0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี ไปเช้าเย็นกลับ งบไม่เกินคนละ 500 บาท

calendar_month 17 พ.ย. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 68,584 / ทริปตัวอย่าง

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen ของไทย ที่เชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องชอบ ก็คือรถไฟขบวนพิเศษเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในชื่อ ‘รถไฟลอยน้ำ’ เป็นขบวนพิเศษที่ปีปีนึงจะให้บริการประมาณ 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งเป็นทริปที่การรถไฟแห่งประเทศไทยได้จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทาง กรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์-กรุงเทพ บอกเลยว่ารถไฟขบวนนี้ไม่เหมือนขบวนไหนๆ เพราะเพื่อนๆ จะได้เห็นวิวของเขื่อนที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยผืนน้ำและผืนป่าเขียวชอุ่มสองข้างทาง เอาล่ะ! ถ้าอยากรู้ว่าจะสนุกแล้วชิลขนาดไหนก็ตีตั๋วตามมาเลย

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

ก่อนอื่นต้องซื้อตั๋วกันก่อนนะ สามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ราคาตั๋วจะมีด้วยกัน 2 แบบ

  • รถนั่งชั้น 3 ธรรมดา (พัดลม) ไป-กลับ คนละ 290 บาท
  • รถนั่งชั้น 2 (ปรับอากาศ) ไป-กลับ คนละ 490 บาท

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

แต่ในครั้งนี้เราอยากจะนั่งกินลมชมวิวก็เลยเลือกซื้อรถไฟขบวนธรรมดา โดยไปขึ้นที่หัวลำโพง รถจะออกจากหัวลำโพงตอน 07:10 นาที หรือถ้าใครสะดวกสถานีอื่นก็ได้เช่นกันนะ สถานีที่จอดรับผู้โดยสารได้แก่ สามเสน, ชุมทางบางชื่อ, บางเขน, หลักสี่, ดอนเมือง, รังสิต, อยุธยา, สระบุรี, ชุมทางแก่งคอย และแก่งเสือเต้น

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

พอขึ้นรถไฟได้สักพักท้องก็เริ่มร้องเพราะยังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่าใครหิวก็ไม่ต้องห่วง ที่สถานีอยุธยาจะมีพ่อค้าแม่ค้านำของขึ้นมาขาย ก็เลยจัดข้าวเหนียวหมูหวานมากินกับเพื่อนคนละห่อ รองท้องไปหนึ่งกรุบจ้า

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

 



จุดชมวิวรถไฟลอยน้ำ

นั่งกินลมชมวิวไปได้สักพักก็ถึงจุดชมวิว ‘รถไฟลอยน้ำ’ แล้ว เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปเลยค่ะ ตอนที่รถไฟกำแล่นไปตามรางเรื่อยๆ แต่วิวข้างทางเป็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่กว้างจนสุดลูกหูลูกตามันเหมือนกับว่ารถไฟกำลังลอยอยู่บนน้ำจริงๆ ซึ่งตรงจุดชมวิวนี้ทางการรถไฟก็จะจอดให้เราได้ลงมาถ่ายรูป ดื่มด่ำกับบรรยากาศประมาณ 30 นาทีด้วยกัน แอบบอกว่าอากาศดีมาก ลมโกรกสุด ไม่ร้อนเลยล่ะ แชะรูปไปหลายภาพ จนเจ้าหน้าที่ต้องมาตามให้กลับไปขึ้นรถไฟ เพราะเราจะต้องเดินทางกันแล้วล่ะ

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

สถานีโคกสลุง

หลังจากถ่ายรูปจนหน่ำใจก็กลับมาขึ้นรถไฟต่อ รถไฟออกเดินทางได้ไม่นานก็ถึงสถานีโคกสลุง เป็นจุดที่ให้เราได้มาชอปปิ้งของกิน เป็นตลาดย่อมๆ ตามทางเดินยาวของสถานีรถไฟ ใครที่หิวก็แวะซื้อของกินติดไม้ติดมือไปด้วยได้เลย แต่ขอเตือนว่าอย่าเพิ่งกินจนอิ่มนะ เพราะที่สถานีปลายทางยังมีของกินรอเราอยู่อีกเพียบ

