ทริปหนีร้อนไปนอนเกาะทะลุ @ประจวบคีรีขันธ์ 2 วัน 1 คืน

เอาใจใครที่อยากหนีไปติดเกาะ เล่นน้ำทะเลใสๆ ดูปะการังสวยๆ ในราคาไม่แพงอย่างที่คิด ชิลไปไหนพาไปติดเกาะส่วนตัวหนึ่งเดียวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เที่ยวเกาะทะลุสุดปัง! 2 วัน 1 คืน 

ทริปนี้เราเริ่มต้นออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ตอนเวลาห้าทุ่มกว่าๆ เป็นครั้งแรกที่ออกเดินทางไปรถทัวร์สายใต้ตอนกลางคืน บรรยากาศเลยแตกต่างจากตอนกลางวัน มีผู้โดยสารมารอขึ้นรถเที่ยวดึกกันค่อนข้างบางตา 

เราต้องไปรับตั๋วก่อนเวลารถออกประมาณ 30 นาที มาถึงก็จัดการเอาสลิปใบเสร็จค่าตั๋วที่เราชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสไปแลกเป็นตั๋วจริงที่บูธก่อน ในตั๋วบอกราคาเที่ยวละ 301 บาท แต่จริงๆ ตอนไปจ่ายเงินจะมีค่าธรรมเนียมบวกเพิ่มมาอีกคนละ 15 บาท รวมค่าตั๋วกรุงเทพฯ-บางสะพานน้อยคนละ 316 บาท

รถของบริษัทบางสะพานทัวร์ที่เราจองตั๋วมาล่วงหน้า เป็นรถทัวร์ปรับอากาศชั้น 2 (ป.2) ก่อนขึ้นรถจะมีพนักงานคอยถามว่าลงที่ไหน ถ้าใครไปบางสะพานจะแยกไปขึ้นอีกคันหนึ่ง ส่วนเราลงที่บางสะพานน้อยได้ขึ้นคันนี้ ซึ่งจะวิ่งยาวไปจนถึงมาบอํามฤต จังหวัดชุมพร

บรรยากาศบนรถเที่ยวที่เราเดินทาง มีผู้โดยสารเกือบเต็มทุกที่นั่ง เบาะที่นั่งค่อนข้างแคบ คนตัวใหญ่อาจนั่งลำบาก และไม่มีห้องน้ำบนรถ ก่อนขึ้นรถควรทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อน

รถออกตอนประมาณเที่ยงคืนพอดี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงกว่าๆ ประมาณตี 5 เราก็มาถึงอำเภอบางสะพานน้อย พวกเราแจ้งพนักงานตั้งแต่ตอนขึ้นรถว่าให้ส่งลงบริเวณบ้านมะพร้าวรีสอร์ท ซึ่งเป็นจุดที่เราจะขึ้นเรือไปเกาะทะลุ พอลงจากรถก็โทรแจ้งกับพนักงานทางรีสอร์ทที่จะขับรถออกมารับพวกเราที่รออยู่ปากทางเข้า (ตอนนั้นคือมืดมากแถมง่วงด้วย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมา) 

บ้านมะพร้าวรีสอร์ท เป็นที่พักในเครือเดียวกันกับ เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ที่เราจะไปพักบนเกาะทะลุ ที่จริงทางรีสอร์ทเค้ามีจุดนั่งพักรอขึ้นเรือให้ (ตามในรูปด้านบน) แต่ด้วยความที่เรามาถึงเร็ว แถมเดินทางกันมาทั้งคืน เลยตัดสินใจเปิดห้องพักนอนงีบพักผ่อนเอาแรงกันก่อน ตอนเช้าจะได้อาบน้ำพร้อมขึ้นเรือตอน 10 โมงเช้ากันอย่างสดชื่น ซึ่งห้องพักของบ้านมะพร้าวรีสอร์ทที่เราพักกันก็คุ้มราคา 500 บาทเลยทีเดียว (พัก 5 ชั่วโมง ตกชั่วโมงละ 100 บาท) ไม่ต้องไปนั่งตากยุงรอที่ท่าเรือให้ลำบาก

