ายรูปสวยๆ ด้วย Lenovo - Legion Phone Duel เพียงเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว

ที่ตั้ง : โรงสีสตูดิโอ ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จ.นนทบุรี
ร้านอาหารเปิดบริการ : ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
ราคาที่พักรวมอาหารเช้า : 2,500 - 3,500 บาท
โทรศัพท์ : ‭094-159-6664 , 02-082-8865
GPS : https://goo.gl/maps/yJEYPv5tJjq