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์

เมื่อรถไฟขบวนพิเศษ กรุงเทพฯ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ พาเรามาจนถึงสถานีปลายทาง 'สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์' ก็เตรียมตัวไปเดินเล่น เพราะทางรถไฟจะจอดให้เราได้เที่ยวชมและพักผ่อนตามอัธยาศัย เป็นเวลา 3 ชั่วโมงด้วยกัน ที่นี่ก็มีกิจกรรมให้ทำหลากหลายเลย แต่กิจกรรมแรกที่เราไปทำกันก็คือนั่งรถรางหรือรถหนอน เพื่อไปชมรอบๆ สันเขื่อน โดยมีค่าใช้จ่ายต่อคนเพียง 30 บาทเท่านั้น ระหว่างทางที่นั่งนอกจากได้ชมวิวแล้ว ยังได้รับความรู้จากมักคุเทศน์น้อยที่คอยบรรยายเกี่ยวกับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แห่งนี้ให้ฟังด้วย

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

ไหว้หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก

พอนั่งรถรางมาเรื่อยๆ ก็ถึงจุดที่ให้แวะสักการะพระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย หรือหลวงปู่ใหญ่ป่าสัก อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวที่พวกเราแวะมากราบไหว้เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยสักหน่อย ก่อนจะนั่งรถรางกลับชมวิวสันเขื่อนกันอีกสักรอบ โดยมีน้องๆ มักคุเทศน์ตัวน้อยร้องเพลงให้ฟัง น่ารักจริงๆ ค่ะ

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

หลังจากลงมาจากรถรางก็แวะมาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ที่อยู่ภายในบริเวณเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นแหล่งชมปลาปลาน้ำจืดที่แหวกว่ายไปมาในตู้ปลาขนาดใหญ่ที่เรียงรายไปตามสองข้างทางเดินภายในอาคาร เดินเพลินมากๆ ที่สำคัญเข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายนะ

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

ให้อาหารปลา

แล้วขอแวะมาเดินเล่นเพลินๆ ที่สวนสาธารณะ มีจุดให้ถ่ายรูป มีให้เช่าจักรยานปั่นเล่นๆ มีเสื่อให้เช่าหากใครอยากจะนั่งเอนกายพักขา นอกจากนี้มีจุดให้อาหารปลาด้วย ราคาอยู่ที่กระป๋องละ 20 บาทเท่านั้นจ้า

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

ทานอาหารกลางวัน

ให้อาหารปลาเสร็จ ก็ขอให้อาหารตัวเองด้วย จะเรียกว่ามื้อกลางวันได้มั้ยนะ แต่เอาเป็นว่ามาทานข้าวกันที่ศูนย์อาหาร ที่นี่มีอาหารง่ายๆ จำหน่าย เช่น อาหารตามสั่ง ส้มตำ ปลาเผา และก๋วยเตี๋ยว ใครสะดวกแบบไหนก็จัดเลย

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

ขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพ

พออิ่มท้องก็ได้เวลากลับกันแล้ว โดยขากลับก็ยังนั่งรถไฟคันเดิม ที่นั่งเดิม เวลา 15:30 น. รถไฟก็เคลื่อนตัวออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

ทริปนี้เป็นทริปที่ดีอีกทริปนึง ถึงคนจะเยอะไปบ้างแต่ทุกครั้งที่ได้เดินทางเราจะได้ซึมซับกับธรรมชาติและได้พบเจอผู้คนในท้องถิ่นนั้นๆ ซึ่งเราหาไม่ได้จากที่บ้านอย่างแน่นอน ถ้ามีโอกาสก็อยากให้ทุกคนได้ออกมาเที่ยวกัน

นั่งรถไฟลอยน้ำ เที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี

รถไฟจะให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ โดยเที่ยวแรกก็คือเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา และจะมีอีกในเที่ยวต่อไปดังนี้

  • เดือนพฤศจิกายน 63 วันที่ 21, 22, 28 และ 29 
  • เดือนธันวาคม 63 วันที่ 6, 12, 13, 19 และ 20
  • เดือนมกราคม 64 วันที่ 9, 10, 16, 17, 23, 24, 30 และ 31

 

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ก่อนเดินทางล่วงหน้าได้ 30 วัน ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://www.dticket.railway.co.th  หรือกดที่นี่ https://chill.travel/3obfvVs หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย

 

สรุปค่าใช้จ่าย

  • ค่ารถไฟไป-กลับ คนละ 290 บาท
  • ค่ารถรางชมรอบสันเขื่อน คนละ 30 บาท
  • ค่าอาหารปลา 20 บาท
  • ค่ากิน 130 บาท
  • รวมคนละ 470 บาท
เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai