เที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน บินหรู นอนสบาย กินอิ่ม ฟินกับธรรมชาติ

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายของปีกันแล้ว ซึ่งปลายปีแบบนี้ ‘เชียงใหม่’ คือจังหวัดแรกที่เรานึกถึง เพราะมีครบทั้งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ วัดวาอาราม สวนดอกไม้ไปจนถึงคาเฟ่เก๋ๆ วันหยุดที่ผ่านมาเราเลยเก็บกระเป๋าขึ้นเหนือไปเที่ยวเชียงใหม่ชิลๆ 3 วัน 2 คืน เพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่สะดวกสบาย เช็คอินหลากหลายร้านดัง ตะลุยที่เที่ยวรับหน้าหนาวกันแบบจัดเต็มและไปพักผ่อนสบายๆ ในโรงแรมสุดหรู เติมเต็มความสุขทริปนี้แบบเต็มเปี่ยมด้วยสิทธิพิเศษดีๆ จาก AIS Serenade 

บอกก่อนเลยว่าทริปเชียงใหม่ของเราครั้งนี้ดีงามกว่าครั้งไหนๆ เพราะเราปักหมุดจุดเช็คอินเชียงใหม่ว้าวๆ หลายจุดจนอัปรูปลงโซเชียลไม่ทันเลยล่ะ ที่สำคัญเราใช้สิทธิพิเศษดีๆ จาก AIS Serenade คุ้มจนจุกไปเลยกับแพ็กเกจเที่ยว (เอง) เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พัก 2 คืน (มีโรงแรมบูทีคเก๋ๆ ให้เลือกเยอะมากกก) พร้อมอาหารเช้าและรถรับ/ส่ง สนามบิน โรงแรม สนามบิน ทำให้เราได้เที่ยวเชียงใหม่อย่างหรู เงินอย่างเหลือ เพราะยังใช้สิทธิพิเศษของเซเรเนดตามร้านต่างๆ ได้อีก ซึ่งทริปนี้เราจองไว้ล่วงหน้าเอาไว้ก่อนแล้ว แต่เราเลือกที่จะเช่ารถขับเองเพราะลูกค้า AIS และ AIS Serenade สามารถรับสิทธิ์เช่ารถ AVIS Rent A Car ในราคาพิเศษได้อีก! เหลือแค่ 699 บาท/วัน เท่านั้น จองออนไลน์ล่วงหน้าได้ง่ายๆ ทาง https://www.avisthailand.com/ais หรือลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ais.co.th/serenadetravel/#AVIS-Rent-A-Car 

ทันทีที่มาถึงเชียงใหม่รับรถเช่าเรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถพุ่งตรงไปชิมอาหารขึ้นชื่อของดินแดนล้านนา ข้าวซอยนิมมาน ร้านข้าวซอยและอาหารเหนือสูตรเด็ดที่ได้มิชลินไกด์และรางวัลการันตีอื่นอีกเพียบ! ตัวร้านตั้งอยู่ใจกลางย่านนิมมานไม่ไกลจากปากซอยนิมมานเหมินท์ 7 ภายในร้านมีหลายโซนให้เลือกนั่งชิล การตกแต่งจะเน้นความเรียบง่ายผสมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เข้ากันอย่างลงตัว 

ในส่วนของเมนูนั้นจะเน้นเสิร์ฟข้าวซอยเป็นหลักแต่ยังมีของทานเล่นสไตล์เชียงใหม่ให้ได้เลือกทานคู่กับข้าวซอยด้วย มื้อนี้เราสั่งเมนูเด็ดอย่าง ข้าวซอยเนื้อตุ๋น รสกลมกล่อมบวกกับความหอมจากสมุนไพรและเครื่องเทศในซุปที่ซึมเข้าในเนื้อตุ๋นนุ่มๆ สัมผัสนุ่มเด้งในปาก มาทานคู่กับน้ำสมุนไพรสุดสดชื่นอย่างน้ำอัญชันมะนาว ใครที่เป็นลูกค้า AIS Serenade ยังได้ส่วนลดพิเศษ 15% เมื่อทานครบ 500 บาทขึ้นไป หรือรับฟรี น้ำสมุนไพรรสชาติใดก็ได้ 1 แก้ว มูลค่าสูงสุด 55 บาท เมื่อสั่งออเดิร์ฟ 1 ชุด สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://privilege.ais.co.th/serenade/th/privilege/kaosoy_nimman

ข้าวซอยนิมมาน 

ที่ตั้ง : 22 ถ.นิมมานเหมินท์ ซ.7 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

วันและเวลาเปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-20.00 น. 

โทร : 053894881

GPS : https://g.page/KAOSOYNIMMANSOI7?share 

ทานคาวแล้วก็ต้องตามด้วยของหวานใช่ไหมล่ะคะถึงจะครบสูตร เมื่ออิ่มอร่อยกับเมนูขึ้นชื่อของเชียงใหม่แล้ว เราก็แวะไปเติมความสดชื่นกันต่อที่ Fruiturday ซอยนิมมานเหมินทร์ 11 อยู่ไม่ไกลจากร้านข้าวซอยนิมมาน ซึ่งร้านนี้เขาจะเน้นเครื่องดื่มและขนมที่ใช้ผลไม้สดเป็นวัตถุดิบโดยยึดคอนเซ็ปต์ไม่สด ไม่ฉ่ำ เราไม่เสิร์ฟ อร่อยและยังมีประโยชน์เพื่อสุขภาพแบบนี้รับรองว่าสายเฮลท์ตี้จะต้องเลิฟแน่นอน 

ภายในร้านมาพร้อมบรรยากาศสบายๆ และอบอุ่นเป็นกันเอง โดดเด่นด้วยคอนเซ็ปต์ของการเป็นศูนย์รวมความสดและอร่อยที่ทุกคนแวะมาเติมความสดชื่นได้ทุกช่วงเวลา แต่ถ้าเป็นลูกค้า AIS Serenade จะมีความพิเศษกว่าตรงที่รับส่วนลด 20% เมื่อทานครบ 250 บาทขึ้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://privilege.ais.co.th/serenade/th/privilege/Fruiturdays 

Fruiturday

ที่ตั้ง : ถ.นิมมานเหมินท์ ซอย 11 ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

วันและเวลาเปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.30-23.00 น. 

โทร : 0626655989

GPS : https://goo.gl/maps/kKcLwtYgNuCEtA368 

อิ่มท้องแล้ว..เราก็มูฟออนไปอิ่มบุญกันต่อที่ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงาม ภายในมีปูชนียสถานและปูชนียวัตถุที่สำคัญมากมาย อีกทั้งยังประดิษฐานพระสิงห์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา นอกจากนี้วัดพระสิงห์ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวเชียงใหม่ที่ให้ความศรัทธาด้วยนะ ซึ่งตามคติล้านนาคนเกิดปีมะโรงต้องมาไหว้พระสิงห์ให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ที่นี่จึงกลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่สุดฮิตที่นักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาสักการะกันอย่างเนืองแน่น

วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

ที่ตั้ง : 2 ถ.สามล้าน ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

วันเวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 09.00-18.00 น. 

เบอร์โทรศัพท์ : 053416027

GPS : https://goo.gl/maps/iV4ppQP2HYSfBr2e8   

สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวเชียงใหม่เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาเข้าที่พักเพื่อเช็คอินกันแล้วค่ะ อย่างที่บอกตั้งแต่ตอนต้นว่าทริปนี้เราใช้สิทธิพิเศษดีๆ จาก AIS Serenade กับแพ็กเกจเที่ยว (เอง) เชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พัก 2 คืน มีโรงแรมระดับ 5 ดาวให้เลือกพร้อมอาหารเช้า ซึ่งเราเลือก sala lanna Chiang Mai โรงแรมสไตล์บูทีคริมแม่น้ำปิง ย่านวัดเกต ถ.เจริญราษฎร์ ชุมชนเก่าแก่ของเชียงใหม่ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของวัดวาอาราม บ้านเรือนเก่า ร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดังมากมาย สะท้อนถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในอดีตแบบเดิม รวมถึงการออกแบบโรงแรมให้ได้บรรยากาศของความเป็นล้านนาและความร่วมสมัยของงานสถาปัตยกรรมแบบใหม่ได้เป็นอย่างดี

เช็คอินเรียบร้อยก็ได้เวลาเข้าพักกันแล้วค่ะ สำหรับห้องพักที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 15 ห้อง แบ่งออกเป็น 4 ไทป์ ทั้งรูปแบบ Standard จำนวน 2 ห้อง, Deluxe Suite จำนวน 4 ห้อง, River view Superior Balcony จำนวน 4 ห้อง และ Riverview Deluxe Balcony จำนวน 5 ห้อง ภายในแต่ละห้องพรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่งดงามด้วยหัตถกรรมท้องถิ่นพื้นบ้าน สร้างความรู้สึกอบอุ่นทั้งจากวัสดุและจากธรรมชาติรอบๆ ตัว

และเมื่อหัวใจการออกแบบของที่นี่คือวิถีชีวิตริมแม่น้ำปิงของชาวล้านนาแบบดั้งเดิม เราจึงจองห้อง River view Superior Balcony ชั้น 2 ที่มองเห็นวิวแม่น้ำชัดเจน ภายในถูกออกแบบอย่างเรียบง่าย อบอุ่น สไตล์ล้านนา มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน บนพื้นที่ขนาด 38 ตารางเมตร จัดวางเตียงคู่แบบ Double Bed ประดับตกแต่งด้วยผ้าทอ ของจักสาน เฟอร์นิเจอร์ไม้ยิ่งให้ความรู้สึกร่วมสมัยภายใต้บรรยากาศสบายๆ สุดส่วนตัว 

ไฮไลท์ของห้องนี้จะอยู่ที่ชานระเบียงด้านนอกเลยค่ะ เพราะสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำปิงและสระว่ายน้ำได้อย่างชัดเจน พร้อมกันนี้ทางโรงแรมยังจัดวางเก้าอี้โยกให้นั่งชมทัศนียภาพและสีสันสดใสของท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีไปตามช่วงเวลาแบบชิลๆ 

ในส่วนของห้องน้ำภายในแบ่งแยกส่วนเปียกและแห้งไว้อย่างชัดเจน นอกจากจะมีห้องอาบน้ำแบบฝักบัวแล้ว ยังมีอ่างอาบน้ำที่ตั้งอยู่บริเวณกลางห้องมองเห็นบรรยากาศในห้องเพิ่มความเซ็กซี่เล็กๆ ขณะอาบน้ำได้ แต่ถ้าใครเขินอยากเป็นส่วนตัวก็สามารถรูดม่านมาปิดได้ด้วย

พอเจอห้องสวยๆ เตียงนุ่มๆ ก็อยากจะทิ้งตัวนอนเหลือเกิน แต่ยังนอนไม่ได้จ้า เพราะเราต้องเปลี่ยนชุดสวยเพื่อเดินทางต่อไปยังแลนด์มาร์คยอดฮิตของเชียงใหม่อย่าง I love flower Farm สวนดอกไม้ชื่อดังย่านแม่ริมที่กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมสวนอีกครั้งจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2564 โดยปีนี้มีความพิเศษกว่าเดิมตรงที่เปิดโซนใหม่ล่าสุด! สะพรั่งไปด้วยหมู่มวลดอกสร้อยไก่หลากสีไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีชมพู สีแซลมอน รวมถึงดอกคัตเตอร์สีขาวและมาร์กาเรตสีม่วง กว่า 4 ไร่ บอกเลยว่าที่นี่เป็นที่เที่ยวเชียงใหม่สุดฮิตจริงๆ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของสวนก็สามารถแชะรูปภาพสวยๆ ได้ทุกมุม 

อ๊ะๆ แต่ก่อนจะมาที่นี่เพื่อนๆ ต้องจองล่วงหน้าก่อนนะ มีค่าเข้าชมอยู่ที่ 90 บาท มีขนมและน้ำสมุนไพรให้ 1 ชุด และรวมค่ารถพ่วงรับส่งจากลานจอดรถมายังฟาร์มเรียบร้อยแล้ว ซึ่งนอกจากชมสวนดอกไม้แล้วภายในยังมีพร๊อพถ่ายรูปชุดใหญ่แบบจัดเต็ม แถมยังมีห้องแต่งตัวสำหรับสาวๆ ไว้ให้ด้วย ใครมีแพลนจะมาเที่ยวเชียงใหม่ห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาด!!

I love flower Farm

ที่ตั้ง : ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 09.00 – 18.00 น.

ค่าเข้าชม : คนละ 90 บาท มีขนมน้ำให้ 1 ชุด (ค่าเข้าชม 70.- และค่ารถพ่วง 20.-)

จองล่วงหน้าได้ที่ : https://bit.ly/33CQiM7

GPS : https://goo.gl/maps/UUQMxRz7vgWBMEew5 

เผลอแป๊ปเดียวจะหมดวันแล้ว ถ่ายรูปกับสวนดอกไม้จนหนำใจเราก็เดินทางกลับมายังที่พัก ดื่มด่ำกับบรรยากาศริมแม่น้ำปิงกันต่อ ซึ่งที่ sala lanna Chiang Mai นอกจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสระว่ายน้ำ โซนนั่งเล่นริมแม่น้ำปิงแล้วยังมีสระว่ายน้ำบนชั้นดาดฟ้าให้เราได้ขึ้นไปว่ายน้ำพร้อมชมวิวเมืองเชียงใหม่ยามเย็นอีกด้วยนะ ที่สำคัญยังมี Rooftop Bar ไว้บริการผู้เข้าพักที่อยากจะมานั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับฟังเพลงชมวิวยามค่ำคืน หรือถ้าใครไม่อยากออกไปทานอาหารข้างนอก พื้นที่ติดกับโรงแรมก็มีร้านอาหารหวานละมุนที่บริการเมนูหลากหลาย รวมถึงมีโซนที่นั่งชิลๆ ให้เลือกหลายมุมเช่นกัน ใครที่เป็นลูกค้า AIS Serenade ก็สามารถมาเที่ยวแบบพิเศษๆ กินอร่อย นอนสบาย แตจ่ายในราคาสุดคุ้มแบบนี้ได้นะ

เช้าวันใหม่เรารีบตื่นแต่เช้าตรู่เพราะจุดหมายแรกของวันนี้คือไปเที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ล่าสุดของเชียงใหม่กับ ไร่ชาดอยอินทนนท์ ขอย้ำว่าล่าสุดนะคะ!! เพราะเขาเพิ่งเปิดมาไม่ถึง 2 เดือนเลยจ้า ซึ่งเราจะขับรถขึ้นดอยอินทนนท์ที่วิวสวย อากาศดีให้หัวใจได้เต้นตึกตักไปกับทางโค้งและขึ้นเขากันหน่อย โดยใช้เส้นทางจอมทอง (ทางหลวงหมายเลข 108 ต่อด้วย 1009 และ1284) จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็มาถึงยังจุดหมายแล้วค่ะ

สำหรับไร่ชาดอยอินทนนท์เป็นไร่ชากลางหุบเขาตั้งอยู่ในหมู่บ้านขุนวาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ อยู่ก่อนถึงโครงการหลวงขุนวางประมาณ 2 กิโลเมตร นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจเพราะปลูกชา 2 สายพันธุ์คือชาเขียวและชาอู่หลงมายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว อีกทั้งยังมีสวนเลมอนที่มีวิวเบื้องหลังเป็นผาแง่มสวยงาม ประกอบกับสภาพอากาศเย็นตลอดทั้งปีจึงทำให้สามารถผลิตชาและเลมอนคุณภาพ ซึ่งเขามีผลิตภัณฑ์ของตัวเองจำหน่ายด้วย เพื่อนๆ สามารถไปอุดหนุนใบชาแห้งกันได้มีทั้งชาเขียว ชาอู่หลง และชาอู่หลงก้านอ่อน พร้อมกับขนมและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของเลมอนคุณภาพดี

ใครที่อยากมาเก็บเลมอนสดๆ ก็สามารถจองและชำระค่าเข้าชมคนละ 50 บาท ล่วงหน้าได้ที่เพจก่อนนะคะ โดยจะมีค่าเก็บเลมอน 7 ลูกอีก 50 บาท (คนละส่วนกับค่าเข้าชม) แถมยังมีพร็อพให้ยืมครบทั้งรองเท้าบูทหลากสีสัน กรรไกร ตะกร้าหวายและร่มใส ให้เราได้หิ้วตะกร้าไปตัดเลมอนในสวน พร้อมกับกลับมานั่งจิบชา ทานขนม ชมหมอกและขุนเขาเบื้องหน้าไกลสุดตาโดยไม่มีอะไรบดบัง

ไร่ชาดอยอินทนนท์

ที่ตั้ง : บ้านขุนวาง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่

เบอร์โทรศัพท์ : 0638264111

เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันเสาร์ 09:00-16:00 น.

ค่าเข้าชม : คนละ 50 บาท (จองและโอนเงินก่อน) มีเวลา 1 ชั่วโมง 15 นาทีต่อรอบ 

จองล่วงหน้าได้ที่ : https://doiinthanontea.as.me/ 

GPS : https://goo.gl/maps/FZJhbi6jCPaDf8DK7

ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ชา และขนมที่มีส่วนผสมจากเลมอนกันจนจุใจแล้ว ก็ได้เวลาขับรถกลับเข้าเมืองโดยมุ่งหน้าไปยัง ฮ้านถึงเชียงใหม่ ร้านอาหารเหนือในซอยวัดอุโมงค์ที่เพิ่งได้รับรางวัลมิชลินไกด์ 2563 หรือบิบ กูร์มองด์หน้าใหม่ 2020 ไปหมาดๆ 1 ดาว เราจึงไม่พลาดที่จะปักหมุดไปชิมความอร่อยกันที่นี่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจ๊าดลำมากกกก รสชาติแบบคนเมืองแท้ๆ มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทุกเมนูจะเสิร์ฟด้วยจานสังกะสีเล็กๆ รองด้วยใบตอง เรียกว่ามาร้านนี้นอกจากจะได้ชิมอาหารที่รสชาติถึงเครื่องแล้ว บรรยากาศภายในร้านยังให้ความรู้สึกว่าถึงเชียงใหม่อย่างแท้จริงด้วยล่ะ

ฮ้านถึงเชียงใหม่

ที่ตั้ง : 63/9 ซ.สุเทพ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เวลาเปิดบริการ : เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 09.00 - 20.30 น.

โทรศัพท์ : 0910766100 

GPS : https://g.page/Thungchiangmai?share 

หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารเหนือแท้ๆ แล้ว เราก็ขอแวะไป วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม อีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต ตัววัดมีเอกลักษณ์งดงามไม่เหมือนใครตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่ไกลจากร้านฮ้านถึงเชียงใหม่ เป็นวัดที่ร่มรื่นและมีขนาดกว้างขวาง สถานที่สำคัญภายในวัดก็มีทั้งพระเจดีย์ 700 ปี เป็นเจดีย์ทรงระฆังระยะแรกของศิลปะล้านนาที่สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 19 และช่องอุโมงค์ที่คงเหลือเพียงส่วนของเพดานโค้งภายในอุโมงค์ที่ปรากฏจิตรกรรมฝาผนังเท่านั้น ใครที่อยากมาเที่ยวเชียงใหม่แบบสงบจิตใจแนะนำว่าต้องมาที่นี่เลยจ้า

วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม

ที่ตั้ง : 135 ม.10 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

เบอร์โทรศัพท์ : 0850333809

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 05.00 - 20.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/89XppaxHbHQbaixU6

