calendar_month 12 ต.ค. 2020 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 73,368 / ทริปตัวอย่าง
เมื่อสายฝนเริ่มจากลา ทดแทนด้วยสายลมหนาวที่พัดเข้ามาห่มคลุมในทุกพื้นที่ของเมืองไทย อากาศดีๆ แบบนี้เราเลยชวนคุณแฟนเดินทางไปเที่ยวรับลมหนาวที่เขาใหญ่ ที่เที่ยวใกล้ๆ ไม่ต้องขับรถไกลคุณก็จะได้สัมผัสถึงลมหนาวและสายหมอกขาว ทริปนี้เราใช้เวลาสั้นๆ เพียง 2 วัน 1 คืน เป็นทริปสบายๆ เช็คอินที่พักสุดเท่ในเขาใหญ่ พร้อมกับไปตะลุยคาเฟ่เก๋ๆ ฮิปๆ ของเขาใหญ่จะสนุกแค่ไหนตามไปชมกันเลยค่ะ
7.00 น. ออกจากบ้านมุ่งหน้าไปยังเขาใหญ่โดยใช้ถนนมิตรภาพแล้วเข้าสู่ถนนธนะรัชต์
10.00 น. จุดหมายแรกของเราในวันนี้คือ Pete Maze (พิชญ์ เขาวงกต) อีกหนึ่งที่เที่ยวสุดฮิตในเขาใหญ่ โดยเขาจะปลูกต้นไม้เป็นกำแพงเขาวงกตสวมท่วมหัว งานนี้เรากับคุณแฟนเลยเล่นเกมกันว่าใครจะหาทางออกได้ก่อนกัน ซึ่งบอกเลยว่าสนุกมากๆ และไม่ต้องกลัวหลงเพราะด้านในจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ตลอด เดินไปเดินมาเลยป๊ะ เข้ากับคุณแฟน สุดท้ายเลยไม่ได้แข่งแล้วค่ะ เพราะมัวแต่ให้คุณแฟนถ่ายรูปและช่วยกันหาทางออก ประเดิมทริปเขาใหญ่ที่สนุกมากๆ
ใครที่เดินแล้วเหนื่อยบริเวณด้านหน้าของสวนยังมีคาเฟ่เล็กๆ ให้บริการเครื่องดื่มและขนมสุดอร่อยอีกด้วยนะ ส่วนเราไม่ได้ใช้บริการร้านคาเฟ่ค่ะ เพราะมีร้านคาเฟ่น่ารักที่อยู่ในแพลนแล้วก็เลยมุ่งหน้าไปร้านกาแฟทันที
Pete Maze (พิชญ์ เขาวงกต)
ที่ตั้ง : ถ.ธนะรัชต์ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
ค่าเข้าเขาวงกต : 150 บาท/คน
เบอร์โทรศัพท์ : 080 168 9601
GPS : https://goo.gl/maps/pQVxxUJ2k972TsX98
11.00 น. จากนั้นขับรถมุ่งหน้ากลับมายังถนนธนะรัชต์ และแวะร้าน Fairy's Scone House Khaoyai ร้านที่อยู่ในลิสต์เราว่าถ้ามาเขาใหญ่ก็อยากมากินสโคนร้านนี้ให้ได้สักครั้งค่ะ
ด้วยบรรยากาศที่เหมือนหลุดไปในยุโรป ตัวร้านดีไซน์เป็นตึกสีน้ำตาลทรงยุโรปร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มีมุมให้ถ่ายรูปมากมายเลยล่ะค่ะ
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาว มีรูปวาดทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงที่โพรวองซ์ประเทศฝรั่งเศสอยู่บนกรอบกำแพงที่ได้ฟีลเหมือนกรอบหน้าต่าง มีเสียงเพลงเบาๆ คลอให้บรรยากาศในร้านน่านั่งมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเราที่สุดก็คงเป็นบรรดาสโคนมากมายที่วางเรียงรายอยู่บนเคาน์เตอร์ บอกเลยว่าเป็นครั้งแรกของเราที่ได้มาร้านที่มีสโคนให้เลือกมากมายและวาไรตี้มากๆ
