calendar_month 22 พ.ย. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 52,225 / ทริปตัวอย่าง
ใครบอกว่าวันหยุดต้องไปเที่ยวไกลๆ สำหรับคู่อื่นอาจจะใช่ แต่สำหรับคู่เราสองคนจะเน้นเที่ยวใกล้ๆ แต่บอกเลยว่าความใกล้แบบนี้ล่ะมีอะไรที่น่าค้นหา อย่างจังหวัดนนทบุรี จังหวัดที่เรียกว่าใกล้กรุงเทพฯ มากๆ จนหลายคนอาจจะเลือกไปเที่ยวแบบวันเดียวกลับ แต่ทริปนี้เราขอไปนอนสัมผัสเมืองนนท์อย่างใกล้ชิดเหมือนเพื่อนสนิทที่ขอไปทำความรู้จักแบบใกล้ๆ ใช้เวลาดื่มด่ำเมืองนนท์ ค้นหามุมมองใหม่ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าในนนทบุรีก็มีแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย กับทริปขับรถเที่ยวนนทบุรี ข้ามไปนอนเกาะ(เกร็ด) ค้นหาอันซีนเมืองนนท์ที่คุณอาจไม่รู้ ถ้าพร้อมแล้วก็เข้าเกียร์ D แล้วเดินทางมุ่งหน้าไปนนทบุรีกับเราได้เลย
ปกติเวลาเดินทางไปเที่ยวกับคุณแฟนสองคนก็มักจะสลับกันเป็นคนขับและตุ๊กตาหน้ารถ แต่คราวนี้เราขออาสาเป็นคนขับตลอดทริปเพราะกำลังเห่อรถยนต์คันใหม่ล่าสุด ALL-NEW ISUZU MU-X ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เราก็รีบจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่ง ALL-NEW ISUZU MU-X คันนี้เป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ดีไซน์ด้านนอกสวย หรู Luxury สุดๆ เพิ่มความดุดันด้วยล้ออัลลอยไดนามิคขนาด 20 นิ้วดีไซน์คมเข้ม ขับผ่านใครก็ต้องมองแบบเหลียวหลังกันทีเดียว
มาดูการดีไซน์ภายในห้องโดยสารที่บอกเลยว่ากว้างขวาง โอ่อ่า มากๆ และหรูหรา
มีไฟ Ambient Light สุดเท่ที่เพิ่มความสปอร์ตให้กับภายในห้องโดยสาร
แถมไฮเทคมากเหมือนรถยุโรปเลย ทั้งเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสุดล้ำตลอดทั้งคัน และ เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยที่ครบครัน ล้ำสมัย ด้วย Isuzu Matrix Safety Intelligence (ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS และ ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน)
น้ำหนักพวงมาลัยก็กำลังพอดีเลยค่ะ ผู้หญิงอย่างเราสามารถขับคันนี้ได้สบายๆ เลย
จุดหมายแรกของวันนี้ก็คือเกาะเกร็ดค่ะ บอกเลยว่าเรามาเที่ยวเกาะเกร็ดกันบ่อยมากๆ แต่ยังไม่เคยนอนค้างคืนเกาะเกร็ดกันเลยสักครั้ง พอดีคุณแฟนไปพบว่ามีที่พักน่ารักที่ชื่อว่าบ้านย่าโฮมสเตย์ เป็นที่พักริมน้ำ เราสองคนเลยตัดสินใจจองไปทันที ทางที่พักแนะนำว่าถ้าเอารถมาให้นำไปจอดที่ร้านครัวจ่ายัณ 2 ซึ่งเขาจะมีบริการรับฝากรถแบบข้ามคืนคิดค่าบริการคันละ 100 บาท/คัน/คืน เลยได้ฝาก ALL-NEW ISUZU MU-X สุดรักคันนี้เอาไว้ที่ร้าน จากนั้นก็เรียกพี่วินให้ไปส่งที่วัดสนามเหนือแล้วนั่งเรือข้ามฟากเดินทางมายังเกาะเกร็ดค่าเรือเพียง 2 บาทเท่านั้น ส่วนใครที่ไม่ได้แวะเดินตลาด อยากตรงมาที่พักเลยแนะนำให้นั่งเรือที่วัดกลางเกร็ดค่ะ จะมีเรือบริการมาถึงที่พักได้เลยค่าเรือคนละ 15 บาท