ไหว้พระ ชมความงดงามของวัดอุโมงค์พร้อมถ่ายรูปรัวๆ ลงโซเชียลกันไปแล้ว เราก็มูฟออนไปยังจุดหมายต่อไปคือ Transit No.8 คาเฟ่เชียงใหม่สุดฮิตที่ผู้คนนิยมไปเช็คอินกับมุมถ่ายภาพสุดปังกับภาพทางม้าลายที่ข้ามระหว่าง 2 อาคาร ป้ายบอกทางหรือตู้กดน้ำกับม้านั่งสไตล์ญี่ปุ่น บรรยากาศร้านถูกออกแบบสไตล์มินิมอล โดยรีโนเวททาวน์เฮ้าส์เก่าให้เป็น Transit จุดแวะพักที่ผู้โดยสารหยุดการเดินทางชั่วคราวที่สนามบิน เพื่อรอขึ้นเครื่องบินก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางนั่นเองค่ะ

อย่างที่บอกว่าแนวคิดของร้านนั้นอยากให้เป็นเหมือนจุดพักรอเวลาขึ้นเครื่อง การตกแต่งจึงเป็นธีมสนามบิน ใช้สีขาวเป็นหลัก กรุกระจกรับแสงจากธรรมชาติ ตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ จนออกมาเป็นสไตล์ Japanese Cozy ที่ให้ความเป็นญี่ปุ่นแต่อบอุ่น ถ่ายรูปมุมไหนก็ปัง! แถมความพิเศษของเมนูจากทางร้านอยู่ที่การครีเอตเมนูออกมาเป็นกิมมิกไม่เหมือนใคร พร้อมเสิร์ฟความอร่อยให้ลิ้มลองหลายเมนูทั้งขนมและเครื่องดื่มที่ผสมผสานรสชาติออกมาได้อย่างลงตัว

Transit No.8

ที่ตั้ง : 56/19 ซอย สนามบินเก่า 8 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เชียงใหม่

เบอร์โทรศัพท์ : 0625924259

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 08.00 - 18.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/7YQJfFzqgxGYXaAX8 

ปิดท้ายวันนี้กันด้วยมื้อเย็นที่ Ginger Farm Kitchen ตั้งอยู่บริเวณหน้าโครงการ One Nimman เชียงใหม่ ฝั่งติดถนนนิมมานเหมินทร์ ถนนสายการค้าที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ซึ่งที่นี่เป็นร้านอาหารพื้นบ้านของแต่ละท้องถิ่นทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ กับรสชาติที่เป็นต้นตำรับในแบบฉบับ “กับข้าวคุณตาคุณยาย” ที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพ เช่น ผักออร์แกนิคคุณภาพดีจากฝีมือเกษตรกร เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงแบบ Free Range เอาใจเหล่าคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ

ทันทีที่เดินเข้าไปในร้านก็ให้บรรยากาศแบบบ้านไทยทั้งโต๊ะ เก้าอี้ จาน ชาม หรือจะประดับประดาด้วยโคมไฟจากเครื่องจักสาน ผ้าพื้นเมือง ล้วนแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตจริงของชาวพื้นบ้านที่เรียบง่ายตามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม

มื้อนี้เราสั่ง เมี่ยงปลาทู เมนูของว่างแบบไทยๆ ที่ทางร้านเลือกสรรความอร่อยมาเรียกน้ำย่อยคนทานระหว่างรอเสิร์ฟอาหารจานหลัก ตามมาด้วย ยำโฮ๊ะทะเลรวม ครบเครื่องเรื่องรสชาติและความนัวแต่ปราศจากผงชูรส ก่อนจะสั่งจานหลักอย่าง หมูหมักมะแขว่น ที่เป็นเมนูพิเศษมีเฉพาะที่ร้านนี้เท่านั้น เมื่อจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วมะแขว่นทำให้ได้สัมผัสรสชาติที่โดดของมะแขว่นแต่ลงตัวกับเนื้อหมู บอกเลยว่าเต็มสิบไม่มีหัก! ตามมาด้วย เชียงดาผัดไข่ เมนูสุดฮิตประจำร้าน เป็นผักพื้นบ้านจากทางภาคเหนือที่มีสรรพคุณช่วยรักษาบำบัดโรคเบาหวาน แกงเลียงกุ้งสด แกงไทยโบราณมีน้ำแกงไม่ใสหรือข้นเกินไป รสชาติเค็มพอดี มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทยแต่ไม่เผ็ดจัดจนเกินไป ก่อนจะสั่ง ยำกระเจี๊ยบเขียว นำมายำกับสมุนไพรหลากหลายรสชาติจัดจ้านกำลังดี มาทานคู่กับ กุ้งแม่น้ำทอดราดซอสมะขาม กุ้งแม่น้ำสดๆ ทอดราดซอสมะขามหวานอมเปรี้ยว อร่อยลงตัวที่สุด แถมลูกค้าเซเรเนดได้รับส่วนลด 10% อีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย https://privilege.ais.co.th/serenade/th/privilege/GingerFarm