สำหรับที่มาของร้านนี้เกิดจากความรักในสโคนของคุณแฟเจ้าของร้านที่เคยไปเรียนที่อังกฤษ และได้ไปเทคคอร์สสั้นๆ เกี่ยวกับการทำสโคนที่อังกฤษรวมถึงเคยได้เรียนทำอาหารที่เลอ กอร์ดอง เบลอที่เมืองไทยอีกด้วย จึงมีความคิดอยากเปิดร้านคาเฟ่ที่มีสโคนให้เลือกมากมาย เป็นสโคนโฮมเมดที่มีให้เลือกประมาณ 10-11 รสชาติต่อวันกันเลยค่ะ วันที่เราไปมีทั้ง สโคนเบคอนชีส,สโคนบลูเบอร์รี,สโคนช็อกโกแลต,สโคนแครนเบอร์รีอัลมอนด์,สโคนสตรอเบอร์รีกุหลาบ,สโคนดาร์คช็อกโกแลตและส้ม,สโคนราสเบอร์รีและกุหลาบ,สโคนลาเวนเดอร์เอิร์ลเกรย์,ครีมสโคน, สโคนเลมอนวานิลลาและสโคนเลมอนโรสแมรี รับรองว่าที่อังกฤษไม่มีสโคนเยอะแบบนี้แน่นอน
ครั้งนี้เราเลยสั่งชุดน้ำชายามบ่าย Fairy's Signature Afternoon Tea (ราคา 595 บาท) ที่จะประกอบไปด้วยชุดชา 1 กาสำหรับ 2 คนซึ่งเราสามารถเลือกชาได้โดยเราเลือกเป็นชาซีลอนที่มีส่วนผสมของลาเวนเดอร์และกุหลาบ เป็นชาเฮาส์เบลนด์ของร้านกลิ่นหอมอร่อยมากๆ เสิร์ฟมาพร้อมชั้นทีเซ็ทที่บนสุดจะเป็นชั้นของชีสเค้ก พานาค็อตต้า และบราวนี่เนื้อนุ่มอร่อยไม่หวานมากกำลังพอดีเลยค่ะ ส่วนชั้นกลางจะเป็นสโคน 2 ชิ้นที่เราสามารถเลือกได้เช่นกัน เราเลือกสตรอเบอร์รีกุหลาบกับแครนเบอ์รีอัลมอนด์ ทานคู่กับแยมสตรอเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี และคอตเตทครีมค่ะ บอกเลยว่าสโคนที่นี่หอมอร่อยด้านนอกกรอบ ด้านในนุ่ม ส่วนชั้นสุดท้ายจะเป็นครัวซ็องและแซนด์วิชที่ใส่ไส้มาให้แบบจุกๆ ซึ่งเบเกอรี่ของที่นี่เป็นโฮมเมดวันต่อวัน ใช้เนยสดนำเข้าจากแคว้นนอร์มังดีประเทศฝรั่งเศส ไม่ใส่สารกันบูดและไขมันทรานส์ในส่วนของชาที่นี่ก็มีให้เลือกหลายทั้งชาเฮาส์เบลนด์ของร้าน ชานำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส ประเทศอังกฤษใครที่ชอบชามาร้านนี้ถูกใจแน่นอนค่ะ
อีกเมนูที่เราสั่งมาคือสโคนสตรอเบอร์รี(185 บาท) ครีมสโคนเสิร์ฟพร้อมสตรอเบอร์รีและครีมสดราดด้วยสตรอเบอร์รีซอสอร่อยฟินมากๆ
อีกเมนูเครื่องดื่มที่ไม่อยากให้พลาดกับแฟรีซีเคร็ตโพชัน(150 บาท) ชาผลไม้รวมมิกซ์เบอร์รีและกุหลาบที่เสิร์ฟมาพร้อมน้ำแข็งที่สอดไส้ผลไม้สดและดอกไม้ เสิร์ฟมาในถาดไม้ที่ตกแต่งด้วยดอกไม้หน้าตาสวยงามแถมรสชาติยังผสมผสานความเปรี้ยวความหวานได้อย่างลงตัวใครที่เลิฟชาผลไม้ห้ามพลาดนะคะ
Fairy's Scone House Khaoyai
ที่ตั้ง : ถนนโยธาธิการ นครราชสีมา 2049 ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง นครราชสีมา