นั่งเรือข้ามฟากไม่ถึง 5 นาทีเราก็เดินทางมาถึงเกาะเกร็ดที่ท่าเรือวัดปรมัยยิกาวาสแล้วค่ะ ก่อนอื่นก็ขอเดินทางไปไหว้พระทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยที่วัดปรมัยยิกาวาสกันก่อน
วัดปรมัยยิกาวาสนั้นเดิมชื่อวัดปากอ่าวเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าท้ายสระของกรุงศรีอยุธยา ต่อมากลายเป็นวัดร้างจนชาวมอญที่อพยพมาอยู่ที่เกาะเกร็ดในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชได้มาช่วยกันบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ และต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินมาเกาะเกร็ดและได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์พร้อมกับโปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนนามวัดเป็น "วัดปรมัยยิกาวาศ" (บรม+อัยยิกา+อาวาศ) แปลว่าวัดของยาย เพื่อถวายเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระเจ้าบรมมหัยยิกาเธอ กรมสมเด็จพระสุดารัตนราชประยูร และยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ภายหลังชื่อวัดได้เขียนเป็น "วัดปรมัยยิกาวาส"
ภายในวัดมีจุดที่น่าสนใจมากมาย เริ่มต้นที่พระอุโบสถที่ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยประยุกต์ บานหน้าต่างประดับด้วยปูนปั้นเขียนด้วยสี โดยใช้สีชมพูและสีทองสวยงามมากๆ ค่ะ ส่วนด้านหลังพระอุโบสถมีเจดีย์ทรงมอญหรือมุเตาซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เจดีย์นี้ เมื่อปี พ.ศ. 2427
จากนั้นเดินไปบริเวณหลังสุดของวัดก็จะพบกับพระวิหารพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่เป็นที่สามในอำเภอปากเกร็ด ด้านหน้าพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนศิลปะพม่า ซึ่งซาน ซิว ซูน ชาวพม่าทูลเกล้าฯ ถวายให้กับ รัชกาลที่ 5 ส่วนด้านหลังพระวิหารประดิษฐานพระนนทมุนินท์ พระพุทธรูปปางขัดสมาธิเพชรซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรี
เจดีย์เอียงวัดปรมัยฯ ที่ตั้งอยู่ริมน้ำบริเวณปลายแหลมของเกาะสัญลักษณ์ของเกาะเกร็ดที่ใครไม่มาถ่ายรูปที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงเกาะเกร็ด ส่วนสาเหตุที่เจดีย์วัดปรมัยฯ เอียงนั้นเดิมเป็นเจดีย์ที่สร้างตั้งตรงแต่เพราะน้ำเซาะตลิ่งพังทำให้เจดีย์ทรุดตัวและเอียงลง เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ใครมาเกาะเกร็ดก็ต้องจำได้ ทางกรมศิลปากรจึงได้มีการซ่อมแซมพระเจดีย์แต่ยังคงสภาพเอียงเอาไว้
จากนั้นก็ถึงเวลาไปตระเวนกินของอร่อยในเกาะเกร็ดกันแล้วค่ะ มาดูกันว่ามาเกาะเกร็ดจะต้องซื้ออะไรกลับไปกันบ้าง
สิ่งแรกที่คนมาเกาะเกร็ดต้องซื้อคือเหล่าบรรดาดอกไม้ทอด ผักทอด ที่จะมีขายทั่วเกาะเลยค่ะ จะซื้อกลับบ้านให้เขาแยกน้ำจิ้ม หรือจะเดินทานโดยราดน้ำจิ้มเลยก็ได้ ดอกไม้ทอดของเกาะเกร็ดมีตั้งแต่ดอกอัญชัน ดอกเข็ม ดอกสโน ดอกเฟื่องฟ้าและสารพัดดอกมากมายที่นำมาชุบแป้งแล้วไปทอดกรอบๆ ร้านขายดอกไม้ทอดร้านใหญ่จะตั้งอยู่บริเวณทางเดินจากวัดปรมัยฯ ไปถนนคนเดินหมู่บ้านคลองโอ่งอ่างค่ะ
ไฮไลท์ของเกาะเกร็ดก็ต้องทอดมันหน่อกะลา โดยใช้หน่อกะลาพืชท้องถิ่นของเกาะเกร็ดลักษณะต้นจะเหมือนข่าที่เราจะพบได้ทั่วเกาะเกร็ด นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วไปผสมกับเครื่องแกงทอดมัน จากนั้นนำไปปั้นเป็นก้อนเล็กๆ แล้วนำไปทอด ตัวหน่อกะลาจะไม่มีรสชาตินะคะแต่จะมีเท็กเจอร์ความกรุบๆ กินเพลินอร่อยมากๆ
อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดคือขนมไทยค่ะ เพราะเกาะเกร็ดขึ้นชื่อเรื่องขนมไทย มีคลองขนมหวานซึ่งบ้านเรือนบริเวณคลองขนมหวานหลายบ้านจะทำขนมไทยสืบทอดกันมา มีร้านขนมหวานมากมายกระจายไปทั่วเกาะเกร็ด ไม่ว่าจะเป็นขนมไทยทั่วไปอย่างทองหยิบ ทองหยอด หรือขนมไทยโบราณที่หาหานได้ยาก อย่างลืมกลืน จ่ามงกุฏ ทองเอก ทองนพคุณ กระเช้าสีดาก็มีให้เลือกทาน จะซื้อไปทานเองหรือซื้อไปฝากก็ได้ค่ะ เพราะเขาทำออกมาได้น่ารัก น่าทานมากๆ บางร้านครีเอทสุดๆ โดยนำลูกชุบมาทำเป็นเข่งปลาทูโอ๊ยย เวรี่กู๊ดแห่งการครีเอทเลย งานนี้เราเลยช้อปกระจาย ได้ขนมติดมือกลับไปมากมาย
และอีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากแนะนำคือการมานั่งชิลทานข้าวแช่ที่เกาะเกร็ดค่ะ ซึ่งข้าวแช่คืออาหารกึ่งคาวกึ่งหวาน เป็นอาหารของคนมอญที่มักจะทานกันในหน้าร้อน วิธีทำใช้ข้าวสุกมาแช่ในน้ำลอยดอกมะลิเย็นๆ ทานกับเครื่องเคียงอย่างลูกกะปิ พริกหยวกสอดไส้ หมูฝอย ไชโป๊วหวาน ซึ่งร้านประจำของเราสองคนคือร้านข้าวแช่คุณแดงค่ะ จากสะพานข้ามคลองเดินมานิดเดียวก็จะพบกับร้านข้าวแช่คุณแดงตั้งอยู่ริมน้ำ ข้าวแช่ชุดละ 60 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ภายในร้านยังมีเมนูอาหารไทยอร่อยๆ อีกมากมายเลยค่ะ
เดินกินของอร่อยกันจนอิ่มแปล้ ตะวันเริ่มบ่ายคล้อยเราก็เลยเดินทางไปเช็คอินที่พักที่บ้านย่าโฮมสเตย์ค่ะ ตั้งห่างจากวัดปรมัยฯ ประมาณกิโลกกว่าๆ จะเดินเลาะทางเดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ หรือถ้าเหนื่อยก็สามารถนั่งพี่วินบริเวณวัดปรมัยฯ ให้ไปส่งก็ได้ราคาวินคนละ 40 บาท
ส่วนเราสองคนเดินกินกันจนเหนื่อยหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อนเลยเลือกโบกพี่วินมาส่ง พอมาถึงที่พักก็รู้สึกถึงความอบอุ่นเหมือนเดินเข้ามาในบ้านของคุณย่า คุณยาย บ้านไม้ริมน้ำมีม่านสีขาวปักลวดลายเล็กๆ กั้นกรองแสงให้กับหน้าต่าง เครื่องเรือนต่างๆ เน้นใช้งานไม้ ของตกแต่งสิ่งละอันพันละน้อยทำให้นึกถึงความอบอุ่นของคุณย่าคุณยาย การมาที่นี่ก็เหมือนกับการพักจากความวุ่นวายในเมืองหลวงมารับความสุข ความอบอุ่น เติมพลังใจกลับไปสู่เมืองกรุง