Ginger Farm Kitchen

ที่ตั้ง : โครงการ One Nimman ถ.นิมมานเหมินท์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 

เบอร์โทรศัพท์ : 052080928

วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 08.30 - 23.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/DfxJv8cNWZqAvDZQA 

หลับสบายตื่นมาพร้อมรับวันใหม่ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายแล้ว อาบน้ำแต่งตัว เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็ได้เวลาทานอาหารเช้าเพิ่มพลังก่อนลุยตามแพลนวันนี้ โดยทาง sala lanna Chiang Mai จะเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มแบบอลาคาร์ท มีให้เลือกหลากหลายเมนู ส่วนเวลาบริการก็ตามสากลทั่วไปเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ 07.00 - 10.00 น.

sala lanna Chiang Mai

ที่ตั้ง : 49 ถ.เจริญรัตน์ ต.วัดเกตุ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

เบอร์โทรศัพท์ : 053242588

ราคา : เริ่มต้นช่วง Low Season 2,405 บาท, ราคาเริ่มต้นช่วง Hi Season 4,800 บาท (ราคาในแต่ละช่วงไม่เท่ากัน แนะนำให้สอบถามราคากับที่พักโดยตรง) 

Website : https://www.salahospitality.com/lanna/ 

GPS : https://g.page/salalannaChiangMai?share 

เช็คเอ้าท์เรียบร้อย เราก็ขอไปช้อปปิ้งของฝากก่อนกลับที่ ตลาดวโรรส หรือกาดหลวงสถานที่สุดฮิตของนักท่องเที่ยวหรือคนเชียงใหม่เองต่างก็นิยมมาซื้อสินค้า อาหารพื้นเมืองกันที่นี่ เพราะมีครบจบในที่เดียวทั้งไส้อั่ว แคปหมู น้ำพริกหนุ่ม ผลิตภัณฑ์แปรรูปและอื่นๆ อีกเพียบ เรียกได้ว่า มาที่เดียว ได้ของติดมือไปฝากคนที่บ้านครบทุกคนเลย ซึ่งเราก็เดินช้อปปิ้งชิลๆ แบบไม่ต้องเร่งรีบเพราะใช้สิทธิพิเศษของ AIS Serenade ทำให้คืนรถกับทาง AVIS ได้เลทถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว 

ตลาดวโรรส

ที่ตั้ง : ถ.วิชยานนท์ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 04.00 - 18.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/EJM8jtBhGRHRpo166 

ช้อปปิ้งแล้วก็ไป Hopping ต่อที่ร้าน Brewginning coffee ตั้งอยู่ในย่านชุมชนเก่าแก่ บนถนนช้างม่อย เส้นเดียวกันกับทางที่จะไปตลาดวโรรส ที่นี่นอกจากจะโดดเด่นในเรื่องของเครื่องดื่มที่มีให้เลือกลิ้มลองแบบจุใจแล้ว การออกแบบและตกแต่งร้านที่รีโนเวทห้องแถว ตึกเก่ามาทำใหม่แต่ยังคงโครงสร้างเดิมไว้แทบทั้งหมด เพื่อให้ได้กลิ่นอายคลาสสิคย้อนยุคแบบฮิปๆ ด้านในวางเคาท์เตอร์บาร์ไว้ตรงกลาง ก่อนจะแบ่งที่นั่งด้านข้างอีกนิดหน่อย ด้านในมีห้องแอร์เป็นที่นั่งแบบขั้นบันได ที่เก๋สุดคือเขามีกิจกรรมโดยมีดีเจมาเปิดแผ่นเล่นเพลงด้วยจ้า หรือถ้าใครอยากมู้ดฮิปๆ แนะนำมุมด้านข้างที่นั่งเอาท์ดอร์รับแดดเบาๆ ด้านนอกเลยจ้า รับรองถ่ายรูปออกมาสวยเท่มีคนไลค์รัวๆ แน่นอน