ห้องสะอาดและกว้างมากๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ ทั้งแอร์, ทีวี, ตู้เย็น มีห้องน้ำในตัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น

ตอนเช้าตื่นมาถ่ายรูปบรรยากาศหน้าที่พักเอาไว้หน่อย วันนี้อากาศดีท้องฟ้าสดใส จากบ้านพักของเรามองออกไปเห็นทะเลอยู่ไม่ไกล

พอใกล้ได้เวลา 10 โมง เราก็ไปขึ้นเรือที่ท่าเรือของบ้านมะพร้าวรีสอร์ทกัน ตรงนี้จะมีพนักงานคอยต้อนรับ พร้อมลงทะเบียนเช็คอินกันจากบนฝั่งเลย โดยเราจะได้ริสก์แบนด์คนละ 1 อัน สำหรับไว้ซื้ออาหารหรือเครื่องดื่มเพิ่มเติมนอกจากแพ็คเกจบนเกาะทะลุ ในริสก์แบนด์จะมีเงินมูลค่า 1,000 บาทสำหรับใช้จ่าย พอเช็คเอาท์พนักงานเค้าจะเอาไปแสกนดูว่าเหลือเท่าไหร่ แล้วเราค่อยจ่ายเงินตอนเช็คเอาท์ทีเดียว

มุมสำหรับนั่งรอขึ้นเรือข้ามไปยังเกาะทะลุ มีชา กาแฟ ขนมและน้ำดื่มให้ทานฟรี เราเลยเติมพลังกันที่นี่

พอได้เวลาประมาณ 10 โมง เราก็นั่งเรือข้ามไปเกาะทะลุกันเลยค่ะ โดยรอบวันที่เราไปมีนักท่องเที่ยวแค่พวกเราเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น รู้สึกเหมือนกับได้เหมาเรือสปีดโบ้ทแบบวีไอพีเลย

ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงเกาะทะลุ คือเกาะสวย น้ำใสมากกกก...เห็นครั้งแรกคืออยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ สวยไม่ไหวแล้วววว

บริเวณท่าเรือน้ำใสม๊ากกกก...มองเห็นฝูงปลาเล็กๆ เต็มไปหมดเลย

บนเกาะทะลุเป็นเกาะส่วนตัวที่มีเพียงแค่รีสอร์ทเดียวเท่านั้น คือ เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท โดยจะแบ่งเป็น 2 โซน คือฝั่งอ่าวใหญ่และอ่าวมุก ทั้งสองอ่าวสามารถเดินถึงกันได้ ใครชอบความคึกคักสะดวกสบาย มีห้องพักเยอะ มีคาเฟ่ชิคๆ ให้นั่ง และมีสระว่ายน้ำก็เลือกพักฝั่งอ่าวใหญ่ 

ภาพบรรยากาศมุมสูงของอ่าวใหญ่บนเกาะทะลุ ซึ่งจะมีแนวชายหาดยาวกว่าอ่าวมุก 

ส่วนใครชอบบรรยากาศชิลๆ สบายๆ แบบเราก็เลือกพักกันที่อ่าวมุกที่มีความสงบกว่า (และห้องพักราคาประหยัดกว่าด้วย) ด้านหน้าอ่าวจะมีปะการังน้ำตื้นสามารถลงไปดำน้ำดูได้เลยค่ะ 

ห้องพักของเราบนอ่าวมุกเป็นสไตล์บังกะโลวิลล่าแบบไทยประยุกต์ ภายในตกแต่งเรียบง่าย สะอาดสะอ้าน มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งแอร์ ทีวี มีห้องน้ำในตัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น

ก่อนจะเช็คอินเข้าห้องพัก จะมีพนักงานคอยดูแลต้อนรับและให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด ซึ่งพนักงานจะอธิบายเกี่ยวกับการเข้าพักและกิจกรรมต่างๆ บนเกาะ ซึ่งมีทั้งดำน้ำ, เดินป่าไปจุดชมวิว, ตกหมึก ฯลฯ ซึ่งหากใครที่ซื้อมาเป็นแพ็คเกจก็สามารถทำกิจกรรมได้ครบทุกอย่าง (ยกเว้นกิจกรรมตกหมึกสำหรับแขกที่พักบนเกาะ 2 คืนขึ้นไป) ใครสนใจกิจกรรมไหนก็สามารถแจ้งกับทางพนักงานได้เลย 

วันแรกเราขอพักผ่อนชิลๆ กันก่อน ซึ่งวันนี้อากาศดี ท้องฟ้าสดใสเป็นใจให้ถ่ายรูปมากกก...แค่เดินเล่นริมหาด เอาเท้าเหยียบทรายก็ฟินแล้ว ใครอยากจะนอนไกวเปลใต้ทิวสน หรือไปนอนรับลมในซุ้มศาลาริมทะเลที่ทางที่พักจัดไว้ให้ก็ชิลไม่แพ้กันเลย

สำหรับมื้อกลางวัน เราก็ทานกันที่ร้านอาหารของรีสอร์ทเลย จริงๆ เราแพ็คเกจที่เราซื้อมารวมกิจกรรม พร้อมอาหาร 3 มื้อ คือมื้อเย็นวันแรก มื้อเช้าวันรุ่งขึ้น และมื้อกลางวันก่อนกลับ แต่ถ้าหากมาก่อนเวลาอย่างเราก็สามารถซื้อเพิ่มได้เหมือนกันค่ะ 

เมนูจัดเต็มมากๆ เติมได้เรื่อยๆ ไม่ต้องกลัวไม่อิ่ม

อิ่มแล้วไปนอนงีบสักพัก รอเวลาไปทำกิจกรรมตกหมึกในตอนเย็น ลืมบอกไปว่าที่รีสอร์ทจะมีเวลาปิดไฟช่วงประมาณบ่าย 3-5 โมงเย็น ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาที่แขกหลายคนออกไปทำกิจกรรมอย่างการเดินป่าไปจุดชมวิว สายชิลอย่างเราก็นอนรับลมทะเลกันไปเพลินๆ

พอ 5 โมงเย็นก็ถึงเวลาไปตกหมึกกันแล้วจ้า ลุ้นมากว่าวันนี้ฝนจะตกตอนเย็นหรือเปล่า เพราะถ้าฝนตกหรือคลื่นลมแรงก็อาจต้องงดกิจกรรมนี้ โชคดีที่มีฝนมาเบาๆ แล้วหยุดไป ทำให้พวกเราสามารถออกเรือไปตกหมึกกันได้

แต่เหมือนวันนี้คลื่นใต้น้ำจะแรงไปนิด ทำให้หมึกไม่มากินเหยื่อที่พวกเราตกกันเลย...เศร้า แต่ก็ยังดีที่ได้ออกมานั่งเรือเล่นชมบรรยากาศตอนเย็น ดูพระอาทิตย์ตกกลางทะเลแทน สวยไปอีกแบบ

มื้อเย็นพี่ๆ แม่ครัวทำอาหารเย็นชุดใหญ่มาปลอบใจพวกเราที่ตกหมึกไม่ได้ นอกจากอาหารเซ็ทใหญ่จนเต็มโต๊ะ ยังแถมซีฟู้ดและบาร์บีคิวให้พวกเราอีกด้วย ใจดีสุดๆ

วันรุ่งขึ้นเรามีนัดไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดเขาจุดชมวิวเกาะทะลุกัน เราตื่นตั้งแต่ตอนตี 5 ครึ่ง เพื่อไปพบกับเจ้าหน้าที่ที่จะนำทางพาพวกเราขึ้นไปยังจุดชมวิวด้านบน ใช้เวลาเดินประมาณ 15-20 นาทีก็มาถึงจุดชมวิวของเกาะทะลุ

จากบริเวณจุดชมวิว เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเกาะทะลุจากมุมสูงได้แบบพาโนรามา เรียกว่าสวยคุ้มค่ากับการลงทุนปีนขึ้นมาบนนี้จริงๆ 

ไหนๆ มาแล้ว ขอเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ มุมสูงรอบเกาะสักหน่อยแล้วกัน

บริเวณช่องเขาที่ทะลุตรงหน้าผา ที่มาของชื่อเกาะทะลุนั่นเอง

หลังจากชมวิวกันจนเต็มอิ่ม เราก็กลับลงมาทานอาหารเช้ากัน มีให้เลือกทั้งข้าวต้มทะเลและอเมริกันเบรคฟาสต์ พร้อมเครื่องดื่มอย่างชากาแฟ 

ตอนประมาณ 9.30 น. เรามีนัดออกไปดำน้ำดูปะการังกัน ซึ่งทางรีสอร์ทจะมีทั้งเรือสปีดโบ้ทและแพแบบนี้ลากพาพวกเราออกไปที่จุดดำน้ำบริเวณหน้าเกาะ

ทางรีสอร์ทมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล พร้อมอุปกรณ์ทั้งเสื้อชูชีพและสน็อกเกิ้ลให้พร้อม สามารถทำกิจกรรมสนุกๆ ได้ทั้งครอบครัว

ระหว่างวันจะมีเรือพานักท่องเที่ยวจากที่อื่นมาดำน้ำที่เกาะทะลุเป็นระยะ แต่เราพักที่เกาะทะลุอยู่แล้ว ไม่ต้องนั่งเรือให้ลำบาก แค่แป๊บเดียวไม่ถึง 5 นาทีก็ได้ดำน้ำดูปะการังกันชิลๆ

เสียดายที่วันนี้น้ำค่อนข้างขุ่นกว่าเมื่อวาน เลยไม่ค่อยเห็นปลาและปะการังชัดๆ เท่าไหร่ แต่ก็พอได้ภาพปะการังสวยๆ กลับมาบ้าง บอกเลยว่าถ้าไปช่วงที่อากาศดี ของจริงคือสวยมากกกกก....

ดำน้ำเสร็จก็กลับมาอาบน้ำเปลี่ยนชุด ถ้าใครยังติดใจอยากเล่นน้ำต่อก็จัดไป...ทางที่พักเค้ามีเรือคายัคให้พายฟรี และยังมีเรือใบสำหรับใครที่อยากลองเล่นด้วย แต่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มไม่รวมในแพ็คเกจ

บอกเลยว่าพายคายัคที่นี่ฟินสุดๆ คลื่นลมสงบไม่แรง แถมน้ำทะเลใสยังกับกระจก มองจากบนเรือลงไปเห็นแนวปะการังหน้าหาดชัดมากๆ 

จากนั้นเราก็ไปอาบน้ำ เตรียมตัวเช็คเอาท์กลับขึ้นเรือรอบบ่าย ซึ่งทางรีสอร์ทก็จะมีอาหารกลางวันส่งท้ายให้อีกหนึ่งมื้อด้วย (แต่เราหิวจัดจนลืมถ่ายรูปมา55) บอกเลยว่าอิ่มแปล้ตั้งแต่วันไปยันวันกลับกันเลยจ้า! แถมยังคุ้มราคาสุดๆ เพราะเราจองแพ็คเกจที่พักซึ่งเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันจาก agoda มา ได้ลด 40 เปอร์เซ็นต์ (รัฐจ่ายให้) จากราคาเต็ม แพ็คเกจ 2 วัน 1 คืน สำหรับ 2 คน ราคา 8 พันกว่าบาท (รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว) จ่ายเองแค่ 5,160 บาท (ตกคนละ 2,508 บาทเท่านั้น) ได้ทั้งที่พัก, กิจกรรม พร้อมอาหาร 3 มื้อ คือคุ้มมากเว่อร์! 

บ๊าย...บายเกาะทะลุ บอกเลยว่ามาครั้งแรกก็ติดใจ ต้องจัดทริปมาที่นี่ใหม่อีกครั้งแน่นอน!

เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท (Koh Talu Island Resort)

ที่ตั้ง: เกาะทะลุ อำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โทร. 0898101266 , 0898103092

Facebook: Koh Talu Island Resort เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท ประจวบคีรีขันธ์

จองที่พักผ่านไลน์ @Koh Talu Resort : https://line.me/R/ti/p/%40kohtaluresort

Tags: เกาะทะลุ ประจวบคีรีขันธ์ เที่ยวประจวบ เที่ยวเกาะทะลุ ทริป 2 วัน 1 คืน เกาะส่วนตัว ทริปทะเล

เขียนโดย

Admin Chillpainai

แชร์บทความนี้