ห้องพักของที่นี่มีให้เลือก 8 ห้อง ทั้งแบบห้องน้ำในตัวและห้องน้ำรวม ราคาเริ่มตั้นตั้งแต่ 700 - 1,600 บาท รองรับได้ตั้งแต่ 2-4 คน ส่วนเราจองห้องที่ฮอตที่สุดของที่นี่คือห้องพักริมแม่น้ำพร้อมระเบียง ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาเลยค่ะ ภายในจะมีห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องปรับอากาศ แต่จะไม่มีทีวีให้นะคะ แม้จะไม่มีทีวีรับรองว่าไม่มีเบื่อเพราะวิวตรงหน้าของเราน่าสนใจกว่าทีวีเสียอีก ห้องนี้วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี ราคา 1,100 บาท วันศุกร์ - อาทิตย์ และวันหยุดยาวราคา 1,300 บาท ส่วนวันหยุดเทศกาลราคา 1,500 บาท ราคานี้รวมอาหารเช้าให้แล้วค่ะ
มุมชิลๆ หน้าห้องพร้อมเตียงไม้ให้นอนชิลชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา
เก็บของเข้าที่พักแล้วก็ยืมจักรยานของที่พักที่มีให้บริการฟรีปั่นไปทานอาหารเย็นที่ร้านบ้านนายยิ้มค่ะ ร้านอาหารริมน้ำที่ตกแต่งได้ฮิปน่านั่งมากๆ
เจ้าของร้านคือพี่ยิ้มที่ชอบสไตล์ดนตรีเร็กเก้ และใช้สีเขียว เหลือง แดง ธีมสีของดนตรีเร็กเก้มาตกแต่งโดยของตกแต่งร้านส่วนมากพี่ยิ้มทำเองเกือบทุกอย่างเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ เพ้นท์ภาพบนผนังของร้าน พร้อมไปกับการเปิดเพลงเร็กเก้ฟังสบาย
มีมุมที่นั่งทั้งด้านในร้าน และระเบียงริมน้ำด้านนอก ร้านขนาดไม่ใหญ่แต่บรรยากาศเป็นกันเองเพราะพี่ยิ้มเดินเซอร์วิสลูกค้าได้อย่างทั่วถึง พี่ยิ้มบอกกับเราว่าตอนแรกว่าจะทำเป็นที่ปาร์ตี้สังสรรค์ของกลุ่มเพื่อนเท่านั้น แต่ตอนหลังก็มาทำเป็นร้านให้คนอื่นได้เข้ามาสัมผัสความชิล ในส่วนอาหารมีน้องสาวของพี่ยิ้มจะเป็นคนทำ เน้นอาหารไทยรสจัดจ้านและอาหารจำพวกกลับแกล้มเพื่อทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ เคล้าไปกับบรรยากาศชิลๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
เมนูที่เราสั่งมาทานในวันนี้ประกอบไปด้วย ผัดพริกเผารวมมิตร(100 บาท)ใช้กุ้ง หมึก นำมาผัดกับพริกเผาหอมๆ รสกลมกล่อม ต่อด้วยรวมมิตรนึ่งมะนาว(100 บาท) มีทั้งหมึก กุ้ง ปลากะพง ราดด้วยน้ำยำรสจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดเกินไปทานเป็นกับแกล้มได้อร่อยมากๆ มาจัดจ้านในย่านนี้กันต่อกับยำสามกรอบ (ราคา 80 บาท) ที่เขาใส่กระเพาะปลา ปลากรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ราดด้วยน้ำยำแซ่บๆ รสจัดกรอบอร่อย เคี้ยวสนุกมากๆ ปิดท้ายด้วยต้มยำกุ้งน้ำข้น(100 บาท) รสจัดจ้าน เข้มข้น พร้อมกุ้งตัวโตๆ ทานกับข้าวสวยอร่อยฟินสุดๆ
ที่ตั้ง : บ้านนายยิ้ม 21 หมู่ 1 เกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
เปิดบริการ : 11.30 - 23.00 น.(ปิดบริการวันอังคาร-วันพุธ)
เบอร์ติดต่อ : 092-886-9774
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/vP8N7ettaSNrsNxD8
อิ่มอร่อยกับอาหารเย็นแล้วเราสองคนก็ปั่นจักรยานกลับมาที่พัก นั่งชมบรรยากาศแม่น้ำเจ้าพระยาในยามเย็น ภาพวิถีชีวิตชาวนนทบุรีที่เดินทางสัญจรทางน้ำ และเข้านอนไปพร้อมความสุขมากมายที่ได้รับในวันนี้
เช้าวันที่สองตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นในยามเช้าของแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับอาหารเช้าข้าวต้มร้อนๆ ของทางที่พักที่เสิร์ฟมาในปิ่นโต พร้อมกับไข่ลวก
ซึ่งนอกจากข้าวต้มแล้วทางที่พักยังมีบริการขนมปังปิ้ง แยมผลไม้ ชา กาแฟ ให้เราฟรีๆ สามารถทานได้ไม่อั้น และนอกจากนี้ใครที่อยากดื่มกาแฟดริปยามเช้าสามารถแจ้งทางที่พักซึ่งมีบริการกาแฟดริปชุดละ 50 บาท ทานได้ 2 คน เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องบดกาแฟสไตล์วินเทจ ดริปเปอร์ กาน้ำคอห่าน ให้เราได้มาบดกาแฟและดริปกาแฟเอง กลิ่นกาแฟหอมๆ ยามเช้า และรสชาติกาแฟดริปที่นุ่มนวลก็ช่วยปลุกพลังในยามเช้าให้พร้อมกับการเดินทางไปเที่ยวที่อื่นๆ ในเมืองนนท์กันแล้วค่ะ
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราก็เช็คเอาท์แล้วแจ้งให้ทางที่พักเรียกเรือมารับบริเวณท่าน้ำให้ไปส่งยังท่าน้ำวัดกลางเกร็ดเพื่อไปเอารถแล้วเดินทางไปเที่ยวต่อ
ที่ตั้ง : บ้านย่าโฮมสเตย์ 28 หมู่ที่ 2 เกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี
ราคา : 700 - 1,600 บาท
เบอร์ติดต่อ : 065 424 9051
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/mNqBJK9kRLuHWNyNA
หลังจากเช็คเอาท์แล้วก็เดินทางไปวัดบางจากกันค่ะ ซึ่งแพลนวัดบางจากนั้นเป็นแพลนที่เพิ่งเพิ่มล่าสุดเพราะเมื่อวานตอนที่นั่งทานข้าวแช่ที่ร้านข้าวแช่คุณแดงแล้วเราพบวัดสวยริมแม่น้ำ ที่มีพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่อยู่ริมแม่น้ำ เลยรีบหาข้อมูลว่าชื่อวัดบางจากและอยู่ไม่ไกลจากเกาะเกร็ดด้วยค่ะ เราเลยขับรถข้ามสะพานพระราม 4 เดินทางมายังวัดบางจาก ซึ่งระหว่างขับรถออกจากวัดสนามเหนือข้ามสะพานพระราม 4 มานั้นเจอฤทธิ์รถติดจากทางห้าแยกปากเกร็ดค่อนข้างหนักทีเดียวค่ะ ถ้าขับรถคันอื่นอาจจะเมื่อยขาที่ต้องเหยียบเบรกตลอดเวลา แต่บอกเลยกับ ALL-NEW ISUZU MU-X เขามีระบบ Auto Brake Hold ระบบช่วยหยุดรถอยู่กับที่โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้างไว้ และปลดเบรกอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง จะขับรถในเมืองเผชิญรถติดก็สะดวกสบาย หรือจะขับไปในเส้นทางหฤโหดก็มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเผชิญทุกอุปสรรคอย่างมั่นใจ พร้อมกันนั้นยังมีเบรกมือแบบไฟฟ้าอำนวยความสะดวกในการเดินทางสุดๆ
โดยทางเข้าวัดจะอยู่บริเวณทางลงสะพานพระราม 4 เลยค่ะ ลงสะพานปุ๊บชิดซ้ายแล้วไปยูเทิร์นใต้สะพาน จากนั้นขับตรงมา มายูเทิร์นใต้สะพานพระราม 4 อีกครั้งแล้วเตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยวัดได้เลย อ๊ะลืมบอกไปว่าเส้นนี้จะมีสะพานกลับรถแบบเกือกม้าเยอะซึ่งรถ ALL-NEW ISUZU MU-X คันนี้ก็เกาะถนนมากๆ ค่ะ ซับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ใช้ความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง ก็สามารถเข้าโค้งได้สบายๆ เกาะถนนสุดๆ