Brewginning coffee

ที่ตั้ง : 260 ถ.ช้างม่อย ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 07.00 - 19.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/ySr45iDBKBh7ALs56 

เกือบลืมบอกไป! ถ้ามาจิบกาแฟที่ Brewginning coffee อย่าลืมแวะไปช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้งานจักสานฝั่งตรงข้ามร้าน บริเวณหัวมุมถนนช้างม่อยเก่านะคะ เพราะมีร้านค้าของคนท้องถิ่นขายเครื่องจักสานมากมาย ทั้งกระเป๋า รองเท้า ของแต่งบ้าน รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ขอบอกว่าราคาน่ารักน่าหยิกสุดๆ ใครอยากซื้อของจักสานไปตกแต่งบ้านหรือซื้อฝากเพื่อนๆ แนะนำเลยจ้า ถูกใจคนรับแน่นอน 

ร้านขายของจักสานถนนช้างม่อยเก่า

ที่ตั้ง : ถ.ช้างม่อยเก่า ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 

เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/4KeeDYxrKkRJ5aXp6 

หลังจากช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้จักสานกันพอกรุบกริบก็ได้เวลามูฟออนไปยังสนามบินเพื่อคืนรถเช่าและเตรียมเช็คอินกลับกรุงเทพฯ แล้วค่ะ ก่อนขึ้นเครื่องเราผู้เป็นลูกค้า AIS Serenade Platinum ก็แวะมารับสิทธิ์ฟรีเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ + แซนด์วิชชีสหรือแซนด์วิชทูน่า 1 ชิ้น หรือเวเฟอร์ 1 กล่อง ที่ร้าน Black Canyon แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนใช้ AIS Serenade Gold และ Emerald จะรับฟรีเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ 1 แก้ว ถือเป็นการจบทริปเชียงใหม่ของเราได้อย่างประทับใจจริงๆ เลยค่ะ

การมาเที่ยวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน ของเราครั้งนี้เป็นอะไรที่ครบรสและคุ้มค่ามากกกกก นอกจากจะได้ถ่ายรูปสวยๆ ดื่มด่ำธรรมชาติ พักโรงแรมแสนสบายและเช่ารถราคาประหยัดแล้ว ยังใช้สิทธิพิเศษของ AIS Serenade ลดราคาร้านอาหารและคาเฟ่อร่อยมากมายจนจุกไปเลย ถ้าใครอยากไปเที่ยวพักผ่อนที่เชียงใหม่และกำลังมองหาที่พักสวยๆ เดินทางสะดวก คุ้มค่ากับการพักผ่อนอยู่ล่ะก็..ลองเข้าไปดู รายละเอียดต่างๆ และเลือกรับสิทธิพิเศษสำหรับคนชอบเที่ยวแบบเราได้ที่ www.ais.co.th/serenade รับรองประทับใจแน่นอน!

Tags: เชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่พักเชียงใหม่ แลนด์มาร์คเชียงใหม่ ร้านอาหารเชียงใหม่ คาเฟ่เชียงใหม่ วัดสวยเชียงใหม่ ร้านอร่อยเชียงใหม่ ที่กินเชียงใหม่ ข้าวซอยนิมมาน Fruiturday วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร salalannaChiangMai ศาลาลานนาเชียงใหม่ iloveflowerfarm สวนดอกไม้แม่ริม สวนดอกไม้เชียงใหม่ ไร่ชาดอยอินทนนท์ ไร่ชาเชียงใหม่ ฮ้านถึงเชียงใหม่ วัดอุโมงค์สวนพุทธธรรม TransitNo.8 GingerFarmKitchen ตลาดวโรรส Brewginningcoffee ถนนช้างม่อยเก่า ร้านจักสานเชียงใหม่ BlackCanyon เอไอเอสเซเรเนด AISserenade Serenade Privilege

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้