เปิดบริการ : วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 8.30-18.30 น. (ปิดวันพฤหัสบดี) / วันเสาร์ - วันอาทิตย์ เวลา 8.30-19.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 098 830 4789
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/Q3TWBTCdA2T7NDt27
13.00 น. หลังจากจัดของหวานกันแล้วก็ถึงเวลาของคาวกันค่ะ มื้อกลางวันมื้อนี้เราฝากท้องไว้ที่ร้านเป็นลาว(PenLaos) ร้านอร่อยสไตล์อีสานสุดแซ่บในเขาใหญ่ ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนธนะรัชต์ค่ะ หาง่ายมีที่จอดรถมากมายสะดวกสบาย
ด้านหน้าร้านทำมุมเก๋ๆ ให้ได้แชะภาพด้วยค่ะ ทั้งผนังฝาปะกันแบบไทยที่ปกคุลมด้วยไม้เลื้อย ข้างๆ เพนท์ผนังปูนเป็นลายน่ารักเลยขอแชะภาพเป็นที่ระลึกก่อนจะไปจัดหนักจัดเต็มกับมื้อกลางวันกันค่ะ
ภายในร้านตกแต่งแบบโล่งโปร่งสบายบนเพดานเก๋ไก๋ด้วยการประดับตกแต่งจากสุ่มไก่กับเปลญวนสีสันสดใส มีรูปภาพรูปวาดน่ารักตกแต่งอยู่บนผนัง ซึ่งภายในร้านจะไม่มีเครื่องปรับอากาศนะคะ แต่รับรองว่านั่งสบายไม่ร้อนเลยล่ะค่ะ
เปิดเมนูมาก็อยากสั่งซะทุกอย่าง จนคุณแฟนต้องบอกว่าใจเย็นๆ เราจะกินทั้งหมดไม่ได้ เลยตัดสินใจสั่งเมนูไฮไลท์ของร้านอย่างตำหลวงพระบาง (60 บาท) โดยที่มาของเมนูนี้มาจากที่เจ้าของร้านซึ่งมีบรรพบุรุษเป็นชาวลาวได้เดินทางพาแม่ครัวไปชิมส้มตำที่หลวงพระบางเลยได้นำสูตรส้มตำของหลวงพระบางที่จะใช้เส้นมะละกอแบบเส้นใหญ่ฝานบางมาตำพร้อมกับใส่น้ำปลาร้า กะปิ ทำให้จานนี้ออกมาแซ่บนัวเวอร์วังมากๆ ยิ่งจิ้มกับข้าวเหนียวดำนุ่มๆ ของร้านฟินสุดๆ ค่ะ
เมนูที่ทางร้านการันตีว่าอร่อยมากๆ กับเมนูตำสามเหม็นกุ้งสด (150 บาท) ที่ประกอบไปด้วยชะอม สะตอ และปลาร้า กินเดี่ยวๆ ก็ว่าอร่อยแล้วแต่พอทั้ง 3 เหม็นมาคลุกเคล้ากันอยู่ในปากมันช่างกลมกล่อม ได้ความมันจากชะอมและสะตอกรุบๆ บวกกับน้ำปลาร้าหอมๆ และกุ้งสดเนื้อเด้งๆ ฟินมากแม่ให้คะแนนไปเลย 10 กะโหลก แต่แนะนำว่าหลังจากกินเมนูนี้เสร็จก็หาลูกอมช่วยดับกลิ่นปากกันสักนิดเพราะกลิ่นมาดามนั้นแรงชื่นใจ ส่วนเรามากัน 2 คนก็ไม่แคร์เวิล์ดอะไรจัดกันไปให้หนักๆ อย่างไม่ต้องยั้งมื้อ
ต่อด้วยแกงลาวเห็ดสามอย่าง (120 บาท) โดยใช้เห็ดนางฟ้า เห็ดออรินจิ และเห็ดหิมะ นำมาแกงพร้อมกับใส่บวบ เมนูนี้จะไม่ใส่ปลาร้านะคะ แต่จะใส่น้ำใบย่านาง พร้อมกับหอมแดง พริกแห้ง ตะไคร้ โรบด้วยใบโหระพาเพิ่มความหอม ซดโล่งคออร่อยมากๆ
อีกเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อมาเป็นลาวกับไก่นาย่างสมุนไพร(240 บาท) เป็นไก่บ้านขนาดหนึ่งตัว ไก่ของที่นี่จะไม่เหนียวค่ะเนื้อนุ่มอร่อยย่างให้ด้านนอกแห้งแต่ด้านในยังนุ่มทานกับน้ำจิ้มหวานและน้ำจิ้มแจ่งสูตรของทางร้าน
ยังไม่หมดเท่านั้นค่ะเราสั่งต่อกับเมนูตับทอดนมสด(120 บาท) อร่อยมากกกก ก.ไก่สิบล้านตัวกันไปเลย ตับหมูนุ่ม หอมอร่อย ที่นำไปหมักกับเกลือปรุงรสด้วยนมสดผัดกับกระเทียมพริกไทย รากผักชี กินกับข้าวเหนียวฟินอีกแล้วจ้าา
ปิดท้ายกับเมนูของชาวโคราชกับหมี่โคราช(80 บาท) เสิร์ฟมาในจานใหญ่ เส้นเหนียวนุ่มผัดกับน้ำซอสสูตรของทางร้านอร่อยมากๆ ใครอยากซื้อกลับไปผัดบ้านทางร้านก็มีขายนะคะ
ร้านเป็นลาว(PenLaos)
ที่ตั้ง : 56 หมู่ 17 ถนนธนะรัชต์ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง นครราชสีมา
เปิดบริการ : วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดี เวลา 9.30-18.00 น. / วันศุกร์ - วันเสาร์ เวลา 9.30-20.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 083 461 3666
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/Q3TWBTCdA2T7NDt27
1 5 .00 น. อิ่มกันแล้วก็เดินทางไปเช็คอินเข้าที่พักของเราคืนนี้ที่เดอะ เบอร์เดอร์ส ลอดจ์ (The Birder's Lodge) ที่พักสไตล์กระท่อมยูโรปสุดเท่ที่ตั้งอยู่ริมถนนผ่านศึก-กุดคล้า ท่ามกลางวงล้อมของขุนเขา ด้านหน้าของที่พักมีคาเฟ่ฮิปๆ เท่ๆ ที่ให้บริการเครื่องดื่มและอาหารให้กับลูกค้ารีสอร์ทและคนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้เลย
บ้านพักที่นี่จะตกแต่งเป็นสไตล์กระท่อมไม้ดีไซน์แบบยุโรปขนาดกะทัดรัดแต่เน้นใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ตัวที่พักแต่ละหลังไอเดียเก๋ไก๋จนอยากจะมีบ้านแบบนี้เป็นของตัวเองสักหลังกันเลยทีเดียว ซึ่งที่นี่จะมีให้บริการทั้งบ้านพักทั้งหมด 5 หลัง และเต็นท์ทั้งหมด 8 หลัง
สำหรับบ้านพักของเราคืนนี้เราจองบ้าน T1 มาค่ะ ราคาห้องนี้ 5,300 บาท พักได้ 3 คน แต่คราวนี้เรามาพัก 2 คนซึ่งที่จองห้องนี้เพราะเป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำที่สามารถชมวิวขุนเขาได้ด้วยค่ะ
ภายในบ้านจะแบ่งเป็น 2 ชั้นค่ะ ชั้นล่างจะเป็นโซนห้องนั่งเล่น โซนครัว และห้องน้ำ โดยโซนนั่งเล่นจะทำเป็นกระจกใสที่สามารถชมวิวสวยๆ ด้านนอกได้อย่างเต็มตา
โซนครัวซึ่งมีแทบทุกอย่างทั้งไมโครเวฟ กะทะพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ซิงค์ล้างจาน จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ ตู้เย็น ซึ่งสามารถประกอบอาหารเช้าง่ายๆ ได้เลยค่ะ พร้อมกันนั้นยังไมโล และกาแฟดริปของ The Birder's Lodge ให้บริการฟรีๆ อีกด้วย ขอบอกว่ากาแฟของเขาหอม อร่อยมากๆ
ห้องน้ำขนาดกะทัดรัดพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่นแยกส่วนเปียก และส่วนแห้ง มีผ้าขนหนู ไดร์เป่าผม สบู่เหลว แชมพูภายในห้องน้ำ
เดินบันไดขึ้นไปชั้นบนจะเป็นโซนห้องนอนพร้อมกับฟูกที่นอนแบบที่นอนคู่ และที่นอนเดี่ยวนอนได้ 3 คนค่ะได้อารมณ์ห้องใต้หลังคามากๆ
หลังจากเก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อยแล้วก็ชวนคุณแฟนไปนอนแช่น้ำที่อ่างอาบน้ำที่ทำจากไม้ตั้งอยู่บริเวณข้างบ้าน นอนแช่น้ำไปชมวิวภูเขาไปบอกเลยว่าฟินมากๆ ค่ะ
มื้อเย็นเราจองบาร์บีคิวเอาไว้ค่ะ โดยเขามีให้เลือกเป็นเซ็ตบาร์บีคิวค่ะ ทั้งเนื้อหมู เนื้อเนื้อวัว ราคาตั้งแต่ 290-320 บาท ส่วนเราเลือกแบบเซ็ต 3 ราคา 290 บาทโดยเป็นบาร์บีคิวไก่ทั้งหมด 3 ไม้ พร้อมซอสสำหรับทาและกิมจิ โดยเตาบาร์บีคิวจะอยู่บริเวณข้างบ้าน ซึ่งพี่ๆ เจ้าหน้าที่เขาจะมาติดเตาให้ค่ะ
อากาศเย็นๆ แบบนี้ได้กินบาร์บีคิวร้อนๆ ไปด้วยย โอ๊ยยย ฟินมากๆ
8.00 น. เช้าวันใหม่พร้อมทานอาหารเช้าที่ที่พักจัดไว้ให้โดยมีให้เลือกทั้งแบบข้าวต้มและอเมริกันเบรคฟาสต์ พร้อมน้ำผลไม้ ชา กาแฟที่สามารถเลือกได้ อิ่มกันแล้วก็เตรียมเดินทางไปเที่ยวกันต่อค่ะ
ที่ตั้ง : 282 หมู่ที่ 10 ตำบล หมูสี อำเภอปากช่อง นครราชสีมา
ราคา : 2,900-5,300 บาท
โทร : 044 002 306
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/rNj56fzkVECX2UZH7
10.00 น. เช็คเอาท์ออกจาก The Birder's Lodge กันแล้วเราก็ไปเช็คอินคาเฟ่น่ารักของเขาใหญ่กันต่อค่ะที่ Please Don't Tell Khaoyai คาเฟ่สวยพร้อมระเบียงชมวิวภูเขาที่กำลังมาแรงในตอนนี้เลยค่ะ
โดยจาก The Birder's Lodge ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีเราก็จะพบกับคาเฟ่น่ารักแห่งนี้ โดยทางเข้าเขาจะทำเป็นทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ มีมุมกำแพงรูปน้องหมาแอ็คท่าสุดเท่ดานหน้าพร้อมชื่อร้านให้แชะรูปก่อนเข้าไปค่ะ
บรรยากาศภายในร้านจะมีทั้งโซนอินดอร์ภายในตัวร้านที่กรุกระจกใสโดยรอบมองเห็นวิวภูเขาจากในห้องแอร์เลยค่ะ มีเคาน์เตอร์สำหรับออเดอร์อาหาร
ไฮไลท์คือโซนระเบียงชมวิวภูเขาด้านนอกค่ะ เป็นมุมสุดฮอตฮิตที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปเช็คอินกันเป็นแถว
บริเวณด้านนอกยังมีมุมรังนกให้ถ่ายรูปสุดเก๋ได้ฟีลเหมือนอยู่บาหลี
ส่วนขนมและเครื่องดื่มที่เราสั่งมาก็คือ Choco Mint (ราคา 140 บาท) ช็อกโกแลตปั่นเย็นๆ ผสมมินท์ ท็อปด้วยครีมสีชมพู๊ ชมพู ต่อด้วยชาทับทิม (135 บาท) รสชาติเปรี้ยวหวานที่ช่วยรีเฟรชร่างกายได้ดีทีเดียว Anchan Latte (ราคา 115 บาท) ลาเต้เย็นท็อปด้านบนด้วยน้ำอัญชันหอมๆ ได้กาแฟลาเต้เย็นรสชาติกลมกล่อม
ส่วนขนมเราสั่งมะม่วงโรลเค้ก(ราคา 120 บาท) เนื้อนุ่ม หอมมะม่วงอร่อยมากๆ ค่ะ
Please Don't Tell Khaoyai
ที่ตั้ง : โครงการมนตรลดาเขาใหญ่ เส้น เขาใหญ่-วังน้ำเขียว กม 3 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง นครราชสีมา
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 08.30-17.30 น.⠀
เบอร์ติดต่อ : 0849161466
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/SsshGtbnvNTdgNL16
14.00 น. ปิดท้ายก่อนจะขับรถกลับบ้านเราแวะทานอาหารกลางวันที่แคมป์ไฟ คาเฟ่ เขาใหญ่ (Campfire Cafe Khao Yai) ร้านอาหารสไตล์แคมป์ปิ้งที่ตั้งอยู่ริมคลองลำตะคอง บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มากมาย
ซึ่งตัวร้านจะทำเป็นอาคารทรงคันทรี่อารมณ์เหมือนบ้านไม้กลางป่าสนของเมืองนอก มีลานด้านล่างที่ติดกับคลองลำตะคองที่ทางร้านได้จัดมุมถ่ายรูปสไตล์แคมป์ปิ้งให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆ บอกเลยว่าบรรยากาศกลางป่าแบบนี้ พร้อมเต็นท์แคมป์ปิ้งได้อารมณ์การแคมป์ปิ้งจริงๆ มากเลยล่ะค่ะ แถมยังมีพร็อพให้เราได้นำมาดีไซน์การถ่ายรูปมากมายทั้งเครื่องบดกาแฟแบบมือหมุน ตะเกียง จักรยาน เก้าอี้สนาม ซึ่งที่นี่ยังมีบริการลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจได้มานอนกางเต็นท์สัมผัสธรรมชาติกันด้วยนะคะ ราคาคนละ 250 บาท โดยจะต้องนำเต็นท์มาเอง จำกัดวันละ 60 คน มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ แยก ชาย-หญิงให้บริการ
พนักงานต้อนรับของร้านชื่อน้องการ์ตูนค่ะ น่ารักมากๆ แต่น้องถ้าจะไม่ชอบเซลฟี่ พอยกกล้องถ่ายรูปคู่หน่อยน้องเมินเดินหนีกันเลย 555 แต่ถ้าถ่ายเดี่ยวๆ ผมยอมให้ถ่ายนะฮ้าบบบบบ
บรรยากาศของร้านจัดมุมที่นั่งสำหรับคนรักธรรมชาติทั้งที่นั่งริมน้ำหันหน้าชมลำคลอง โซนอินดอร์ในห้องแอร์เย็นๆ ก็มีเช่นกันค่ะ ส่วนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ยังมีดนตรีสดเพราะๆ มาบรรเลงให้ฟังท่ามกลางบรรยากาศริมน้ำ ชมแสงดาวกลางป่ากันด้วย
เมนูอาหารที่เราสั่งมาในวันนี้ได้แก่สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า (180 บาท) และแคมป์ ไฟ โทมาฮอว์ค(หมู)(ราคา 300 บาท) ซึ่งทั้ง 2 เมนูจะมีเครื่องดื่มน้ำอักลมแถมมาให้ด้วยค่ะ ทานอาหารไปพร้อมกับดื่มด่ำธรรมชาติกลางป่าแบบนี้ไปด้วยก็ทำให้เราสองคนอยากมาลองกางเต็นท์กันดูสักครั้ง
Campfire Cafe Khao Yai แคมป์ไฟ คาเฟ่ เขาใหญ่
ที่ตั้ง : 444 ถนน ธนะรัชต์ ต.หมูสี อำเภอปากช่อง นครราชสีมา
เปิดบริการ : เวลา 10.00-22.00น. (ปิดวันอังคาร)