ซึ่งวัดบางจากนั้นก็เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดนนทบุรี สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2365 จุดเด่นคือพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีทองอร่ามหน้าตักกว้าง 19 เมตร เป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี หันพระพักตร์ไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณฐานของพระพุทธรูปนั้นเราสามารถเดินลอดเข้าไปใต้ฐานได้ค่ะ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปมากมาย มีประตูทางเข้า 2 ประตูคือประตูมังกรสำหรับผู้ชายเดินเข้า ประตูเสือสำหรับผู้หญิงเดินเข้า และประตูทางออกประตูเดียวคือประตูราหู เชื่อว่าใครได้มาเดินลอดใต้ฐานพระพุทธรูปจะนำสิ่งดีๆ เข้าสู่ตัวเราพร้อมกับขจัดสิ่งไม่ดีให้ออกไป
วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนมากๆ ค่ะ และที่จอดรถของเราก็เป็นลานโล่งแจ้งไม่มีหลังคาแต่เชื่อไหมว่าขึ้นรถมาเบาะรถก็ไม่ร้อนเลยค่ะ เพราะมีเทคโนโลยี Cool Max ที่ช่วยลดการสะสมความร้อน
ก่อนออกจากวัดสายมูอย่างเราก็ขอไปเพิ่มความสิริมงคลให้รถสุดที่รักคันนี้ด้วยการลอดท้องช้างสามเศียร หรือช้างเอราวัณที่เชื่อว่าจะช่วยหนุนดวง ช่วยให้แคล้วคลาด ปลอดภัย วิธีการลอดว่าคาถาพร้อมทำบุญ 39 บาท จากนั้นก็ค่อยๆ ขับรถลอดท้องช้างในครั้งเดียว
จุดหมายต่อไปคือสวนมาลัยบัววิคตอเรียแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งคุณแฟนรับหน้าที่เป็นเนวิเกเตอร์เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนของเราเข้ากับระบบ Apple CarPlay หรือใครมีแอนดรอยด์ก็สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Android Auto หาแผนที่การเดินทางไปสวนมาลัยบัววิคตอเรียจาก Google Maps ได้เลยค่ะ สะดวกสบายมากๆ
ถนนที่ไปยังสวนมาลัยบัววิคตอเรียเป็นถนนในชุมชนที่ค่อนข้างเล็กและแคบมากๆ ค่ะ แต่ด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง ADAS (Advanced-Driver Assistance Systems) ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัยโดยมีกล้องหน้าคู่ 3D Imaging Stereo Camera กล้องหน้าคู่ที่ตรวจจับวัตถุต่างๆ ด้วยการสแกนภาพ 3 มิติ แบบ Real Time ที่แม่นยำกว่ากล้องเดี่ยวแบบ Mono Camera โดยทำงานร่วมกับเรดาร์ 2 จุด และเซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน
สวนขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ แต่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มากมาย และบัววิคตอเรียหรือบัวกระด้งยักษ์ที่ทางสวนเล่าให้เราฟังว่าถ้าไซส์ใหญ่สุดจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 เมตรกันเลย ซึ่งเราสามารถลงไปยืนถ่ายรูปบนใบบัวได้ด้วยนะ โดยจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 70 กิโลกรัมค่ะ
ภายในสวนมีชมบัวคาเฟ่ คาเฟ่เล็กๆ บริการเครื่องดื่ม ชา กาแฟ สมูตตี้ อิตาเลียนโซดา ให้นั่งจิบคลายร้อนชมบัวไปด้วย
ส่วนใครอยากซื้อบัววิคตอเรียกลับไปปลูกที่บ้านทางสวนก็มีต้นกล้าที่เพาะในกะละมังต้นละ 500 บาทให้ไปปลูกที่บ้าน ซึ่งอายุที่เขาจะโตเต็มที่ประมาณ 1 ปี เขาก็จะมีใบบัวขนาดใหญ่ให้เราได้ชื่นชมแล้วจะผลัดใบใหม่ออกมาตลอด โดยการปลูกบัววิคตอเรียนั้นสิ่งสำคัญเลยก็คือแดด และน้ำ งานนี้เราเลยซื้อกลับบ้านไปลองปลูกกันสองต้น เวลานำขึ้นรถก็สะดวกสบายเพราะสำหรับ ALL-NEW ISUZU MU-X สามารถปรับเบาะได้หลายรูปแบบช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานในรถสำหรับบรรทุกสิ่งของได้อย่างยอดเยี่ยม
เบาะตอน 2 และ 3 ที่สามารถพับลงได้ให้ราบเรียบเป็นพื้นเดียวกันได้ หรือเลือกพับเบาะบางส่วนเพื่อช่วยให้บรรทุกสิ่งของได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
พับเบาะตอน 3 ลงไปก็ทำให้ได้พื้นที่ด้านหลังที่กว้างขวางมากๆ สำหรับสายช้อปของชิ้นใหญ่ เช่นเฟอร์นิเจอร์ หรือต้นไม้ต้นใหญ่อย่างเรากดไลก์ให้รัวๆ เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้วก็ปิดประตูท้ายด้วยระบบไฟฟ้า Power Tailgate และยังปลอดภัยด้วยระบบ Jam Protection ซึ่งเป็นระบบป้องกันการหนีบอัตโนมัติอีกด้วย
ที่ตั้ง : แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สวนมาลัยบัววิคตอเรีย ถนนบางบัวทอง - สุพรรณบุรี ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 9.00 - 17.00 น.
ค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก / 10 บาท
ค่าลงถ่ายรูปบนบัว : ผู้ใหญ่ 100 บาท / เด็ก 50 บาท
เบอร์ติดต่อ : 089 057 2289
GPS : https://goo.gl/maps/ruCP5cmtMuvhNHc99
เดินทางต่อไปยังวัดปรางค์หลวงอีกหนึ่งอันซีนในนนทบุรีที่เราไม่คิดว่าในนนทบุรีจะมีโบราณสถานแบบนี้กับองค์พระปรางค์ที่ก่อด้วยอิฐสีแดง และร่องรอยทางประวัติศาสตร์ซึ่งราวกับว่าเรากำลังเดินอยู่ในกรุงเก่า
วัดปรางค์หลวงเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดในเขตปริมณฑล สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) แห่งกรุงศรีอยุธยาตอนต้นประมาณปี พ.ศ. 1890 จุดเด่นคือองค์พระปรางค์ศิลปะสมัยอยุธยา ลักษณะก่ออิฐสอดินยอดเจ็ดชั้น ย่อมุมไม้สิบสอง ประดับลวดลายปูนปั้นแนวฐานหน้ากระดาน เรือนธาตุมีซุ้มจระนำทั้งสี่ทิศประดิษฐานพระพุทธรูปยืน องค์พระปรางค์ตั้งอยู่ระหว่างพระอุโบสถและวิหารน้อย 2 หลัง ปัจจุบันองค์พระปรางค์เอนเนื่องจากดินทรุดตัว
ภายในพระอุโบสถประดิษฐานหลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ลงรัก ปิดทอง หน้าตัก 9 คืบ ปัจจุบันองค์พระกำลังรอปิดทองเนื่องจากการเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่ปี พ.ศ.2544 ในอดีตหลวงพ่ออู่ทองนั้นประดิษฐานในพระอุโบสถหลังเก่าที่ถูกทำลายไปในปี พ.ศ.2536 และรอบพระอุโบสถยังมีใบเสมาที่ทำจากหินชนวนซึ่งเป็นศิลปะสมัยอยุธยา แต่เดิมจะมีใบเสมาจำนวนหลายใบอยู่รอบพระอุโบสถแต่เนื่องจากพระอุโบสถหลังเก่าถูกทำลายทำให้ใบเสมาถูกทำลายลงไปด้วย หลงเหลืออยู่เพียง 1 ใบที่สมบูรณ์ที่สุดบริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ
ชมความสวยงามของวัดปรางค์หลวงกันไปแล้วท้องก็เริ่มร้องกันอีกแล้วค่ะ เราเลยขับรถออกจากวัดเพื่อเดินทางไปหาของอร่อยทาน
และสิ่งที่ทำให้เราปลื้มกับ ALL-NEW ISUZU MU-X คันนี้คือมี Charging Station หลายจุดและหลากหลายมากๆ แถมยังเป็น Fast Charger อีกด้วยนะ
ปิดท้ายทริปนี้กับการมาทานอาหารอร่อยและนั่งห้อยขาชมคลองที่ร้านมอง Cool ดูคลองตั้งอยู่ที่อำเภอบางกรวย จากวัดขับรถไปประมาณ 10 นาทีเท่านั้น ก็ถึงร้านแล้วค่ะ ตัวร้านจะทำเป็นซุ้มที่นั่งทรงโค้งหลังคามุงจากริมบึงน้ำ บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยสวนผลไม้ เหมาะกับการมานั่งห้อยขาทานอาหารอร่อย
เมนูเด็ดของร้านนี้คือก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำข้นรสจัดจ้าน วันนี้เราเลยสั่ง เส้นเล็กน้ำตกหมู (30 บาท) พร้อมกับเมนูอร่อยอื่นๆ ทั้งขนมจีนแกงเขียวหวาน(55 บาท) ข้าวหน้าคอหมูย่าง(55 บาท) ปีกไก่ทอดน้ำปลา(60 บาท) ปอเปี๊ยะทอด(55 บาท) ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งน้ำกระเจี๊ยบและน้ำเก๊กฮวย(แก้วละ 25 บาท) อาหารอร่อยราคาน่ารักถูกใจ แถมบรรยากาศยังดีอีกด้วย เป็นมื้อปิดทริปนนทบุรีที่อร่อยฟินสุดๆ
ที่ตั้ง : ร้านมอง Cool ดูคลอง ตำบลมหาสวัสดิ์ อำเภอบางกรวย นนทบุรี
เบอร์ติดต่อ : 0814493015
เปิดบริการ : เวลา 9.00-18.00 น. (ปิดทุกวันพุธ)
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/y86X3Z1k7Cb9i3zV6
นนทบุรีจังหวัดใกล้กรุงแต่ยังมีมุมต่างๆ มากมายให้เราได้ไปสัมผัสและรู้สึกตื่นเต้นอยู่ทุกครั้งที่มา การเดินทางครั้งนี้นอกจากจะประทับใจในเส้นทาง คนร่วมทางและร่วมชีวิตที่ไปไหนไปกันทุกทริปไม่เคยบ่นแล้ว ยังขอยกตำแหน่งเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจให้กับ ALL-NEW ISUZU MU-X เพราะทำให้เราประทับใจ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยเพื่อพาเราไปยังทุกจุดหมายที่ใจเราต้องการ
Tags: นนทบุรี ทริปตัวอย่าง เที่ยวนนทบุรี ที่เที่ยวนนทบุรี ที่กินนนทบุรี ร้านอาหารนนทบุรี คาเฟ่นนทบุรี วัดสวยนนทบุรี เกาะเกร็ด เที่ยวเกาะเกร็ด ที่พักนนทบุรี ALL-NEW ISUZU MU-X ISUZU อีซูซุ รถยนต์ วัดปรมัยยิกาวาส บ้านย่าโฮมสเตย์ ร้านบ้านนายยิ้ม วัดบางจาก สวนมาลัยบัววิคตอเรีย วัดปรางค์หลวง ร้านมอง Cool ดูคลอง
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 106 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 298 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 390 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 513 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 730 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,044 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 480 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 911 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,243 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,404 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,765 อ่าน