เบอร์ติดต่อ : 080 074 2208
พิกัด GPS : https://goo.gl/maps/bRMnL9EUzsMfdyqL6
ปิดทริปเขาใหญ่พร้อมเดินทางกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจ โบกมือลาหน้าฝนพร้อมต้อนรับลมหนาวกันอย่างเป็นทางการ ทริปหน้าเราสองคนจะไปเที่ยวที่ไหน เตรียมรอกันได้เลยค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายทริปเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน (สำหรับ 2 คน)
- ค่าน้ำมันรถ 500 บาท (รถอีโค่คาร์)
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านเป็นลาว 810 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน Please Don't Tell Khaoyai 510 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน Fairy's Scone House Khaoyai 930 บาท
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้าน แคมป์ไฟ คาเฟ่ เขาใหญ่ 480 บาท
- ค่าเข้า Pete Maze (พิชญ์ เขาวงกต) 150 บาท/คน
- ค่าที่พักที่ เดอะ เบอร์เดอร์ส ลอดจ์ 5300 บาท
- ค่าบาร์บีคิวที่เดอะ เบอร์เดอร์ส ลอดจ์ 320 บาท
รวม 4500 บาท/คน
บทความแนะนำ:
10 ที่พักเขาใหญ่-วังน้ำเขียว บรรยากาศดี๊ดี ได้ฟินกับธรรมชาติ อัพเดทใหม่ 2020
10 คาเฟ่เขาใหญ่ ถ่ายรูปสวย นั่งชิล ชมวิวธรรมชาติ อัพเดทใหม่ 2020
Tags: นครราชสีมา ทริปตัวอย่าง เขาใหญ่ ที่เที่ยวเขาใหญ่ เที่ยวเขาใหญ่ ที่พักเขาใหญ่ ที่กินเขาใหญ่ ร้านอาหารเขาใหญ่ การเดินทางเขาใหญ่ คาเฟ่เขาใหญ่ โรงแรมเขาใหญ่ รีสอร์ทเขาใหญ่ Pete Maze พิชญ์ เขาวงกต Fairy's Scone House Khaoyai ร้านเป็นลาว PenLaos เดอะ เบอร์เดอร์ส ลอดจ์ the birder's lodge Please Don't Tell Khaoyai แคมป์ไฟ คาเฟ่ เขาใหญ่ Campfire Cafe Khao Yai
ทริปตัวอย่าง | 18 ธ.ค. 2024 | 90 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 12 ธ.ค. 2024 | 291 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 07 ธ.ค. 2024 | 375 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 27 พ.ย. 2024 | 508 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 26 พ.ย. 2024 | 718 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 11 พ.ย. 2024 | 1,027 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 01 ธ.ค. 2024 | 466 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 พ.ย. 2024 | 904 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 28 ต.ค. 2024 | 1,237 อ่าน
ทริปตัวอย่าง เที่ยวต่างประเทศ | 15 ต.ค. 2024 | 1,396 อ่าน
ทริปตัวอย่าง | 08 ต.ค. 2024 | 1,754 อ่าน